Skip to main content
sharethis


 


เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2551ที่ผ่านมา ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ศูนย์สตรีศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้จัดงานประชุมสัมมนา"สนทนากับผู้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพหญิง นักเคลื่อนไหวหญิงผู้มีชื่อเสียงของโลกว่าด้วย วิกฤตของสิทธิทางการเมือง" (Dialogue with Nobel Laureate & Prominent Woman Activists on Political Rights Crises)


 


โดยในช่วงหนึ่ง ศาสตราจารย์ โจดี้ วิลเลียมส์, มิอา ฟาร์โรว์ และดร. ซิมา ซามาร์ คณะ Nobel Women"s Initiative ( NWI) ได้ร่วมกันบอกเล่าถึงเหตุการณ์สงครามในหลายๆ ประเทศ อาทิอัฟกานิสถาน และซูดาน ฯลฯ


 


มิอา ฟาร์โรว์ นักเคลื่อนไหวหญิง ได้ฉายสไลด์ภาพวิกฤติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในเขตดาร์ฟัวร์ ประเทศซูดาน ซึ่งถือว่าเป็นการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 3 แสนคน และอีกกว่า 2.5 ล้านคนต้องละทิ้งถิ่นฐานหนีเหตุรุนแรง


 


ฟาร์โรว์ ได้กล่าวถึงผลพวงของความโหดร้ายจากสงครามการล้างเผ่าพันธุ์ในซูดานว่า "จีน" คือตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นประเทศที่ทำการค้าอาวุธให้กับซูดาน เพราะฉะนั้น เราจะต้องร่วมกันโจมตีประเทศจีนที่ขายอาวุธไปฆ่าคนที่ซูดาน


 


"เราจะให้จีนเป็นเจ้าภาพโอลิมปิคเกมได้อย่างไร ในเมื่อจีนเป็นเจ้าภาพในสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ซูดาน"


 


ศาสตราจารย์ โจดี้ วิลเลียมส์ เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ก็ออกมากล่าวว่า อยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายออกมากดดันจีน และต่อต้านที่ประเทศจีนเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก


 


"และเราขอให้ร่วมกันเคลื่อนไหวให้นักลงทุนทั้งหลายให้ยกเลิกการลงทุนในจีน เพราะจีนเป็นผู้ส่งเสริมความรุนแรงในซูดาน"


 


ทั้งนี้ ก่อนหน้านั้น สถานีโทรทัศน์บีบีซีของอังกฤษ ได้รายงานว่า จีนได้ขายอาวุธแก่รัฐบาลซูดาน ซึ่งถูกนำไปใช้เข่นฆ่าผู้คนในแคว้นดาฟัวร์ที่กำลังมีข้อพิพาท เนื่องจากกองกำลังติดอาวุธอาหรับจานจาวีดของรัฐบาลทำสงครามกับฝ่ายกบฏชนกลุ่มน้อย


     


ในสารคดีชื่อ China"s Secret War ที่ออกอากาศทางโทรทัศน์บีบีซี ช่อง 1 ในอังกฤษ เมื่อคืนวันจันทร์ ซึ่งจัดสร้างโดยการส่งผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ในแคว้นดาฟัวร์ ได้อ้างแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้อย่างน้อย 2 แหล่งที่ระบุว่าจีนได้ฝึกหัดนักบินชาวซูดานที่เป็นผู้ควบคุมเครื่องบินขับไล่เอ 5 ฟานทาน ซึ่งนำเข้าจากจีน เพื่อนำไปปฏิบัติภารกิจทางทหารในดาฟัวร์


 


นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวของบีบีซียังพบเห็นรถทหารที่ผลิตจากจีนแล่นอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นรถที่จีนขายให้ซูดานเมื่อปี 2005 ซึ่งพยานระบุว่า รถดังกล่าวถูกยึดไปจากกองกำลังฝ่ายรัฐบาลเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว การกระทำของจีนจึงเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรด้านอาวุธของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งระบุห้ามนานาชาติซื้อขายอาวุธ ยานยนต์ทางทหาร และอุปกรณ์ในกองทัพ เพื่อนำไปใช้ในดาฟัวร์ นอกจากนี้ยังครอบคลุมถึงการฝึกหัดและความช่วยเหลือด้านเทคนิคใดๆก็ตาม


     


ซึ่งต่อมา หนังสือพิมพ์ "ไชน่า เดลี่" ของทางการจีน ก็ได้ออกมาโต้ทันควัน โดยได้รายงานคำแถลงของนายหลิว กุยจิน ทูตพิเศษจีนประจำแคว้นดาฟัวร์ของซูดาน ที่ออกมาตอบโต้บีบีซี ว่า จีนขายอาวุธแก่ซูดานในปริมาณเพียงเล็กน้อย และการขายอุปกรณ์ทางทหาร รวมถึงรถบรรทุกเพียงไม่กี่คัน จึงไม่ได้ช่วยให้ข้อพิพาทในดาฟัวร์ขยายตัว และไม่ได้แทรกแซงอธิปไตยของซูดาน


 


อย่างไรก็ตาม จีนถือว่าเป็นผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่ของซูดาน และมีการลงทุนด้านต่างๆในซูดานจำนวนมาก นอกจากนี้ยังให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจแก่ซูดานด้วย


 


ข้อมูลประกอบ


"จีนโต้ขายอาวุธให้ซูดาน" โลกวันนี้,16 ก.ค.2551

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net