"อานันท์"ฟันธงจับ"จำลอง"จุดอุณหภูมิการเมืองร้อนแน่

เว็บไซต์สยามรัฐ - 5 ต.ค.51 นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความเห็นถึงกรณีการจับกุมพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อช่วงเช้าตอนไปลงคะเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ว่า เป็นการจุดไฟให้อุณหภูมิร้อนแรงขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งไม่ทราบว่า จะเกิดอะไรขึ้น

"สนธิ" ลั่น ไม่สยบต่อความชั่วร้าย รอพันธมิตรฯ ต่างจังหวัดสมทบ

เว็บไซต์แนวหน้า 5 ต.ค. 51 เมื่อเวลา 21.00 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพัธมิตร กล่าวบนเวทีปราศรัยว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 ต.ค.) ขอให้ผู้ร่วมชุมนุมรอฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์คดีคำร้องข้อหากบฏว่าจะออกมาเป็นอย่างไร และขอให้ประชาชนรอฟังคำสั่งจากแกนนำทั้ง 5 คน อย่างไรก็ตาม พันธมิตรฯ ในทำเนียบจะรอ พันธมิตรฯ ในต่างจังหวัดที่จะตามมาสมทบ เพราะเราจะไม่ยอมสยบต่อความชั่วร้าย และจะไม่ยอมต่อความไร้ศิลธรรมของรัฐบาลชุดนี้อีกต่อไป เราต้องรวบรวมจิตใจต่อสู้เพื่อไม่ให้การกระทำของ พล.ต.จำลอง และ นายไชยวัฒน์ สูญเปล่า  เราจะต้องเปลี่ยนน้ำตามาเป็นพลัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ นายสนธิ พูดจบ บนเวทีได้เปิดมิวสิควีดีโอ รวบรวมภาพของ พล.ต.จำลอง ระหว่างการร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ  จนทำให้ผู้ร่วมชุมนุมบางส่วนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

สำหรับบรรยากาศการชุมนุมในช่วงเย็นนั้น มีประชาชนจาก กทม. และต่างจังหวัด ทยอยเข้าร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่บริเวณภายในทำเนียบรัฐบาล และสะพานมัฆวารฯ อย่างหนาแน่นกว่าทุกวันที่ผ่านมา

พันธมิตรฯชูสภาประชาชน ตัวแทนจากรากหญ้า-NGOs

ผู้จัดการรายวัน - ช่วงบ่ายวานนี้ (5 ต.ค.) กลุ่มองค์กรแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้มีการประชุมสัมมนาเป็นปกติ สำหรับการเมืองใหม่ประชาภิวัตน์ ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4

โดยนายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ กล่าวถึงผลกระประชุมเกี่ยวกับรูปแบบใหม่ของสภาประชาชนว่า สภาประชาชน จะมีแนวคิดร่วมกันว่า ควรจะเป็นสภาที่มีอำนาจในการตรวจสอบ ประเมิน รวมถึงการถอดถอน ฟ้องร้องในกรณีคดีทุจริต หรือปํญหาทางการเมือง ต้องประเมินอำนาจฝ่ายรัฐที่ใช้ในทางไม่ชอบธรรม โครงสร้างต้องมาจากประชาชนจริงๆ ก็มีการจัดตั้ง ตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน ขึ้นสู่อำเภอ จังหวัด และจากจังหวัด สู่สภาประชาชน แต่ยังไม่ชัดเจนเรื่องรูปการแต่งตั้ง จะมีเสนออีกครั้ง ที่สำคัญคือ ลักษณะต้องมาจากประชนจริงๆ และนอกจากนั้นต้องมาจากองค์กรที่ได้รับการยอมรับจากเอกชนร่วมด้วย เมื่อเป็นสภาประชาชน ตัวแทนจากแต่ละจังหวัด จังหวัดละสองคน และก็มีองค์กรภาคประชาชนที่มาร่วมเป็นสภาที่ปรึกษา เป็นโครงสร้างกว้างๆ

นายกษิต ภิรมย์ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน ดีซี. กล่าวว่า การเสนอตัวประชาชน เสนอมาตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน เป็นตัวแทนระดับชาวบ้านแท้ๆ เลือกเข้ามา อีกส่วนที่เสนอเข้ามา คือ องค์กรภาคประชาชน มูลนิธิต่างๆ ที่มีภารกิจพัวพันกับชีวิตประชาชน ก็เสนอตัวแทนมานั่งในสภาประชาชนได้ เท่ากับตัวแทนสภาประชาชน จะมาจากสองทางด้วยกัน คือ รากหญ้า , องค์กรชุมชน ภาคประชาสังคม เกี่ยวกับทุกข์สุข ปากท้องประชาชน เป็นที่รู้จัก และจดทะเบียนเป็นทางการแล้ว คิดว่า สภาประชาชน จะเป็นตัวแทนตรงระดับรากหญ้า มีหน้าที่ควบคุมผู้ทำหน้าที่ในสภา ส่วนที่เคียงข้างกับสภาประชาชนนั้น จะมีสภาที่ปรึกษา เอาผู้ทรงคุณวุฒิในเมืองไทย เช่น นพ.ประเวศ วะสี มาให้คำแนะนำ เหมือนเป็นบุคคลที่เป็นที่มาความคิด ให้คำแนะนำกับสภาประชาชน ซึ่งอาจไม่จัดเจนเกี่ยวกับการเมือง หรือโลกาภิวัตน์ และให้การตรวจสอบถอดถอนผู้ทุจริตแน่นหนาในทางปฏิบัติ

นายบรรจง นะแส กล่าวถึงแนวทางการเสนอความเห็นเกี่ยวกับการแก้ปัญหาความยากจน ว่า ข้อสรุปเกี่ยวกับการเมืองใหม่ ต่อการแก้ปัญหาความยากจน เรามีห้ามาตรการ คือ ปัจจัยการผลิต การเมืองใหม่ เกษตรกรรายย่อยต้องมีที่ดินสิบไร่ ต่อครอบครัว รักษาแหล่งอาหารทางทะเล โดยขยายเขตน่านน้ำชายฝั่งจากสามกิโลเมตร เป็นสิบห้ากิโลเมตร เรื่องเกษตรกรที่เป็นหนี้สิน การเมืองใหม่มองว่าหนี้เกิดจากนโยบายของรัฐ เช่น กล้ายาง วัวพลาสติก หนี้สินเหล่านี้ต้องยกเลิก มาตรการที่ใช้คือมาตรการทางการคลัง การเมืองใหม่ เราเห็นด้วยกับการจัดระบบเก็บภาษีทางตรง ก้าวหน้า มรดก เพื่อนำมาเป็นสวัสดิการแก่คนจน และการเมืองใหม่ เพื่อให้กลุ่มคนจนปกป้องตัวเองได้ ต้องผลักดันให้เกิดกลุ่มอนุรักษ์ หรือสหกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิต จัดการผลผลิตให้รับความเป็นธรรม

นายสุริยะใส กล่าวปิดท้ายว่า เมื่อการประชุมจนได้ลักษณะการเมืองใหม่ที่ชัดเจนแล้ว จะมีการทำเอกสารเผยแพร่ต่อประชาชนต่อไป

แจงกทม.แชมป์ว่างงานเดือน ส.ค.1.9%

เดลินิวส์ - นางธนนุช ตรีทิพยบุตร เลขาธิการ สำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) เปิดเผยว่า ผลการสำรวจภาวการณ์ทำงานของประชากรล่าสุด ในเดือน ส.ค. 51 พบว่ามีผู้ว่างงานประมาณ 4.5 แสนคน คิดเป็นอัตราการว่างงานในภาพรวม  1.2% ลดลงจากเดือนก่อนหน้าประมาณ 40,000 คน โดยกรุงเทพฯมีอัตราการว่างงานสูงสุดถึง 1.9% หรือกว่า 5,000 คน รองลงมาคือภาคกลาง 1.4%, ภาคใต้ 1.2%, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1.0% และภาคเหนือ 0.9% ตามลำดับ

ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนพบ   ว่า อัตราการว่างงานในกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้น 0.3% ภาคใต้เพิ่มขึ้น 0.2% และภาคตะวันออกเฉียง เหนือ เพิ่มขึ้น 0.1% ขณะที่ภาคเหนือลดลง 0.2% และภาคกลางลดลง 0.1% โดยจำนวนผู้ว่างงานทั้งหมดเป็นผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อน 1.9 แสนคน และเป็นผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อน 2.6 แสนคน

นางธนนุช กล่าวด้วยว่า จากผลการสำรวจ สสช.ยังพบว่าผู้ที่จบการศึกษาในระดับอุดมศึกษาว่างงานสูงสุด 1.3 แสนคน รองลงมาเป็นผู้มีการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 1.2 แสนคน, ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 1.1 แสนคน, ระดับประถมศึกษา 60,000 คน และผู้ไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 30,000 คน

สำหรับผู้มีงานทำมีจำนวน 37.89 ล้านคน เป็นผู้ทำงานนอกภาคเกษตรกรรม 22.40 ล้านคนหรือ 59.1% และภาคเกษตรกรรม 15.49 ล้านคนหรือ 40.9% โดยผู้มีงานทำรวมเพิ่มขึ้น 4.9 แสนคน เป็นผู้มีงานทำนอกภาคเกษตรกรรมเพิ่มขึ้นในสาขาก่อสร้าง 1.9 แสนคน ขายส่งและขายปลีกเพิ่มขึ้น 1.8 แสนคน ขนส่งเพิ่มขึ้น 90,000 คน การบริหารราชการและการป้องกันประเทศเพิ่มขึ้น 70,000 คน การโรงแรมและ ภัตตาคารเพิ่มขึ้น 40,000 คน ส่วนการผลิตลดลง 2.9 แสนคน ที่เหลืออยู่ในสาขาอื่น

แบงก์เข้มธุรกิจค้าข้ามประเทศ แนะผู้ส่งออกปิดเสี่ยง "แอลซี"

เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - แบงก์ชี้ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศเสี่ยงจากความไม่น่าไว้ใจของสถาบันการเงินสหรัฐและความเสี่ยงจากประเทศคู่ค้า แนะลูกค้าส่งออกปิดความเสี่ยงความผันผวนในตลาดการเงินโลก หวั่นเปิดแอลซีกับแบงก์มีปัญหา ระบุความเสียหายจากปัญหาสถาบันการเงินสหรัฐเกิดขึ้นเพียง 70% ทำให้ภาพรวมเสียหายยังไม่ชัดเจน

ดร.วิวัฒน์ กิตติพงศ์โกศล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในขณะนี้ธนาคารได้เพิ่มความระมัดระวังในการขยายสินเชื่อมากขึ้น โดยจะต้องพิจารณาความเสี่ยงจากประเภทของธุรกิจและผลกระทบของประเทศคู่ค้าด้วย เนื่องจากอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มว่าจะทำธุรกิจลำบากมากขึ้นได้แก่ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ

โดยเฉพาะกลุ่มการส่งออกที่แม้ว่าจะยังมีการส่งออกเป็นปกติแต่ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นจากปัญหาความน่าเชื่อถือของสถาบันการเงินในสหรัฐ ซึ่งธนาคารได้แนะนำให้ลูกค้าเลือกเปิดแอลซีกับธนาคารต่างประเทศที่น่าเชื่อถือ แต่ปัญหาคือในขณะนี้ไม่สามารถรู้ได้ว่าธนาคารดังกล่าวจะล้มตามสถาบันการเงินแห่งอื่นอีกหรือไม่

ขณะที่กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมเริ่มมีปัญหาจากนักท่องเที่ยวที่หายไป ซึ่งธุรกิจนี้จำเป็นต้องพึ่งภาคต่างประเทศเป็นหลัก นอกจากนี้กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ยังเป็นอีกกลุ่มที่ต้องเริ่มชะลอการลงทุนให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ โดยประเด็นที่น่ากังวลคือภาวะทางการเงินระหว่างลูกค้าที่อาจมีปัญหาเงินตึง เพราะสภาพคล่องถูกดูดไปหมดทำให้ลูกค้าต้องเพิ่มความระมัดระวังการทำธุรกิจกับคู่ค้าและระวังต้นทุนที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามธนาคารเพิ่มความระมัดระวังในลูกค้าใหม่ที่ยังไม่เคยมีประวัติ แต่หากเป็นลูกค้าเก่าก็ยังดูแลตามปกติ

"ทุกแบงก์ระวังสินเชื่อใหม่พอสมควร เพราะสถานการณ์ยังไม่ชัดเจน ทุกคนก็กลัวเอ็นพีแอลเพราะเห็นสัญญาณจากต่างประเทศแล้วต้องรีบระวังพยายามดูแลผู้ประกอบการที่ถูกกระทบว่าขายของไปจะเก็บเงินได้หรือไม่ ไหนจะกำลังซื้อลดลงอีก กลายเป็นเจอ 2 เด้ง แต่ธนาคารก็ยังปล่อยสินเชื่อเป็นปกติและไม่ได้ตัดวงเงิน เพียงแต่เลือกมากขึ้น"

