หวั่นรัฐบาลแตก "สมัคร" เคลียร์แนวทางแก้ปัญหาม็อบพันธมิตรฯกลางครม.

นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า พันธมิตรฯไม่มีปัญหากับผู้ปกครอง ครูอาจารย์ของโรงเรียนที่อยู่ใกล้สถานที่ชุมนุม เพราะเราเปิดเส้นทางให้เดินผ่านได้ เราจะปิดถนนเฉพาะช่วงกลางคืนเท่านั้น เพราะต้องรักษาความปลอดภัยให้ผู้ชุมนุม ส่วนการชุมนุมจะยืดเยื้อนานแค่ไหนนั้น เท่าที่หารือกับผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ยังอยากอยู่ต่ออย่างน้อยอีก 4-5 วัน หรือ 6-7 วัน เพื่อเรียนรู้การอยู่ร่วมกันแบบประชาธิปไตย คนต่างจังหวัดเมื่อกลับไปแล้วจะได้เข้าใจประชาธิปไตยที่แท้จริง

 

ด้านนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้หารือกับหลายฝ่ายแล้วต่างเห็นพ้องต้องกันว่าไม่มีความจำเป็นต้องใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อสลายการชุมนุมของพันธมิตรฯ การแก้ปัญหาจะใช้การเจรจาเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม การชุมนุมของพันธมิตรฯอาจมีความผิดตามกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 68

 

ทั้งนี้ มาตรา 68 ระบุว่าบุคคลจะใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญนี้ หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้มิได้ ในกรณีที่บุคคลหรือพรรคการเมืองใดกระทำการตามวรรคหนึ่ง ผู้ทราบการกระทำดังกล่าวย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริง และยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าว

 

คุณพรทิพย์ จาละ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวว่า การเข้าพบนายกรัฐมนตรีพร้อมกับผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมา เป็นการหารือโครงการระบบราง ไม่ใช่การเตรียมใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อสลายการชุมนุมอย่างที่มีข่าว

 

นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย มีความเป็นห่วงสถานการณ์ที่มีการชุมนุมยืดเยื้อ โดยไม่ต้องการเห็นการเผชิญหน้าหรือใช้กำลังไม่ว่าฝ่ายใด พยายามให้ทุกฝ่ายใช้สันติวิธี ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ อย่าออกนอกเส้นที่รัฐธรรมนูญกำหนด

 

พล.ท.สุรพล เผื่อนอัยกา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เชื่อว่าจะไม่มีการใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อสลายการชุมนุม ซึ่งที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและฝ่ายกฎหมายแล้ว และ สมช. ไม่ได้เสนอให้ใช้กฎหมายนี้เพื่อสลายการชุมนุม

 

"มีกฎหมายอยู่ 2 ฉบับที่นำมาใช้ได้ คือ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ซึ่งทั้ง 2 เรื่องเป็นเรื่องใหม่ที่ยังไม่มีความชัดเจน ผู้เกี่ยวข้องต้องศึกษาให้รอบคอบ คงไม่ได้หยิบมาใช้กันง่ายๆ ส่วนตัวคิดว่าสถานการณ์น่าจะคลี่คลายไปได้ตามลำดับ"

 

นายวีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ส่วนตัวไม่นิยมความรุนแรง ไม่นิยมการปฏิวัติ ชื่นชอบในกรอบกติกาของรัฐธรรมนูญ หากเห็นว่ารัฐธรรมนูญไม่ดีก็แก้ไขได้

 

"รัฐบาลจะดีจะชั่วก็ขอให้มาจากประชาชน หากทำผิดก็รับโทษไปตามกฎหมาย อย่าทำนอกกรอบกฎหมาย การใช้วิธีกดดันนอกสภาจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง การเมืองขณะนี้ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ต่อให้เก่งมาจากไหนเจอการเมืองอย่างนี้ก็เจ๊งเหมือนกัน" นายวีรพงษ์กล่าวและว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลังสลายการชุมนุม แต่ขณะเดียวกันการชุมนุมโดยสงบ ไม่มีอาวุธ ก็ต้องไม่ไปถึงการกดดันให้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลเพราะผิดกฎหมาย

 

ด้านคณะทำงานศูนย์ติดตามและวิเคราะห์การชุมนุมของพันธมิตรฯ พรรคพลังประชาชน โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน แถลงว่า เห็นด้วยที่รัฐบาลไม่ใช้กำลังสลายการชุมนุม เพราะจะทำให้พันธมิตรฯกดดันตัวเอง เนื่องจากการชุมนุมไม่มีจุดยืนที่ชัดเจน เนื่องจากเงื่อนไขเกี่ยวกับการแก้รัฐธรรมนูญและกรณีนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้หมดไปแล้ว

