วานนี้ (1 ม.ค.) สถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย จัดเวทีสาธารณะ ร่วมกันแก้ไขปัญหา สู่ทางออกบ้านเอื้ออาทร เชียงใหม่ ณ สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งประชาชนที่อาศัยในบ้านเอื้ออาทร สันกำแพง เชียงใหม่ ตัวแทนจากสำนักงานการเคหะชุมชนเชียงใหม่ ตัวแทนจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเสวนา

นายกำพล กัญญาเทพ ตัวแทนลูกบ้านเอื้ออาทรสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ที่ผ่านมาโครงการบ้านเอื้ออาทรแห่งนี้ มีประสบปัญหาหลายอย่าง เช่น ตัวบ้านไม่มีคุณภาพ บ้านทรุด  หลังคาร้าว ท่อน้ำตัน  ขณะที่การจัดการก็ไม่ดี โดยมีการเก็บค่าขยะแพง ไฟฟ้าถูกตัด เพราะบริษัทเอกชนที่การเคหะจัดจ้างดูแล ไม่จ่ายเงินให้กับการไฟฟ้า มิเตอร์น้ำหาย ไม่มียามรักษาความปลอดภัย บ่อบำบัดน้ำเสียใช้การไม่ได้เต็มที่ ฝาท่อบำบัดชำรุด เป็นต้น

นอกจากนี้ยังปล่อยให้กลุ่มนายทุน กว้านซื้อบ้านหลังติดกันครั้งละ 2-5 หลัง ที่สำคัญสัญญาซื้อขายที่ทำกับลูกบ้านไม่เป็นธรรม ส่งผลเสียหายแก่ผู้ซื้อ เช่น ธนาคารอาคารสงเคราะห์และการเคหะแห่งชาติ ส่งล่าช้าหรืออาจจะไม่ส่งหนังสือแจ้งค้างชำระหนี้ แต่ส่งหนังสือแจ้งผิดสัญญาและปิดบัญชี ส่งผลให้ลูกบ้านถูกยึดบ้านไปหลายราย ทั้งการเคหะฯ ยังมีการเรียกเก็บค่าทำเลเพิ่มสำหรับคนที่ไปซื้อต่อหลังละ 1 หมื่นบาท

นางสาวกัญชัช ทองดีแท้ หัวหน้าสำนักงานการเคหะชุมชนเชียงใหม่  กล่าวว่า ปัญหาการจัดสวัสดิการและระบบสาธารณูปโภค  ที่ผ่านมายอมรับว่าการเคหะฯ จัดจ้างบริษัทเอกชนที่ไม่มีศักยภาพเพียงพอเข้าไปดูแล  ดังนั้นตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.เป็นต้นไป การเคหะได้ให้สหกรณ์การบริการบ้านเอื้ออาทร เข้าไปจัดการแทนแล้ว คาดว่าจะมีการดำเนินการที่ดีขึ้น ส่วนเรื่องขยะอยู่ระหว่างโอนงานให้เทศบาล ต.ต้นเปา และจะลดค่าจัดเก็บขยะ จากเดือนละ 30 บาทเหลือ 20 บาท

ส่วนกรณี การเคหะฯ ซื้อคืนบ้านจากลูกบ้านที่ค้างค่างวดครบ 3 เดือนในงวดวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา มีลูกบ้านถูกยึดบ้านรวม 39 รายนั้น  ถือเป็นความผิดพลาดของ ธอส.ที่ระบบฐานข้อมูลผิดพลาด  โดย ธอส.ตรวจสอบแล้วพบว่ามีลูกค้าผิดเงื่อนไขจริงเพียง 5 ราย  ส่วน 34 รายข้อมูลผิดพลาด การเคหะฯ ได้อนุมัติให้สามารถผ่อนชำระบ้านได้ใหม่แล้ว ด้านการเรียกเก็บค่าทำเลนั้น เป็นความจำเป็นของการเคหะฯ ที่ต้องหารายได้เพิ่ม

ที่มา: http://www.bangkokbiznews.com