วานนี้ (24 มิ.ย.) การเจรจาค่าจ้างระหว่างตัวแทนของกระทรวงสาธารณสุข กับตัวแทนลูกจ้างของกระทรวงฯ ล้มเหลว โดยนายโอสถ สุวรรณเศวต ผู้ประสานงานสมาพันธ์สมาคมลูกจ้างของรัฐแห่งประเทศไทย ลูกจ้างชั่วคราว อายุงาน 15 ปีของโรงพยาบาลมหาราช จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ในการเจรจาระหว่างสองฝ่าย ซึ่งจะมีขึ้นเป็นระยะๆ นั้น มีข้อตกลงร่วมกันที่ลงนามโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่ปี 2547 ว่า ให้แต่ละฝ่ายตั้งกรรมการของฝ่ายตนเองขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ปรากฎว่ามีการแทรกแซงกระบวนการเจรจา โดยมีการส่งสายตรงของปลัดกระทรวงฯ เข้ามาเป็นตัวแทนฝ่ายลูกจ้าง เพื่อขัดแข้งขัดขา เวลาที่ตัวแทนของสมาพันธ์ฯ ยกมือ เขาก็ยกมือตาม พอบอกประธานที่ประชุม ประธานก็บอกว่าทำอะไรไม่ได้เพราะบุคคลนั้นถูกแต่งตั้งเข้ามา โดยอำนาจของปลัดฯ ทำให้ตัวแทนสมาพันธ์ฯ ตัดสินใจไม่ร่วมประชุมด้วย

"กลายเป็นว่า ตัวแทนจากเหนือ ใต้ อีสาน ตะวันตก นั่งรถเข้ามากรุงเทพฯ เพื่อประชุม แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตัวแทนคนนี้ของปลัดฯ เป็นหอกข้างแคร่ โดยเขาจะพูดถึงการต่อสู้ของสมาพันธ์ฯ ว่าเกิดจากความสงสารของปลัดฯ ทำให้สมาพันธ์เสียระบบการต่อสู้"

นายโอสถ กล่าวต่อไปว่า การมาเจรจาในครั้งนี้ เพื่อขอปรับอัตราค่าจ้างตามสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ลูกจ้างภาครัฐทั่วประเทศ ที่ทำงานด้วยความเหนื่อย แต่ได้ค่าจ้าง 5,000-6,000 บาท มานาน 10-20 ปี โดยที่น้ำมัน น้ำตาลก็แพงขึ้น รายได้ไม่คุ้มกับค่าครองชีพ ไม่มีสวัสดิการ ต้องใช้ประกันสังคม ไม่ได้รับสิทธิคุ้มครองจากกองทุนเงินทดแทน เพราะว่าเป็นลูกจ้างภาครัฐ

นายโอสถ กล่าวว่า ต่อมาได้มีการยื่นหนังสือถึงปลัดกระทรวงฯ เพื่อเรียกร้องให้ถอดถอนบุคคลนั้นออกจากการเป็นกรรมการลูกจ้าง โดยมีรองปลัดฯ เป็นผู้รับหนังสือ และรับว่าจะเรียกประชุมใหม่ให้เร็วที่สุด ภายในต้นเดือนกรกฎาคม ทั้งนี้ เขากล่าวว่า หากไม่มีความคืบหน้า คงจะเคลื่อนไหวต่อไป ตามแนวทางสันติ อหิงสา

ด้านแหล่งข่าวจากกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ฝ่ายตัวแทนของสมาพันธ์ฯ เป็นฝ่ายวอล์กเอ้าท์ออกไปเอง ทำให้องค์ประชุมไม่ครบ และว่า ลูกจ้างที่ฝ่ายตัวแทนสมาพันธ์พูดถึงนั้น ก็เป็นลูกจ้างของรัฐเหมือนกัน อยู่สังกัดกระทรวงเดียวกัน แต่คงมีปัญหาภายในที่พวกเขาตกลงกันไม่ได้

"เราเป็นคนกลางก็ขึ้นกับความพอใจของเขา ลูกจ้างก็เหมือนลูกๆ เราพร้อมดูแลการกินอยู่ หากเขากินอยู่ดี สมองดี ก็จะดูแลคนไข้ดีตามไปด้วย"

สำหรับเรื่องการแต่งตั้งตัวแทนฝ่ายลูกจ้างนั้น แหล่งข่าวกล่าวว่า เนื่องจากปลัดฯ มองว่า เพื่อความโปร่งใส จึงต้องรับฟังหลายกลุ่ม ไม่ควรมองจุดเดียว ต้องมองทุกมิติ และเป็นอำนาจที่แต่งตั้งได้