Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis


ภัควดี วีระภาสพงษ์
31 สิงหาคม 2551

 



 


 


ตั้งแต่เห็นกลุ่มคนชุดดำโพกผ้าปฏิบัติการบุกยึดสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ผู้เขียนก็เริ่มตงิดๆ ใจแล้วว่า ผู้อยู่เบื้องหลังปฏิบัติการครั้งนี้น่าจะได้รับอิทธิพลมาจากปฏิบัติการของขบวนการซาปาติสตาแห่งเม็กซิโก หรือไม่ก็ "แนวร่วมชุดดำ" (black bloc) ในขบวนการสังคมใหม่ ความกริ่งเกรงใจของผู้เขียนกลายเป็นความจริงขึ้นมา เมื่อได้อ่านบทความใน มติชน (http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01pol03300851&sectionid=0133&day=2008-08-30) และ คมชัดลึก (http://www.komchadluek.net/2008/08/27/x_scoo_p001_218010.php?news_id=218010)


 


หลังจากรัฐประหาร 19 กันยาเป็นต้นมา ผู้เขียนคงเป็นหนึ่งในน้อยคนของกลุ่ม "สองไม่เอา" ที่ยังคบหาสมาคมกับเพื่อนพ้องน้องพี่ที่รู้จักในพันธมิตรฯ อยู่ ทั้งนี้เพราะผู้เขียนเชื่อ (อาจจะไร้เดียงสา) ว่า เพื่อนสำคัญกว่าการเมือง ในชีวิตอันแสนสั้นของคนเรานั้น นายมาร์กซ์ นายประชาธิปไตย นายมาร์กอส นายอุดมการณ์ คงไม่ไปร่วมงานศพของเราหรอก จะมีก็แต่เพื่อนฝูงที่ทะเลาะเบาะแว้งกันจะเป็นจะตายตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้นแหละที่อาจหลั่งน้ำตาให้เราสักแหมะสองแหมะ


 


กระนั้นก็ตาม ในสภาพที่คนจำนวนมากแขวนชีวิตไว้บนเส้นด้าย ไม่รู้จะนองเลือดกันเมื่อไร เพื่อนก็เพื่อนเถอะ มันถึงเวลาที่เราอยากตะโกนว่า Ya basta! (พอกันที) และตัดสินใจว่าจะเป็นน้ำตา น้ำลาย น้ำมิตร น้ำใจ ก็ไม่อยากได้แล้วโว้ย!


 


ผู้เขียนไม่เข้าใจว่า เพื่อนหลายคนมีเป้าหมายอะไรในพันธมิตรฯ ทั้งเพื่อนที่ออกจากพันธมิตรฯ ไปแล้ว แต่ดันอุตส่าห์กลับเข้าไปใหม่ ทั้งเพื่อนที่อยู่ในพันธมิตรฯ มาตลอดและบอกว่า "ขอให้เข้าใจผมบ้าง" เพื่อนเหล่านี้อ้างว่า เพื่อต่อสู้กับทุนสามานย์ เขาจำเป็นต้องจับมือกับทุนเก่า อำนาจเดิม สถาบันในระบอบอมาตยาธิปไตย เพื่อล้มล้างทุนสามานย์อันน่าเกลียดน่ากลัวที่สุดนี้ลงก่อน


 


แต่ผู้เขียนอยากบอกว่า สิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่ทุนสามานย์หรอก สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ "ความรีบร้อน"


 


เพื่อมุ่งหน้าไปหาเป้าหมายของตน ถึงกับไม่คำนึงวิธีการที่ใช้ ไม่คำนึงผลลัพธ์เลวร้ายที่อาจตามมา โดยเฉพาะชีวิตเพื่อนมนุษย์


 


ไม่ลืมตาดูด้วยซ้ำไปว่า ทุนเก่าและสถาบันในระบอบอมาตยาธิปไตยนั้น ใช่ว่าจะไม่อยากแผ่ขยายตัวเองออกไปเป็นทุนโลกาภิวัตน์สามานย์จนตัวสั่น มองไม่เห็นหรือว่า ทุนเหล่านี้พยายามปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินธุรกิจให้เป็นธุรกิจมากขึ้น แม้แต่การเปิดเผยจำนวนทรัพย์สินชัดเจนขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ หรือไม่ใช่การพยายามสร้างความเป็น "สากลและทันสมัย" แต่งหน้าแต่งตาตัวเองเพื่อรอวันแต่งงานกับกระแสเสรีนิยมใหม่


 


มองไม่เห็นหรือว่า รัฐบาลที่มีที่มาจากไหนที่เซ็นข้อตกลงการค้าเสรีได้เร็วที่สุด


 


แล้วหากทุนเก่ากับทุนสามานย์เกิดจับมือสมประโยชน์กันขึ้นมาวันใด เพื่อนพ้องน้องพี่ทั้งหลายจะวิ่งหางจุกตูดเป็นหมาหัวเน่าไปซุกหัวมุดทรายที่ไหน?


 


ในสมรภูมิรบครั้งนี้ หากเพื่อน ๆ ในพันธมิตรฯ คิดหวังจะใช้กลุ่มทุนเก่าและสถาบันในระบอบอมาตยาธิปไตยเป็นเครื่องมือต่อสู้กับทุนสามานย์ ไม่ทราบว่ามีการ "ประเมินขุมกำลัง" (correlation of forces) กันอย่างมีสติบ้างหรือเปล่า พวกคุณมีอะไรไปต่อกรถ่วงอำนาจกับพวกเขาบ้าง พวกคุณคิดจะใช้เขาเป็นเครื่องมือหรือจะยื่นหัวตัวเองไปรองตีนให้เขาเหยียบขึ้นสู่การครองความเป็นใหญ่กันแน่


 


นี่ยังไม่ต้องพูดถึงการเหยียบย่ำประชาชนจำนวนมากว่าเป็นพวก "โง่ จน เจ็บ" เพียงเพราะคนเหล่านี้เลือกพรรคไทยรักไทยและพลังประชาชน ถึงพรรคการเมืองพวกนี้จะเลวร้ายอย่างไร แต่นโยบายประชานิยมของระบอบทักษิณก็เป็นครั้งแรกที่ทำให้ประชาชนกล้ายืดอกประกาศว่า "ข้าคือคนจน" และข้านี่แหละจะกำหนดว่าใครจะมาปกครอง


 


การประกาศศักดาของคนจนคือสิ่งที่ฝ่ายซ้ายถวิลหา แต่ดันไปสำเร็จด้วยฝีมือของฝ่ายโน้นเสียนี่


 


จะถูกผิดก็แล้วแต่ คุณควรปล่อยให้ประชาชนเรียนรู้ด้วยตัวเอง แม้แต่ชาวอินเดียนแดงพื้นเมืองเผ่ามายาที่กลายเป็นชาวซาปาติสตาในตอนนี้ ก็ยังเคยเป็นฐานเสียงของพรรค PRI ที่เป็นพรรคเผด็จการของเม็กซิโกมาก่อน


 


การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงต้องมาจากเบื้องล่างในเวลาของนาฬิกาทราย ไม่ใช่เป่านกหวีดแล้วยัดเยียดความเปลี่ยนแปลงจากเบื้องบน (แถมสูงเสียดฟ้าด้วย)


 


บางคนอาจเห็นว่านั่นไม่ทันการณ์ เพราะทุนสามานย์จะทำลายประเทศนี้เสียก่อน แต่ทีนโยบายของทุนเก่าและสถาบันในระบอบอมาตยาธิปไตยที่แย่งชิงทรัพยากรของคนจนในต่างจังหวัดไปปรนเปรอชนชั้นกลางในเมืองมานานแสนนาน ไม่เห็นมีใครตั้งเวทีเรียกรถถังออกมายึดประเทศ


 


เศษเดนที่โยนให้คนจน มันทำให้เจ็บปวดใจมากหรืออย่างไร ถึงอยากให้ท้อปบู๊ตออกมาเหยียบหัวประชาชนไว้


 


19 กันยายังเป็นบทเรียนที่ไม่พออีกหรือ คนที่พันธมิตรฯ กระเหี้ยนกระหือรืออยากกำจัด ยังคงเดินช้อปปิ้งหน้าระรื่น ในขณะที่ชาวบ้านสมัชชาคนจน นักกิจกรรมชนเผ่า ฯลฯ กลับถูกกดขี่อยู่ในพื้นที่


 


ลัทธิราชาชาตินิยมที่แกนนำหัวขบวนของพันธมิตรฯ ป่าวร้องอยู่บนเวทีคงทำให้ผู้บัญชาการราโมนาขนลุกเกรียวอยู่ในหลุมฝังศพ


 


พวกคุณอาจหยิบเอาเศษกระพี้ของซาปาติสตามาตกแต่งร่างกายได้ แต่โดยเนื้อในนั้น


 


ยังไง ๆ ก็ไม่ใช่ซาปาติสตา


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net