Skip to main content
sharethis

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ มหานครเตรียมแถลงความชัดเจนวันนี้ ส่วนบรรยากาศภายในพรรคประชาธิปัตย์ เต็มไปด้วยความตึงเครียด แย้มอาจส่ง ม.ร.ว. สุขุมพันธ์ บริพัตร หรือนายกรณ์ จาติกวณิช ลงชิงตำแหน่งแทน


 


รายงานข่าวจากเว็บไซต์มติชน ระบุว่า ภายหลังจากที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อพิจารณาชี้ขาดคดีทุจริตการจัดซื้อรถดับเพลิง เรือดับเพลิง และอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยของกรุงเทพมหานคร (กทม.) มูลค่ากว่า 6,600 ล้านบาทนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติเอกฉันท์ชี้ว่า นายอิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการ กทม.มีความตามผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดในการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ กรณีสั่งเปิดแอลซี (L/C-Letter of Credit) กับธนาคารกรุงไทยเพื่อชำระเงินบริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเซียล ฟาห์ซอย เอจี แอนด์ โคเคจี ของออสเตรียผู้ผลิตรถดับเพลิงและอุปกรณ์ดับเพลิง


 


 


นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ภายหลังทราบคำวินิจฉัยป.ป.ช. ได้ประชุมร่วมกับทีมที่ปรึกษาด้านการเมือง รองผู้ว่าฯ กทม.ภายในห้องทำงานนายอภิรักษ์นานกว่า 20 นาที โดยมีสื่อมวลชนมาเฝ้ารอติดตามการแถลงข่าวจำนวนมาก


 


 


เมื่อเวลา 17.15 น.นายอภิรักษ์ ได้ยกเลิกกำหนดการเป็นประธานเปิดงานสืบสานวัฒนธรรมประเพณี ลอยกระทง ที่ลานหน้าวัดกัลยาณมิตรวรวิหาร เขตธนบุรี ในเย็นวันเดียวกัน และเดินออกจากห้องประชุมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ทั้งนี้นายอภิรักษ์ กล่าวสั้นๆว่า วันนี้จะไปหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก่อน และจะแถลงข่าววันที่ 12 พฤศจิกายนนี้ โดยจะขอฟังคำวินิจฉัยของ ป.ป.ช.ให้ชัดเจนก่อนว่า ประเด็นที่มีการชี้มูลนั้น เหตุผลเป็นอย่างไร


 


 


ผู้สื่อข่าวถามว่า มติ 9 ต่อ 0 ชี้มูลว่าผู้ว่าฯมีความตามผิดแล้ว จะต้องทำอย่างไรต่อไป นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ก็อยากฟังคำวินิจฉัยของ ป.ป.ช.ให้ชัดเจนก่อนว่าในประเด็นที่มีการชี้มูลนั้น เหตุผลเป็นอย่างไร


 


เมื่อถามว่า จะแสดงบรรทัดฐานทางการเมืองหรือไม่ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ขอให้ได้ฟังความชัดเจนก่อน และจะมีการแถลงในภายหลัง


 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายอภิรักษ์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวแล้ว ได้รีบเดินลงจากบันไดไปที่ใต้ถุนอาคารจอดรถในทันที โดยมีคนขับรถ สตาร์ทรถรอเตรียมเอาไว้แล้ว ซึ่งนายอภิรักษ์ได้เดินฝ่าวงล้อมผู้สื่อข่าวและรีบนั่งรถออกไปจากศาลาว่าการ กทม. ในทันที ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าทั้งนี้นายอภิรักษ์ได้ยกเลิกกำหนดการเป็นประธานเปิดงานสืบสานวัฒนธรรมประเพณี ลอยกระทง ที่ลานหน้าวัดกัลยาณมิตรวรวิหาร เขตธนบุรี ในช่วงเย็นวันเดียวกันด้วย


 


 


กรณ์ยัน อภิรักษ์หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที


นายนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เมื่อป.ป.ช.ชี้มูลว่ามีความผิดก็ต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ทันที การตัดสินใจใดก็ตาม พรรคคงต้องมีท่าทีที่ชัดเจน เนื่องจากพรรคก็เคยแสดงจุดยืน เมื่อตอนที่มีรัฐมนตรีถูกป.ป.ช.ชี้มูลความผิดมาแล้ว ถ้านายอภิรักษ์ตัดสินใจลาออกพรรค ก็ต้องพิจารณาส่งคนลงรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.อีกครั้ง


 


 


"อภิสิทธิ์-สุเทพ"เครียด


ที่พรรคประชาธิปัตย์ มีการประชุมส.ส.พรรค แต่ก่อนการประชุมจะเสร็จสิ้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางออกจากพรรค โดยมีรายงานว่า ไปรอพบกับนายอภิรักษ์ นอกจากนี้มีกระแสข่าวนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค ที่ติดภารกิจอยู่ต่างจังหวัดได้เดินทางกลับมีกรุงเทพฯทันที โดยทั้งหมดจะร่วมกันหารือถึงทางออกของปัญหา


 


แหล่งข่าวกล่าวว่า หากมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ใหม่อีกครั้ง พรรคจะพิจารณาบุคคลลงรับสมัครเลือกตั้ง อาทิ นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ส.ส.ระบบสัดส่วน และนายประกอบ จิรกิตติ ปัจจุบันเป็นรองผู้ว่าฯกทม. เป็นต้น


 


"คงต้องหารือกันอีกนานถึงบุคคลที่เหมาะสม เพราะต้องมากู้ชื่อเสียงเรื่องความโปร่งใสของพรรคอย่างแรก และยังต้องเป็นบุคคลที่ประชาชนจะให้การยอมรับ" แหล่งข่าวระบุ


 


พปช.ชู"ประภัสร์"สู้อีกครั้ง


ที่พรรคพลังประชาชน ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง รักษาการโฆษกพรรคพลังประชาชน แถลงว่า ขอเรียกร้องให้นายอภิรักษ์ ลาออกจากผู้ว่าฯ กทม. เพราะไม่ใช่เรื่องซับซ้อนเหมือนกรณีหวยบนดิน ที่อย่างน.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เคยถูกชี้มูลความผิดในสมัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีการสื่อสารและสารสนเทศ (ไอซีที) เมื่อมาเป็นรัฐมนตรีคลังและไม่ได้ดูสำนักงานสลากกินแบ่ง จึงไม่จำเป็นที่จะต้องลาออก แต่นายอภิรักษ์ กระทำความผิด ขณะที่เป็นผู้ว่าฯกทม.และตอนนี้ก็ยังเป็นผู้ว่าฯกทม.อยู่ ทั้งนี้พรรคเตรียมที่จะส่งนายประภัสร์ จงสงวน ลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.อีกครั้ง


 


กกต.พร้อมจัดเลือกตั้งใหม่ 90วัน


นายสุเมธ อุปนิสากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า หากนายอภิรักษ์ เลือกที่จะแสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่งทันทีหลังจากทราบผลการวินิจฉัยของป.ป.ช. ทาง กกต.คงต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 90 วัน การจัดการเลือกตั้งบ่อยๆ เป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ


 


"ผมมองว่านายอภิรักษ์ ไม่จำเป็นต้องลาออก ควรรอให้มีความชัดเจนเสียก่อน เพราะหาก ป.ป.ช.มีมติชี้มูลว่า มีความผิดจริง นายอภิรักษ์ก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว จนกว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีคำพิพากษาออกมา โดยระหว่างที่หยุดไปก็สามารถให้รองผู้ว่าฯกทม.ขึ้นมาทำหน้าที่แทนไปก่อนได้ กระบวนการพิสูจน์ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ยังต้องใช้เวลาอีกนาน เชื่อว่าคงยังไม่ถึงขั้นที่ กกต.ต้องจัดเลือกตั้งใหม่ในเร็ววันนี้" นายสุเมธ กล่าว


 


ป.ป.ช.ชี้"อภิรักษ์"ผิดคดีรถดับเพลิง


ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน มีมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 วินิจฉัยว่า นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) มีความตามผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดในการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) กรณีสั่งเปิดแอลซี กับธนาคารกรุงไทยเพื่อชำระเงิน บริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค ของออสเตรีย ผู้ผลิตรถดับเพลิงและอุปกรณ์ดับเพลิง ส่วนผู้ถูกกล่าวหาอีก 10รายก็มีความผิดอาญาเช่นเดียวกับนายอภิรักษ์


 


ทั้งนี้ หลังจากการประชุมเสร็จสิ้น นายปานเทพ กล้ารณรงค์ราญ ประธานป.ป.ช. พร้อมด้วย นายกล้านรงค์ จันทิก และนายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช. ร่วมแถลงผลการประชุมเพื่อพิจารณาสำนวนคดีทุจริตการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของกทม.มูลค่า 6,600 ล้านบาท หลังจากใช้เวลาประชุมนานกว่า 6 ชั่วโมง โดยนายกล้านรงค์ แถลงว่า กรรมการป.ป.ช.พิจารณาคดีนี้ใน 6 ประเด็น คือ 1.ขั้นตอนการจัดทำโครงการ 2.การเสนอและอนุมัติโครงการ 3.การทำข้อตกลงเอโอยู 4.การประกวดราคา 5.การทำสัญญาการค้าต่างตอบแทน และ 6.การเปิดแอลซี


 


ระบุข้ออ้าง"อภิรักษ์"ฟังไม่ขึ้น


"กรณีที่นายอภิรักษ์อ้างว่าได้ทำหนังสือสอบถามไปยังกระทรวงมหาดไทย (มท.) ก่อนลงนามเปิดแอลซีนั้น ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกทม. พ.ศ.2528 ให้อำนาจกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในการควบคุมดูแลการปฏิบัติราชการของกทม. ไม่ได้ให้อำนาจในการสั่งการ ผู้ว่าฯกทม.สามารถใช้อำนาจได้โดยอิสระ ข้ออ้างดังกล่าวจึงฟังไม่ขึ้น" นายกล้านรงค์ กล่าว


 


นายกล้านรงค์ กล่าวด้วยว่า ขณะที่ผู้ถูกกล่าวหาอื่นๆ อีก 10 ราย คณะกรรมการป.ป.ช.มีมติว่า ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 8 รายประกอบด้วย นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีตผู้ว่าฯกทม. นายโภคิน พลกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายประชา มาลีนนท์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันสาธารณภัย กทม.และบริษัท สไตเออร์ฯ ในฐานะคู่สัญญา กับ กทม. มีความผิดอาญาเช่นเดียวกับนายอภิรักษ์


 


"สำหรับนายสมศักดิ์ คุณเงิน อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่มีมูลเป็นความผิดมติ 9-0 สำหรับ นายมาริโอ มีน่าร์ ในฐานะผู้แทนบริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ฯ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเห็นว่าไม่มีมูลความผิด ด้วยคะแนน 8-1" นายกล้านรงค์ กล่าว


 


"ณฐนนท"ติดร่างแหฐานไม่ยับยั้ง


นายกล้านรงค์กล่าวว่า ส่วนคุณหญิงณฐนนท ทวีสิน อดีตปลัดฯกทม.แม้ไม่ปรากฏว่ามีส่วนร่วมกระทำความผิด แต่ทราบขั้นตอนการจัดซื้อโครงการนี้มาโดยตลอด ทว่าไม่ยับยั้งจนทำให้กทม.ได้รับความเสียหาย คณะกรรมการรป.ป.ช.จึงมีมติชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง ขณะที่นายราเชนทร์ พจนสุนทร อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ผิดวินัยไม่ร้ายแรง ไม่มีความผิดทางอาญา ทั้งนี้ป.ป.ช.จะส่งเรื่องให้กับสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อฟ้องร้องต่อศาลโดยเร็วที่สุด


 


โยนมท.ชี้ขาดตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.


ผู้สื่อข่าวถามว่า นายอภิรักษ์ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 55 พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 หรือไม่ นายกล้านรงค์ กล่าวว่า ป.ป.ช.มีหน้าที่ชี้มูลว่ามีความผิดหรือไม่ ไม่มีหน้าที่ชี้ว่าต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ขึ้นอยู่กับต้นสังกัดว่าจะดำเนินการอย่างไร ส่วนสัญญาจะเป็นโมฆะหรือไม่ เป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยหรือกทม.จะต้องยื่นคำร้องต่อศาลยุติธรรมให้วินิจฉัย


 


 


ชี้ช่อง"อภิรักษ์" ส่งศาลรธน.


