Skip to main content
sharethis

ประชาไทภาคเหนือ


 


การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน ได้ส่งผลให้ทั้งประชาชน และผู้ให้บริการขนส่งมวลชนในจังหวัดเชียงใหม่ได้รับผลกระทบอย่างทั่วหน้า


 


จากการสำรวจพบว่าโดยเฉลี่ยแล้วรถแดงเชียงใหม่ค่าโดยสารขึ้นต่ำไม่ใช่ 15 บาทดังที่มีข่าวว่ามีความตรึงราคาไว้แล้ว โดยปกติเฉลี่ยแล้วการขึ้นรถแดงแต่ละครั้งอัตราค่าโดยสาร (จากการต่อรองกับคนขับ) จะอยู่ที่ 20 บาท รวมถึงผู้ใช้มอเตอร์ไซด์ ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มคนส่วนใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่ การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันได้ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพ ที่ต้องมีรายจ่ายมากขึ้น 


ส่วนผู้ประกอบการขนส่งภาคเหนือได้พยายามเรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำช่วยเหลือผู้ประกอบการขนส่ง โดยขณะนี้มีบริษัทขนส่งรายเล็กที่ต้องปิดตัวลงถึง 10 บริษัทแล้ว จากผลกระทบของราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น



เสียงจากรถแดง


 


นายสายันต์ ทรัพย์เพิ่ม คนขับรถแดงในเขต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ว่า ผลกระทบที่หนักที่สุดในขณะนี้ก็คือเรื่องราคาน้ำมันที่ขึ้นเกือบทุกวัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อคนขับสี่ล้อแดงหลายๆ คน ทำให้ต้องหันไปทำอาชีพอื่น ในส่วนของตัวเองนั้นที่พออยู่ได้ก็เพราะรับส่งนักเรียนประจำ แล้วก็วิ่งรถควบคู่ไปด้วย ซึ่งถ้าไม่ได้รับรายได้จากส่วนอื่นก็ไม่สามารถอยู่ได้


 


"เมื่อก่อนเราวิ่งรถใช้น้ำมันหลักร้อย ตอนนี้พุ่งขึ้นเกือบเท่าตัว เพื่อนหลายคนอยู่ไม่ได้แล้ว ถ้าไม่ทำอย่างอื่นไปด้วยก็ตาย"


 


และถึงแม้จะมีการประกาศว่าค่าโดยสารขั้นต่ำของสี่ล้อแดงเชียงใหม่จะอยู่ที่ 15 บาท แต่ในความเป็นจริงแล้วราคานี้สายันต์บอกว่าทั้งผู้โดยสาร หรือสี่ล้อเองจะรู้ๆ กันอยู่ว่ามันเป็นไปไม่ได้แล้ว


 


"ยอมรับว่าค่าโดยสารขั้นต่ำ 15 บาทนั้น แทบเป็นไปไม่ได้ นอกจากนักศึกษา พระสงฆ์ แม่ค้าที่เป็นลูกค้าขาประจำ ส่วนผู้โดยสารไปมาขาจรก็จะมีการตกลงราคากันก่อน ซึ่งมันเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย อยากฝากให้ผู้โดยสารที่จะใช้รถแดงคือต้องตกลงราคากันก่อน จะได้ไม่ว่ากันทีหลัง"


 


ในส่วนของปริมาณผู้โดยสารนั้น ถ้าให้เทียบจริงๆ ก็จะพบว่าช่วงน้ำมันแพงนี้มีเพิ่มขึ้น ซึ่งนี่เป็นจุดหนึ่งที่ทำให้ตนเองสามารถอยู่ได้โดยไม่ขึ้นค่าโดยสาร แต่หลานคนมีทัศนะคติไม่ค่อยดีกับรถแดงมากนัก คนที่ไม่เคยขึ้นอาจจะไม่เคยชินกับการนั่งหลายคน การวนเส้นทางไปส่งให้คุ้มค่า หลายคนจะเอาความสะดวกของตนเองเป็นใหญ่


 


"เห็นเลยว่าคนที่ไม่เคยนั่งรถแดง หันมาใช้มาก คงเป็นเรื่องน้ำมันแพง แต่หลายคนไม่เคยนั่งเลยหวังแค่ความสบายส่วนตน ความจริงรถแดงไม่ใช่แท็กซี่ เราไปหลายคนต้องเอาใจเขามาใส่ใจเราที่ไหนใกล้ก็ต้องส่งเขาก่อน แต่รับรองว่าไม่เสียเวลามาก ถ้าอ้อมมากๆ เราก็ไม่รับเพื่อเสียเวลาคนอื่นอยู่แล้ว"


 


การแก้ปัญหา เรื่องการเปลี่ยนไปใช้แก๊สสำหรับตนเองมองว่ารถแดงดัดแปลงใช้ยาก ถ้าจะแก้ปัญหาก็คือขึ้นราคาโดยสาร ซึ่งตนเองคิดว่าอย่างต่ำก็ 30 บาท ไม่เช่นนั้นก็ขอความร่วมมือผู้โดยสารใช้บริการสาธารณะให้คุ้มค่ามากที่สุดไม่เห็นแก่ตัว รถแดงไม่ได้เห็นแก่ตัวอย่างที่หลายคนคิด


 


"จะติดแก๊สแบบแท็กซี่หรือรถเก๋งก็ทำยาก อาจทำได้แต่ก็กลัวเรื่องความปลอดภัย ทั้งนี้ถ้าไม่ขึ้นค่าโดยสารก็ขอความร่วมมือผู้โดยสารยอมเสียเวลา เสียความสะดวก ขึ้นรถให้เต็มๆ ไม่ใช่เจอรถที่มีคนนั่งสองสามคน ก็ไม่ยอมไปด้วยแล้ว ทั้งๆ ที่นั่งยังว่าง" สายันต์กล่าว


 


นอกจากนี้การปรับตัวของรถแดงในสภาวะน้ำมันแพงเช่นนี้ก็คือ หันมารับจ้างขนของ และให้เช่ารถเป็นรายวัน รวมถึงติดต่อบริษัทห้างร้านต่างๆ ที่สนใจจะลงโฆษณาร้านค้าหรือสินค้า นำแผ่นข้อความโฆษณามาติดบริเวณด้านข้างรถ เพื่อปรับเปลี่ยนให้เป็นรถโฆษณาเคลื่อนที่ สามารถเพิ่มรายได้และแบ่งเบาภาระให้สมาชิกได้เป็นอย่างดี โดยราคาเช่าพื้นที่โฆษณาด้านข้างรถอยู่ที่เดือนละ 300-500 บาท



 


สิงห์มอเตอร์ไซด์อ่วม


 


นายสุริยัน กันทะวงค์ พนักงานเก็บเงินบริษัทขายเครื่องไฟฟ้าแห่งหนึ่ง ใน จ.ลำพูน ซึ่งใช้มอเตอร์ไซด์เป็นพาหนะในการทำงานเก็บเงินตามบ้านลูกค้ากล่าวว่า น้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้บริษัทเปลี่ยนระบบเน้นให้ลูกค้ามาจ่ายเงินเองมากขึ้น แต่เจ้าหน้าที่เก็บเงินก็ยังไม่ได้หมดไปเลยทีเดียว เพราะลูกค้าบางกลุ่มต้องใช้พนักงานไปกดดันถึงบ้านถึงจะยอมจ่ายเงินตรงเวลา


 


ในส่วนของค่าน้ำมันซึ่งตนเองได้เดือนละ 1,800 บาท มากหลายปีแล้วยังไม่ได้ปรับขึ้น เมื่อก่อนยอมรับว่าคุ้มค่ากับค่าน้ำมันตรงนี้ เหมือนบริษัทเผื่อให้เราเป็นค่าเสียเวลา แต่ตอนนี้เรียกได้ว่าเราต้องควักเงินเพิ่มเอง


