ฮุน เซนส่งสารขอสมัครสั่งถอนทหาร ชาวบ้านหวั่นเกิดสงครามรอบสอง

ภายหลังจากเมื่อบ่ายวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ทหารไทยได้เสริมกำลังบนเขาพระวิหาร เพื่อกดดันให้กัมพูชาถอยออกจากพื้นที่ทับซ้อนบนเขาพระวิหาร จนทางจังหวัดต้องประกาศปิดเขาพระวิหาร ตั้งแต่ผามออีแดง หน้าด่านหน้าสำนักงานอุทยานห่างชาติเขาพระวิหาร สำนักงานป่าไม้นั้น

 

 

พันธมิตรระดมทุกสารทิศเคลื่อนเข้าสู่เขาพระวิหาร

สถานการณ์ล่าสุดวานนี้ (17 ก.ค.) กลุ่มพันธมิตรจากทั่วสารทิศเดินทางมาร่วมชุมนุมกันเป็นจำนวนมาก ขณะที่กลุ่มชาวบ้านตำบลเสาธงชัย ตำบลบึงมะลู และชาวอำเภอกันทรลักษ์ที่ไม่พอใจการมาของกลุ่มพันธมิตร เพราะเชื่อว่าจะมาสร้างปัญหาแล้วก็จากไป ผู้ที่จะต้องรับความเดือนร้อนคือคนกันทรลักษ์ จึงได้ร่วมใจกันมาปิดกั้นทำด่านห้ามกลุ่มพันธมิตรเดินทางขึ้นไป ตำรวจและทหารต้องแบ่งกำลังมาดูแลความปลอดภัยให้กับทั้งสองกลุ่ม

 

นอกจากนั้น พ.ต.อ.วัฒนา เงินหมื่น รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้ระดมกำลังตำรวจจากทุก สภ.ราว 500 คน มาสมทบกับตำรวจพื้นที่เพื่อรักษาความสงบ โดยมีนายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ นายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคพลังประชาชน เดินทางมาช่วยเจรจาทั้งสองฝ่ายไม่ให้มีการปะทะรุนแรงเกิดขึ้น

 

 

ชาวบ้านชายแดนไทย-กัมพูชาหวั่นเกิดสงครามอีกรอบ

สถานการณ์ที่ด่านหน้าสำนักงานอุทยานป่าไม้ หน้าสำนักงานป่าไม้อำเภอกันทรลักษ์ ด้านบนสุด ที่จะทะลุไปถึงผามออีแดงและขึ้นเขาพระวิหาร ขณะที่ปิดกั้นด่าน ชาวบ้านได้เปิดทีวีคอยติดตามข่าวสารอยู่ตลอดทุกชั่วโมง ซึ่งได้มีผู้สื่อข่าวแทบทุกช่อง ทั้งในและต่างประเทศ เดินทางมาทำข่าวกันจำนวนมาก โดยชาวบ้านในพื้นที่บอกว่า กลัวเกิดสงครามไทย - กัมพูชาขึ้นอีก เพราะเคยมีประสบการณ์มาก่อน บางคนสามีตาย ลูกตายเพราะสงครามเขมร 3 ฝ่าย มาแล้ว

 

 

"สมาน" ขู่ถ้ากระโดดผามออีแดง จนท.กล่อมสำเร็จยอมกลับเต๊นท์

ส่วนบนเขาพระวิหาร บริเวณหน้าผามออีแดง เครือข่ายธรรมยาตรา จำนวน 10 คน นำโดยนายสมาน ศรีงาม ได้ไปนั่งทำสมาธิตรงหน้าผา และขู่ว่า หากรัฐบาลไม่แก้ไขปัญหา นำตัว 3 คนที่ถูกจับไปออกมาจะกระโดดหน้าผา เจ้าหน้าที่จึงได้ไปไกล่เกลี่ยจนยอมออกมาจากบริเวณหน้าผากลับมานั่งทำสมาธิที่เต็นท์เหมือนเดิม

 