นายวิชา ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนกล่าวว่า สำหรับมาตรา 55 หากนายอภิรักษ์ต้องการความชัดเจน ก็สามารถส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ หรือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตีความได้ว่า ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ เพราะเรื่องดังกล่าวถือเป็นช่องโหว่ของกฏหมายจุดหนึ่ง ส่วนเงินค่างวดที่กทม.จ่ายให้กับบ.สไตเออร์ไปแล้ว 3 งวดเป็นเงินจำนวน 2,354 ล้านบาท และรถดับเพลิงจำนวนหนึ่งที่ส่งมาแล้วนั้น เป็นหน้าที่ของมหาดไทยหรือกทม.ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป จะทวงคืนเงินค่างวดหรือไม่


 


"เราเองก็ไม่มีความสุขที่ต้องตัดสินคดีที่เกี่ยวของนายอภิรักษ์ ซึ่งได้รับฉันทามติจากประชาชนล้นหลาม แต่ทุกอย่างต้องว่าไปตามกฎหมาย" นายวิชากล่าว


 


ให้ฟ้องเรียกเงินคืน-ยกเลิกจัดซื้อ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดในส่วนความรับผิดทางละเมิดไว้ด้วย โดยเบื้องต้น กทม.ได้จ่ายเงินค่ารถและเรือดับเพลิงไปแล้ว 3 งวด เป็นเงิน 2,354 ล้านบาท และจ่ายภาษีอากรนำเข้า และภาษีมูลค่าเพิ่มประมาณ 1,300 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีค่าสินค้าที่จัดซื้อแพงทั้งโครงการประมาณ 1,958.6 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าหน้าท่าของสินค้างวดที่ 2 เบี้ยปรับเงินเพิ่มอีกประมาณ 100 ล้านบาท เมื่อรับมอบสินค้า ซึ่งเป็นมูลค่าความเสียหายที่กทม.จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในครั้งนี้ จึงเห็นควรแจ้งเรื่องไปยังกระทรวงมหาดไทยให้สอบสวนความรับผิดทางละเมิดตามอำนาจหน้าที่ต่อไป นอกจากนี้ เห็นควรส่งความเห็นไปยัง กทม.เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งหรือมีคำพิพากษาให้ยกเลิกหรือเพิกถอนการจัดซื้อรถดับเพลิงและอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยครั้งนี้ เนื่องจากมีการกระทำโดยไม่สุจริตอันเป็นการฉ้อฉล


 


รายละเอียดสำนวน ป.ป.ช. คดีทุจริตรถดับเพลิง6,600ล้าน


เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2551 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ได้พิจารณาเกี่ยวกับการทุจริตในการจัดซื้อรถดับเพลิงและเรือดับเพลิงตามโครงการพัฒนาระบบบริหารและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร มูลค่า 6,600 ล้านบาทและมีมติ เป็นเอกฉันท์ การกระทำของ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีมูลความผิด ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการและกรุงเทพมหานคร และฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีไม่ตรวจสอบสัญยาการจัดซื้อดังกล่าวอย่างรอบคอบและยังเปิดแอล/ซีชำระเงินแก่บริษัทผู้ผลิตจนเกิดความเสียหายเป็นตัวเงินหลายพันล้านบาท


 


 


ขณะที่ นายโภคิน พลกุล นายประชา มาลีนนท์ นายวัฒนา เมืองสุข นายสมัคร สุนทรเวช พล.ต.ต. อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ มีมูลเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 และความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 7, 11, 12 ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา


 


ส่วน บริษัท STEYRฯ มีความผิดในฐานเป็นผู้สนับสนุน นายโภคิน พลกุล กับพวก จึงมีมูลเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 และตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 7 และมาตรา 11, 12, 13 ประกอบมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา


 


ทั้งนี้ ป.ป.ช.ต้องส่งรายงาน และเอกสาร พร้อมทั้งความเห็นไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป


 


ขณะที่ คุณหญิงณฐนนท ทวีสิน มีมูลเป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรงตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 มาตรา 84 วรรคสอง ประกอบพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 มาตรา 8


 


พล.ต.ต. อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ ขณะเกิดเหตุดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร มีมูลเป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง และฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 มาตรา 82 วรรคสาม มาตรา 85 วรรคสอง และมาตรา 98 วรรคสอง ประกอบพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 มาตรา 8


 


นายราเชนทร์ พจนสุนทร ขณะเกิดเหตุดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ มีมูลความผิดทางวินัย ฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ เป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง ตามพระราช-บัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 มาตรา 84 วรรคแรก


 


 


ที่มา: www.matichon.co.th

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net