ไทย-กัมพูชาตรึงกำลังบริเวณพื้นที่ทับซ้อน "เขาพระวิหาร"


ทหารกัมพูชา (ซ้าย) และทหารไทย (ขวา) ยืนเผชิญหน้ากันตรงวัดสุขคีรีสวายเรี๊ยะ เชิงเขาพระวิหาร เมื่อ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา (ที่มา: REUTERS/Chor Sokunthea)

 

ทหารกัมพูชา (ขวา) ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพทหารไทยที่วัดสุขคีรีสวายเรี๊ยะ เมื่อ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา (ที่มา: REUTERS/Chor Sokunthea)

 

ทหารกัมพูชายืนถือวิทยุสื่อสาร ขณะที่เบื้องหน้าของพวกเขาคือทหารไทย (ที่มา: REUTERS/Chor Sokunthea)

 

ทหารกัมพูชาพร้อมเครื่องยิงจรวดแบบประทับบ่า ออกลาดตระเวนบริเวณปราสาทพระวิหาร (ที่มา: REUTERS/Chor Sokunthea)

 

ทหารกัมพูชารักษาการบริเวณประตูทางเข้าของปราสาทพระวิหาร เมื่อ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา (ที่มา: AP Photo/Heng Sinith)

 

ตามที่นายวิชาญ ทับซ้อน นางชนิกานต์ เก่งนอก พระภิกษุคำพอง ฐิติธัมโม กลุ่มธรรมยาตรา ได้ข้ามไปยังเขตกัมพูชาและถูกจับกุม และต่อมาทั้ง 3 คนถูกปล่อยตัวออกจากบริเวณสำนักงานหน่วยประสานงานชายแดนกัมพูชา-ไทยตั้งแต่เวลา 12.30 น. เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมนั้น ล่าสุดเว็บไซต์มติชนออนไลน์รายงานว่าขณะนี้ทั้งหมดอยู่ระหว่างการสอบปากคำอย่างละเอียดของเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยและกัมพูชา ที่บริเวณวัดคีรีสุขสวายเรี๊ย ใกล้ชุมชนตลาดทางขึ้นปราสาทพระวิหาร โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารไทยและทหารกัมพูชาพักค้างคืนอยู่ที่วัดดังกล่าวด้วย

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารไทยที่พักค้างอยู่กับคนไทยที่ถูกจับทั้ง 3 คน มี พล.ต.กนก เนตระคเวสนะ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พ.อ.ธัญญา เกียรติสาร ผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพราน 23 พ.อ.เวิน จำปาสา หัวหน้าหน่วยประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา พ.ต.อ.วัฒนา เงินหมื่น รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ พ.ต.ต.นพรัตน์ กองเมืองปัก ผบ.ร้อย ตชด.224 และมีพระวิจิตร ญาณโสปัณโณ กลุ่มเดินธรรมยาตรา อีก 1 รูป ที่ไปเยี่ยมผู้ที่ถูกสอบปากคำ ส่วนเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชา ประกอบด้วย พ.อ.พาด สุเพน หัวหน้าหน่วยประสานงานกัมพูชา-ไทย พล.ต.เจีย แกว รองผู้บัญชาการภูมิภาคที่ 4 พ.อ.โพย กูย ผู้บังคับหน่วยทหารภูมิภาคที่ 4 ส่วนหน้า ประจำ อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร

 

ต่อมาเวลา 05.00 น. ทหารพรานจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จำนวน 250 นาย เข้าตรึงกำลังที่บริเวณช่องบันไดหัก ช่องคันม้า และช่องตาเฒ่า ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และบริเวณพื้นที่แนวป่าริมทางจากบ้านโกมุย อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร ประเทศกัมพูชา จนถึงช่องตาเฒ่า ต.เสาธงชัย ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร

 

