Skip to main content
sharethis

8 พ.ย. 51 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกประกาศพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ฉบับที่ 13/2551 จุดยืนต่อกรณีการเปิดเส้นทางถนนราชดำเนิน โดยระบุว่าสืบเนื่องจากการเปิดถนนราชดำเนินเนื่องในวันปิยมหาราชเพื่อร่วมแสดงความจงรักภักดี อันเป็นจุดยืนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาโดยตลอด กลับปรากฏว่าต้องเผชิญกับการก่อกวนถึง 9 ครั้ง


 


"อันธพาลของรัฐบาลกลับใช้เจตนารมณ์ในความจงรักภักดีของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาเป็นโอกาสในการทำร้ายร่างกาย และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนที่เข้ามาร่วมชุมนุมด้วยอาวุธสงครามรายวัน โดยที่เจ้าหน้าที่รัฐและตำรวจไม่สามารถคุ้มครองความปลอดภัยของพี่น้อง ประชาชน และไม่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดก่อวินาศกรรมทำร้ายพี่น้องประชาชนผู้ใช้ สิทธิในการชุมนุมเพื่อพิทักษ์รักษา ชาติ ราชบัลลังก์ และประชาชนได้ โดยปรากฏเหตุการณ์หลังการรื้อเวทีถาวรที่สะพานมัฆวานรังสรรค์"


 


ในประกาศยังประณามกลุ่มที่พันธมิตรเรียกว่า "อันธพาลของรัฐบาล" ที่ได้ทำร้าย เข่นฆ่า พี่น้องประชาชนที่ต้องการแสดงความจงรักภักดีด้วยอาวุธสงครามและถือว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความบกพร่องต่อหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่สามารถ ระงับ ปราบปราม หรือจับกุม ผู้กระทำความผิดได้


 


อย่างไรก็ตาม ในท้ายประกาศ พันธมิตรยังคงยืนยันว่า พร้อมที่จะเปิดเส้นทางถนนราชดำเนินนอกทั้ง 6 ช่องทางจราจรในระหว่างวันที่ 14 - 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 เพื่อยืนหยัดแสดงความจงรักภักดีจนถึงที่สุด แม้ว่าจะได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ขบวนเสด็จพระราชดำเนินได้เปลี่ยนไปใช้เส้นทางผ่านถนนหลานหลวงแทนเส้นทางถนนราชดำเนินแล้วก็ตาม


 


0 0 0


 


ประกาศพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ฉบับที่ 13/2551


จุดยืนต่อกรณีการเปิดเส้นทางถนนราชดำเนิน


     


 


      ตามที่แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้มีมติตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2551 ที่จะรื้อเวทีบริเวณเวทีมัฆวานรังสรรค์ทันที และรื้อเต้นท์บน ถนนราชดำเนินออกทั้งหมด เพื่อเปิดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินทั้ง 6 ช่องทาง เพื่อแสดงความจงรักภักดี ตามหมายกำหนดการพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในระหว่างวันที่ 14 - 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551


     


      ต่อมา แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เห็นว่าวันปิยะมหาราชเป็นวันสำคัญ จึงได้ประกาศในวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2551 เพื่อที่จะทำการเริ่มรื้อเวทีถาวรที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ออกทั้งหมด รื้อเต้นท์ออก และเปิดเส้นทางถนนราชดำเนินนอก 6 ช่องทางจราจร ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2551 เพื่อเปิดเป็นเส้นทางเด็จพระราชดำเนินในวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2551 เนื่องในวันปิยะมหาราช และเพื่อให้นักเรียน ทหาร ข้าราชการ และประชาชนทั่วไป ได้ใช้เส้นทางดังกล่าวในการถวายบังคมแด่อนุสาวรีย์พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ หัว ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 หรือพระบรมรูปทรงม้าในวันดังกล่าว และเป็นมโนสำนึกของฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเองในการเปิดเส้นทาง ถนนราชดำเนินนอก


     


      นอกจากนั้นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยังเตรียมตั้งโต๊ะหมู่ บูชา พร้อมทั้งจัดเตรียมแถวของประชาชนให้เป็นพสกนิกรที่เข้าเฝ้าด้วยความจงรักภักดีสูงสุดในวันที่มีขบวนเสด็จพระราชดำเนินผ่านถนนเส้นดังกล่าว เพื่อแสดงความจงรักภักดีสูงสุดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นจุดยืนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาโดยตลอด


     


      อย่างไรก็ตามการแสดงเจตนารมณ์ในการแสดงความจงรักภักดีของพันธมิตร ประชาชนเพื่อประชาธิปไตยดังกล่าวนั้น อันธพาลของรัฐบาลกลับใช้เจตนารมณ์ในความจงรักภักดีของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาเป็นโอกาสในการทำร้ายร่างกาย และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนที่เข้ามาร่วมชุมนุมด้วยอาวุธสงครามรายวัน โดยที่เจ้าหน้าที่รัฐและตำรวจไม่สามารถคุ้มครองความปลอดภัยของพี่น้อง ประชาชน และไม่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดก่อวินาศกรรมทำร้ายพี่น้องประชาชนผู้ใช้ สิทธิในการชุมนุมเพื่อพิทักษ์รักษา ชาติ ราชบัลลังก์ และประชาชนได้ โดยปรากฏเหตุการณ์หลังการรื้อเวทีถาวรที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ดังต่อไปนี้


     


      1. วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2551 ในขณะที่อยู่ระหว่างการรื้อสิ่งกีดขวางการจราจร ปรากฏว่า มีรถตู้สีขาวมาขว้างระเบิดที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้


     


      2. วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2551 เวลา 03.20 น.คนร้ายขว้างระเบิดเอ็ม 79 เข้าใส่การ์ดพันธมิตรฯ ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ทำให้การ์ดของพันธมิตรฯ ได้รับบาดเจ็บ 9 คน บาดเจ็บรุนแรงต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลวชิระ 6 คน บาดเจ็บสาหัส 2 คน และจนถึงขณะนี้ยังคงอยู่ในห้องไอซียู 1 คน


     


      3. วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2551 เวลา 04.25 น. คนร้ายได้ปีนแนวกั้นของตำรวจด้านหลังกองบัญชาการตำรวจนครบาล แล้วยิงปืนเข้าใส่การ์ดของพันธมิตรฯ บริเวณใกล้สี่แยกมิสกวัน และในตอนเช้าพบชายชุดดำนอนเสียชีวิตอยู่ข้างกำแพงกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งตำรวจนอกจากจะไม่สามารถคุ้มครองประชาชนได้แล้ว ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้แต่ประการใด


     


      4. วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2551 เวลาประมาณ 02.00 น. มีการปาระเบิดควันเข้าใส่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์อีกครั้ง โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้


     


      5. วันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 เวลาประมาณ 02.30 น. มีชายฉกรรจ์ 5 คน ขับรถมาและตะโกนด่าทอบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ และยิงปืนใส่การ์ดของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หลังจากนั้นพยายามขับรถหนีแต่ถูกสกัดจับไว้ได้


     


      6. วันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 เวลาประมาณ 02.00 น. มีการยิงระเบิดเข้าใส่ด่านตรวจบริเวณสะพานอรทัยห่างจากการ์ดของพันธมิตร เพียง 3 เมตร โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้แต่ประการใด


     


      7. วันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 เวลาประมาณ 01.00 น.เกิดเหตุระเบิดขึ้น 2 ครั้ง บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ด้านฝั่งหน้าตึกอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ และบริเวณถนนเรียบคลองผดุงกรุงเกษม ด้านข้างรั้วกระทรวงศึกษาธิการในเวลาไล่เลี่ยกัน ขณะเกิดเหตุระเบิดมีกลุ่มควันสีขาวขนาดใหญ่และมีเสียงดังทั่วบริเวณเสียง คล้ายประทัดยักษ์ โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้อีกเช่นกัน


     


      8. วันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 เวลาประมาณ 04.00 น.มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด บริเวณถนนข้างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ติดกับ โรงเรียนเบญจมบพิตร และต่อมามีเสียงปืนดังขึ้นอีก 2-3 นัด บริเวณถนนอีกด้านของคลองตรงข้ามกับ สำนักงาน ป.ป.ช. โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้แต่ประการใด


     


      9. วันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 มีการปาระเบิดเข้าไปในเต็นท์นอนของการ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ภายในทำเนียบรัฐบาล มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้อีกเช่นกัน


     


      พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขอประณามอันธพาลของรัฐบาลที่ได้ทำร้าย เข่นฆ่า พี่น้องประชาชนที่ต้องการแสดงความจงรักภักดีด้วยอาวุธสงคราม


     


      และถือว่าการที่เกิดเหตุการณ์ก่อวินาศกรรม ก่อกวน และทำร้ายพี่น้องประชาชนด้วยอาวุธสงครามทั้ง 9 ครั้ง ภายหลังจากที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีความประสงค์ที่จะแสดงความจงรักภักดีนั้น เป็นความบกพร่องต่อหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่สามารถ ระงับ ปราบปราม หรือจับกุม ผู้กระทำความผิดได้


     


      อย่างไรก็ตาม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ยังยืนยันอีกครั้งว่า พร้อมที่จะเปิดเส้นทางถนนราชดำเนินนอกทั้ง 6 ช่องทางจราจร เมื่อได้รับแจ้งว่าจะมีขบวนเสด็จพระราชดำเนิน ในระหว่างวันที่ 14 - 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 เพื่อยืนหยัดแสดงความจงรักภักดีจนถึงที่สุด


     


      ต่อมาเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ขบวนเสด็จพระราชดำเนินได้เปลี่ยนไปใช้เส้นทางผ่านถนนหลานหลวงแทนเส้นทางถนน ราชดำเนินแล้ว


     


      จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน


 


 


     


      ประกาศ ณ วันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551


     


      พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net