 


"เมื่อก่อนเต็มถึงก็ห้าหกสิบบาท แต่ตอนนี้ต้องเติมเป็นร้อย คิดว่าถ้าเป็นแบบนี้อีกไม่นานก็คงไม่ไหวถ้าบริษัทไม่ขึ้นค่าน้ำมันก็ต้องออก แต่ตอนนี้ยังออกไม่ได้เพราะยังมีหนี้สินอยู่"


 


ส่วนประเด็นการแก้ปัญหา สุริยันมองว่าคนใช้รถมอเตอร์ไซด์โชคร้ายที่สุดเพราะไม่สามารถใช้พลังงานทางเลือกราคาถูกได้ แก๊สโซฮอลล์ก็ไม่ได้ถูกกว่าเบนซินเท่าไรเมื่อเทียบเป็นสัดส่วนการเติม เพราะมอเตอร์ไซด์เติมน้ำมันได้ไม่กี่ลิตร นอกจากนี้มอเตอร์ไซด์เป็นพาหนะของคนจนส่วนใหญ่ในเชียงใหม่ สำหรับตนมองว่าควรขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เพราะเรื่องการลดราคาน้ำมันนั้นเป็นไปไม่ได้


 


"ส่วนใหญ่คนเชียงใหม่ใช้มอเตอร์ไซด์ทั้งนั้น ค่าแรงเราก็แค่วันละสองร้อย แต่ต้องเติมน้ำมันเป็นร้อยแล้ว ต้องเพิ่มค่าแรง ส่วนเรื่องลดราคาน้ำมันถ้าลดมันก็ลดไม่กี่สตางค์ ไม่ใช่การแก้ปัญหา"


 


ขนส่งเอกชนเรียกร้องขอรัฐปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ


 


ส่วนผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะภาคเหนือตอนบนที่รับส่งผู้โดยสาร ได้ลดจำนวนลงถึง 60 คันต่อวัน เพื่อประหยัดค่าน้ำมัน ขนาดที่ผู้ประกอบการรายเล็กได้หยุดวิ่งไปแล้วหลายราย ทั้งนี้ผู้ประกอบการขนส่งภาคเหนือ ได้เรียกร้องรัฐบาลปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำช่วยเหลือผู้ประกอบการขนส่ง ที่ต้องปิดตัวลงถึง 10 บริษัท จากราคาน้ำมันที่แพงสูงขึ้น


 


นายสมชาย ทองคำคูณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด หรือเมล์เขียว ได้กล่าวกับ อสมท. เชียงใหม่ ว่าขณะนี้ต้องลดจำนวนเที่ยววิ่งลง โดยเฉพาะวันอังคาร พุธ วันพฤหัสบดี ถึง 60 คันต่อวันเนื่องจากมีผู้โดยสารน้อย เพื่อเป็นการประหยัดค่าน้ำมัน แต่จะวิ่งตามปกติในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และจันทร์ เนื่องจากมีจำนวนผู้โดยสารมาก


 


"จากเดิมที่เคยวิ่ง 200 เที่ยว เราลดลงมาเหลือเพียง 140 ต่อวัน" สมชายกล่าวถึงการลดปริมาณเที่ยวลดเพื่อประหยัดต้นทุน


 


ส่วนผู้ประกอบการรายเล็กได้ปิดตัวลงไปหลายแห่งเพราะแบกรับค่าน้ำมันไม่ไหว หากจะมีการดัดแปลงรถให้มาใช้แก๊ส ก็จะต้องใช้ต้นทุนสูง อีกทั้งต้องมีการทำให้น้ำหนักรถเกิน ซึ่งจะต้องมีการแก้กฎหมาย


 


ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ปรับค่าโดยสารขึ้นอีก 3 สตางค์ต่อกิโลเมตร ซึ่งสมชายเห็นว่ายังไม่พอ ซึ่งตามความจริงแล้วจะต้องเพิ่มอีก 10 สตางค์ ถึงจะคุ้มทุน


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net