เวลา 07.00 น. พล.ท.สุจิตร สิทธิประภา แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังประชุมนายทหารระดับผู้บังคับการกองกำลังพลในสังกัดว่า ชายแดน จ.ศรีสะเกษ บริเวณผามออีแดง และปราสาทพระวิหารได้รับรายงานจากหน่วยข่าวกรองว่า กองกำลังทหารกัมพูชาเคลื่อนกำลังเสริมตามแนวชายแดนด้านเขาพระวิหาร ซึ่งมีกับระเบิดเป็นจำนวนมากตั้งแต่สมัยมีสงครามและยังไม่ได้เก็บกู้หมด แต่ขณะนี้ฝ่ายไทยยังไม่มีการเสริมกำลังแต่อย่างใด แต่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ทางทหารตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น กำลังพลที่มีอยู่ในขณะนี้ยังเพียงพอต่อการปฏิบัติหน้าจึงยังไม่มีการเพิ่มกำลังพลแต่อย่างใด

 

พล.ท.สุจิตรกล่าวว่า ส่วนกรณีทหารพราน (ทพ.) วิไล อารมณ์ รองผู้บังคับการกองร้อยชุดปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 2301 เหยียบกับระเบิดได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาขวาขาดนั้น ได้มีการช่วยเหลือด้านอื่นและจะได้รับสิทธิกำลังพลของทางราชการรวมทั้งญาติพี่น้อง กองทัพจะไม่ทอดทิ้งอย่างเด็ดขาด

 

ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบกกล่าวว่าได้สั่งให้กองทัพละเว้นการใช้กำลังและเตือนว่าสองประเทศควรแก้ปัญหาโดยสันติวิธี "ปัญหาที่นั่นมีมานานแล้วเพราะยังไม่มีการปักปันเขตแดน" พล.อ.อนุพงษ์กล่าวกับผู้สื่อข่าว "เรื่องนี้ควรมีการพูดคุยกันระหว่างสองประเทศ"

 

เจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยปฏิเสธว่าไม่ได้ส่งทหารข้ามเข้าไปในเขตแดนของกัมพูชา และระบุว่าทหารไทยอยู่ในเขตแดนไทยและวางกำลังเพื่อป้องกันอธิปไตยของประเทศ อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวที่เป็นทหารระดับสูงของไทยที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ ระบุกับเอพีว่า ทหารไทยเข้าไปอยู่ในบริเวณที่ยังมีข้อพิพาทเรื่องเขตแดน

 

นายเขียว กันหะฤทธิ์ โฆษกรัฐบาลกัมพูชา และรัฐมนตรีกระทรวงสารสนเทศ กล่าวว่าไทยส่งทหารเข้าไปกว่า 200 นายในวันนี้ (16 ก.ค.) จากเดิม 170 นายเมื่อคืนวานนี้ และเขายังแจ้งว่ามีทหารกัมพูชาบริเวณดังกล่าว 380 นาย และยังยืนยันว่า "สถานการณ์ยังควบคุมได้"

 

ทหารของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงตรึงกำลังกันอยู่บริเวณใกล้เคียงกับปราสาทพระวิหาร แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะถือเป็นการรุกล้ำดินแดนจากทางฝ่ายไทยหรือไม่ นายเขียวกล่าวตอบว่า "คิดว่าน่าจะใช้คำว่ากรณีที่เกิดขึ้นเป็นความเข้าใจผิดกันบางอย่างมากกว่า ปฏิกิริยาของทหารทั้งสองฝ่ายในเวลานี้ยังคงเป็นไปโดยสงบ เมื่อคืนต่างฝ่ายต่างค้างแรมอยู่ที่วัดเดียวกันอยู่เลย" พร้อมกันนั้นก็ระบุว่าไม่มีการควบคุมตัวทหารไทยไว้ที่วัดดังกล่าวแต่อย่างใด ทหารไทยสามารถกลับออกมาได้อย่างเสรี และคาดหวังว่าคงจะถอนตัวกลับออกมาในเร็วๆ นี้

 

ทางด้านเอพีรายงานว่า นายเขียวได้เปิดเผยด้วยว่า มีนายทหารระดับสูงของไทยได้เสนอให้จัดการประชุมระดับสูงสุดระหว่างสองฝ่ายขึ้นเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น แต่นายเขียวย้ำว่าจุดยืนของกัมพูชาคือต้องให้ทหารไทยถอนกำลังออกไปจากดินแดนของตนเองก่อน หลังจากนั้น จึงจะมีการเจรจาปัญหาชายแดนกันได้ และยังระบุว่า นายกรัฐมนตรี ฮุน เซน ได้ร้องขอต่อสื่อมวลชนในกัมพูชาและประชาชนโดยรวมให้รักษาความสงบ

 

นายเขียวอ้างคำพูดของฮุนเซนว่า "อย่ากระพือให้สถานการณ์เลวร้ายมากยิ่งขึ้นหรือสาดน้ำมันลงกองไฟ เราจะไม่ใช้กำลังอย่างแน่นอน ถ้าหากไม่ถูกโจมตีก่อน"

 

ผู้สื่อข่าวเอพีรายงานว่า ในป่ารอบเขาพระวิหาร ฝ่ายทหารไทยพกปืนไรเฟิลสวมรองเท้าคอมแบต นั่งจับกลุ่มเล็กๆ ขณะที่ห่างออกไปไม่กี่ฟุตมีทหารกัมพูชาลาดตระเวนไปมา ทหารกัมพูชาบางคนมีเครื่องยิงจรวดบี-40 เป็นอาวุธประจำกาย

 

ทั้งนี้มีรายงานว่ามีการเสริมกำลังของฝ่ายกัมพูชา โดยพบเห็นได้ตามทางหลวงในเขตกัมพูชาเมื่อวานนี้ (16 ก.ค.)

 

ร้อยเอกอุช บอฤทธิ์ ทหารกัมพูชากล่าวว่าได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการให้มาประจำการยังพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นหมู่บ้านในเขตกัมพูชาห่างจากเขาพระวิหารไปหลายกิโลเมตร แต่เขาไม่ระบุว่ากัมพูชาส่งกำลังเสริมเข้ามาเป็นจำนวนเท่าใด

 

"พวกเราพยายามอย่างยิ่งเท่าที่จะสามารถทำได้ เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่จะนำไปสู่การสู้รบ" พล.ต.ซอว์ ทวี ผู้บัญชาการทหารกัมพูชาที่ควบคุมปราสาทวิหารกล่าว

 

เขากล่าวว่าได้ตกลงกับผู้บัญชาการทหารของไทยว่าทั้งสองฝ่ายจะไม่เคลื่อนไหวทางการทหารเพิ่มในคืนวันพุธนี้ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ยังคงตึงเครียดล่วงเข้าเป็นวันที่สาม

 

พ.อ.เส็ง วุธิ นายทหารระดับผู้บังคับหมวดกองกำลังรักษาชายแดนของกัมพูชากล่าวเมื่อเช้าวันเดียวกันนี้ว่า ตอนนี้นิ้วของทหารทั้งไทยและกัมพูชาอยู่ตรงไกปืนกันตลอดเวลาแล้ว ในขณะที่ชาวบ้านราว 900 คนที่พักอาศัยอยู่ในบ้านละแวกใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุต่างพากันหลบหนีออกจากบ้านพักไปยังพื้นที่ปลอดภัยบริเวณตีนเขาแล้วทั้งหมด

 

ทั้งนี้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาตึงเครียดขึ้นในวันพฤหัสบดีสัปดาห์ผ่านมาเมื่อผู้ประท้วงชาวไทยกลุ่ม "ธรรมยาตรา" นำโดยนายสมาน ศรีงาม ซึ่งคัดค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารของกัมพูชาเป็นมรดกโลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเมื่อ 7 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยผู้ประท้วงดังกล่าวได้วางแผนเดินขบวนเข้าไปใกล้กับพรมแดน โดยผู้นำประท้วงชาวไทยรายหนึ่งระบุเหตุผลว่า "เพื่อปกป้องอธิปไตยของเรา"

 

โดยทหารไทยประมาณ 200 นาย และทหารกัมพูชา 380 นาย ตรึงกำลังเผชิญหน้ากัน หลังจากที่มีนักเคลื่อนไหวชาวไทย 3 คน ถูกเจ้าหน้าที่กัมพูชาควบคุมตัวไว้หลายชั่วโมง หลังจากพยายามที่จะเข้าไปปักธงชาติไทยในเขตของปราสาทพระวิหาร

 

 

ที่มาของข่าวบางส่วน: มติชนออนไลน์ และ

Cambodia says it will meet Thais on border dispute, By SOPHENG CHEANG, Associated Press Writer, July 16, 2008

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท