Skip to main content
sharethis

 






การเมือง - สังคม


 


พันธมิตรฯ เดินหน้าแผนดาวกระจาย เตรียมบุก ก.ล.ต.-ดีเอสไอ


เวบไซต์แนวหน้า - นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ในช่วงเช้าวันที่ 6 มิ.ย.พันธมิตรฯ จะเดินหน้าตามยุทธศาสตร์ดาวกระจายอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อเปิดโปงความไม่ชอบมาพากลของ ก.ล.ต.ที่ถ่วงเวลากรณีไม่ให้ความร่วมมือกับ คตส.ในการซื้อขายหุ้นชินคอร์ป รวมทั้งบทบาทของดีเอสไอ ที่ยังถ่วงเวลาในการปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท แอสซี แอสเสท ขณะที่พันธมิตรฯ จะประเมินการเคลื่อนไหวยุทธศาสตร์ดาวกระจาย ที่ถือว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี และได้รับการตอบรับจากประชาชนมีประชาชนโบกไม้โบกมือสนับสนุนให้ต่อสู้ ให้กำลังต่อกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นอย่างดี


 


ทั้งนี้ ยังมีความเป็นไปได้ว่า ในวันศุกร์และเสาร์ที่ 6-7 มิ.ย.นี้ กลุ่มพันธมิตรฯ อาจจะมีการเคลื่อนขบวน แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะไปที่ใด ต้องหารือในที่ประชุมอีกครั้ง เพราะศุกร์และเสาร์นี้ถือเป็นวันดีเดย์ มีประชาชนมาร่วมชุมนุมจำนวนมาก โดยเฉพาะวันศุกร์จะมีพันธมิตรฯจากภาคใต้เดินทางร่วมสมทบกับกลุ่มพันธมิตรฯ ในส่วนกลางกว่า 1,000 คน โดยจะเริ่มเดินเท้าจากสถานีรถไฟหัวลำโพง มายังบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ เวลา 10.00 น.และยังเป็นไปได้ว่า ยุทธศาสตร์ดาวกระจายอาจจะมีการเคลื่อนมายังทำเนียบรัฐบาล แต่ก็ขึ้นอยู่กับความเร็วช้า และการอธิบายประเด็นต่างๆ ของรัฐบาล


 



วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำสื่อมวลชนจำนวนหนึ่งขึ้นเฮลิคอปเตอร์ และกล่าวอ้างว่า พันธมิตรฯ ปิดถนน ทำให้การจราจรติดขัดนั้น ถือว่าเป็นความพยามที่จะจัดฉาก ซึ่งทางกลุ่มพันธมิตรฯ จะได้จัดทำแผนผังการจราจรให้กับสื่อมวลชนทุกแขนง เพื่อให้รู้ว่าตำรวจสามารถที่จะระบายรถไปในเส้นทางอื่นๆ ได้



ขณะเดียวกัน การชุมนุมฝ่ายตรงข้าม ที่ท้องสนามหลวง วานนี้ (4 มิ.ย.) ซึ่งมีการจับกุมผู้ที่เข้าไปป่วน พบว่า มีผ้าเหลืองกู้ชาติอยู่ด้วยนั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า ใครก็มีได้ แต่ในวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.) เวทีพันธมิตรฯจะมีดาราเข้าร่วมชุมนุมอีก เช่น สุกัญญา มิเกล และนักร้องแนวอินดี้ วง B5 เป็นต้น ซึ่งการชุมนุมจะเข้มข้นมากขึ้นรวมทั้งจะมีโมเมนตัมมากขึ้นด้วย ต้องอยู่ที่ระยะเวลาที่เหมาะสม


 



นายสุริยะใส กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิวิสามัญศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ได้เชิญชวนให้กลุ่มพันธมิตรฯ เข้าร่วมว่า จะไม่เข้าร่วมอย่างเด็ดขาด แต่ประเด็นนี้ตนเห็นว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีความตั้งใจดีที่จะเชิญเข้าร่วมกรรมาธิการ ซึ่งพันธมิตรฯ เห็นว่า พรรคพลังประชาชนควรยุติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่างเด็ดขาด จนกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าสู่การพิจารณาคดีในกระบวนการยุติธรรม เพราะพันธมิตรฯ เห็นว่า หากพรรคพลังประชาชนยังคงเดินหน้าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ ในการตั้งกรรมาธิการศึกษา


