บริษัททัวร์เตรียมเปิดพื้นที่ประสบภัยเป็นแหล่งท่องเที่ยว

บริษัท Exotissimo Travel ซึ่งเป็นบริษัทนำเที่ยวชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีแผนนำนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมปากแม่น้ำอิรวดี ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบภัยจากพายุไซโคลนนาร์กิสในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้

นางซูซูติ่น ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการของบริษัทดังกล่าวในกรุงย่างกุ้งกล่าวว่า  ทางบริษัทจะพานักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมพื้นที่ประสบภัยโดยตรง เพื่อให้เห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งทางบริษัทจะจัดตั้งกองทุนให้กับนักท่องเที่ยวที่ต้องการบริจาคเงินให้กับชุมชนที่ประสบภัยจากายุไซโคลนนาร์กิส ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า บริษัทนำเที่ยวExotissimo ได้บริจาคเงินช่วยเหลือให้ผู้ประสบภัยนาร์กีสจำนวน 1 หมื่นดอลลาร์ด้วยเช่นกัน

ในขณะที่ บริษัทนำเที่ยวหลายแห่งในพม่าเปิดเผยว่า มีการประชาสัมพันธ์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในพม่ามากขึ้น โดยฤดูท่องเที่ยวจะเริ่มขึ้นระหว่างเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า

อย่างไรก็ตามโครงการพานักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมในพื้นที่ประสบภัยกลับถูกผู้ที่ทำงานในอุสาหกรรมการท่องเที่ยวบางส่วนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยพนักงานระดับสูงในบริษัทนำเที่ยวในกรุงย่างกุ้งคนหนึ่งกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมและผิดจริยธรรมอย่างยิ่งที่จะนำนักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมผู้ประสบภัยในเขตที่ได้รับผลกระทบจากพายุไซโคลนนาร์กิสเพื่อหวังทำกำไรให้กับธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในพม่าซบเซาอย่างหนักหลังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ประท้วงใหญ่เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ก่อนที่จะมาซบเซาอีกรอบ เหตุการณ์พายุไซโคลนนาร์กิสเข้าพัดถล่มในพื้นที่ปากแม่น้ำอิรวดีเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้พบว่า บริษัทนำเที่ยวหลายแห่งในพม่าต้องปลดพนักงานออกและลดเงินเดือนพนักงานเป็นจำนวนมาก

ไกด์นำเที่ยวคนหนึ่งในกรุงย่างกุ้งกล่าวว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวเข้าพม่านั้นลดลงตั้งแต่สองเดือนที่แล้ว เนื่องจากอาจจะอยู่ในช่วงหน้าฝน แตกต่างจากปีที่แล้วที่ถึงจะอยู่ในช่วงหน้าฝนแต่นักท่องเที่ยวบางส่วนก็ยังคงทยอยเข้ามาเที่ยวในพม่าเรื่อยๆ  ขณะที่ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวพม่าคาดหวังว่า ตัวเลขนักท่องเทียวน่าจะเพิ่มสูงขึ้น ถ้าหากไม่มีเหตุการณ์ประท้วงหรือเหตุการณ์เลวร้ายอื่นๆ เกิดขึ้น( จาก Irrawaddy 29 ก.ย.51)

นักเคลื่อนไหวพม่าเรียกร้อง NLD ร่วมมือกับกลุ่มชาติพันธุ์

นายวินติ่น นักข่าวและนักเคลื่อนไหววัย 79 ปี อดีตนักโทษการเมืองที่ได้รับการปล่อยตัวเมื่อไม่นานมานี้ ให้สัมภาษณ์ในวันครบรอบ 20 ปีของพรรคเอ็นแอลดีเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยเรียกร้องให้พรรคเอ็นแอลดีร่วมมือกับผู้นำกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ รวมถึงนักประชาธิปไตยกลุ่มอื่นๆ ให้มากขึ้น เพื่อต่อสู้ให้ประเทศพม่ามีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต

นายวินติ่นให้สัมภาษณ์ว่า การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยยังไม่จบสิ้น และการที่พรรคเอ็นแอลดีต่อสู้เพียงลำพังคงไม่ได้ผล ดังนั้นจึงต้องร่วมมือกับทุกฝ่าย พร้อมกันนี้ นายวินติ่นยังเรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัวนักโทษทางการเมืองทั้งหมด

ขณะที่นายวินติ่นและนายขิ่นหม่องส่วย สองนักเคลื่อนไหวที่ได้รับการปล่อยตัวครั้งนี้ ได้รับการแต่งตั้งจากพรรคเอ็นแอลดีให้เป็นคณะกรรมการระดับสูงของพรรค นอกจากนี้ นายวินติ่นยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเลขาธิการพรรคเอ็นแอลดีอีกครั้งด้วยเช่นกัน

ด้านนายเอตาร์อ่อง ผู้นำชาวอาระกันยินดีเพิ่มความร่วมมือกับพรรคเอ็นแอลดีให้มากขึ้น

 การจัดงานครบรอบปีที่ 20 ของพรรคเอ็นแอลดีมีผู้มาร่วมงานกว่า 300 คน ทั้งสมาชิกพรรคเอ็นแอลดี นักการทูต นักการเมืองอาวุโส ในวันเดียวกันมีรายงานว่า สมาชิกพรรคเอ็นแอลดีจำนวน 5 คนถูกทางการพม่าจับก่อนที่จะถูกปล่อยตัวในเวลาต่อมา

ทั้งนี้ นายวินติ่น ได้รับการปล่อยตัวพร้อมกับนักโทษอีกจำนวน 9, 002 หลังจากที่เขาถูกทางการพม่ากุมขังเป็นเวลากว่า 19 ปีในเรือนจำอินเส่ง