"ท่าทีของพันธมิตรฯชัดเจนมากว่าต้องการให้รัฐบาลใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมเพื่อให้เกิดความรุนแรงจะได้มีเงื่อนไขให้เกิดการปฏิวัติขึ้นมาอีกครั้ง"

 

พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ก่อนการประชุม นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งให้รัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลไปชี้แจงและแจ้งให้หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเข้าใจถึงการชุมนุมของพันธมิตรฯ โดยยืนยันว่าจะให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเจรจากับผู้ชุมนุมให้ย้ายไปชุมนุมในสถานที่ที่เหมาะสม ไม่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับสังคม อย่างไรก็ตาม ผู้ร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯส่วนหนึ่งได้เริ่มถอนตัวแล้วหลังรู้ว่าสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนส่วนใหญ่

 

ส่วนการเข้าพบนายกรัฐมนตรีของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและผู้บัญชาการทหารบกนั้น โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้เรียกมาหารือเพื่อใช้กำลังสลายการชุมนุม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาพบเพื่อขอบคุณนายกรัฐมนตรีหลังได้รับการโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ส่วนผู้บัญชาการกองทัพบกมารายงานผลการประชุมผู้บังคับหน่วย

 

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพันธมิตรฯ แม้จะมี ส.ส. ของพรรคเป็นแกนนำพันธมิตรฯก็ตาม

 

"การเคลื่อนไหวเป็นสิทธิของแต่ละคน หากทำผิดกฎหมายก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย" นายองอาจกล่าวพร้อมย้ำว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้อยู่เบื้องหลังการชุมนุมของพันธมิตรฯ

 

ด้าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พร้อมด้วยนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ แถลงยืนยันความจำเป็นที่ต้องปิดถนนบริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์อย่างถาวร หลังจากได้ทดลองเปิดการจราจรบนถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษมในช่วงเช้าวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา เนื่องจากเกรงว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะไม่ได้รับความปลอดภัย เพราะอาจมีกลุ่มคนเข้ามาก่อกวนได้ อย่างไรก็ตาม พันธมิตรฯไม่ได้ต้องการปักหลักชุมนุมที่บริเวณนี้เป็นการถาวร แต่พร้อมจะเคลื่อนย้ายได้ตลอดเวลา ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความจำเป็นด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มพันธมิตรฯระบุว่าจะยอมเปิดเส้นทางการจราจรบริเวณถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษมในช่วงเวลา 06.00-09.00 น. และ 15.00-18.00 น.

 

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้มีประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมร้องเรียนมายังกองบังคับการตำรวจจราจรแล้ว 193 ราย และมีผู้แจ้งความร้องทุกข์ให้เอาผิดทางอาญาตามสถานีตำรวจต่างๆ 160 ราย

 

"การปิดถนนของพันธมิตรฯนั้นมีการปิดกั้นพื้นที่โดยรอบ ทำให้เกิดปัญหาจราจรติดขัดอย่างหนัก ตำรวจมีความพยายามในการเจรจากับแกนนำหลายครั้งเพื่อขอให้เปิดการจราจรทั้งหมดหรือบางส่วน รวมถึงยังมีข้อเรียกร้องจากโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบ แต่แกนนำขอหารือกันอีกครั้ง และแกนนำบางคนปฏิเสธ โดยจะขอปิดกั้นอย่างถาวรจนกว่ารัฐบาลจะทำตามข้อเรียกร้อง"

 

พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า การชุมนุมของพันธมิตรฯที่ปิดถนนราชดำเนิน ซึ่งเป็นถนนสายหลัก ทำให้ประชาชนเลี่ยงไปใช้เส้นทางรองจนเกิดปัญหาติดขัดไปทั่ว เช่น สะพานกรุงธน ปรกติการจราจรจะคลี่คลายได้ในเวลา 09.00 น. ขณะนี้ต้องใช้เวลาถึง 11.00 น. การพูดจาหารือกับพันธมิตรฯเพื่อให้เปิดถนนมีมาโดยตลอด เพราะทำผิดกฎหมายการจราจรชัดเจน อย่างไรก็ตาม เมื่อทำสำนวนคดีส่งอัยการมักไม่สั่งฟ้อง เพราะเห็นว่าการชุมนุมเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ

          

ที่มา : โลกวันนี้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท