Skip to main content
sharethis

นายอะหมัด และสา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลประกอบ อ.นาทวี จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า รัฐบาลท้องถิ่นมาเลเซียได้ประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยทำการรื้อถอนร้านค้าของคนไทย 15 หลังที่ปลูกสร้างใกล้กับที่ทำการด่านดุเรียนบุรง ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับด่านประกอบ อ.นาทวี จ.สงขลา


 


ทั้งนี้ เนื่องจากรัฐบาลท้องถิ่นมาเลเซีย ต้องการพัฒนาพื้นที่เพื่อรองรับการเปิดด่านพรมแดนไทย - มาเลเซียแห่งใหม่ ระหว่างบ้านประกอบ อ.นาทวี กับบ้านดุเรียนบุรง รัฐเปอร์ลิส มาเลเซีย ซึ่งคาดว่าจะเปิดดำเนินการเต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการในปีหน้า ทั้งนี้ หากมีการฝ่าฝืน ทางการมาเลเซียพร้อมจะใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการขั้นเด็ดขาด


 


นายอะหมัด เปิดเผยด้วยว่า เรื่องดังกล่าวทางการมาเลเซียได้ขอความร่วมมือจากพื้นที่ฝ่ายไทย และหลังจากที่ได้ร่วมประชุมหารือถึงความคืบหน้าในการเตรียมความพร้อมเปิดด่านแห่งนี้ ที่ด่านดุเลียนบุรงในวันที่ 22 เมษายน 2551 ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยพร้อมจะเจรจากับคนไทยที่เป็นเจ้าของร้านค้าทั้ง 15 หลัง เพราะพื้นที่ดังกล่าวฝ่ายมาเลเซียต้องการพัฒนาในการสร้างสำนักงาน ที่ทำการของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องการผ่านแดนของทั้ง 2 ประเทศ ทำให้การเปิดด่านเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในระดับชายแดนของทั้ง 2 ประเทศ


 


นายอะหมัด เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าในการก่อสร้างอาคารด่านศุลกากรของฝั่งมาเลเซียนั้น คืบหน้าไปกว่า 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว โดยมีกำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 30 กันยายน 2551 คาดว่า ในปี 2552 ด่านบ้านประกอบและด่านดุเลียนบุรงจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้ ซึ่งจะส่งผลดีในภาพรวมด้านการพัฒนาของ อ.นาทวี โดยเฉพาะราคาสินค้าการเกษตรจะมีมูลค่าสูงขึ้น เพราะต้นทุนในการขนส่งลดลง


 


นายอาหมัด เปิดเผยด้วยว่า สำหรับร้านอาหารทั้ง 15 ร้านดังกล่าว เป็นของคนไทย โดยเข้าไปสร้างบริเวณรั้วกั้นชายแดนไทย - มาเลเซีย เพื่อขายอาหารให้กับคนงานก่อสร้างอาคารด่านศุลกากรของมาเลเซีย ซึ่งรั้วดังกล่าวตั้งค่อนเข้าไปทางมาเลเซีย


 


นายอาหมัด เปิดเผยอีกว่า ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างด่านศุลกากรทางฝังไทยานั้น ฝ่ายไทยจะเริ่มมีการก่อสร้างในปี 2552 โดยมีเนื้อที่ทั้งหมด 247 ไร่ ซึ่งกรมธนารักษ์ได้จัดซื้อมาจากชาวบ้านแล้ว 79 ไร่ ราคารวม 8,350,000 บาท จากนั้นจึงมอบหมายให้กรมศุลกากรเป็นผู้ใช้ประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวต่อไป


 


ส่วนที่ดินที่เหลืออีก 170 ไร่ เป็นที่ดินสาธารณาประโยชน์ โดยเป็นป่าเสม็ด แต่ชาวบ้านในพื้นที่อ้างว่าได้ครอบครองมากว่า 50 ปีแล้ว แต่ไม่มีเอกสารสิทธิ์แสดงการครอบครอง อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดจึงหาทางออกโดยการพิจารณาให้ค่าชดเชยผลอาสินที่มีอยู่ในที่ดินดังกล่าว โดยเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2551 นายสนธิ เตชานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เป็นประธานประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาที่ดินและค่าชดเชยผลอาสินโครงการก่อสร้างด่านศุลกากรบ้านประกอบดังกล่าวไปแล้ว ที่สำนักงานที่ดินจังหวัดสงขลา


 


นายอะหมัด เปิดเผยด้วยว่า นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้ สำนักโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสงขลา ได้ดำเนินการจัดทำผังเมืองด่านบ้านประกอบไปแล้ว โดยว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเป็นผู้ออกแบบ ซึ่งเดิมจะกำหนดให้มีพื้นที่เขตอุตสาหกรรมด้วย แต่เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ รวมทั้งองค์การบริหารส่วนตำบลประกอบไม่ต้องการ จึงไม่ได้ระบุไว้ ซึ่งนอกจากได้กำหนดพื้นที่ด่านศุลกากรแล้ว ยังมีพื้นที่ธุรกิจ ที่พักและขนถ่ายสินค้า ที่พักข้าราชการเป็นต้น


 


"เหตุที่ไม่ต้องการอุตสาหกรรม เพราะชาวบ้านได้เห็นผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมมาแล้ว ที่เกิดขึ้นจากโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา โดยเฉพาะน้ำเสีย และกลิ่นเหม็นจากโรงงานยางพารา หากมีการตั้งโรงงานาขึ้นในตำบลประกอบ ย่อมส่งผลกระทบมากกว่า เนื่องจากเป็นพื้นที่สูง และเป็นพื้นที่ต้นน้ำของคลองนาทวี ซึ่งไหลลงทะเลที่อำเภอจะนะ" นายอะหมัดกล่าว


 


นายอะหมัด ยืนยันด้วยว่า หากมีการขออนุญาตตั้งโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ตำบลประกอบ ตนก็จะไม่อนุญาต เนื่องจากไม่ต้องผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นได้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net