 


พปช. สั่งห้ามลูกพรรคยื่นญัตติ แก้ รธน. ย้ำให้รอประชามติ


เว็บไซต์แนวหน้า - ร.ท.กุทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน แถลงผลการประชุมกรรรมการบริหารพรรคว่าขณะนี้พรรคพลังประชายังไม่มีมติใดๆเกี่ยวกับการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเห็นว่าในการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญจะมีญัตติเกี่ยวกับการศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งมีทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล จึงถือว่า ส.ส.ที่จะไปยื่นญัตติแก้รัฐธรรมนูญนั้น จะต้องยุติและไปดำเนินการหลังจากที่มีการลงประชามติแล้ว ถือว่าเป็นแนวทางของพรรค เพื่อให้เกิดความสบายใจกับทุกฝ่าย คณะกรรมการบริหารมีแนวทางชัดเจนว่าการยื่นญัตติใดๆเกี่ยวกับการแก้รัฐธรรมนูญจะต้องทำหลังการลงประชามติ ดังนั้น ส.ส.จะไม่มีการยื่นญัตติใดๆหากมีการดำเนินการจะถือว่าไม่สอดคล้องกับมติพรรคซึ่งเชื่อว่าจะไม่มีส.ส.คนใดไปดึงดันที่จะดำเนินการ และถือว่าการยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นข้อกังวลของกลุ่มพันธมิตรไม่มีแล้ว ขอให้กลุ่มพันธมิตรกลับบ้านและยุติการชุมนุมได้แล้ว


 



พรุ่งนี้ทหารป่าไม้เต็มทำเนียบ


 เว็บไซต์คมชัดลึก -  5 มิ.ย. พล.ต.ท. วิเชียรโชติ สุขโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.) อาจจะมีกองกำลังเข้ามาอยู่ในทำเนียบรัฐบาลมากแต่ก็กลัวว่าสื่อมวลชนและฝ่ายพันธมิตรฯจะตกอกตกใจว่ารัฐบาลได้เอากองกำลังมาจากไหน จึงขอชี้แจงว่า เนื่องจากจะมีการลงนามในพิธีบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับกองทัพบก และครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทยว่ากรมทรัพยากรป่าไม้ จะร่วมกับกองทัพบก โดยจะมีปลัดกระทรวงทรัพย์ฯ และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ลงนามร่วมกัน ในเวลาประมาณ 13.00 น. วันพรุ่งนี้


 



นักมวยสุดทนพันธมิตรฯ แห่แจ้งความ ตร.จับแกนนำ


เว็บไซต์เดลินิวส์ - 5 มิ.ย. นักมวยเวทีราชดำเนิน จากค่ายมวยจ๊อกกี้ยิม จำนวน 26 คน เข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ให้ดำเนินคดีกับแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 5 คน และนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ ในข้อหาร่วมกันก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง และกีดขวางการจราจร หลังกลุ่มนักมวยได้รับผลกระทบจากการชุมนุม ไม่สามารถขึ้นชกได้ตามปกติ เพราะไม่มีคนดูเข้าสนามมวย จนทำให้สูญเสียรายได้


 


นายสมศักดิ์ ศรีเกตุ ผู้จัดการทั่วไปค่ายมวยจ๊อกกี้ยิม กล่าวว่า ตลอด 11 วันที่ผ่านมาของการชุมนุม นักมวยทุกค่ายที่จะขึ้นชกพากันเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะถูกยกเลิกโปรแกรม เนื่องจากไม่มีคนดู แม้บางครั้งจะได้ขึ้นชก แต่ก็ขาดทุน เพราะคนดูน้อย และว่านักมวยทุกคนล้วนต้องการขึ้นชกบนเวทีราชดำเนิน ส่วนใหญ่เป็นนักมวยบ้านนอก มีฐานะยากจน เดินทางมาจากต่างจังหวัด ต้องเก็บตัวฝึกซ้อมกันมานับปี แต่เมื่อมาถึงกลับไม่ได้ขึ้นชก ซึ่งเป็นผลมาจากการชุมชุมและการปิดถนนของกลุ่มพันธมิตรฯ



ด้านพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ได้ลงบันทึกประจำวันและสอบปากคำผู้เสียหายไว้ โดยจะเรียกแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ถูกแจ้งความ ให้มารับทราบข้อกล่าวต่อไป


 


hi-thaksin2 โผล่ แปลงเป็น รากหญ้าไทย แพร่ข่าวสารต้าน พันธมิตรฯ-ป๋าเปรม


มติชนออนไลน์ - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ ได้มีการเปิดตัวเว็บไซต์"รากหญ้าไทย "http://www.thai-grassroots.com" ขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยผู้จัดทำเว็บดังกล่าวใช้นามแฝงว่า "ฟ้าฟื้น" โดยอ้างวัตถุประสงค์การตั้งเว็บนี้ว่า ตั้งใจสืบทอดเจตนารมณ์ของ Hi-thaksin และ ประดาบ เพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ กำจัดเผด็จการ รักษาการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้คงอยู่คู่กับคนไทยตลอดไป ท่ามกลางการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมที่คัดค้านการเคลื่อนไหว  การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ได้ปักหลักขับไล่รัฐบาลอยู่ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์อยู่ปัจจุบัน


 


ชลิต ชู คตส. เป็นผู้กล้า เผยรู้สึกเป็นห่วง-ยินดีช่วยเหลือ


มติชนออนไลน์ -  พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะอดีตรักษาการประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ยื่นหนังสือถึงอดีตคมช. เพื่อขอให้คุ้มครองการทำงาน ว่า สถานะของคมช.หมดสิ้นไปแล้ว และผู้นำเหล่าทัพก็ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ อย่างไรก็ตาม รู้สึกเป็นห่วงคตส. เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งที่ชวนคตส.เข้ามาทำงาน ทั้งนี้ ส่วนตัวแล้วหากมีอะไรที่สามารถช่วยเหลือได้ ก็จะช่วยเหลือ โดยเรื่องที่จะเกิดขึ้นกับคตส.ในอนาคตก็เป็นเรื่องของกฎหมาย ซึ่งคตส.เป็นกลุ่มของผู้กล้าและผู้เสียสละ


 


ประพันธ์เชื่อลงมติเรื่องไชยา ได้อังคารหน้า


เว็บไซต์แนวหน้า - นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต. ด้านบริหารการเลือกตั้ง  กล่าวว่าได้รับสำนวนจากคณะกรรมการสอบสวนฯ เรื่องคุณสมบัติของนายไชยา สะสมทรัพย์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กรณีไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สินของภรรยาที่ถือครองหุ้นเกินร้อยละ 5 ในบริษัท ทรัพย์ฮกเฮง จำกัดว่า ขัดต่อกฎหมาย และขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมมาตรา 269 หรือไม่แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาก่อนที่จะลงมติในวันอังคารที่ 10 มิถุนายน ซึ่งคาดว่าจะลงมติได้เลยในวันนั้น


 


ป.ป.ช.มีมติสอบเอาผิดอาญาจักรภพ


ผู้จัดการรายวัน - นายกล้านรงค์ จันทิก โฆษกคณะกรรมการปราบปรามและป้องกันการทุจริต แห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติ ไต่สวน เรื่องคำร้องขอของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และคณะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 149 คน ซึ่งยื่นคำร้องขอถอดถอนนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่ง ตามมาตรา 62 มาตรา 63 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 กรณี การแทรกแซงสื่อ (NBT) โดยเรื่องนี้ประธานวุฒิสภาได้ส่งเรื่องมาให้ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวน เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2551 ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการ ตรวจสอบประเด็นตามคำร้องขอให้ตรวจสอบประเด็นตามคำร้องให้ถอดถอนดังกล่าว และสรุปมีความเห็นว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่จะดำเนินการไต่สวน


 


อภิรักษ์ขอหารืออภิสิทธิ์ ก่อนตัดสินใจลงชิงผู้ว่าฯ กทม.


เว็บไซต์คมชัดลึก - 5มิ.ย. นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนสิงหาคมนี้ว่า ยังไม่ได้คุยกับพรรคเป็นทางการ เพราะพรรคกำลังยุ่งๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง และการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เอาไว้ใกล้ๆ ถึงวันลงสมัครเมื่อไหร่ จะหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และกรรมการบริหารของพรรคอีกครั้งหนึ่ง หากได้มีการหารืออย่างเป็นทางการกับหัวหน้าพรรคเมื่อใด จะแจ้งให้ทราบว่าจะลงสมัครผู้ว่าฯ ต่อหรือไม่


 



ส่วนที่ขณะนี้มีหลายคนเริ่มเปิดตัวว่าจะลงสมัครผู้ว่าฯ กันแล้วนั้น รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนไม่หนักใจอะไร จริงๆ และคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี ประชาชนจะได้มีโอกาสพิจารณา และทราบว่ามีใครที่สนใจลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.บ้าง แต่ในส่วนของตนวันนี้ยังทำงานอยู่ ซึ่งจะพยายามเร่งทำงานในส่วนที่เคยประกาศไว้เป็นนโยบาย เพราะประชาชนรออยู่ ซึ่งตอนนี้จะเห็นว่ามีหลายเรื่องที่เราพยายามเร่งดำเนินการ แต่บางครั้งเรื่องของระยะเวลาที่ใกล้วันเลือกตั้ง คนอาจไปสนใจว่าใครมาลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ บ้าง



ผู้สื่อข่าวถามว่า การทำงานในช่วงสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ถือว่าเป็นการหาเสียงไปในตัวหรือไม่ นายอภิรักษ์กล่าวว่า อย่าเรียกว่าหาเสียงเลย เพราะถือว่าทำงานทุกวันอยู่แล้ว ตนไม่อยากให้มองว่าเป็นการหาเสียงอะไร เพราะถ้าเป็นผู้ว่าฯ แล้วไม่ทำงานน่าจะเป็นปัญหามากกว่า


 



ต่อข้อถามว่า การเลือกตั้งใกล้จะมาถึงแล้ว แต่ในส่วนของคดียังไม่คืบหน้า รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ความจริงไม่เกี่ยวกับเรื่องคดี เพราะเป็นเรื่องของกระบวนการที่ตรวจสอบกันอยู่ และเป็นเรื่องที่ว่าประชาชนรู้สึกอย่างไรมากกว่ากับการที่เราทำงานใกล้หมดวาระ ซึ่งตนมั่งมุ่นและตั้งใจทำงานเต็มที่ ทั้งนี้เรื่องของคดีตนไม่หนักใจอะไร ถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะมีความชัดเจน อย่างไรก็ตามตนพร้อมทำงานตลอด เพราะทำงานทุกวันอยู่แล้ว


 


เลื่อนสั่งคดีจอนกับพวกบุกสภา


เว็บไซต์สยามรัฐ - 5 มิ.ย. 51 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นายจอน อึ้งภากรณ์ อดีตประธาน คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (อพปช.) กับพวกรวม 10 คน ผู้ต้องหาคดี ร่วมกันบุกรุกเข้าไปในรัฐสภา เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.50  เพื่อเรียกร้องให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยุติการเร่งพิจารณาผ่านกฎหมาย สำคัญๆ ก่อนที่จะหมดวาระ  ได้เข้าพบนายพีรยุทธ์ ประดิษฐ์กุล อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 เพื่อฟังการสั่งคดี อัยการได้มีคำสั่งเลื่อนการสั่งคดีออกไปเป็นวันที่ 21 ส.ค.นี้ เวลา 10.00 น. เนื่องจากยังมีบางประเด็นที่ยังไม่ชัดเจน ซึ่งต้องดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมด้านนายจอน อึ๊งภากรณ์  อดีตประธาน อพปช. กล่าวว่า ที่ผ่านมาผู้ต้องหา ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการประกอบการพิจารณา หลังจากที่พนักงานสอบสวนส่งมอบสำนวนให้อัยการเมื่อวันที่ 18 มี.ค.51 โดยขอให้สั่งสอบสวนเพิ่มเติมพยานในส่วนของผู้ต้องหาด้วย


 


ควัก 98 ล.รณรงค์ยืดอกพกถุงต่อ


เดลินิวส์ - นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารโครงการกองทุนโลก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่าร้อยละ 50 เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน และที่ผ่านมากองทุนโลกและกระทรวงสาธารณสุข พยายามชะลอการมีเพศสัมพันธ์ในกลุ่มเยาวชน ให้ช้าลง แต่ไม่ได้ผลและเยาวชนกลับมีอัตราการ มีเพศสัมพันธ์เพิ่มมากขึ้น จึงจำเป็นที่ต้องรณรงค์ให้มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ซึ่งก่อนหน้านี้   ทางกองทุนโลกได้ทำโครงการรณรงค์การใช้ถุงยาง อนามัยและกำลังจะหมดโครงการในเดือน ก.ย.แต่จากการประเมินผลพบว่าได้ผลที่ดี ดังนั้นทางกองทุนโลกจึงสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมจำนวน 98 ล้านบาท เพื่อทำงานต่อไปอีก 6 ปี


 


 






เศรษฐกิจ


 


รถบรรทุก-แท็กซี่บี้รัฐ11มิ.ย.นี้


โพสต์ ทูเดย์ - นายยู เจียรยืนยงพงศ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จะให้เวลารัฐบาล 7 วัน เพื่อหาทางช่วยลดผลกระทบจากน้ำมัน หากยังไม่ได้ความชัดเจนจะหยุดขนส่งสินค้าในวันที่ 11 มิ.ย.จากนั้นจะระดมคาราวานรถบรรทุก 2 หมื่นคัน มาประท้วงในกรุงเทพฯ วันที่ 17 มิ.ย.


         


สำหรับข้อเรียกร้อง 8 ข้อ ที่สหพันธ์การขนส่งทางบกฯ เรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือ ประเด็นหลักเน้นการจัดหาน้ำมันราคาพิเศษให้ รวมทั้งสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 0.5% ต่อปี เพื่อปรับปรุงเครื่องยนต์ใช้พลังงานทดแทน และลดภาษีดอกเบี้ยรถบรรทุกใหม่ที่ใชฃ้เครื่องยนต์เอ็นจีวีให้เหลือ 10%


         


"ปกติน้ำมันดีเซลปรับขึ้น 1 บาท จะปรับค่าขนส่งเพิ่ม 3% แต่เมื่อปรับต่อเนื่องทำให้งานลดลงจนหยุดเดินรถและเลิกกิจการ ขณะนี้มีการประกาศขายรถแล้ว 4,000-5,000 คัน" นายยู กล่าว


         


ด้านนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม กล่าวว่า ยินดีพิจารณาข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ประกอบการด้านการขนส่ง โดยไม่จำเป็นต้องเคลื่อนขบวนเข้ามาประท้วง ขอให้ส่งตัวแทนเข้าร่วมหารือในรายละเอียดก่อน


         


นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ รักษาการอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ในฐานะประธานคณะทำงานศึกษาการปรับอัตราค่าโดยสารของรถแท็กซี่ กล่าวว่า ในวันที่ 11 มิ.ย.คณะทำงานจะหารือร่วมกับผู้ประกอบการสหกรณ์แท็กซี่ โดยจะพิจารณาให้ปรับเพิ่มราคาตามระยะทาง แต่คงราคาเริ่มต้นที่ 35 บาท ในช่วง 2 กม.แรกไว้


        


 นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานสหกรณ์แท็กซี่สยาม และรองประธานคณะทำงาน กล่าวว่า ยังไม่ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการเรื่องประชุมร่วมกับคณะทำงาน ส่วนข้อเสนอจะรับได้หรือไม่ ขอฟังเหตุผลก่อน


 


สภาอุตฯ จี้ ก.แรงงาน แก้วิกฤตแรงงาน


มติชนออนไลน์ - นางอุไรวรรณ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังหารือร่วมกับคณะผู้บริหารสภาอุตสาหกรรม นำโดยนายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ที่กระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนว่า สภาอุตสาหกรรมฯ แจ้งว่า กำลังประสบปัญหาระบบข้อมูลตัวเลขการว่างงานและความต้อง การแรงงานไม่สอดคล้องกัน จึงขอให้กระทรวงแรงงานเป็นหน่วยงานหลักในการแก้ไขข้อมูล ซึ่งกระทรวงแรงงานได้จัดทำและพัฒนาระบบฐานข้อมูลตำแหน่งงานว่าง โดยผู้สมัครงาน ผู้ที่สำเร็จการศึกษาในระดับต่างๆ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้โครงการ 5 ประสาน ได้แก่ กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุตสาหกรรม สภาอุตสากรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลในการผลิตบุคลากรให้ตรงกับความต้องของตลาดแรงงาน อีกทั้งยังต้องเร่งพัฒนาครูฝึกหรือบุคลากรอย่างต่อเนื่องให้มีความรู้ความสามารถเท่าทันเทคโนโลยี และพัฒนาศักยภาพฝีมือแรงงานให้เท่าเทียมมาตรฐานสากล


 


ธ.กรุงไทยอั้นไม่อยู่ ขึ้นค่ากดเอทีเอ็ม


เดลินิวส์ - นายสหัส ตรีทิพยบุตร รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงาน สายงานบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาด ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารจะปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการกดเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็มต่างธนาคารครั้งที่ 5 จาก 3 บาท เป็น 5 บาท ในเดือน ก.ค.นี้ เนื่องจากมีภาระต้นทุนสูงขึ้นในการจ่ายค่าธรรมเนียมการทำรายการระหว่างธนาคาร ซึ่งหลายธนาคารได้ปรับขึ้นค่าธรรมเนียมดังกล่าวไปแล้ว


         


"การที่ธนาคารเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มจากลูกค้านั้น ขณะเดียวกันก็ต้องมีเครื่อง   เอทีเอ็มรองรับให้เพียงพอ ซึ่งในปีนี้ ธนาคารได้ตั้งเป้าติดตั้งเพิ่มไม่ต่ำกว่า 2,000 เครื่อง ปัจจุบันธนาคารมีเครื่องเอทีเอ็มกว่า 5,200 เครื่องทั่วประเทศ สามารถรองรับความต้องการใช้บริการของลูกค้าผู้ถือบัตรเอทีเอ็มและบัตรวีซ่าเดบิตของธนาคารกว่า 9 ล้านบัตรได้อย่างทั่วถึง"


         


นอกจากนี้ยังขยายช่องทางให้บริการ โดยคำนึงถึงความปลอดภัย และความสะดวกของลูกค้าในการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นสำคัญ ล่าสุดธนาคารได้ติดตั้งเครื่องเอทีเอ็มเพิ่มในเขตชุมชน ตลาด โรงพยาบาล และอำเภอที่ห่างไกลในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ สงขลา ยะลา ปัตตานีและนราธิวาส ไปแล้ว 14 จุด และยังมีแผนติดตั้งในพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มอีก 17 จุด


 






ต่างประเทศ


 


UN จี้โลกเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อ "สิ่งแวดล้อม"


ผู้จัดการรายวัน - รอยเตอร์ - สหประชาชาติเรียกร้องให้ทั่วโลกเลิกพฤติกรรมที่ติดการใช้คาร์บอนไดออกไซด์จนกลายเป็นนิสัยทุกประเภท และขอให้ทุกคนต้องลงมือแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกอย่างจริงจัง ชูประเด็นรณรงค์ "ลดวิกฤตโลกร้อน: เปลี่ยนพฤติกรรม ปรับแนวคิด สู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ"


         


"โลกของเรากำลังอยู่ในกำมือของพฤติกรรมการสร้างคาร์บอนที่เป็นอันตราย ...เพราะมันทำให้เราปฏิเสธความจริงที่สำคัญ และปิดบังตาเราไม่ให้เห็นผลการกระทำของเรา"บันคีมุน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ แถลงเนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก (5 มิถุนายน) ซึ่งมีการจัดงานในโอกาสนี้ตามที่ต่างๆ ทั่วโลก โดยงานใหญ่ที่สุดจัดขึ้นที่กรุงเวลลิงตัน เมืองหลวงของนิวซีแลนด์


         


บันชี้ว่าภาวะโลกร้อนว่าจะสร้างความเดือดร้อนให้กับทั้งคนรวยและคนจน และกล่าวอีกว่า "ไม่ว่าท่านจะเป็นบุคคลทั่วไป เป็นองค์กร เป็นธุรกิจ หรือรัฐบาลก็ตาม มีวิธีการมากมายที่ท่านสามารถจะทำเพื่อลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ นี่เป็นสาระสำคัญที่เราทั้งหมดจะต้องรับใส่ใจไว้"


          


ส่วน เฮเลน คลาร์ก นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ กล่าวว่า "เรารู้สึกภูมิใจกับอัตลักษณ์ของประเทศที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และเราตั้งใจที่จะดำเนินการเพื่อรักษาอัตลักษณ์นี้ไว้ เรารู้สึกชื่นชมที่การปกป้องสภาพภูมิอากาศหมายถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเราแต่ละคนและเราทุกๆ คน"


         


ทั้งนี้ ในเอเชีย หลายประเทศใช้วาระวันสิ่งแวดล้อมเพื่อดำเนินการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยวิธีการต่างๆ เช่น บังคลาเทศมีแผนการขจัดมลพิษในทะเลสาบกุลชาน บาริธารา กรุงกาฐมาณฑุของเนปาล จะเน้นประเด็นสิ่งแวดล้อมในช่วงเทศกาลแม่น้ำบัคมาติ นครบังกาลอร์และมุมไบของอินเดีย มีแผนรณรงค์ปลูกต้นไม้ ส่วนเมืองปูนาในอินเดียเช่นกันจะมีการเปิด "วัดสิ่งแวดล้อม" เพื่อสร้างความตระหนักในเรื่องนี้ให้มากขึ้น


         


นอกจากนั้น ในการประชุมสุดยอด 8 ประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก(จี 8) ที่จะมีขึ้นที่ฮอกไกโด ประเทศญี่ป่นเดือนหน้า ก็จะมีการเตรียมการเพื่อให้ชาติร่ำรวยเหล่านี้ จัดทำเป้าหมายอย่างเป็นทางการในเรื่องการลดการปล่อยคาร์บอนได้ออกไซด์ทั่วโลกลงให้ต่ำกว่าระดับคาร์บอนไดออกไซด์ในปี 1990 ให้ได้ 50 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2050 โดยที่มีบางประเทศเห็นว่าควรลดลงให้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ เพื่อจำกัดวงของปัญหาภาวะโลกร้อน


         


โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติระบุว่าค่าใช้จ่ายในการทำให้เศรษฐกิจโลกเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนั้น สูงเพียงหนึ่งในสิบของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของทั่วโลกเป็นเวลา 30 ปี และอาจจะเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดการสร้างนวัตกรรม รวมทั้งธุรกิจและการจ้างงานแบบใหม่ด้วย


 


ยูเอ็นจี้นานาชาติบริจาคเงินปีละ 2 หมื่นล้านดอลล์แก้อาหารแพง


เว็บไซต์สยามรัฐ - อิตาลี - เลขาฯ ยูเอ็นจี้นานาชาติช่วยบริจาคเงินปีละ 2 หมื่นล้านดอลล์ เพื่อกู้วิกฤติอาหารแพงเขย่าโลก สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่  5 มิ.ย. ที่ผ่านมาว่า การประชุมสุดยอดว่าด้วยอาหารโลก   ซึ่งจัดขึ้นโดยองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติหรือเอฟเอโอ  ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว  เมื่อวันพฤหัสบดีนี้  ภายหลังจากดำเนินการประชุมมาเป็นเวลา 3 วัน ที่กรุงโรม เมืองหลวงของอิตาลี โดยนายบัน  คี  มูน  เลขาธิการแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็น ออกมาเรียกร้องให้ประชาคมโลก  ร่วมกันบริจาคเงิน คิดเป็นจำนวนมากกว่า  20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี เพื่อช่วยเหลือแก่บรรดาชาติยากจน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤติอาหารแพง


 



"ฮิลลารี"จะประกาศยุติ"แข่งขัน"สัญญาช่วย"โอบามา"สู้ศึกเต็มที่


ผู้จัดการรายวัน -  รอยเตอร์ - ฮิลลารี คลินตันเขียนจดหมายเปิดใจเตรียมปิดฉากการแข่งขันกับบารัค โอบามาอย่างเป็นทางการวันเสาร์(7)นี้ โดยจะประกาศสนับสนุนอดีตคู่แข่งอย่างเต็มที่ในการชิงเก้าอี้ผู้นำทำเนียบขาว และให้คำมั่นจะช่วยสร้างเอกภาพภายในพรรคเพื่อรับมือกับแมคเคนแห่งรีพับลิกัน ด้านโอบามาตั้งทีมงานเฟ้นหาตัวผู้สมัครชิงรองประธานาธิบดี โดยมีแคโรไลน์ เคนเนดี เป็นหัวหน้า


         


"วันเสาร์นี้ ดิฉันจะแสดงความยินดีกับวุฒิสมาชิกโอบามา และจะประกาศสนับสนุนเขาเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งเก้าอี้ประธานาธิบดี" คลินตันระบุในจดหมายที่เผยแพร่ต่อผู้สนับสนุนของเธอเมื่อเช้าวันพฤหัสบดี (5)


         


"ดิฉันพูดมาตลอดการหาเสียงว่าจะสนับสนุนวุฒิสมาชิกโอบามาอย่างแข็งขัน หากเขาได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และดิฉันตั้งใจที่จะรักษาสัญญานั้น"


         


คลินตันกล่าวย้ำด้วยว่าเธอจะร่วมงานฉลองที่วอชิงตันในคืนวันเสาร์เพื่อขอบคุณทุกๆ คนที่สนับสนุนเธอมาตลอด โดยในตอนแรกนั้นงานดังกล่าวมีแผนจะจัดขึ้นในคืนวันศุกร์ ทว่าได้เลื่อนกำหนดการออกไปเพื่อรอให้ผู้สนับสนุนมาร่วมงานกันมากขึ้น


        


 "ครั้งนี้นับเป็นการหาเสียงที่ยาวนานและต่อสู้กันอย่างหนักหน่วง แต่ดิฉันก็ได้บอกเสมอมาว่า ข้อแตกต่างระหว่างดิฉันกับวุฒิสมาชิกโอบามานั้นมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้นหากเทียบกับข้อแตกต่างระหว่างดิฉันกับวุฒิสมาชิกแมคเคนและพรรครีพับลิกัน" เธอระบุเพิ่มเติมในจดหมายดังกล่าว


         


"ดิฉันจะแถลงในวันเสาร์ว่าเราจะสามารถช่วยเหลือพรรคโดยอยู่ข้างหลังวุฒิสมาชิกโอบามาได้อย่างไร เดิมพันครั้งนี้สูงมากเหลือเกิน และภารกิจเบื้องหน้าของเราก็มีความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด"


         


คลินตันใช้เวลาส่วนใหญ่ตลอดวันพุธ (4) พูดคุยกับผู้สนับสนุนเธอ โดยหลายต่อหลายคนได้ขอให้เธอถอนตัวจากการแข่งขันเพราะโอบามานั้นเป็นผู้กุมชัยชนะได้แล้ว ส่วนโอบามาได้เข้าร่วมงานหาทุนสนับสนุนการเลือกตั้งถึงสองงานที่นิวยอร์กเมื่อคืนวันพุธ และกล่าวว่า "ตอนนี้เรื่องระหองระแหงในครอบครัวก็จบไปแล้ว พวกเราทุกคนจะได้โฟกัสไปยังสิ่งที่จะต้องทำในเดือนพฤศจิกายน"


         


ทั้งนี้โอบามาได้ประกาศตั้งทีมงานจำนวนสามคนเพื่อดูแลเรื่องการหาตัวผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีในขณะที่เขาเองก็ได้เริ่มดำเนินสร้างเอกภาพภายในพรรคทันทีที่มีชัยชนะในการเป็นตัวแทนพรรคแล้ว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net