วันนี้ (29 ส.ค.) เวลาประมาณ 10.00น. ที่หน้าศาลาพระเกี้ยว จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นักศึกษาจากกลุ่มประชาธิปไตยไม่ใช่แค่กิ๊ก (กปก.) และฝ่ายการเมือง องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) แถลงข่าวประณามการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยมีตัวแทนคือ นายธีรนัย จารุวัสตร์ นิสิตชั้นปีที่ 3 เอกประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ และนายรักนิรันดร์ ชูสกุล นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ร่วมอ่านแถลงการณ์
โดยแถลงการณ์ได้ประณามการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยให้เหตุผลว่า เพราะพันธมิตรฯ เป็นตัวการสำคัญของเหตุการณ์ความปั่นป่วนในวันที่ 26 สิงหาคม ทั้งยังกระทำตนเป็นคณะก่อการเคลื่อนไหวเพื่อทำลายระบอบการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และอุกอาจใช้การปฎิบัติการนอกกฎหมาย มีลักษณะการกบฎทั้งต่อรัฐ และต่อวิถีทางการปกครองในประชาธิปไตย โดย กปก. และฝ่ายการเมือง อมธ. ได้เรียกร้องให้พันธมิตรฯ ยุติการเคลื่อนไหวอันมีเป้าหมายเพื่อล้มล้างรัฐบาล ซึ่งมาอย่างถูกต้องจากการเลือกตั้ง รวมทั้งต้องยุติการสนับสนุนระบอบการปกครองอื่นใดที่มิได้มีลักษณะตามวิถีทางประชาธิปไตย
ทั้งนี้ กปก. และฝ่ายการเมือง อมธ. ได้แนะนำให้นิสิตนักศึกษาใช้วิจารณญาณ ไตร่ตรองข้อเท็จจริงให้รอบด้านและติดตามสถานการณ์การเมืองปัจจุบันอย่างใกล้ชิด หากพบเห็นการกระทำใดๆ ของคณะบุคคลข้างต้น ซึ่งเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนโดยทั่วไป หรือ/และ เป็นพฤติกรรมที่ล้ำเส้นของการแสดงออกอย่างสงบสันติ ตามวิถีทางประชาธิปไตย ก็ควรรีบถอนตัวออกมาโดยเร็ว เพื่อหลีกเลี่ยงการให้สนับสนุนคณะบุคคลข้างต้น และเพื่อความปลอดภัยของตนเอง
โดย กปก. และฝ่ายการเมือง อมธ. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น โดยอาศัยความร่วมมือจากประชาชนในการช่วยประคับประคองสถานการณ์ ด้วยการใช้สติปัญญาและความอดทนอดกลั้นอย่างถึงที่สุด เพื่อมิให้วิกฤตการณ์นี้เลวร้ายลงไปกว่าที่เป็นอยู่ ทั้งนี้ แถลงการณ์ได้ย้ำเจตนารมณ์ว่า อำนาจอธิปไตยต้องเป็นของปวงชนชาวไทย และจะขอยืนยันพันธกิจนี้ต่อไปแม้ผู้ไม่หวังดีอาจจะพยายามใช้สื่อในมือตนใส่ร้าย ป้ายสี และยัดเยียดข้อหาให้ก็ตาม
หลังอ่านแถลงการณ์ นายรักนิรันดร์ชี้แจงว่า สาเหตุที่แถลงการณ์ของ อมธ.ยังไม่ออกมานั้น เป็นเพราะขั้นตอนออกแถลงการณ์ของ อมธ.ชุดใหญ่ต้องมีการเรียกประชุม สำรวจความเห็น ส่วนครั้งนี้ เห็นว่าเป็นภาวะเร่งด่วน ฝ่ายการเมืองจึงออกมาแถลงก่อน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ กำลังสำรวจความคิดเห็นเพื่อนำเสนอว่า นักศึกษาธรรมศาสตร์ที่ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวนั้นมีเท่าไหร่ แต่การจะทำอะไร ต้องเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง เพราะอาจถูกพันธมิตรฯ มองว่าเป็นเครื่องมือของอีกฝ่ายได้
นายรักนิรันดร์ แสดงความเห็นว่า ส่วนตัวคิดว่าการเคลื่อนไหวทางการเมืองนั้นทำได้แต่ต้องใช้เหตุผล และต้องอยู่ในกรอบกติกาของประชาธิปไตย ไม่ใช่ใช้การปลุกระดม และว่า ปัญหานี้ยืดเยื้อมาตั้งแต่ ปี 49 ถ้าเราเคารพในระบอบประชาธิปไตย ทุกอย่างมันจะคลี่คลายไปเอง น่าสังเกตอย่างหนึ่งว่า พันธมิตรฯ พยายามพูดว่า รัฐบาลทำลายรัฐธรรมนูญ แต่พันธมิตรฯ เองกลับไม่ทำตามรัฐธรรมนูญเลยสักอย่าง ไม่ว่าเรื่องศาล เรื่องการชุมนุมโดยสันติ
นายรักนิรันดร์ กล่าวว่า เช้านี้ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ให้สัมภาษณ์ว่า พฤษภาทมิฬนั้นเป็นยุทธการที่ว่าต้องแลกเลือดกับชัยชนะ นายนิรันดร์ระบุว่าเมื่อมีรุ่นน้องที่ไปเป็นการ์ดให้พันธมิตรฯ ก็ได้บอกไปว่า ไม่ห้ามถ้าอยากไป แต่ต้องดูดีๆ ด้วยเพราะการปะทะหลายครั้งก็เป็นยุทธการ และคนเสียเลือดเนื้อคือคนที่อยู่ข้างหน้า แกนนำไม่สูญเสียอะไรเลย
นายรักนิรันดร์ยังได้วิจารณ์การใช้โล่มนุษย์ป้องกันตัวเองว่า ไม่ใช่ความกล้าหาญ เพราะขณะที่แกนนำบอกว่า กล้าหาญไม่กลัวใคร และยืนให้มาจับ แต่กลับใช้มวลชนแวดล้อมตัวเอง ผู้ที่เป็นผู้นำต้องกล้ารับผิดชอบกับผลที่จะตามมา
นายธีรนัย กล่าวเสริมว่า พันธมิตรฯ ได้แสดงออกมาตลอดว่าไม่มีความเชื่อมั่นในอำนาจบริหารและนิติบัญญัติ แต่ยังไว้วางใจในอำนาจตุลาการ แม้แต่กรณีทักษิณ ชินวัตร ซึ่งพันธมิตรฯ มีทีท่าว่าอยากให้ทักษิณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ดังนั้นพันธมิตรฯ ก็ควรจะเชื่อมั่นในการต่อสู้ผ่านกระบวนการยุติธรรมเช่นกัน ด้วยการยุติการชุมนุมและแกนนำไปมอบตัว สู้คดีในชั้นศาล จะได้เป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสังคม หากบอกว่า ตัวเองบริสุทธิ์ สังคมก็พร้อมจะรับฟังอยู่แล้ว ไปต่อสู้กันในชั้นศาล ใช้หลักฐานพยานอ้างอิงต่อสู้กัน ดีกว่ายืดเยื้อต่อสู้กันจนอาจเกิดความรุนแรงในอนาคต
นายธีรนัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนการออกมาแถลง ทางกลุ่มฯ ได้พยายามสอบถามความเห็นจากเพื่อนหลายคณะมาตลอด ว่านิสิตจุฬาฯ มีความรู้สึกอย่างไร โดยพบว่า ในจุฬาฯ หลายคนเคยให้กำลังใจพันธมิตรฯ และเห็นด้วยกับการทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล ให้ข่าวสารทางเลือกที่ไม่ใช่จากฝ่ายรัฐอย่างเดียว แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์วันที่ 26 ส.ค. ทำให้หลายคนไม่เห็นด้วย และตั้งคำถามกับการเคลื่อนไหวลักษณะนี้ เพราะไม่มั่นใจว่า สิ่งที่พันธมิตรฯ ต้องการคืออะไรแน่ ทั้งนี้ เขาอยากให้อยากให้แกนนำพันธมิตรฯ ซึ่งถือเป็นรุ่นพี่ที่เคยเป็นนักกิจกรรม เป็นตัวอย่างของการแสดงออกในวิถีประชาธิปไตยที่ดี แสดงความคิดเห็นโดยไม่ล้ำเส้น สงบสันติ และเคารพต่อเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน
อย่างไรก็ตาม นายธีรนัย กล่าวว่า ทางกลุ่มจะไม่มีการรณรงค์ห้ามปรามไม่ให้เพื่อนนิสิตไปชุมนุมกับพันธมิตรฯ เพราะเชื่อว่านิสิตทุกคนมีวิจารณญาณอยู่แล้ว และอีกอย่าง เขาเองไม่เห็นด้วยกับการรณรงค์ไม่ให้ไปร่วมกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพราะถือว่าเป็นสิทธิเสรีภาพที่แสดงออกได้ แต่ก็เชื่อว่าเพื่อนๆ ในจุฬาฯ รู้ดีว่าอะไรที่ล้ำเส้นหรือไม่ล้ำเส้น ส่วนกิจกรรมต่อๆ ไปของกลุ่มนั้น คงขอดูสถานการณ์ไปก่อน แต่หากเกิดเหตุการณ์รัฐประหารขึ้นจริง จะออกมาคัดค้านตั้งแต่วันแรกๆ อย่างแน่นอน
นายธีรนัย กล่าวว่า ทราบดีว่า เสี่ยงมากที่ออกมาแถลงอย่างนี้ ที่ผ่านมา หลายครั้งที่พันธมิตรฯ ดูล้ำเส้น แต่หลายคนไม่กล้าออกมาวิจารณ์เพราะเกรงว่าจะถูกใส่ร้ายป้ายสี ว่ารับเงิน หรือเป็นลิ่วล้อใคร แต่คราวนี้จำเป็นต้องออกมาเพราะเห็นว่า ล้ำเส้นมากเกินไปแล้ว วิกฤตแล้ว ถึงจะถูกกล่าวหาก็ไม่สนใจ ไม่เกรงกลัวการใส่ร้ายป้ายสีอย่างที่ทำมาตลอด และมั่นใจในวิจารณญาณของประชาชนผู้รับสื่อด้วยว่าสามารถแยกแยะได้
แถลงการณ์ร่วม
กลุ่มประชาธิปไตยไม่ใช่แค่กิ๊ก (กปก.) และ
ฝ่ายการเมือง องค์การนักศึกษามหาวิทยาลั
เรื่อง ขอประณามการเคลื่อนไหวของพันธมิ
สืบเนื่องจากวิกฤติการณ์ซึ่
1. กปก. และ ฝ่ายการเมือง อมธ. ขอประณามคณะบุคคลผู้เรี
2. กปก. และ ฝ่ายการเมือง อมธ. ขอเรียกร้องให้คณะบุคคลผู้เรี
3. กปก. และ ฝ่ายการเมือง อมธ. ขอแนะนำให้พี่น้องมิตรสหาย บรรดานิสิตนักศึกษา ทั่วประเทศไทย โปรดใช้วิจารณญาณ ไตร่ตรองข้อเท็จจริงให้รอบด้
ท้ายนี้ กปก. และ ฝ่ายการเมือง อมธ. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถานการณ์
ด้วยความเชื่อมั่
กลุ่มประชาธิปไตยไม่ใช่แค่กิ๊ก (กปก.) และ ฝ่ายการเมือง องค์การนักศึกษามหาวิทยาลั
แถลง ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วันที่ 29 สิงหาคม 2551