แหล่งข่าวแจ้งว่า สำหรับบรรยากาศบนเขาพระวิหาร ทหารกัมพูชาได้เปิดเครื่องขยายเสียง ปลุกระดมขวัญกำลังใจแก่ทหารที่ถูกเสริมกำลังมาเฝ้าปราสาทเขาพระวิหาร โดยพูดเป็นภาษาเขมร พอจับใจความได้ว่า "วันนี้พวกเราจะต่อสู้ เฝ้าดูคนไทย หากใครล่วงล้ำเข้ามาบนแผ่นดินเรา จะต้องจับดำเนินคดี และฝ่าฝืนก็ต้องใช้กำลังกัน และขอให้ทุกฝ่ายใจเย็นๆ คอยฟังคำสั่งนาย" และอื่นๆ อีกที่เป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ทหารกัมพูชา ซึ่งได้รับการยืนยันมาเพิ่มว่า ขณะที่ทหารกัมพูชา ได้เคลื่อนย้ายประชาชน ราษฎรชาวกัมพูชา ที่มาสร้างบ้านเรือน ร้านค้าอยู่ลานกว้างไปหมดแล้ว โดยทหารกัมพูชาอ้างว่าเพื่อความปลอดภัย ซึ่งกัมพูชาก็ได้ตรึงกำลังอยู่พร้อมอาวุธครบมือกว่าพันนายเช่นกัน

 

 

พันธมิตรจัดขบวนมุ่งหน้าปราสาทพระวิหาร

ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตร ล่าสุดได้เคลื่อนย้ายเดินรณรงค์ผ่านหมู่บ้าน และจะเดินมุ่งหน้าขึ้นไปบนเขา แต่ต้องปะทะกับกลุ่มราษฎร ทหารพราน และ ตร.ที่มาปักหลักปิดกั้นทำด่านชั่วคราวอยู่ตลอดทั้งวัน และเชื่อว่าเหตุรุนแรงจะยืดเยื้อ เพราะเป็นช่วงวันหยุดยาว ผู้ที่ร่วมประท้วงไม่ต้องเดินทางกลับไปทำงาน

 

เมื่อเวลา 17.00 น. กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้เดินขบวนออกจากโรงเรียนภูมิซรอนวิทยา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งขบวนมีระยะทางยาวกว่า 3 กม. โดยมุ่งหน้าไปที่ปราสาทพระวิหาร

 

นายประกาศิต รูปสูง ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภาคอีสานและแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า การสกัดกั้นมวลชนที่มาจากหลายจังหวัดเพื่อมาทวงสิทธิ์ในดินแดนบริเวณทางขึ้นปราสาทเขาพระวิหารถือเป็นเรื่องที่ถูกต้องและชอบธรรม ซึ่งเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของคนไทยทั้งประเทศที่พึงกระทำ แต่มีประชาชนที่นำโดยนักการเมืองท้องถิ่น มาสกัดกั้นไว้ ถือว่าไม่ถูกต้อง จึงอยากเรียกร้องให้นักการเมืองท้องถิ่นทั้งหมดหยุดพฤติกรรมเช่นนี้ด้วยก่อนที่จะเกิดการเผชิญหน้าของคนไทยด้วยกันเอง ซึ่งจะไม่เกิดผลดีต่อภาพรวมทั้งประเทศ

ภายหลังจากเมื่อบ่ายวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ทหารไทยได้เสริมกำลังบนเขาพระวิหาร เพื่อกดดันให้กัมพูชาถอยออกจากพื้นที่ไทยบนเขาพระวิหาร จนทางจังหวัดต้องประกาศปิดเขาพระวิหาร ตั้งแต่ผามออีแดง หน้าด่านหน้าสำนักงานอุทยานห่างชาติเขาพระวิหาร สำนักงานป่าไม้

 

 

ส.ส.พปช.ชี้ถ้าเกิดสงครามชาวบ้านต้องหลบกระสุน พธม.อยู่กรุงเทพฯ ไม่เดือดร้อน

แต่ขณะที่กลุ่มพันธมิตรเดินเท้าออกมานั้น ได้มีประชาชนชาว ต.เสาธงชัย ประมาณ 200 คน ได้นำเต้นท์มาปิดขวางถนน ซึ่งอยู่ห่างจากปราสาทพระวิหารประมาณ 3 กม. จากนั้นแกนนำพันธมิตรฯ ได้สั่งให้กลุ่มชายฉกรรจ์ พังแนวกั้นที่ตำรวจนำมากั้นไว้ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 200 นาย คอยคุมกันอยู่ในบริเวณดังกล่าว

 

