- สถานการณ์ในประเทศพม่า
1.1 รัฐบาลทหารพม่า ยืนยัน "ซูจี" ไม่ได้อดข้าวประท้วงตามที่เป็นข่าว
รัฐบาลทหารพม่ากล่าวเมื่อวันที่ 26 ส.ค. ว่านาง
สมาชิกพรรคฝ่ายค้านที่ลี้ภัยอยู่บริเวณชายแดนไทย-พม่า ระบุว่าการจัดส่งอาหารสดรายสัปดาห์ไปให้นางซูจี มีขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 15 ส.ค. เพราะเธอไม่ยอมรับอาหารที่จัดส่งไปครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา
ข่าวลือดังกล่าวยังทำให้ชาติตะวันตกเกิดความกังวล ทูตรายหนึ่งกล่าวว่าต้องการทราบรายละเอียดมากกว่านี้ แต่แพทย์ คือ บุคคลเดียวที่ได้พบกับนางซูจี แพทย์และทนายของนางซูจีได้รับอนุญาตให้เข้าพบเธอเมื่อวันที่ 17 ส.ค. เพื่อตรวจร่างกายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา
นอกจากนั้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนางซูจียังปฏิเสธที่จะพบกับนาย
(กรุงเทพธุรกิจ, ข่าวสด วันที่ 25-27/08/2551)
1.2 พม่ากำลังจะส่งออกยางให้กับเกาหลีเหนืออย่างน้อย 1 หมื่นตัน
เอเอฟพีรายงานคำกล่าวของนาย
ทั้งนี้พม่าสามารถผลิตยางในระหว่าง ปี 2549-2550 ปริมาณ 70,000 ตัน และคาดว่าปีนี้จะผลิตได้ 75,000 ตัน โดยยางที่ผลิตได้มีสัดส่วนการบริโภคภายในประเทศ เพียง 15% ส่วนที่เหลือส่งออก
ขณะที่การฟื้นความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างพม่าและเกาหลีเหนือในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์ลอบสังหารนาย
การกลับมาฟื้นการค้าของทั้งสองประเทศครั้งนี้ ยังเป็นการสร้างพันธมิตรระหว่างประเทศคู่ขัดแย้งกับสหรัฐ เนื่องจากทั้งพม่าและเกาหลีเหนือต่างถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากสหรัฐ
(ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 25/08/2551)
1.3 ภัยนาร์กีสส่งผลให้เด็กอายุ 9-12 ปี ต้องออกจากโรงเรียน เพื่อรับจ้างใช้แรงงานช่วยพ่อแม่หาเงิน
ปัจจุบันตามหัวเมืองสำคัญต่างๆ ของพม่ามีเด็กซึ่งมีอายุระหว่าง 9-12 ปี หรือน้อยกว่านั้น สมัครใจไปรับใช้แรงงานเพื่อหารายได้ช่วยเหลือครอบครัวตนเองเป็นจำนวนเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากในพม่ากำลังเกิดภาวะข้าวยากหมากแพง และประชาชนเดือดร้อนกำลังอดอยากจากพิษเศรษฐกิจ-ค่าครองชีพ ตลอดจนหลังเกิดภัยพิบัติพายุไซโคลนนาร์กีส โดยพบเห็นเด็กใช้แรงงานมากคือเด็กที่มาจากพื้นที่เกิดภัยพิบัตินาร์กีสและเมืองอื่นๆที่เศรษฐกิจตกต่ำขาดแคลนรายได้และอาหาร และที่เมืองมัณฑะเลย์
ขณะนี้พบว่าเด็กอายุ 9-12 ปี เป็นลูกจ้างอยู่ตามร้านอาหารและร้านน้ำชา(ซึ่งเป็นร้านที่นิยมของชาวพม่า)มากกว่าปี 2550 ที่ผ่านมา จากการสอบถามเด็กเหล่านั้นทราบว่าด้วยเหตุที่พ่อแม่มีรายได้น้อยและไม่มีเงินส่งให้เรียนหนังสือ จึงต้องไปรับจ้างทำงานเพื่อช่วยพ่อ-แม่ เพราะมีฐานะยากจน ตั้งแต่ยังไม่เรียนจบระดับชั้นประถม
จากการสังเกตเด็กส่วนใหญ่ยังไม่สามารถที่จะบวกเลขได้เลย ซึ่งหากพวกเขาคิดเงินลูกค้าผิดก็จะถูกนายจ้างดุด่าต่อว่า เห็นแล้วรู้สึกสงสารพวกเขามาก ส่วนค่าแรงที่พวกเขาได้รับนั้นทราบว่าได้คนละประมาณ 3 - 4 พันจ๊าตต่อเดือนเท่านั้น หรือคิดเป็นเงินไทย 100 - 170 บาท ต่อเดือนเท่านั้น ทั้งนี้ค่าแรงกรรมกรขั้นต่ำโดยทั่วไปในพม่าสำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปจะตกอยู่ประมาณ 5,000 จ๊าต หรือประมาณ 175 บาท หากเป็นเด็กก็จะได้ต่ำกว่านั้น ส่วนสาเหตุที่นายจ้างชอบลูกจ้างเด็กนั้นก็เพระว่าพวกเขาไม่รู้จักไม่โต้เถียงหรือปฏิเสธและนายจ้างยังสามารถดุด่าตบตีได้ด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่าสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งพม่า (HREIB) ได้ออกมาระบุว่า ปัจจุบันเด็กในพม่ากำลังขาดสิทธิอย่างหนัก สิ่งที่จะช่วยพวกเขาได้นอกจากกฎหมายก็คือ การมีโครงการป้องกันสิทธิเด็กให้กับพวกเขา ซึ่งตนเห็นว่าในโลกนี้คงไม่มีพ่อแม่คนใดอยากให้ลูกต้องทำงานลำบากตั้งแต่ยังเด็ก และก็เช่นเดียวกันคงไม่มีเด็กคนใดอยากพลัดพรากจากผู้เป็นพ่อและแม่ แต่ที่พวกเขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ก็เพราะความยากจนอันมีต้นเหตุมาจากประเทศไร้เสถียรภาพ สิ่งเหล่านี้เป็นภารกิจหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องให้ความสำคัญเอาใจใส่ ซึ่งหากการบริหารประเทศของรัฐบาลยังเป็นเช่นนี้ ในอนาคตปัญหาลักษณะนี้ก็คงจะมีให้เห็นเพิ่มมากขึ้น และเด็กๆ ก็จะมีโอกาสเสี่ยงที่จะถูกนายจ้างฉวยโอกาสหาผลกำไร ทำร้ายร่างกายและจิตใจตลอดถึงการทารุณทางเพศ และอาจนำไปสู่การตกเป็นเหยื่อแก๊งค้ามนุษย์ได้ในที่สุด
(สำนักข่าว INN วันที่ 21/08/2551)
1.4 พม่าส่งออกก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 25 และมีรายได้ที่ผ่านมาราว 84,000 ล้านบาท
เอเอฟพีรายงานเมื่อ 19 ส.ค.ว่า รัฐบาลทหารพม่าเปิดเผยสถิติทางเศรษฐกิจว่า พม่าส่งออกก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 25 และมีรายได้จนถึงสิ้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ถึงราว 84,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณก่อนที่ 69,000 ล้านบาท ทั้งนี้แหล่งก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่งพม่าเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของไทยที่นำเข้าก๊าซธรรมชาติจากพม่าราวร้อยละ 20 ของก๊าซธรรมชาติทั้งหมดที่พม่าผลิตได้ โดยขณะนี้ไทยกำลังแข่งกับประเทศในเอเชียอื่นๆ เช่น จีนและอินเดีย ในการเข้าถึงแหล่งทรัพยากรนอกชายฝั่งของพม่า แม้ว่าพม่าจะถูกตะวันตกคว่ำบาตรอยู่ก็ตาม
(ข่าวสด วันที่ 20/08/2551)
1.5 นักศึกษาพม่าถูกตำรวจฆ่าตาย เหตุร้องเพลงการเมือง
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2551 เจ้าหน้าที่ทหารพม่าได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในมหาวิทยาลัยมงยวา เขตสะกาย ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ภายหลังนาย
โดยในช่วงเกิดเหตุนั้นนายอ่องโซวินและเพื่อนอีก 4 คนได้ร่วมกันร้องเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับทางการเมืองและยกย่องนายพลอองซาน บิดาของนางอองซานซูจีที่คนพม่าให้ความเคารพนับถือ หน้าหอพักหญิงในมหาวิทยาลัยดังกล่าว และระหว่างที่นักศึกษาทั้งหมดเดินกลับหอพัก ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 10 คนเรียกตัวเพื่อไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ ในข้อหาร้องเพลงการเมือง แต่นายอ่องโซวินและเพื่อนปฏิเสธที่จะทำตามคำสั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจพม่าจึงเข้าจับกุมตัวและทำร้ายร่างกายอย่างหนัก ด้วยกระบองและอาวุธ โดยนายทุนมิ้น หนึ่งในจำนวนนั้นถูกนำตัวขึ้นรถไปยังสถานีตำรวจ แต่นายอ่องโซวินที่อาการสาหัส ร่างกายมีบาดแผลฉกรรจ์ ได้เสียชีวิตก่อนที่จะนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะที่เพื่อนอีก 3 คนถูกจับกุมตัวและถูกควบคุมตัวที่สถานีตำรวจในเขตสะกาย
เจ้าหน้าที่ตำรวจเขตสะกาย ได้ออกมาแถลงว่า การเสียชีวิตของนายอ่องโซวิน นักศึกษามหาวิทยาลัยมงยวา นั้นมาจากเหตุทะเลาะวิวาท ระหว่างกลุ่มนักศึกษา 2 กลุ่มที่มีการดื่มสุราและเมาอาละวาด จนเป็นเหตุทะเลาะกันและทั้ง 2 ฝ่าย ได้ใช้กำลังเข้ารุมทำร้ายกัน ตำรวจได้รับแจ้งเหตุจึงไประงับเหตุและพบว่านายอ่องโซวินถูกฆ่าตายในที่เกิดเหตุจึงจับกุมนักศึกษาในที่เกิดเหตุไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ
อย่างไรก็ตามมีประชาชนชาวพม่าผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า นายอ่องโซวินและเพื่อนอีก 4 คนได้ร้องเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับทางการเมืองและนายพลอองซานจริง จึงได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัวเพื่อไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ
รายงานข่าวแจ้งว่ารัฐบาล ทหารพม่า หรือSPDC ได้ออกคำสั่งห้ามนักศึกษาในพม่าร้องเพลงปลุกใจที่มีเนื้อหาสาระทางการเมืองตามถนน และถือว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย โดยพบว่ามีกลุ่มวัยรุ่นนักศึกษามักจะอยู่กันเป็นกลุ่มๆและร้องเพลงตามถนน ในเขตมหาวิทยาลัยหรือหน้าหอพักหญิงในช่วงเวลากลางคืน
(สำนักข่าว INN วันที่ 19/08/2551)
- แรงงานข้ามชาติ
2.1 แก้ปัญหาแรงงานข้ามชาติ ไทยลดค่าวีซ่าและเร่งพิสูจน์สัญชาติ
เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่กระทรวงแรงงาน นาง
ปัจจุบันมีแรงงานพม่าที่ทำงานในประเทศไทยซึ่งขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการจัดหางานจำนวน 4.9 แสนคน และมีแรงงานพม่าที่ยังหลบอยู่ใต้ดินอีกหลายแสนคนจึงจำเป็นต้องมีการพิสูจน์สัญชาติให้เรียบร้อย เนื่องจากทางการพม่ามีเงื่อนไขว่าพม่าจะไม่ดำเนินการส่งแรงงานถูกกฎหมายมาทำงานในประเทศไทยจนกว่าไทยจะดำเนินการส่งแรงงานพม่าที่อยู่ในประเทศไทยไปพิสูจน์สัญชาติที่ ฝั่งพม่าบริเวณด่านท่าขี้เหล็ก ด่านเกาะสองและด่านเมียวดีก่อน
วันนี้พม่าขอให้ไทยนำเข้าแรงงานถูกกฎหมายนำร่องก่อนจำนวน 10,000 คน ขณะเดียวกันไทยได้แก้ไขกฎกระทรวงลดค่าธรรมเนียมตรวจลงตรา (วีซ่า) เหลือรายละ 500 บาทจากเดิม 2,000 บาท ให้กับแรงงานพม่า 10,000 คนแรกที่ร่วมโครง การพิสูจน์สัญชาติเพื่อให้เป็นแรงงานถูกกฎหมายทำงานในประเทศไทย
(เดลินิวส์ วันที่ 21/08/2551)
- อาเซียน
3.1 เตช บุนนาค รมว.การต่างประเทศของไทย แนะนำพม่าฟื้นประชุมเอบีซี
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 ส.ค.51 นาย
นายเตช กล่าวว่า พล.อ. เต็ง เส่ง ได้แสดงความพอใจต่อความร่วมมือระหว่างรัฐบาลของ 2 ประเทศในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะการก่อสร้างถนนสายเมียวดี-ตะนาวศรี เป็นระยะทาง
นายเตช กล่าวต่อว่า ตนยังได้เสนอต่อ พล.อ. เต็ง เส่ง ให้จัดการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม (เจบีซี) ไทย-พม่าขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ว่างเว้นไป 3 ปี ซึ่งฝ่ายพม่าจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจบีซีครั้งต่อไป เพื่อทั้ง 2 ประเทศจะได้มีการพูดคุยกันในระดับการเมืองถึงการแก้ปัญหาเรื่องต่าง ๆ ตามแนวชายแดน ไทย-พม่า เช่น ปัญหายาเสพติด ปัญหาแรงงานต่าง ด้าวผิดกฎหมาย เป็นต้น ทั้งนี้ตนจะสั่งการให้นาย
(เดลินิวส์ วันที่ 25/05/2551)
Newsline เป็นกิจกรรมหนึ่งของโครงการวิจัยไทย (Thai Research) มูลนิธิส่งเสริมสันติวิถี (Peaceway Foundation) เป็นการรวบรวมข่าวภาษาไทย พร้อมทั้งการนำเสนอบทความภาษาไทยเกี่ยวกับประเทศพม่า และผลกระทบที่มีต่อประเทศไทย เพื่อให้ผู้คนในสังคมไทยได้รับรู้ ตระหนักถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกับประชาชนในพม่า และเพื่อกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและรณรงค์ให้เกิดสันติภาพที่แท้จริงในประเทศพม่าต่อไป