นายกฯชี้ถวายฎีกาขออภัยโทษ"แม้ว" คนอื่นทำแทนไม่ได้
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวเมื่อวันที่ 2 พ.ย.ว่า ตนรู้สึกสบายใจและดีใจ ที่การโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาที่รายการ"ความจริงวันนี้สัญจร"เมื่อวานนี้ (1 พ.ย.) เป็นไปอย่างเรียบร้อยดี ทั้งนี้ หากมีการนำเทปบันทึกภาพดังกล่าวมาฉายซ้ำ ก็ถือเป็นวิจารณญาณของผู้ดำเนินรายการ แต่หากพูดถึงในทางที่ดี ก็เป็นเรื่องดี ส่วนตนนั้น ไม่ได้ดู เพราะเพิ่งจะกลับมาจากต่างจังหวัด

เมื่อถามถึง การรวบรวมรายชื่อประชาชน เพื่อถวายฎีกาขออภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ นายสมชาย ปฏิเสธว่า ไม่ทราบเรื่อง แต่ตามหลักการแล้ว ไม่สามารถให้บุคคลอื่นยื่นถวายฎีกาแทนได้

ทบ.ปัดออกความเห็น"ทักษิณ"โฟนอินหมิ่นสถาบันหรือไม่
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวเมื่อวันที่ 2 พ.ย. ถึงการที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  โฟนอินมาทางรายการความจริงวันนี้สัญจร  เมื่อคืนวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา  ว่า  ในส่วนของทหาร ยังไม่มีออกมาแสดงความคิดว่า คำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ หมิ่นสถาบันหรือไม่ เพราะการออกมาวิพากษ์วิจารณ์จะทำให้มองว่า ทหารเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ซึ่งล่าสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการกองทัพบก (ผบ.ทบ.)  ก็ไม่ได้สั่งการอะไรลงมา

สภาทนายโยนศาลวินิจฉัยคำพูด"แม้ว"ขอรวมข้อมูลก่อน
วันเดียวกัน นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ กล่าวถึงคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ  ซึ่งโฟนอินรายการความจริงวันนี้สัญจร  ว่า ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของศาลว่า จะตรวจสอบข้อมูลเข้าข่ายหมิ่นศาลหรือไม่   ทั้งนี้  สภาทนายความมีหน้าที่ชี้แนะให้ประชาชนได้รับทราบเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ กำลังรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเพื่อนำมาตรวจสอบว่า มีคำพูดที่หมิ่นเหม่หรือไม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้เคยแถลงการณ์ประณามไปแล้ว

ปชป.จวก "แม้ว"  ดึง 2 สถาบันหลักเข้าสู่ความขัดแย้ง

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์แถลงถึงผลการจัดงานความจริงวันนี้สัญจรต้านรัฐประหาร ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ว่า ทางพรรคดีใจที่ไม่มีเหตุร้ายแรงหรือความวุ่นวายเกิดขึ้น แต่ช่วงที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โฟนอินเข้ามาพร้อมกับมีการฉายวีดีทัศน์นั้น มีความพยายามดึงเอา 2 สถาบันหลัก คือสถาบันตุลาการ และสถาบันที่ไม่ได้อยู่ข้างมวลชนเข้ามาสู่ปัญหาความขัดแย้ง ทางพรรคเห็นว่าพ.ต.ท.ทักษิณสมควรได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรมเช่นเดียวกับคนไทยทุกคน รวมไปถึงทรัพย์สินที่ถูกอายัดไว้ หากพิสูจน์ได้ว่า ไม่ใช่ได้มาโดยทุจริตก็สมควรได้รับคืน

ส่วนการขอพระเมตตาจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น ทางพรรคเห็นว่าเป็นการกระทำที่พยายามแสดงออกถึงความจงรักภักดี แต่การขอพระราชทานอภัยโทษนั้นต้องเกิดขึ้นหลังจากยอมรับโทษก่อน ต้องยอมต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม เพราะสามารถใช้สิทธิ์อุทธรณ์ในคดีที่ดินรัชดาได้ภายใน 30 วันตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว

อดีต ส.ว. เชื่อ"วีระ"เตี๊ยม"ทักษิณ"คุย"ราชประชาสมาสัย"
นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)  กล่าวถึงแนวคิดราชประชาสมาสัย  ซึ่งเป็นหัวข้อสนทนา ระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร  และนายวีระ มุสิกพงษ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ  (นปช.) บนเวทีรายการ"ความจริงวันนี้สัญจร" ซึ่งจัดขึ้นที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่  1 พ.ย. ที่ผ่านมา  โดยเชื่อว่า มีการตระเตรียมกันระหว่างผู้ดำเนินรายการ กับอดีตนายกฯ เนื่องจาก นายวีระ เป็นผู้เริ่มกล่าวถึงคำว่า ราชประชาสมาสัย ระหว่างการสนทนาในรายการ โดยไม่มีการอธิบายขยายความ จึงทำให้มีการตีความไปต่างๆ นานา

อย่างไรก็ตาม นายเจิมศักดิ์ กล่าวว่า  แนวคิดราชประชาสมาสัย  เป็นแนวทางที่เคยใช้ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างประชาชนกับพระเจ้าแผ่นดิน ในการแก้ปัญหาวิกฤตของชาติ ไม่ใช่นำมาแก้ปัญหาส่วนตัวของนักการเมืองที่กระทำผิดกฎหมายบ้านเมืองและหนีคดี ไม่ยอมรับคำพิพากษา ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง  ขณะเดียวกัน เห็นว่า การที่พ.ต.ท.ทักษิณ หนีคดีและวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการยุติธรรม ทำให้สังคมต้องตั้งข้อสงสัยถึงเจตนาของพ.ต.ท.ทักษิณ มากยิ่งขึ้น

"อเนก"เตือน"แม้ว"เลิกใช้อิทธิพล-เจตนาหมิ่นเบื้องสูง
นายอเนก เหล่าธรรมทัศน์ อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์   กล่าวเมื่อวันที่ 2 พ.ย.  ถึงแนวคิดราชประชาสมาสัย  ซึ่งเป็นหัวข้อสนทนา ระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร  และนายวีระ มุสิกพงษ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ  (นปช.) บนเวทีรายการ"ความจริงวันนี้สัญจร" ซึ่งจัดขึ้นที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่  1 พ.ย. ที่ผ่านมาว่า  แม้ทั้ง 2  คน จะไม่ได้พูดในรายละเอียด แต่ทำให้เข้าใจได้ว่า จะมีการเคลื่อนไหวถวายฎีกา เพื่อให้เกิดการพระราชทานอภัยโทษ   ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ยังหลบหนีคดีต่างๆ อีกหลายคดี

นายอเนก กล่าวต่อว่า อยากเรียกร้อง พ.ต.ท.ทักษิณ  ปฏิบัติตามคำพิพากษา และเลิกใช้อิทธิพลสร้างเงื่อนไขทางการเมืองอย่างที่กระทำอยู่ รวมทั้งต้องไม่กระทำการใดๆ ที่ทำให้สังคมเห็นว่า มีเจตนาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง อย่างที่สมาชิกและแกนนำ นปช.กระทำในช่วงที่ผ่านมา จนมีหมายจับจากตำรวจ ซึ่งการกระทำเหล่านี้  ล้วนสร้างความสงสัยให้กับสังคมเป็นอย่างมาก

"จำลอง"ชี้"ทักษิณ"โฟนอินส่งสัญญาณเดินหน้าลุย

2 พ.ย. ทำเนียบรัฐบาล ห้องสื่อมวลชน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ ได้ออกมาแถลงข่าวกรณีข้อเสนอการเจรจาหาข้อยุติของกลุ่มสานเสวนา โดย พล.ต.จำลอง กล่าวว่า พันธมิตรฯเห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว แต่ในการหารือต้องเป็นการหารือเฉพาะฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยตรง ระหว่างรัฐบาลและพันธมิตรฯ เท่านั้น เพราะหากการเจรานำเอากลุ่มอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องมาเจรจาก็จะเสียเวลา

ส่วนตัวบุคคลที่จะเป็นผู้มาเจรจาพันธมิตรฯ ไม่เกี่ยงว่าใครเป็นผู้มาเจรจา โดยพันธมิตรฯพร้อมรับการเจรจาทั้งนั้น อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ติดต่อขอเจรจาจากลุ่มใดทั้งสิ้น ทั้งนี้ในการเจรจาทางพันธมิตรฯจะยึดกรอบแนวทางของพันธมิตร โดยจะมีการหารือกับแกนนำเพื่อกำหนดแนวทางต่อไป

"เราไม่เห็นด้วย ที่มีการเสนอให้มีทหาร และนักวิชาการ เข้ามาด้วย เราเห็นว่าหากจะมีการเจรจาน่าจะเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องโดยตรง " พลตรีจำลอง กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการประเมินสิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่พูดผ่านรายการ "ความจริงวันนี้สัญจร " เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมาต่อผู้ชุมนุม ว่าเป็นการพูดเพื่อสู้หรือถอย พล.ต.จำลอง กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาเมื่อใดก็ได้ ซื้อตั๋วเครื่องบินแล้วก็กลับมาได้เลยไม่ต้องอาศัยพระบารมีฯก็กลับมาได้ ศาลได้ตัดสินไปภายใต้พระปรมาภิไธยอยู่แล้ว

นายพิภพ กล่าวว่า พันธมิตรฯขอประณามนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯที่ไม่ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีและขาดความรับผิดชอบที่จะทำให้บ้านเมืองสงบสุข เพราะการรวมพลของคนเสื้อแดงและการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความวุ่นวาย นอกจากนี้ยังเป็นการปล่อยให้คนที่เป็นนักโทษหนีหมายศาลมาโฟนอินโดยใช้คลื่นความถี่ที่รัฐดูแลอยู่พูดกับประชาชนในที่สาธารณะ โดยเมื่อวานนี้เป็นเครื่องสะท้อนการทำหน้าที่ของนายกฯ เพราะนักโทษไม่มีสิทธิที่จะพูดในที่สาธารณะและคำพูดจ้องทำลายความเป็นธรรมสถาบันตุลาการ

นายพิภพ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในการโฟนอินมีการดึงเอาสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า จะกลับมาประเทศไทยได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับพระบารมี ฯซึ่งการพูดเช่นนี้เป็นการทำให้เกิดความเสียหาย ต่อกระบวนการยุติธรรม และ เป็นการดึงเอาสถาบันมาเกี่ยวกับคดีความของตนซึ่งตัดสินไปแล้ว ทางกลุ่มพันธมิตรฯได้ประเมินท่าทีของ พ.ต.ท.ทักษิณตั้งแต่มีคำพิพากษาจนถึงการโฟนอินเมื่อวันที่ 1 พ.ย.แล้วว่า เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ยุติการต่อสู้ โดยจะดำเนินการตามแนวทางที่จะทำได้ตนเองพ้นผิดอย่างต่อเนื่อง

 "การพูดของอดีตนายกรัฐมนตรีถือเป็นการส่งสัญญาณให้รากหญ้าออกมาเคลื่อนไหวเพื่อให้มีการถวายฎีกาขอพระราชทาน อภัย โทษ และยังให้รัฐบาลที่เป็นตัวแทนเคลื่อนไหวแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เพื่อไม่ให้มีมาตราเกี่ยวกับความผิดปรากฏอยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ซึ่งจะนำไปสู่การออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมพ.ต.ท.ทักษิณและอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 11 คน นี่คือการต่อสู้ที่ไม่สิ้นสุดของพ.ต.ท.ทักษิณ" นายพิภพ กล่าว

นายพิภพ ยังได้เรียกร้องให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ออกมาแสดงความชัดเจนกรณีที่มีภาพบุคคลที่มีหน้าตาคล้ายนายกรัฐมนตรี พาผู้หญิงไปรับประทานอาหาร ว่า ทางกลุ่มเด็กและสิทธิสตรี ได้เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีออกมาปฏิเสธหรือยอมรับ กับภาพที่ปรากฏ ทั้งนี้เพราะถือเป็นเรื่องกระทบกับสถาบันครอบครัว โดยกระทบความซื่อสัตย์ที่ต้องมีต่อครอบครัว เพราะนายกรัฐมนตรีไม่ใช่คนธรรมดา ไม่ใช่หัวหน้าครอบครัวทั่วไป แต่เป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งต้องมีมาตรฐานทางจริยธรรม

"สัก" เหน็บ "แม้ว" หว่านเงินรากหญ้า ล่ารายชื่อถวายฎีกา

นายสัก กอแสงเรือง อดีตโฆษกคณะกรรมการตรวจสอบที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการความจริงวันนี้สัญจรที่จัดในสนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน โดย พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่าศาลไม่มีความเป็นธรรมในการตัดสินคดีที่ดินรัชดาฯ และต้องใช้กรรมที่ตัวเองที่ไม่ได้ก่อว่า อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปอ่านคำพิพากษา แล้วก็จะรู้ว่าใครเป็นผู้ก่อกรรมขึ้นมา ถ้าหากพบว่าไม่มีความผิด ศาลคงลงโทษไม่ได้ เพราะศาลถือว่าเป็นผู้ที่ชี้กรรม อย่างไรก็ดี ตนอยากให้คนที่มีอำนาจในกระบวนการยุติธรรมออกมาชี้แจงต่อประชาชนด้วยว่าประชาชนจะพึ่งกระบวนการยุติธรรมได้หรือไม่

นายสัก กล่าวอีกว่า ถ้าหากศาลไม่มีความยุติธรรม ทำไมโพลส่วนใหญ่ก็ยังมั่นใจในความยุติธรรมของศาล และโพลยังเห็นว่าประชาชนเห็นด้วยกับการที่จะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับเข้ามาต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม ตนเข้าใจดีคนที่เป็นจำเลยมักจะไม่เชื่อคำตัดสินของศาล เหมือนคนที่ถูกจำคุกแล้วบอกว่าไม่ได้ทำ โดนกลั่นแกล้ง ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ที่ถูกดำเนินคดีจะเป็นแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ

 "ถ้าท่านไม่เชื่อในกระบวนการยุติธรรม แล้วทำไมท่านจึงใช้กระบวนการยุติธรรมฟ้อง คตส.ตั้งหลายคดี นอกจากนี้ ท่านยังพึ่งทนาย ที่ปรึกษากฎหมายของท่านในการฟ้องร้องคนอื่น อยากถามว่า ถ้ากระบวนการไม่เป็นธรรม ที่ท่านบริหารงานมา 6 ปี แล้วได้ทำเป็นกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ หากท่านอยากต่อสู้ท่านก็ถวายฎีกาได้ แล้วทำไมไม่ทำ คนมีเงินทำอะไรก็ได้สามารถเกณฑ์คนมาล่ารายชื่อให้ได้รับความเป็นธรรมก็ได้" นายสัก กล่าว

อดีตโฆษก คตส.กล่าวอีกว่า ในกระบวนการยุติธรรม ตนอยากให้ผู้ที่มีอำนาจอย่าง รมว.ยุติธรรม รมว.ต่างประเทศ ต้องออกมาทำหน้าที่ และอยากถามว่า รู้สึกอย่างไรที่มีคนมาบอกว่าไม่ได้รับความยุติธรรมจากกระบวนการยุติธรรม หรือจะปล่อยละเลยอย่างนี้ให้ต่างประเทศมองว่าประเทศไทยไม่มีขื่อมีแปหรืออย่างไร

ด้าน นายอุดม เฟื่องฟุ้ง อดีต คตส.กล่าวว่า ตนออกความเห็นในเรื่องนี้ไม่ได้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะพูดอะไรเป็นเรื่องของท่าน ส่วนจะพูดผิดหรือพูดถูก ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเอง ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าคนที่จะสามารถเอาตัวเองกลับมาเมืองไทยได้ คือ สถาบันสูงสุด และประชาชนนั้น นายอุดม กล่าวว่า มวลชนไม่สามารถมีสิทธิอยู่เหนือศาล

เรียบเรียงจาก: มติชนออนไลน์, เว็บไซต์แนวหน้า, เว็บไซต์คมชัดลึก, ผู้จัดการออนไลน์