ทั้งนี้มีรายงานมวลชนที่ออกมาขัดขวางพันธมิตรดังกล่าว นำโดยนายธีระ  ไตรสารณกุล  ส.ส.ศรีสะเกษ  เขต  3 พรรคพลังประชาชน และเขาอยู่ร่วมกับชาวบ้านที่ออกมาต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วย โดยนายธีระกล่าวว่าพันธมิตรฯ  มาก่อกวนความสงบ  มีเจตนาซ่อนเร้นในการขึ้นเขาพระวิหาร   ไม่ได้รักชาติจริง การเรียกร้องดินแดนคืนควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการเจรจาไม่ใช่เรียกร้องเดินขบวน   ตนก็รักแผ่นดิน ไม่อยากให้ใครเอาไป เวลานี้เขมรก็บอกของเขา ไทยก็บอกของเรา เจรจากันไม่ได้เกิดความวุ่นวาย

 

"ชาวบ้านในพื้นที่ต้องหลบลูกกระสุนปืน  ลูกระเบิด พันธมิตรฯ อยู่กรุงเทพฯ ไม่เดือดร้อนอะไร  แต่สักวันพี่น้องกันทรลักษ์จะไปเดินขบวนที่กรุงเทพฯ  ผมยืนยันไม่ให้พันธิมตรฯ มาก่อกวนที่  จ.ศรีสะเกษ ชาวศรีสะเกษไม่ต้องการ" นายธีระกล่าว

 

 

พันธมิตรฝ่าแผงกั้นปะทะชาวบ้านศรีสะเกษเจ็บหลายราย ก่อนเข้าประกาศเจตนารมย์

ทั้งนี้ระหว่างที่กลุ่มพันธมิตรฯกำลังฝ่าแผงกั้นตำรวจ ได้มีชาวบ้านในพื้นที่ใช้ไม้ขว้างปาไปเข้าใส่กลุ่มฯพันธมิตรฯทำให้กลุ่มพันธมิตรต้องใช้ไม้ธงชาตินำมาเป็นอาวุธ จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น จนถึงขั้นตอบโต้กันและเกิดปะทะกันจนทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บหลายราย

 

อย่างไรก็ตาม ขณะเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องระดมกำลังเข้าห้ามปราม และทำหน้าที่ควบคุมฝูงชน เพื่อไม่ให้เกิดการปะทะกัน จนทั้งสองฝ่ายต่างยอมสลายตัวไป ส่วนกลุ่มพันธมิตร สามารถฝ่าแนวกั้น และเดินต่อไปได้ จนขณะนี้ถึงหน้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้นำลวดหนาม และไม้มาทำเป็นแผงกั้น เพื่อไม่ให้กลุ่มพันธมิตร เข้าไปภายในอุทยานฯ ได้

 

กลุ่มพันธมิตรฯ ได้รวมตัวกันอยู่บริเวณด่านทางเข้าอุทยานฯ ดังกล่าว และได้นำเอาสิ่งของเครื่องใช้ ขนมนมเนยไปมอบให้แก่ตัวแทนทหารไทย และนายวัชรินทร์ สอนพูด แกนนำพันธมิตรจังหวัดศรีสะเกษ ได้อ่านคำประกาศเรื่อง พิทักษ์รักษาทวงคืนดินแดนและอธิปไตยของชาติไทยเหนือปราสาทพระวิหารและพื้นที่โดยรอบ ภายหลังนำกลุ่มพันธมิโดยมีเนื้อหา 4 ข้อ โดยมีจุดประสงค์เพื่อทวงคืนปราสาทพระวิหารที่ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของกัมพูชาอย่างไม่ถูกต้อง เนื่องจากการลงนามในแถลงการณ์ร่วมของรัฐบาลไทยกับกัมพูชาขัดต่อกฎหมายที่เข้าข่ายเป็นสนธิสัญญา ซึ่งยังไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาและประชาชน จากคำพิพากษาของตุลาการศาล รธน.เมื่อวันที่ 8 ก.ค. จึงเห็นควรเป็นโมฆะ พร้อมกับเรียกร้องผลักดันให้ชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ฝั่งไทยออกจากพื้นที่โดยทันที

 

