Skip to main content
sharethis

ศาลอาญากรุงเทพใต้ อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ในคดีที่นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี และนายดุสิต ศิริวรรณ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา โดยพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุก จำเลยทั้งสองคน 4 กระทงความผิด กระทงละ 6 เดือน รวมจำคุกคนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา


 



ศาลอุทธรณ์ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ที่จำเลยอุทธรณ์ว่า ถ้อยคำที่กล่าวในรายการ เป็นการนำข้อมูลที่ได้รับจากผู้ชมในรายการมาบอกกล่าว ไม่ได้จงใจใส่ความโจทก์ ให้ได้รับความเสียหายเป็นพียงข้อกล่าวอ้างที่เลื่อนลอยไม่มีน้ำหนัก การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการจงใจ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จำเลยเคยดำรงตำแหน่ง ระดับสูงและย่อมรู้ว่า คำพูดของจำเลยทำให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ อีกทั้ง จำเลยทั้งสอง ยังไม่ได้สำนึกกระทำการเพื่อบรรเทาความเสียหายให้กับโจทก์ ประกอบกับ จำเลยที่ 1 เคยต้องโทษฐานหมิ่นประมาท จนคดีถึงที่สุดมาแล้วถึง 3 ครั้ง คดีไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ พิพากษายืน


 



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมัคร และนายดุสิต จำเลยยืนฟังคำพิพากษาด้วยสีหน้าเรียบเฉย โดยนายสามารถ โจทก์ มีสีหน้าค่อนข้างมั่นใจ และจ้องหน้า นายสมัคร และนายดุสิต หลายครั้งในขณะที่ศาลอ่านคำพิพากษา แต่จำเลยทั้งสอง ไม่มีใครหันมามองหน้านายสามารถ ซึ่วขณะนี้จำเลยทั้งสอง อยู่ระหว่างการทำเรื่องขอประกันตัว


 



ต่อมา นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จะไม่มีการยอมความอย่างเด็ดขาด ในคดีหมิ่นประมาท ตามที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี และนายดุสิต ศิริวรรณ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เพราะเรื่องดังกล่าวทำให้ครอบครัวของตนเสียชื่อเสียง ต้องขอบคุณศาลที่ให้ความเป็นธรรม ตามหลักพระพุทธศาสนา สอนว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกฎแห่งกรรม


 



นายสามารถ กล่าวต่อด้วยว่า ขณะที่นายสมัคร ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีทั้งฆราวาส และพระสงฆ์ มาขอให้ยอมความในคดีนี้ โดยยื่นข้อเสนอเงิน 300 ล้านบาท ซึ่งตนไม่ขอเจรจาด้วย เพื่อยืนหยัดพิสูจน์ความถูกต้อง และต้องการให้คดีนี้เป็นบทเรียนสำหรับผู้ที่ชอบใส่ร้ายป้ายสีเป็นอาจิณ ทำให้คนจิตใจดี ต้องการทำงาน เพื่อบ้านเมืองไม่กล้าเข้าสู่ในแวดวงการเมือง


 



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดศาลได้มีคำสั่งให้นายสมัคร และนายดุสิต จำเลยที่ 1-2 ได้ประกันตัวในระหว่างฎีกา โดยใช้หลักทรัพย์เดิมคนละ 2 แสนบาท ซึ่งนายสมัคร ได้ยื่นหนังสือรับรองจากสภาผู้แทนราษฎรว่ายังอยู่ในสถานะเป็นส.ส. และอยู่ในสมัยประชุม และได้เดินทางกลับแล้ว


 


นายประชุม ทองมี ทนายความของ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี และ นายดุสิต ศิริวรรณ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลัง ศาลอุทธรณ์ พิพากษาจำคุก นายสมัคร และ นายดุสิต คนละ 2 ปีว่า เตรียมหารือกับ นายสมัคร และ นายดุสิต ว่าจะยื่นฎีกาในช่องทางใดได้บ้าง อาจจะยื่นคำร้องตั้งแต่ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์จะยื่นที่อัยการสูงสุด หรือจะยื่นทั้ง 3 ช่องทางแต่ในส่วนของปัญหาเรื่องข้อกฎหมายสามารถยื่นฎีกาได้เลย ส่วนขั้นตอนต่อจากนี้ต้องคัดคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และต้องยื่นฎีกาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน


 


 


......................................


ที่มา: เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ เดลินิวส์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net