ทางด้านนายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ในขณะนี้ลูกค้าส่งออกของธนาคารได้หันมาเปิดแอลซีกันมากขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการส่งสินค้าไปแล้วไม่ได้เงิน รวมทั้งลดระยะเวลาการชำระค่าสินค้าให้สั้นขึ้นในบางประเทศ จากเดิมที่ธุรกิจนำเข้าส่งออกจะใช้วิธีการส่งของไปก่อนแล้วค่อยเรียกเก็บค่าสินค้า (Open Account) ซึ่งธนาคารแนะนำว่าลูกค้าสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนสูงควรเรียกเก็บเงินล่วงหน้า (Advance Payment) หรือควรเพิ่มการป้องกันความเสี่ยงด้วยการเปิด Confirm L/C กับธนาคารในประเทศ เพื่อให้แน่ใจว่าหากสถาบันการเงินที่เปิดแอลซีไว้มีปัญหาจะได้รับการชำระค่าสินค้าจากธนาคารในประเทศแทน

ทั้งนี้สถานการณ์วิกฤติการเงินสหรัฐเดินทางมาถึง 70% ของปัญหาเท่านั้น ยังมีโอกาสที่จะเกิดความเสียหายขึ้นได้อีกถึง 30% และบางธนาคารอาจจะต้องควบรวมหรือล้มละลายอีกได้ ดังนั้นแม้ว่าธุรกรรมที่ทำไว้อาจจะได้รับชำระหนี้ตามกฎหมาย แต่ก็ต้องใช้เวลา ซึ่งเอสเอ็มอีอาจจะขาดสภาพคล่องได้ ขณะเดียวกันในแง่ความน่าเชื่อถือระหว่างคู่ค้านั้น ผู้ประกอบการจะต้องเพิ่มความระวังมากขึ้นทั้งคู่ค้าเก่าที่อาจจะชำระล่าช้า หรือคู่ค้าใหม่ที่ต้องตรวจสอบว่าเคยมีประวัติเป็นหนี้เสียหรือไม่ และเป็นธุรกิจของสัญชาติใด เพราะในบางประเทศเริ่มมีปัญหาที่คู่ค้าชำระล่าช้าแล้วเช่นประเทศเวียดนาม หรืออินเดีย

นายทรงพลกล่าวว่า ปัญหาระบบการเงินโลกที่ทำให้สภาพคล่องหายไปโดยเฉพาะดอลลาร์ แต่เชื่อว่าในช่วงสั้นประเทศไทยยังไม่ได้รับผลกระทบ เพราะในประเทศยังมีสภาพคล่องรูปเงินบาทเพียงพอ ซึ่งผู้ประกอบการที่มีเงินกู้ต่างประเทศอาจจะมีปัญหาได้จึงควรหาเงินกู้ในรูปเงินบาทให้มากขึ้นพอสมควร และควรเปิดวงเงินกับธนาคารพาณิชย์ไว้หลายๆ ธนาคารเพื่อรองรับความแน่นอน ขณะเดียวกันผู้ที่เคยกู้เงินระยะสั้นเพราะดอกเบี้ยถูกก็ควรหันมากู้ระยะกลางมากขึ้น แม้ต้นทุนจะเพิ่มขึ้นก็ตาม แต่ทั้งนี้ต้องพิจารณาทางเลือกให้เหมาะสมกับโครงสร้างทางการเงินของตัวเอง

ผู้นำเกาหลีเหนือปรากฎตัวครั้งแรก

เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า คิม จองอิล ผู้นำเกาหลีเหนือ ปรากฏตัวเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 เดือน ด้วยการเดินทางไปชมการแข่งขันฟุตบอลของมหาวิทยาลัยคิมอิลซุง ซึ่งตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่บิดาของเขา โดยเขาเดินทางไปพร้อมกับนักการเมืองระดับสูงหลายคนของเกาหลีเหนือ อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวไม่ได้ระบุว่า อาการป่วยของคิม ซึ่งมีรายงานเส้นเลือดในสมองแตกเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานั้น ขณะนี้อาการเป็นอย่างไร

ด้าน คิม โฮเนียน โฆษกกระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ กล่าวที่กรุงโซลว่า เขาได้รับรายงานเกี่ยวกับการเดินทางไปชมการแข่งขันฟุตบอลของผู้นำเกาหลีเหนือ แต่ไม่มีข้อมูลมากกว่านั้น ขณะที่เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้คนอื่นๆ กล่าวว่า คิมมีอาการดีขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

คิม จองอิล ผู้นำเกาหลีเหนือ วัย 66 ปีไม่ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณชนนับตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว และไม่ได้เดินทางมาร่วมงานครบรอบ 60 ปีแห่งการก่อตั้งประเทศเกาหลีเหนือ รวมถึงเทศกาลขอบคุณพระเจ้าของชาวเกาหลีเหนือ ท่ามกลางข่าวลือเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพ