Skip to main content
sharethis


ศ.ดร.เฉลิมพล แซมเพชร ข้าราชการบำนาญ แกนนำพันธมิตรเชียงใหม่ (ขวามือ) และแนวร่วมพันธมิตรร่วม 30 คน เดินทางมาสอบถามผู้บริหาร ม.เชียงใหม่ ถึงสาเหตุการระงับเวทีเสวนาเรื่องการเมืองใหม่ของพันธมิตร โดยมีผู้บริหาร ม.เชียงใหม่ คือ ผศ.ดร.พงษ์อินทร์ รักอริยะธรรม รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ (ชุดดำซ้ายมือ) เป็นผู้ชี้แจง


 



 



 



 



 


พันธมิตรฯ เชียงใหม่รวมตัวกันหน้าตึกอธิการบดี มช. เรียกร้องให้ชี้แจงเหตุระงับการใช้สถานที่เสวนากะทันหัน ผู้บริหาร มช. ยันสนับสนุนเสรีภาพทางวิชาการ แต่เกรงเกิดเหตุสร้างความเสียหายจึงสั่งระงับ "สุริยันต์ ทองหนูเอียด" ลั่นหากเมื่อไหร่พันธมิตรฯ เปลี่ยนกรุงเทพฯ และประเทศไทยได้ จะกลับมาเปลี่ยนเชียงใหม่ และผู้บริหาร มช.


 


เมื่อเวลา 12.00 วานนี้ (5 ต.ค.) กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.เชียงใหม่ ประมาณ 30 คน นำโดยนายสุริยันต์ ทองหนูเอียด ผู้ประสานงาน และ ศ.ดร.เฉลิมพล แซมเพชร ข้าราชการบำนาญ ได้เดินทางมายังหน้าสำนักงานอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อขอให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ชี้แจงกรณีสั่งยกเลิกไม่ให้กลุ่มพันธมิตรฯ ใช้หอศิลปวัฒนธรรม มช. จัดเสวนาอย่างกะทันหัน ซึ่งตามกำหนดการเดิมจะจัดขึ้น 11.00 น. ในวันที่ 5 ต.ค.


 


กระทั่งเมื่อเวลา 12.00 น. เศษ ทางด้านคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่นำโดย ผศ.ดร.พงษ์อินทร์ รักอริยธะรรม รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ ออกมาชี้แจงสาเหตุว่าการประกาศงดใช้สถานที่การเสวนาอย่างกะทันหันเป็นการตัดสินใจจาก ศ.ดร.พงษ์ศักดิ์ อังกะสิทธิ์ อธิการบดี ม.เชียงใหม่ เนื่องจากเกรงจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัย


 


ผศ.ดร.พงษ์อินทร์กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยสนับสนุนการจัดเวทีเสวนาทางวิชาการอยู่แล้ว โดยที่เวทีเสวนาทางวิชาการนี้จะต้องมีพื้นฐานในการช่วยสร้างความเข้าใจ และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายองค์กร สถาบัน หรือเกิดความเสียหายอันตรายต่อชีวิตทรัพย์สินไม่ว่าจะของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ตาม


 


ผศ.ดร.พงษ์อินทร์ ปฏิเสธด้วยว่าที่ยกเลิกการใช้สถานที่อย่างกะทันหันไม่ได้เกรงว่าพันธมิตรจะส่งเสียงรบกวนการเรียนการสอน แต่เป็นห่วงในเรื่องความปลอดภัยมากกว่า และเกรงว่าการเสวนาในครั้งนี้จะเป็นการยุแยงมากกว่าจะเป็นการสร้างความเข้าใจ ซึ่งจะกลายเป็นการผิดจุดประสงค์ไป


 


ด้านนายสุริยันต์ ทองหนูเอียด ผู้ประสานงานพันธมิตรเชียงใหม่ ได้กล่าวกับคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยว่า การจัดเสวนาของพวกเขาถือเป็นการใช้สิทธิในการแสดงความเห็นทางวิชาการ ไม่ได้มีเจตนายั่วยุ กลุ่มอื่นเขาจะมาหรือไม่มาก็ไม่ทราบ


 


ในส่วนของ ศ.ดร.เฉลิมพล แซมเพชร แกนนำพันธมิตรเชียงใหม่ ได้พูดกับ ตัวแทนคณะผู้บริหารฯ ว่า คิดว่าพื้นที่มหาวิทยาลัยเป็นพื้นที่เปิดกว้างสำหรับเสรีภาพในการแสดงความเห็นทางวิชาการ หากจัดที่มหาวิทยาลัยไม่ได้ก็ไม่ทราบจะไปจัดที่ไหนได้


 


ศ.ดร.เฉลิมพล ได้ตั้งข้อสังเกตอีกว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการตกลงอนุญาตให้ใช้สถานที่ได้ในนามองค์กรพัฒนาเอกชนภาคเหนือ แต่เมื่อมีการนำชื่อของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาร่วมด้วยก็มีการยกเลิก จึงถามกับตัวแทนคณะผู้บริหารฯ ว่า กลุ่มพันธมิตรฯ ก่อนหน้านี้ได้สร้างความเดือดร้อนอะไรไว้ ทำไมถึงไม่อนุญาตให้ใช้สถานที่ ซึ่งทางเลขานุการสภามหาวิทยาลัยก็ยืนยันว่าสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงความเห็นทางวิชาการ แต่การแสดงความเห็นนั้นต้องไม่นำมาซึ่งความเสียหาย ความเดือดร้อน


 


ต่อมานายบัณรส บัวคลี่ แกนนำพันธมิตรเชียงใหม่ ได้ถามว่า ถ้ากลุ่มพันธมิตรเชียงใหม่หรือพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกลุ่มใด ๆ จะมาขอใช้สถานที่จัดเสวนาวิชาการของมหาวิทยาลัย แล้วมีคนบอกว่าไม่ให้จัด จะมาทำร้าย มหาวิทยาลัยจะมีคำตอบอย่างไร หรือทางมหาวิทยาลัยจะประกาศเป็นมาตรฐานเลยว่าถ้าเป็นกลุ่มพันธมิตรฯ มาจะไม่ให้จัด


 


ศ.ดร. เฉลิมพล แซมเพชร ยังถามอีกว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ลงนามสนับสนุน "การเมืองใหม่" ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่ตอนนี้จะไม่ให้ใช้สถานที่จัดเสวนา การเซ็นชื่อสนับสนุนตอนนั้นเป็นการทำเพื่ออุดมการณ์หรือเป็นการลงนามตามกระแสกันแน่ ซึ่งทางด้าน ผศ.ดร.พงษ์อินทร์ ก็ตอบว่าการลงนามเป็นการลงนามในฐานะอธิการบดี 24 มหาวิทยาลัย ไม่ใช่ในนามของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถือเป็นการตัดสินใจของอธิการบดีเอง


 


ศ.ดร.เฉลิมพล ได้แย้งว่าแม้จะเป็นการลงชื่อในนามของอธิการบดีมหาวิทยาลัย แต่ในเชิงการบริหารถือว่าการลงนามมาจากการถามความเห็นของคนในสถาบันเดียวกันก่อนแล้ว การตอบเช่นนี้จึงถือเป็นการปัดความรับผิดชอบว่า นี่เป็นการตัดสินใจส่วนตัวของอธิการบดีคนอื่นไม่เกี่ยว


 


จากนั้น รศ.ดร.นพ.วัชระ รุจิเวชพงศธร รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร ก็ได้ขอให้ ทางกลุ่มพันธมิตรฯ ส่งตัวแทนมา 3 คน มาเจรจาเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันแต่ทางกลุ่มพันธมิตรปฏิเสธ โดยบอกว่าข้อเสนอดังกล่าวถือเป็นการแก้ปัญหาด้วยระบบตัวแทนอีกเหมือนเดิม ไม่มีใครเป็นตัวแทนของพันธมิตรฯ ได้ ทุกคนถือเป็นพันธมิตรฯ ร่วมกันหมด


 


นายบัณรส บัวคลี่ หนึ่งในแกนนำพันธมิตรเชียงใหม่ กล่าวต่อจากนั้นว่าปัญหาที่ต้องร่วมแก้มีเพียงอย่างเดียวคือเรื่องการใช้สถานที่จัดเสวนา อยากให้คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยช่วยกำหนดบรรทัดฐานที่ชัดเจนออกมาว่าแบบไหนถึงจะอนุญาตให้จัดได้


 


ทางด้าน รศ.ดร.นพ.วัชระ ยืนยันว่าหากไม่มีการคัดตัวแทนออกมาเจรจาก็จะมีการตั้งคำถามออกมาเรื่อย ๆ แล้วจะทำให้เกิดการใช้อารมณ์ พอใช้อารมณ์กันก็แก้ปัญหาอะไรไม่ได้ นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด ก็เสนอว่าให้ทางกลุ่มผู้ชุมนุมบอกข้อเสนอหรือข้อซักถามของตนมาก่อน


 


โดยทางคณะผู้บริหารฯ บอกว่าการไม่อนุญาตให้จัดเพราะเกรงความเสียหายที่จะเกิดขึ้น แต่ในประชาชนในกลุ่มพันธมิตรก็แย้งว่า กลุ่มพันธมิตรเป็นกลุ่มสันติที่ต้องการจะเปิดเวทีเพื่อสร้างความเข้าใจ โดยเขาได้กล่าวหาว่ามีอีกกลุ่มหนึ่งเป็นกลุ่มที่คิดจะมาตีอย่างเดียว ไม่มีเหตุผล ฉะนั้นการที่มหาวิทยาลัยไม่ยอมให้จัดแสดงว่ามหาวิทยาลัยไม่สามารถห้ามพวกเขามาตีเราได้


 


ผู้ชุมนุมฝั่งพันธมิตรฯ อีกคนออกมาถามต่อว่าทางคณะผู้บริหารฯ เอาบรรทัดฐานอะไรมาวัดว่าจะสามารถดูแลความสงบเรียบร้อย ได้หรือไม่ได้ เนื่องจากทางกลุ่มพันธมิตรได้ยื่นจดหมายไปขอกำลังเจ้าหน้าที่มาช่วยดูแลความปลอดภัยแล้ว จึงถือเป็นหน้าที่ของตำรวจในการป้องกันความสงบเรียบร้อย


 


ทาง ศ.ดร. เฉลิมพล แซมเพชร หันมาบอกกับผู้เข้าร่วมว่า เข้าใจความรู้สึกของผู้ที่ตั้งใจจะมาร่วมการเสวนาและต้องผิดหวัง ทางกลุ่มพันธมิตรเองก็ได้รับแจ้งมาอย่างกะทันหัน ซึ่งสาเหตุก็ดังที่คณะผู้บริหารฯ ชี้แจงไว้ ว่าเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ขณะเดียวกันก็บอกว่า มหาวิทยาลัยไม่ยอมให้จัด มหาวิทยาลัยไม่เห็นด้วยกับพันธมิตร ก็ถือว่าจบกันไป


 


ผศ.ดร.พงษ์อินทร์ แย้งว่าผู้บริหารไม่ได้เห็นหรือไม่เห็นด้วยกับพันธมิตรฯ แต่เนื่องจากมหาวิทยาลัยเปรียบเสมือนประเทศไทย ที่มีทั้งฝ่ายเห็นด้วย ฝ่ายไม่เห็นด้วย ฝ่ายเป็นกลาง และอื่นๆ ฉะนั้นจะบอกว่าคนๆ หนึ่งคิดอย่างหนึ่งแล้วเป็นกันทั้งมหาวิทยาลัยก็ไม่ใช่ นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า การเสวนาต้องเป็นการพูดคุยกันด้วยปัญญา ไม่ใช่แบ่งว่านี่เป็นฝ่ายหนึ่ง นี่เป็นอีกฝ่ายหนึ่ง


 


สุดท้าย ศ.ดร.เฉลิมพล แกนนำพันธมิตร หันมากล่าวขอบคุณกับแนวร่วมพันธมิตร และกล่าวว่าขออภัยที่ทำให้ต้องมาเสียเวลา ขณะที่นายสุริยันต์ ทองหนูเอียดประกาศว่าหากเปลี่ยนกรุงเทพฯ และเปลี่ยนประเทศไทยได้ จะกลับมาเปลี่ยนเชียงใหม่และเปลี่ยนผู้บริหารของมหาวิทยาลัยนี้เอง จากนั้นพันธมิตรเชียงใหม่จึงสลายการชุมนุมไป


 


ในขณะเดียวกันที่บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กลุ่มรักเชียงใหม่"51 ซึ่งเป็นฝ่ายคัดค้านแนวทางของพันธมิตรฯ ร่วม 200 คน ได้นำรถสี่ล้อแดงและขบวนรถตุ๊กตุ๊ก มาชุมนุมอยู่บริเวณทางเข้ามหาวิทยาลัยด้าน ถ.ห้วยแก้ว


 


ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ รปภ.ของมหาลัยเชียงใหม่ จึงปิดประตูด้านหน้าห้ามคนเข้าออก เพื่อไม่ให้ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน และทางฝ่ายต้านพันธมิตรได้นำเครื่องขยายเสียงผลัดกันขึ้นกล่าวปราศรัยโจมตีแนวทางของฝ่ายพันธมิตร และให้กำลังใจผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยทางกลุ่มรักเชียงใหม่"51 ได้สลายตัวไปอย่างสงบก่อนกลุ่มพันธมิตรเชียงใหม่เล็กน้อย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net