Newsline 9 - 27 ส.ค.51 สรุปข่าวที่เกี่ยวข้องกับประเทศพม่า


  1. สถานการณ์ในประเทศพม่า

 

1.1              รัฐบาลทหารพม่า ยืนยัน "ซูจี" ไม่ได้อดข้าวประท้วงตามที่เป็นข่าว

 

รัฐบาลทหารพม่ากล่าวเมื่อวันที่ 26 ส.ค. ว่านางออง ซาน ซูจี หัวหน้าพรรคสันนิบาตชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ไม่ได้อดอาหารประท้วงรัฐบาลตามที่มีรายงานจากสมาชิกพรรคฝ่ายค้านที่ลี้ภัยอยู่ในอินเดียและไทย พร้อมเผยว่านางซูจีไม่ได้ยื่นข้อเรียกร้องทางการเมืองอะไรมา ขณะที่นายวิน เนียง โฆษกพรรคเอ็นแอลดี ระบุว่าพวกเขาไม่สามารถยืนยันหรือปฏิเสธรายงานดังกล่าวได้ เพราะไม่ได้รับอนุญาตให้ติดต่อกับนางซูจี ซึ่งถูกกักบริเวณในบ้านพักนครย่างกุ้ง

สมาชิกพรรคฝ่ายค้านที่ลี้ภัยอยู่บริเวณชายแดนไทย-พม่า ระบุว่าการจัดส่งอาหารสดรายสัปดาห์ไปให้นางซูจี มีขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 15 ส.ค. เพราะเธอไม่ยอมรับอาหารที่จัดส่งไปครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา

ข่าวลือดังกล่าวยังทำให้ชาติตะวันตกเกิดความกังวล ทูตรายหนึ่งกล่าวว่าต้องการทราบรายละเอียดมากกว่านี้ แต่แพทย์ คือ บุคคลเดียวที่ได้พบกับนางซูจี แพทย์และทนายของนางซูจีได้รับอนุญาตให้เข้าพบเธอเมื่อวันที่ 17 ส.ค. เพื่อตรวจร่างกายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา

นอกจากนั้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนางซูจียังปฏิเสธที่จะพบกับนายอิบราฮิม กัมบารี ทูตพิเศษของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่เดินทางเยือนพม่า 6 วัน ซึ่งมีผู้วิเคราะห์ว่า นางซู จี อาจต้องการแสดงให้รู้ว่าสหประชาชาติช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย

(กรุงเทพธุรกิจ, ข่าวสด วันที่ 25-27/08/2551)

 

1.2              พม่ากำลังจะส่งออกยางให้กับเกาหลีเหนืออย่างน้อย 1 หมื่นตัน

 

เอเอฟพีรายงานคำกล่าวของนายเคียง มินต์ ตัวแทนจากสมาคมผู้ผลิตและผู้ปลูกยางพม่า ซึ่งกล่าวกับหนังสือพิมพ์เมียนมาร์ไทม์ส ว่าพม่ากำลังจะส่งออกยางให้กับเกาหลีเหนืออย่างน้อย 1 หมื่นตันภายในปีแรกหลังทำสัญญา โดยเรื่องนี้นายคิม ซอค เชา เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำย่างกุ้งได้ออกมายืนยันความร่วมมือดังกล่าวเมื่อวันที่ 14 ส.ค.ด้วย

ทั้งนี้พม่าสามารถผลิตยางในระหว่าง ปี 2549-2550 ปริมาณ 70,000 ตัน และคาดว่าปีนี้จะผลิตได้ 75,000 ตัน โดยยางที่ผลิตได้มีสัดส่วนการบริโภคภายในประเทศ เพียง 15% ส่วนที่เหลือส่งออก

ขณะที่การฟื้นความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างพม่าและเกาหลีเหนือในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์ลอบสังหารนายชุน ดู วาน ประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ ระหว่างการเดินทางเยือนพม่าอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2526

การกลับมาฟื้นการค้าของทั้งสองประเทศครั้งนี้ ยังเป็นการสร้างพันธมิตรระหว่างประเทศคู่ขัดแย้งกับสหรัฐ เนื่องจากทั้งพม่าและเกาหลีเหนือต่างถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากสหรัฐ

 (ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 25/08/2551)

 

1.3              ภัยนาร์กีสส่งผลให้เด็กอายุ 9-12 ปี ต้องออกจากโรงเรียน เพื่อรับจ้างใช้แรงงานช่วยพ่อแม่หาเงิน

 

ปัจจุบันตามหัวเมืองสำคัญต่างๆ ของพม่ามีเด็กซึ่งมีอายุระหว่าง 9-12 ปี หรือน้อยกว่านั้น สมัครใจไปรับใช้แรงงานเพื่อหารายได้ช่วยเหลือครอบครัวตนเองเป็นจำนวนเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากในพม่ากำลังเกิดภาวะข้าวยากหมากแพง และประชาชนเดือดร้อนกำลังอดอยากจากพิษเศรษฐกิจ-ค่าครองชีพ ตลอดจนหลังเกิดภัยพิบัติพายุไซโคลนนาร์กีส โดยพบเห็นเด็กใช้แรงงานมากคือเด็กที่มาจากพื้นที่เกิดภัยพิบัตินาร์กีสและเมืองอื่นๆที่เศรษฐกิจตกต่ำขาดแคลนรายได้และอาหาร และที่เมืองมัณฑะเลย์

ขณะนี้พบว่าเด็กอายุ 9-12 ปี เป็นลูกจ้างอยู่ตามร้านอาหารและร้านน้ำชา(ซึ่งเป็นร้านที่นิยมของชาวพม่า)มากกว่าปี 2550 ที่ผ่านมา จากการสอบถามเด็กเหล่านั้นทราบว่าด้วยเหตุที่พ่อแม่มีรายได้น้อยและไม่มีเงินส่งให้เรียนหนังสือ จึงต้องไปรับจ้างทำงานเพื่อช่วยพ่อ-แม่ เพราะมีฐานะยากจน ตั้งแต่ยังไม่เรียนจบระดับชั้นประถม

จากการสังเกตเด็กส่วนใหญ่ยังไม่สามารถที่จะบวกเลขได้เลย ซึ่งหากพวกเขาคิดเงินลูกค้าผิดก็จะถูกนายจ้างดุด่าต่อว่า เห็นแล้วรู้สึกสงสารพวกเขามาก ส่วนค่าแรงที่พวกเขาได้รับนั้นทราบว่าได้คนละประมาณ 3 - 4 พันจ๊าตต่อเดือนเท่านั้น หรือคิดเป็นเงินไทย 100 - 170 บาท ต่อเดือนเท่านั้น ทั้งนี้ค่าแรงกรรมกรขั้นต่ำโดยทั่วไปในพม่าสำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปจะตกอยู่ประมาณ 5,000 จ๊าต หรือประมาณ 175 บาท หากเป็นเด็กก็จะได้ต่ำกว่านั้น ส่วนสาเหตุที่นายจ้างชอบลูกจ้างเด็กนั้นก็เพระว่าพวกเขาไม่รู้จักไม่โต้เถียงหรือปฏิเสธและนายจ้างยังสามารถดุด่าตบตีได้ด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่าสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งพม่า (HREIB) ได้ออกมาระบุว่า ปัจจุบันเด็กในพม่ากำลังขาดสิทธิอย่างหนัก สิ่งที่จะช่วยพวกเขาได้นอกจากกฎหมายก็คือ การมีโครงการป้องกันสิทธิเด็กให้กับพวกเขา ซึ่งตนเห็นว่าในโลกนี้คงไม่มีพ่อแม่คนใดอยากให้ลูกต้องทำงานลำบากตั้งแต่ยังเด็ก และก็เช่นเดียวกันคงไม่มีเด็กคนใดอยากพลัดพรากจากผู้เป็นพ่อและแม่ แต่ที่พวกเขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ก็เพราะความยากจนอันมีต้นเหตุมาจากประเทศไร้เสถียรภาพ สิ่งเหล่านี้เป็นภารกิจหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องให้ความสำคัญเอาใจใส่ ซึ่งหากการบริหารประเทศของรัฐบาลยังเป็นเช่นนี้ ในอนาคตปัญหาลักษณะนี้ก็คงจะมีให้เห็นเพิ่มมากขึ้น และเด็กๆ ก็จะมีโอกาสเสี่ยงที่จะถูกนายจ้างฉวยโอกาสหาผลกำไร ทำร้ายร่างกายและจิตใจตลอดถึงการทารุณทางเพศ และอาจนำไปสู่การตกเป็นเหยื่อแก๊งค้ามนุษย์ได้ในที่สุด

 (สำนักข่าว INN วันที่ 21/08/2551)

 

1.4              พม่าส่งออกก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 25 และมีรายได้ที่ผ่านมาราว 84,000 ล้านบาท

 

เอเอฟพีรายงานเมื่อ 19 ส.ค.ว่า รัฐบาลทหารพม่าเปิดเผยสถิติทางเศรษฐกิจว่า พม่าส่งออกก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 25 และมีรายได้จนถึงสิ้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ถึงราว 84,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณก่อนที่ 69,000 ล้านบาท ทั้งนี้แหล่งก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่งพม่าเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของไทยที่นำเข้าก๊าซธรรมชาติจากพม่าราวร้อยละ 20 ของก๊าซธรรมชาติทั้งหมดที่พม่าผลิตได้ โดยขณะนี้ไทยกำลังแข่งกับประเทศในเอเชียอื่นๆ เช่น จีนและอินเดีย ในการเข้าถึงแหล่งทรัพยากรนอกชายฝั่งของพม่า แม้ว่าพม่าจะถูกตะวันตกคว่ำบาตรอยู่ก็ตาม

(ข่าวสด วันที่ 20/08/2551)

 

1.5              นักศึกษาพม่าถูกตำรวจฆ่าตาย เหตุร้องเพลงการเมือง

 

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2551 เจ้าหน้าที่ทหารพม่าได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในมหาวิทยาลัยมงยวา เขตสะกาย ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ภายหลังนายอ่องโซวิน วัย 22 ปี นักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ในมหาวิทยาลัยดังกล่าวถูกฆ่าตาย โดยเพื่อนนักศึกษาและญาติๆของคนตายระบุว่าเป็นฝีมือของตำรวจพม่า

โดยในช่วงเกิดเหตุนั้นนายอ่องโซวินและเพื่อนอีก 4 คนได้ร่วมกันร้องเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับทางการเมืองและยกย่องนายพลอองซาน บิดาของนางอองซานซูจีที่คนพม่าให้ความเคารพนับถือ หน้าหอพักหญิงในมหาวิทยาลัยดังกล่าว และระหว่างที่นักศึกษาทั้งหมดเดินกลับหอพัก ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 10 คนเรียกตัวเพื่อไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ ในข้อหาร้องเพลงการเมือง แต่นายอ่องโซวินและเพื่อนปฏิเสธที่จะทำตามคำสั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจพม่าจึงเข้าจับกุมตัวและทำร้ายร่างกายอย่างหนัก ด้วยกระบองและอาวุธ โดยนายทุนมิ้น หนึ่งในจำนวนนั้นถูกนำตัวขึ้นรถไปยังสถานีตำรวจ แต่นายอ่องโซวินที่อาการสาหัส ร่างกายมีบาดแผลฉกรรจ์ ได้เสียชีวิตก่อนที่จะนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะที่เพื่อนอีก 3 คนถูกจับกุมตัวและถูกควบคุมตัวที่สถานีตำรวจในเขตสะกาย

เจ้าหน้าที่ตำรวจเขตสะกาย ได้ออกมาแถลงว่า การเสียชีวิตของนายอ่องโซวิน นักศึกษามหาวิทยาลัยมงยวา นั้นมาจากเหตุทะเลาะวิวาท ระหว่างกลุ่มนักศึกษา 2 กลุ่มที่มีการดื่มสุราและเมาอาละวาด จนเป็นเหตุทะเลาะกันและทั้ง 2 ฝ่าย ได้ใช้กำลังเข้ารุมทำร้ายกัน ตำรวจได้รับแจ้งเหตุจึงไประงับเหตุและพบว่านายอ่องโซวินถูกฆ่าตายในที่เกิดเหตุจึงจับกุมนักศึกษาในที่เกิดเหตุไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ

อย่างไรก็ตามมีประชาชนชาวพม่าผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า นายอ่องโซวินและเพื่อนอีก 4 คนได้ร้องเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับทางการเมืองและนายพลอองซานจริง จึงได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัวเพื่อไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ

 รายงานข่าวแจ้งว่ารัฐบาล ทหารพม่า หรือSPDC ได้ออกคำสั่งห้ามนักศึกษาในพม่าร้องเพลงปลุกใจที่มีเนื้อหาสาระทางการเมืองตามถนน และถือว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย โดยพบว่ามีกลุ่มวัยรุ่นนักศึกษามักจะอยู่กันเป็นกลุ่มๆและร้องเพลงตามถนน ในเขตมหาวิทยาลัยหรือหน้าหอพักหญิงในช่วงเวลากลางคืน 


 (สำนักข่าว INN วันที่ 19/08/2551)

 

 


  1. แรงงานข้ามชาติ

 

2.1              แก้ปัญหาแรงงานข้ามชาติ ไทยลดค่าวีซ่าและเร่งพิสูจน์สัญชาติ

 

เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่กระทรวงแรงงาน นางอุไรวรรณ เทียนทอง รมว.แรงงาน ให้สัมภาษณ์ภายหลังนายอู หม่อง มินท์ รมช.การต่างประเทศพม่าเข้าหารือแนวทางความร่วมมือในการพิสูจน์สัญชาติแรงงานพม่าที่ทำงานอยู่ในประเทศไทยและการนำเข้าแรงงานพม่าอย่างถูกกฎหมายว่า

ปัจจุบันมีแรงงานพม่าที่ทำงานในประเทศไทยซึ่งขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการจัดหางานจำนวน 4.9 แสนคน และมีแรงงานพม่าที่ยังหลบอยู่ใต้ดินอีกหลายแสนคนจึงจำเป็นต้องมีการพิสูจน์สัญชาติให้เรียบร้อย เนื่องจากทางการพม่ามีเงื่อนไขว่าพม่าจะไม่ดำเนินการส่งแรงงานถูกกฎหมายมาทำงานในประเทศไทยจนกว่าไทยจะดำเนินการส่งแรงงานพม่าที่อยู่ในประเทศไทยไปพิสูจน์สัญชาติที่ ฝั่งพม่าบริเวณด่านท่าขี้เหล็ก ด่านเกาะสองและด่านเมียวดีก่อน

วันนี้พม่าขอให้ไทยนำเข้าแรงงานถูกกฎหมายนำร่องก่อนจำนวน 10,000 คน ขณะเดียวกันไทยได้แก้ไขกฎกระทรวงลดค่าธรรมเนียมตรวจลงตรา (วีซ่า) เหลือรายละ 500 บาทจากเดิม 2,000 บาท ให้กับแรงงานพม่า 10,000 คนแรกที่ร่วมโครง การพิสูจน์สัญชาติเพื่อให้เป็นแรงงานถูกกฎหมายทำงานในประเทศไทย

 (เดลินิวส์ วันที่ 21/08/2551)


 

 

 


  1. อาเซียน

 

3.1              เตช บุนนาค รมว.การต่างประเทศของไทย แนะนำพม่าฟื้นประชุมเอบีซี

 

 เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 ส.ค.51 นายเตช บุนนาค รมว.การต่างประเทศ ได้เข้าเยี่ยมพล.อ. เต็ง เส่ง นายกรัฐมนตรีพม่า เนื่องในโอกาสที่นายเตชเดินทางมาเยือนประเทศสหภาพพม่าอย่างเป็นทางการ ภายหลังรับตำแหน่ง รมว.การต่างประเทศคนใหม่ และตรงกับช่วงการฉลองครบรอบ 60 ปี การสถาปนาความ สัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-พม่า

นายเตช กล่าวว่า พล.อ. เต็ง เส่ง ได้แสดงความพอใจต่อความร่วมมือระหว่างรัฐบาลของ 2 ประเทศในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะการก่อสร้างถนนสายเมียวดี-ตะนาวศรี เป็นระยะทาง 18 กิโลเมตร ที่เป็นการให้เปล่าของรัฐบาลไทย และยังขอให้ไทยช่วยเหลือในการสร้างถนนสายกอกะเร็ก-เมาะลำไย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการระเบียงตะวันออก- ตะวันตกที่เชื่อมเส้นทางจากมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก โดยมีจุดเชื่อมโยงที่ จ.พิษณุโลก นอกจากนี้พม่ายังมีความสนใจในเรื่องการก่อสร้างถนนด้วยยางมะตอยน้ำ ซึ่งนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีของไทยเคยแนะนำเรื่องนี้ให้กับนายกฯ ของพม่าในระหว่างการพบปะกันก่อนหน้านี้

นายเตช กล่าวต่อว่า ตนยังได้เสนอต่อ พล.อ. เต็ง เส่ง ให้จัดการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม (เจบีซี) ไทย-พม่าขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ว่างเว้นไป 3 ปี ซึ่งฝ่ายพม่าจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจบีซีครั้งต่อไป เพื่อทั้ง 2 ประเทศจะได้มีการพูดคุยกันในระดับการเมืองถึงการแก้ปัญหาเรื่องต่าง ๆ ตามแนวชายแดน ไทย-พม่า เช่น ปัญหายาเสพติด ปัญหาแรงงานต่าง ด้าวผิดกฎหมาย เป็นต้น ทั้งนี้ตนจะสั่งการให้นายมนัสพาสน์ ชูโต ที่ปรึกษา รมว.การต่างประเทศ เป็นหัวหน้าคณะเจบีซีฝ่ายไทย


 (เดลินิวส์ วันที่ 25/05/2551)

 

Newsline เป็นกิจกรรมหนึ่งของโครงการวิจัยไทย (Thai Research) มูลนิธิส่งเสริมสันติวิถี (Peaceway Foundation) เป็นการรวบรวมข่าวภาษาไทย พร้อมทั้งการนำเสนอบทความภาษาไทยเกี่ยวกับประเทศพม่า และผลกระทบที่มีต่อประเทศไทย เพื่อให้ผู้คนในสังคมไทยได้รับรู้ ตระหนักถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกับประชาชนในพม่า และเพื่อกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและรณรงค์ให้เกิดสันติภาพที่แท้จริงในประเทศพม่าต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท