สรุปข่าวที่เกี่ยวข้องกับประเทศพม่าประจำวันศุกร์ที่ 5 ถึงวันพุธที่ 17 กันยายน 2551
- สถานการณ์ในประเทศพม่า
1.1 อองซานซูจีที่กำลังล้มป่วย ยอมรับอาหารที่รัฐบาลส่งให้เป็นครั้งแรกในรอบ 1 เดือน
1.2 องค์กรนิรโทษกรรมสากลกลัวรัฐบาลพม่าทรมานนักเคลื่อนไหวผู้หญิง
- การค้าชายแดน
2.1 พม่าปิดด่านพระเจดีย์สามองค์นาน 1 ปี เศรษฐกิจพื้นที่ถดถอย
2.2 การค้าชายแดนไทย-พม่าลงลงกว่า 50 %
- แรงงานข้ามชาติ
3.1 เตรียมเปิดจดทะเบียนแรงงานข้ามชาติรอบสุดท้ายเดือน พ.ย.นี้
3.2 กรมการจัดหางานเปิดพิสูจน์สัญชาติแรงงานข้ามชาติสัญชาติลาวและพม่า
- ผู้ลี้ภัย
4.1 ที่ปรึกษาอาวุโส ส.ส.สหรัฐอเมริกา ลงพื้นที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวบ้านในสอย
- สถานการณ์ในประเทศพม่า
1.1 อองซานซูจีที่กำลังล้มป่วย ยอมรับอาหารที่รัฐบาลส่งให้เป็นครั้งแรกในรอบ 1 เดือน
นาง
ด้านเจ้าหน้าที่รัฐบาลทหารพม่า ระบุว่า นางซูจีได้รับอนุญาตให้อ่านนิตยสารไทมส์และนิวส์วีค แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้อนุญาตให้ติดต่อสื่อสารกับสมาชิกในครอบครัว ทั้งนี้พรรคเอ็นแอลดี ระบุว่านางซูจีไม่ได้ติดต่อกับบุตรชายทั้งสองคน นับตั้งแต่ปี 2003 เป็นต้นมา
(สำนักข่าว INN วันที่ 17/09/2551)
1.2 องค์กรนิรโทษกรรมสากลกลัวรัฐบาลพม่าทรมานนักเคลื่อนไหวผู้หญิง
องค์กรนิรโทษกรรมสากล ซึ่งมีที่ตั้งในกรุงลอนดอนของอังกฤษ ออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ที่ 13 กันยายน ว่านาง นิลาร์ เทียน นักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลทหารพม่าคนสำคัญวัย 36 ปี มีความเสี่ยงที่จะถูกทรมานและได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดีต่างๆจากรัฐบาลทหารพม่า หลังจากเธอถูกจับกุมตัวได้เมื่อวันพุธที่ 11 กันยายน ที่นครย่างกุ้ง ขณะไปเยี่ยมมารดาของเพื่อนผู้ถูกคุมขังคนหนึ่ง ทั้งที่เธอสามารถหลบหนีการตามจับของทางการมาได้นานกว่า1 ปี หลังจากรัฐบาลทหารพม่าทำการปราบปรามกลุ่ม"นักศึกษารุ่น 88" (the 88 Generation Students group)
แถลงการณ์ระบุด้วยว่าในปีนี้ พม่าได้จับกุมตัวแสดงความเคลื่อนไหวทางการเมืองโดยสงบไปเกือบ 300 คนแล้ว และทางการพม่าได้เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยในประเทศตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้มีการประท้วงในโอกาสครบรอบ 1 ปีของการประท้วง เมื่อสิงหาคมปีที่แล้ว
เมื่อ 22 สิงหาคมปีที่แล้ว สมาชิก 13 คน ของกลุ่ม"นักศึกษารุ่น 88" รวมทั้งนาย
หลังเธอหลบไป การชุมนุมประท้วงดำเนินต่อไป โดยมีพระพม่าและประชาชนเข้าร่วมด้วย จนถูกกองทัพพม่าเข้าปราบปรามรุนแรงเมื่อกันยายนปีที่แล้ว ซึ่งสหประชาชาติคาดว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 31 คน รวมทั้งพระสงฆ์หลายรูป ผู้ประท้วงหลายร้อยคนถูกจับ และหลายคนหนีออกนอกประเทศหรือหลบซ่อนตัว
(สำนักข่าวเนชั่น วันที่ 13/09/2551)
- การค้าชายแดน
2.1 พม่าปิดด่านพระเจดีย์สามองค์นาน 1 ปี เศรษฐกิจพื้นที่ถดถอย
นาย
ที่สำคัญการค้าขายที่เคยมีเงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาท/เดือน ขณะนี้ติดลบโดยสิ้นเชิง และในระยะหลัง
พบว่ามีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่น้อยมาก กระทบต่อเศรษฐกิจชายแดนของ อ.สังขละบุรีอย่างมาก จนถึงขณะนี้มีสินค้าบางประเภทที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ ที่ได้รับการผ่อนปรน เช่น น้ำมันพืช พริก น้ำปลา สามารถเข้าออกช่องทางพิเศษได้บ้าง ไม่เช่นนั้นชาวพม่าเองก็คงอยู่ไม่ได้ สำหรับการประสานงานเพื่อขอให้เปิดด่าน ในส่วนของหอการค้าเองก็ได้เคยหารือในระดับคณะกรรมการชายแดนระดับประเทศ แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าที่เป็นการตอบรับจากทางฝั่งพม่า อยากเรียกร้องให้ทางจังหวัดเข้ามาดูแลในเรื่องนี้
พ.อ.พิเศษ สุรินทร์ จันทร์เพียร นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการปิดด่านบริเวณด่านพระเจดีย์สามองค์นานกว่า 1 ปี ทำให้ผู้ค้าและนักธุรกิจที่ประกอบการค้าอยู่ที่ด่านพระเจดีย์สามองค์ได้รับความเดือดร้อน จากเดิมที่แต่ละปีบริเวณด่านพระเจดีย์สามองค์ สามารถนำรายได้เข้าประเทศสูงกว่า 100 ล้านบาท แต่ปัจจุบันนี้กลับขาดหายไป
อนึ่งที่มาของการปิดด่านชายแดนไทยทางด้านนี้เกิดขึ้นหลังจากตำรวจตระเวนชายแดนชุดชุมชนสัมพันธ์ 2 นาย ที่ถูกจับไปเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2550 ที่ผ่านมา โดยทางฝ่ายพม่าอ้างว่า เจ้าหน้าที่ทั้งสองรุกล้ำเข้าไปในเขตพม่า มีการเจรจาให้ปล่อยตัวบุคคลทั้งสองในเวลาต่อมา จากนั้นเป็นต้นมาความสัมพันธ์ทางด้านการค้าระหว่างสองฝ่ายก็ถดถอยลง
(กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 16/09/2551)
2.2 การค้าชายแดนไทย-พม่าลงลงกว่า 50 %
นาย
นอกจากนั้นยังพบว่าอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เศรษฐกิจบริเวณดังกล่าวซบเซา เนื่องจากช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. เป็นช่วงที่ชาวพุทธทั้งคนไทยและพม่าเข้าพรรษา และชาวพม่าที่เป็นมุสลิมนับถือศาสนาอิสลามถือบวชในช่วงรอมฎอนตลอดเดือน ก.ย. จึงมีการสั่งซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคลดลง
อย่างไรก็ตามต้องรออีกประมาณ 1-2 เดือน คาดว่าเศรษฐกิจ การค้าชายแดนไทย-พม่า ที่ด่านแม่สอด-เมียวดีน่าจะดีขึ้นหลังจากออกพรรษาแล้ว ขณะเดียวกันก็อยากให้รัฐบาลพม่าเร่งปรับปรุงและซ่อมแซมระบบคมนาคม ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมให้กลับมาใช้ได้ตามปกติ เพื่อจะได้ส่งสินค้าไปยังพม่าได้สะดวกขึ้น
เศรษฐกิจชายแดนไทย-พม่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะกลับมาดีอีกครั้งหรือไม่ยังไม่สามารถบอกได้ เพราะมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้ารัฐบาลสามารถแก้ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองได้ การค้าการลงทุนก็จะกลับมาดีอีกครั้ง ตลอดทั้งการคมนาคมของพม่าจะสามารถใช้ขนส่งสินค้าได้ตามปกติหลังหมดฤดูฝน
หากปัจจัยดังกล่าวไม่ดีขึ้นอย่างที่คาดหวังไว้ คาดว่าเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การค้าสินค้าอุปโภคบริโภค การค้าตลาดริมเมย และตลาดพลอยแม่สอด อาจจะซบเซาลงกว่าเดิม แต่ถ้าสามารถแก้ปัญหาได้เศรษฐกิจก็จะกลับมาอย่างแน่นอน
ทั้งนี้การค้าชายแดนสินค้าข้ามแดนไทย-พม่า มีมูลค่าส่งออกและนำเข้าประมาณเดือนละ 1.3 หมื่นล้านบาท หรือมีการซื้อขายประมาณวันละ 30-40 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามหลังจากเกิดวิกฤตการเมืองและถนนของพม่าพัง ส่งผลให้การค้าชายแดน อ.แม่สอดลดลง เหลือรายได้เพียงวันละ 12-15 ล้านบาท ขณะที่ตลาดริมเมยและตลาดอัญมณี รวมถึงธุรกิจที่พักโรงแรมรีสอร์ทและสถานบริการก็ลดลงประมาณ 50%
(โพสต์ทูเดย์ วันที่ 13/09/2551)
- แรงงานข้ามชาติ
3.1 เตรียมเปิดจดทะเบียนแรงงานข้ามชาติรอบสุดท้ายเดือน พ.ย.นี้
นาย
1.การพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า ซึ่งทางคณะทำงานเร่งรัดการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวได้บรรลุข้อตกลงกับทางการพม่าในการกำหนดจุดพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าวพม่าที่มีประมาณ 500,000 คน ใน 3 จุด คือที่ เกาะสอง ตรงข้าม จ.ระนอง เมืองเมียวดี ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก และ ท่าขี้เหล็ก ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย หากนายจ้างมีลูกจ้างพม่าที่จดทะเบียนถูกต้องแล้วสามารถนำไปพิสูจน์สัญชาติได้ตั้งแต่เดือน ต.ค.นี้เป็นต้นไป
2. เรื่องการเปิดจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองรอบใหม่ ทางคณะอนุกรรมการฯ เห็นชอบให้มีการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวรอบใหม่ และเป็นรอบสุดท้าย ซึ่งจะมีการเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบปลายเดือนนี้ คาดจะสามารถดำเนินการจดทะเบียนได้ในเดือน พ.ย. หรือ ธ.ค.ปีนี้
โดยการจดทะเบียนรอบใหม่จะให้จดทะเบียนเฉพาะตัวแรงงานต่างด้าวเท่านั้น บุตรและผู้ติดตามจะมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการว่าจะจัดหาที่อยู่หรือผลักดันออกไป
สำหรับระยะเวลาการจดทะเบียนจะกำหนด 30 วัน หลัง ครม.มีมติเห็นชอบ ยกเว้น กิจการประมง และแรงงานใน 5 จ.ชายแดนใต้ คือ ยะลา นราธิวาส ปัตตานี สตูล และสงขลา ที่สามารถผ่อนผันวันจดทะเบียนออกไป
ขอย้ำว่ารอบนี้เป็นรอบสุดท้ายจริง ๆ ต่อไปนี้แรงงานต่างด้าวจะเข้ามาจะต้องนำเข้าอย่างถูกกฎหมาย และระหว่างนี้ฝ่ายความมั่นคงจะเข้มงวดเรื่องการหลบหนีเข้าเมืองตามชายแดน จึงขอแจ้งเจ้าของสถานประกอบการให้ทราบ ขณะนี้ระบบการนำเข้าแรงงานต่างด้าวอย่างถูกต้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะช่วยแก้ปัญหาแรงงานเถื่อนให้หมดไป
ต่อไปนี้นายจ้างที่ต้องการแรงงานต่างด้าวสามารถแจ้งโควตาความต้องการมายังสำนักงานจัดหางานจังหวัด จากนั้นทางกระทรวงแรงงานจะประสานไปยังประเทศที่แรงงานต่างด้าวสังกัดผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อได้แรงงานแล้วก็นัดนายจ้างรับแรงงานได้ตามจุดที่กำหนดต่อไป เชื่อว่าปัญหาแรงงานเถื่อนจะหมดไป
สำหรับยอดแรงงานที่จดทะเบียนในรอบนี้น่าจะมีประมาณ 700,000 คน ส่วนการจดทะเบียนจะอำนวยการความสะดวกแก่นายจ้างมากขึ้น ลดขั้นตอนและค่าธรรมเนียม ที่ผ่านมากว่าลูกจ้างจะได้บัตรแรงงานต่างด้าวใช้เวลานานมาก แต่ขั้นตอนใหม่จะใช้เวลาวันเดียวหลังจากตรวจโรคแล้ว อย่างไรก็ตามที่ประชุมมีความกังวลเรื่องปัญหาการปลอมบัตร แต่เชื่อว่าระบบการตรวจสอบที่ดำเนินการไว้จะทำให้ปลอมบัตรได้ยาก
(สำนักข่าวไทย วันที่ 11/09/2551)
3.2 กรมการจัดหางานเปิดพิสูจน์สัญชาติแรงงานข้ามชาติสัญชาติลาวและพม่า
กรมการจัดหางานได้หารือและเห็นชอบร่วมกันกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและสหภาพพม่า ในการที่จะพิสูจน์สัญชาติเพื่อออกหนังสือเดินทาง ประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร และออกใบอนุญาตทำงานให้กับแรงงานทั้ง 2 ประเทศ
สำหรับแรงงานสัญชาติลาวให้มายื่นเรื่องเพื่อดำเนินการพิสูจน์สัญชาติ ณ หน่วยงานพิสูจน์สัญชาติแรงงานลาว สถานที่ตั้งศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คบางแค แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2552
ส่วนแรงงานพม่า ให้ไปขอรับแบบฟอร์มเพื่อยื่นความประสงค์ขอเข้ารับการพิสูจน์สัญชาติ ณ สำนักงานจัดหางานของจังหวัดแต่ละจังหวัด พร้อมทั้งติดรูปถ่ายและพิมพ์ลายนิ้วมือด้านซ้าย จัดส่งให้กองการจัดระบบการนำเข้าแรงงานต่างด้าว เพื่อจะได้รวบรวมส่งให้ทางการพม่าผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อนัดหมายการเดินทางของแรงงานแต่ละคนในการพิสูจน์สัญชาติ ณ หน่วยงานพิสูจน์สัญชาติแรงงานพม่า ที่เมืองท่าขี้เหล็ก เมืองเมียวดีและเมืองเกาะสอง บริเวณชายแดนเขตประเทศพม่า
(สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ วันที่ 10/09/2551)
- ผู้ลี้ภัย
4.1 ที่ปรึกษาอาวุโส ส.ส.สหรัฐอเมริกา ลงพื้นที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวบ้านในสอย
นาย JAMES H TURNER JR ที่ปรึกษาอาวุโสของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประจำสภาสหรัฐอเมริกา พร้อมคณะ 8 คน ได้เดินทางมายังศูนย์ที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยจากการสู้รบบ้านใหม่ในสอย ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยมีนาย
นาย
ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับการร่างกฎหมายของสภาสหรัฐฯ ให้สามารถเข้ามาดูแลผู้หนีภัยจากการสู้รบ หรือการนำผู้หนีภัยจาการสู้รบไปอยู่ประเทศสหรัฐฯ และการช่วยเหลือผู้หนีภัยจาการสู้รบในด้านต่าง ๆ ซึ่งคณะที่ปรึกษาอาวุโสของ ส.ส.ประจำสภาสหรัฐ ฯ มีหน้าที่กลั่นกรองการร่างกฎหมายให้ ส.ส.ประจำสภาสหรัฐฯ
ภายในศูนย์ที่พักพิงผู้หนีภัยจาการสู้รบบ้านใหม่ในสอย ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ปัจจุบันมีผู้หนีภัยจากการสู้รบรวมทั้งชาย-หญิงและเด็กประมาณ 20,000 คน มีองค์กรเอกชนจากต่างประเทศเข้ามาช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ โดยทางอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนจะเป็นผู้ควบคุมดูแลไม่ให้ผู้หนีภัยจากการสู้รบออกนอกพื้นที่พักพิง โดยมีกำลังอาสาสมัครรักษาดินแดน ควบคุมดูแลภายในศูนย์ที่พักพิงฯ
(ผู้จัดการ วันที่ 04/09/2551)
Newsline เป็นกิจกรรมหนึ่งของโครงการวิจัยไทย (Thai Research) มูลนิธิส่งเสริมสันติวิถี (Peaceway Foundation) เป็นการรวบรวมข่าวภาษาไทย พร้อมทั้งการนำเสนอบทความภาษาไทยเกี่ยวกับประเทศพม่า และผลกระทบที่มีต่อประเทศไทย เพื่อให้ผู้คนในสังคมไทยได้รับรู้ ตระหนักถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นกับประชาชนในพม่า และเพื่อกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและรณรงค์ให้เกิดสันติภาพที่แท้จริงในประเทศพม่าต่อไป
|