"สุริยะใส" เผยพร้อมบุกชายแดนเขมรช่วยพันธมิตรฯ

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ขณะนี้มีการปะทะกันระหว่างพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยของเรา กับชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งจากการสอบถามฝ่ายพันธมิตรฯ ต่างยืนยันว่า พื้นที่ที่ทางชาวบ้านกัมพูชาไปปักหลักอยู่นั้นเป็นพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังที่มีฝ่ายรัฐบาลเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยการจัดชาวบ้านเข้ามาปะทะกับกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งที่จริงรัฐบาลไทยควรจะมีจุดยืน เพื่อความชอบธรรมในการทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย ที่สำคัญนายสมัคร สุนทรเวช ออกมากล่าวหาว่า พวกที่เคลื่อนไหวไปที่ปราสาทเขาพระวิหารนั้นเป็นพวกบ้า ซึ่งตนถือว่าเป็นรัฐบาลเดียวในโลก ที่กลับเพิกเฉยในการปกป้องอธิปไตย และเห็นว่าคนบ้าคงไม่ใช่ประชาชน ควรจะเป็นรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีที่ไม่ใส่ใจมากกว่

 

"มีความเป็นไปได้ว่า พันธมิตรฯที่เดินทางไปปราสาทเขาพระวิหาร จะปักหลักยืดเยื้อ และหากจำเป็นพันธมิตรฯ ส่วนกลางก็พร้อมที่จะลงไปช่วยเหลือ ขณะเดียวกันพันธมิตรฯ ที่อยู่ปราสาทเขาพระวิหารได้ประสานงานไปที่กองทัพฯ ซึ่งในเบื้องต้นนั้นไม่มีการขัดขวาง แต่ฝ่ายที่ไม่พอใจกลับกลายเป็นฝ่ายการเมือง เพราะการที่พันธมิตรฯเดินทางไปทวงคืนปราสาทเขาพระวิหาร ถือว่าเป็นการตบหน้ารัฐบาลที่ไม่เอาไหน" นายสุริยะใสกล่าว

 

 

ผบ.ทหารราบที่ 16 เตรียมกำลัง 2 กองพันตรึงเขาพระวิหาร

ด้าน พ.อ.นิรุฐ เกตุศิริ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่16 ค่ายบดินเดชา จ.ยโสธร เปิดเผยว่า ผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้เตรียมกำลังพลเพื่อเข้าปฏิบัติภารกิจที่ชายแดนเขาพระวิหาร โดยในเบื้องต้นได้เตรียมกำลังพลไว้ 2 กองพัน จำนวน 207 นาย ที่สามารถเคลื่อนพลได้ทันทีที่ได้รับคำสั่ง แต่ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งให้เคลื่อนพล ซึ่งตามปกติ หากมีเหตุการณ์ไม่ดีก็มีการเตรียมพร้อมกำลังพลเพื่อปฏิบัติภารกิจอยู่แล้ว

 

สำหรับกรมทหารราบที่ 16 ค่ายบดินเดชา เคยมีประวัติการรบ ในสมรภูมิช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เขตรอบต่อไทย-ลาว-กัมพูชา กับทหารเวียดนาม ในช่วงปี 2529-2530 โดยกรมทหารราบที่ 16 เป็นหน่วยทหารที่สามารถตีเข้ายึดเนิน 396 ในช่วงเวลาเดือน ม.ค.-ก.พ.2530 กลับคืนมาได้ จนทำให้สถานการณ์การสู้รบเปลี่ยนและทหารเวียดนามต้องล่าถอยในเวลาต่อมา

 

พล.ต.กนก เนตระคะเวสนะ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 ค่ายสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนอยู่แนวหน้าได้ 3 วันแล้ว และวันนี้กำลังรอหารือกับผู้ใหญ่ฝ่ายกัมพูชาเพื่อเจรจา เพราะในพื้นที่ทับซ้อนฝ่ายกัมพูชาก็อ้างว่าเป็นของเขา เราก็อ้างว่าเป็นของเราซึ่งในเบื้องต้นก็ต้องมีการเจรจากัน โดยฝ่ายกัมพูชาได้ตรึงกำลังทหารในฝั่งของเขา ในส่วนของเราก็ตรึงกำลังทหารในระดับเดียวกัน ซึ่งการเสริมกำลังทหารของฝ่ายเรานั้นผู้บังคับบัญชาจะสั่งให้เสริมเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้นตอนนี้ยังไม่ทราบ

 

 

สมัครอัดม็อบชิงเขาพระวิหารหาเรื่องให้ทหารปฏิวัติ

ระหว่างทำหน้าที่ประธานเปิดงาน "มหกรรมมั่นใจไทยแลนด์ ดีแน่ ถูกแน่ เพื่อคนไทย" ซึ่งจัดโดยกระทรวงการคลัง ณ อาคาร ชาเลนเจอร์ 2-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ถือโอกาสแสดงความเห็นต่อการชุมนุมของพันธมิตรที่เชิงเขาพระวิหารว่า "เป็นการหาเรื่องให้ทหารออกมาปฏิวัติ"

 

"มีไอ้บ้า 3 คนโผล่เข้าไป จะให้เขาจับ จะให้มีเรื่อง จะให้มันเกิดสปาร์ค เหมือนกับไอ้ที่นี่แหละครับ ยึดตามถนนเนี่ยจะให้มีเสียงปืน แล้วตำรวจฟาดหัวไอ้พวกปลุกระดมก็จะได้จุดชนวนหาเรื่องให้ทหารออกมาปฏิวัติ ไอ้พวกนี้ไม่ดูเลยว่าใครเป็นรัฐมนตรีกลาโหม" นายสมัครระบุ

 

นายสมัครพูดถึงกลุ่มที่ขับไล่รัฐมนตรีที่ไปต่างจังหวัดว่า เป้าหมายสุดท้ายของเขาเป็นยังไงรู้ไหม จะส่งไปทั่วประเทศ แล้วพร้อมจะลุกขึ้นยึดศาลากลางเพื่อไม่ให้ทำงานได้ แล้วจะให้ทหารมาปฏิวัติ เนี่ยคิดโง่ๆ ยังงี้ คิดแต่ละคิด ไอ้แถลงบนเวทีจะเอาเรือรถ จะเอาแถลงการณ์ บ้านเมืองจะลุกเป็นไฟนะครับ สั่งปิดพรมแดนตลอดแถวเอาทหารกองพลนั้นกองพลนี้ เรือรบไปจอดที่นั่นที่นี่

 

"บ้าไหมครับ ไอ้คนบ้าพูดพล่ามอย่างนี้ หนังสือพิมพ์ฉบับนึงยังไม่มีใครวิพากษ์วิจารณ์เลย พูดให้บ้านเมืองร้อนเป็นไฟ จะเป็นจะตายกันแล้ว ไม่มีใครว่าเลยครับ แต่ว่ารัฐบาลกำลังจะทำดีวิพากษ์วิจารณ์กันแพล่บๆๆ สังคมเราเป็นอย่างนี้ครับ มันน่าอเนจอนาถจริงๆ ครับ ไอ้บ้านั่นคือเวทีปลุกระดม คนธรรมดาพูดไม่ได้หรอกครับ ต้องคนบ้าเท่านั้นถึงจะพูดได้" นายกรัฐมนตรีกล่าว

 

นายสมัครยืนยันว่า การกระทำของนายนพดลทำดี เพราะให้เขมรเอาไปได้แค่ปราสาท เพราะนายนพดลเป็นคนบอกว่าต้องทำอย่างงี้ ถูกต้อง ใครๆ ก็เห็นด้วย ทหารก็เห็นชอบ ทุกคนเห็นชอบหมด แต่พรรคฝ่ายค้านไม่เห็นด้วย แล้ววันนี้ก็ยังปลุกระดมกันอยู่ ไม่ดูเลยว่าบ้านเมืองนั้นเขามีหนทางแก้ไขเปลี่ยนแปลง

 

"ยังไงผมก็ไม่ลาออกครับ จะจุดชนวนยังไงต่างๆ ก็จะทำยังงี้ ถ้าดูถูกดูแคลนก็ยอมให้ดูถูกดูแคลน ส่วนที่คนไทย 3 คนข้ามไปฝั่งกัมพูชา ผมถามว่าแล้วสำเร็จไหม แต่เกือบสำเร็จแล้ว ทหารต้องไปจ่อกันแล้ว ทหารต่อทหารไปเผชิญหน้ากันแล้ว มันบ้าอะไรกันล่ะครับ มีคนอยากให้ทำอย่างนี้" รัฐมนตรีกลาโหมระบุ

 

 

ทัพอากาศพร้อม 24 ชม.

ทางด้าน พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) กล่าวถึงกรณีมีการวางกำลังทหารในพื้นที่ทับซ้อนบริเวณปราสาทเขาพระวิหารว่า นายสมัครคงมีการสั่งการกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) บ้างแล้ว ส่วนกองทัพอากาศนั้นพร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา คิดว่าทุกคนจะพยายามทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างลุล่วงไปด้วยดีโดยไม่ให้กระทบกับปัญหาใดๆ ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและเรื่องอื่นๆ

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการกำชับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างไร พล.อ.อ ชลิตกล่าวว่า การป้องกันดูแลเป็นหน้าที่ของกองทัพบกและตำรวจตระเวนชายแดน กองทัพอากาศมีกองกำลังอยู่ที่ จ.นครราชสีมา และ จ.อุบลราชธานี มีการเตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมงตลอดเวลา แต่ไม่คิดว่าจะมีอะไรที่รุนแรง และหวังว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย

 

"หากเกิดความรุนแรงเรามีการเตรียมแผนในการอพยพประชาชนที่อยู่ในกัมพูชา โดยนักบินจากกองบิน 6 ก็พร้อมปฏิบัติหน้าที่ หากมีความรุนแรงเกิดขึ้นเราสามารถปฏิบัติการได้ภายใน 1 ชั่วโมง ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้เตรียมการปฏิบัติ เรามีประสบการณ์ในการขนคนออกจากประเทศกัมพูชาตอนที่มีการรัฐประหารและการเผาสถานทูตไทย สามารถปฏิบัติได้ไม่มีปัญหา" ผบ.ทอ.กล่าว

 

ส่วนความเป็นไปได้ที่จะเกิดความรุนแรงระหว่างไทยกับกัมพูชาในช่วงนี้หรือไม่นั้น พล.อ.อ.ชลิตบอกว่า โดยทั่วไปผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้ติดต่อประสานพูดคุยกับกัมพูชาอย่างใกล้ชิด รวมทั้ง ผบ.เหล่าทัพ ที่ได้พบปะพูดคุยกันตลอด คิดว่าทุกฝ่ายพยายามที่จะแก้ไขสถานการณ์เพื่อไม่ให้ปัญหาขยายตัว

 

พล.อ.อ.ชลิตยังพูดถึงกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยซึ่งเคลื่อนกำลังไปชุมนุมบริเวณปราสาทพระวิหารว่า เป็นสิทธิของประชาชนในการแสดงความคิดเห็น แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานที่ถูกต้องกับการเข้าไปเกินบริเวณพื้นที่ที่เราควบคุม อาจจะเกิดปัญหาตามมาและขยายเป็นเรื่องใหญ่โต และเป็นอันตรายต่อผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่

 

"เรื่องนี้ผมไม่ทราบ แต่ในส่วนของ ผบ.เหล่าทัพไม่มีอะไรกัน เข้าใจกันดี ส่วนจะกระทบต่อความมั่นคงของประเทศหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประชาชนชาวไทยทุกคนต้องช่วยกันดูแลและติดตาม" ผบ.ทอ.ตอบคำถามที่ว่าผู้นำทั้งสองประเทศยังมีความเข้าใจกันดีหรือไม่

 

 

เอพีรายงาน "ฮุน เซน" ร่อนสารขอสมัครสั่งถอนทหาร

ขณะที่สำนักข่าวเอพีรายงานว่า นายเขียว กัณหะฤทธิ์ กล่าวว่า สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรี ทำหนังสือถึงนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เพื่อเตือนให้ไทยถอนทหารออกจากพื้นที่พรมแดน

 

จดหมายดังกล่าวลงชื่อ สมเด็จฮุนเซน ระบุวันที่ 17 ก.ค. มีข้อความระบุว่า "ก่อนหน้านี้ ข้าพเจ้าได้เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีของไทยสั่งถอนกำลังทหารของไทยในบริเวณพื้นที่พระวิหาร ในวันที่ 15 ก.ค.51 เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลาย แต่โชคไม่ดี วันนี้สถานการณ์กลับย่ำแย่ลงเนื่องจากจำนวนทหารไทยที่เพิ่มขึ้นโดยรอบบริเวณปราสาทพระวิหาร และมีการชุมนุมของผู้ประท้วงคนไทย

 

สถานการณ์ดังกล่าว ถือเป็นเรื่องที่ไม่เป็นผลดีและส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของประเทศทั้งสองจึงต้องการให้นายกรัฐมนตรีไทยใช้มาตรการเข้าแก้ไขเหตุการณ์ที่กำลังครุกรุ่นอยู่ในขณะนี้และสั่งให้ทหารของไทยถอนกำลังออกจากบริเวณพระวิหาร กองกำลังทหารของไทย รุกข้าไปในอาณาเขตของกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. ในจำนวนที่มีแต่จะเพิ่มขึ้น มากกว่าจะลดจำนวนลง"

 

ที่มา: เรียบเรียงจากเว็บไซต์คมชัดลึก ไทยโพสต์ และผู้จัดการ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท