Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

นางสาวมาลิสา พรมโคตร์


ศูนย์ปฎิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์


มูลนิธิกระจกเงา


www.notforsale.in.th


 


 


ชีวิตแรงงานประมงที่ยังรอคอยความช่วยเหลือ สิ่งที่พวกเขาต้องการ คือได้กลับคืนสู่ประเทศไทยอีกครั้งก่อนสิ้นลมหายใจ ได้แต่นั่งรอนับจากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี แต่ยังไร้หนทาง...


 


ชีวิตของลูกเรือประมงที่ต้องทำงานหนักกลางทะเล ไม่รู้วันรู้เวลา ชีวิตที่เสี่ยงกับความตายทุกวินาทีท่ามกลางมรสุมทะเล อุปกรณ์เครื่องมือการหาปลาที่มีขนาดใหญ่ ความขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงาน อีกทั้งต้องละทิ้งครอบครัวมาอยู่กลางทะเลนับปีถึงจะได้เข้าเยียบแผ่นดินสักครั้ง หวังเพียงแค่จับปลาให้ได้มากที่สุด เพื่อแลกกับค่าแรงที่แสนจะต่ำจะได้รับมากขึ้นตามจำนวนปลาที่เพิ่มขึ้นเพียงเท่านั้น ด้วยวิธีการจากความเห็นแก่ตัวของผู้ประกอบการ ที่ไม่ได้คำนึงถึงขอบเขตน่านน้ำในการหาปลาที่ถูกต้องตามกฎหมาย นึกเพียงอย่างเดียว คือผลประโยชน์ที่ตนเองจะได้รับยิ่งมากเท่าไรยิ่งดี ผลสุดท้ายการกระทำผิดกฎหมายนั้นต้องตกอยู่กับลูกเรือประมง ชีวิตที่ต้องอยู่เพียงแต่เรือท่ามกลางท้องทะเล กลับกลายเป็นชีวิตที่ต้องอยู่ในคุกต่างแดน


 


การถูกจับกุมในน่านน้ำต่างแดน ในเขตน่านน้ำของประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย รัสเซีย อินเดีย และโซมาเลีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีทรัพยากรทางทะเลเป็นจำนวนมาก สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการ ทำให้ลูกเรือประมงกลายเป็นนักโทษที่กระทำผิดกฎหมาย อยู่อย่างนักโทษ กินข้าวเพียงวันละมื้อ เสื้อผ้าของใช้ไม่มีให้หาซื้อใช้กันเองแล้วจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อ ต้องทนอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ นี่คือสิ่งที่เจ้าของน่านน้ำมอบให้ สภาพชีวิตที่ไร้ค่าที่ไม่ได้รับการดูแลจากผู้ประกอบการ สิ่งที่ผู้ประกอบการจะไถ่ออกมาเป็นอันดับแรกคือเรือประมง ที่เป็นสินทรัพย์ของตัวเอง หากลูกเรือเป็นแรงงานที่มีฝีมือ ยังคงมีประโยชน์ในการทำงานได้ก็จะได้รับการช่วยเหลือออกมาพร้อมเรือ หากแต่เป็นลูกเรือที่ไร้ตำแหน่งไร้ฝีมือ ก็ไร้ความช่วยเหลือ หรือเป็นสิ่งสุดท้ายที่ผู้ประกอบการจะยอมเสียเงินไถ่กลับคืนมา นี่เหรอคือสิ่งที่ลูกเรือประมงควรจะได้รับ จากไม่รับผิดชอบของผู้ประกอบการประมงนอกน่านน้ำไทย


 


จากจดหมายของลูกเรือไทยรายหนึ่ง ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา ได้รับข้อมูลจากผู้เป็นญาติได้เล่าว่าหลานชายของตนได้เป็นหนึ่งในลูกเรือประมงที่ถูกจับในประเทศอินเดียในช่วงปี 2549 เนื่องจากไต้ก๋งเรือได้นำเรือประมงเข้าลุกล้ำน่านน้ำประเทศอินเดีย และได้ถูกจับกุมทั้งเรือและลูกเรือทั้งหมดดำเนินคดีขังคุกในประเทศอินเดีย จากข้อมูลได้กล่าวว่ายังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากทางสถานทูต หรือกระทรวงการต่างประเทศแต่อย่างไร ส่วนผู้ประกอบการเรือประมงดังกล่าวไม่ได้ให้ความช่วยเหลือ หรือรับผิดชอบ สิ่งที่ผู้ประกอบการได้ทำคือ ทำการไถ่เรือประมงทรัพย์สินของตนเอง พร้อมกับไต้ก๋งเรือ และลูกเรือที่มีต่ำแหน่งและมีฝีมือในการทำประมงเพียงเท่านั้น ทำให้ลูกเรือประมงที่เป็นเพียงแรงงานลูกมือไร้ฝีมือต้องติดคุกอินเดีย เพียงเพราะไม่ต้องการจะเสียค่าใช้จ่ายในการไถ่ตัวออกมา


 


หลังจากที่ผู้เป็นแม่ได้รับทราบข่าวจากลูกชายของตนเอง ก็ได้หาทุกวิธีทางที่จะช่วยลูกชายให้หลุดพ้นจากการจับกุมครั้งนี้ ผู้เป็นแม่ได้เข้าขอความช่วยเหลือจากสถานทูตไทย และสถานทูตอินเดียในไทย ได้รับคำตอบเพียงแค่ว่า "ให้ติดต่อไปที่สถานทูตที่อินเดียเอง" สิ่งที่ผู้เป็นแม่พยายามได้ไร้ผล เพราะเพียงแค่เป็นประชาชนธรรมดาไม่มียศฐาบรรดาศักดิ์เท่านั้นหรือ ถึงไม่เหลียวแล และให้ความช่วยกันอย่างที่ควรจะทำให้ สุดท้ายต้องรอให้คดีสิ้นสุดไปเอง และด้วยสภาพเป็นอยู่ในระหว่างการถูกจับกุมที่ย่ำแย่และทรมานทำให้ ลูกชายของแม่ไม่สามารถอดทนรอจนสิ้นสุดคดี ได้เสียชีวิตลงในระหว่างถูกขังคุกในประเทศอินเดีย นี่คือสิ่งที่ผู้เป็นแม่ได้รับ หลังจากรอคอยการกลับมาของผู้ที่เป็นลูกถูกขังคุกในประเทศอินเดีย สิ่งที่คงเหลือไว้ต่างหน้าคือจดหมายฉบับสุดท้ายจากลูกชายได้สั่งเสียไว้ว่า.....


 


"กราบแทบเท้าแม่ที่เคารพรักเป็นอย่างสูง แม่ครับตอนนี้ผมโดนจับที่อินเดีย นี่ก็เป็นเวลา 1 ปีกว่าแล้ว ก็ไม่รู้จะได้กลับเมื่อไร คดียังไม่เสร็จ เดินเรื่องช้ามาก จะติดต่อให้ทูตช่วยก็ติดต่อไม่ได้เลย ที่ผมได้ส่งจดหมายมาได้เพราะ ได้เจอกับทหารไทยที่มาประเทศอินเดีย เขาให้ความช่วยเหลือเป็นธุระช่วยส่งจดหมายให้ผม


 


ตอนนี้ผมก็ลำบากพอสมควร เพราะทางเถ้าแก่เมืองไทยเขาไม่รับผิดชอบให้ความช่วยเหลืออะไรเลย มีแต่ทางอินเดียที่เขาให้เพียงแต่ข้าวกินไปวันหนึ่ง เสื้อผ้า สบู่ ยาสีฟัน ของใช้ต่างๆ ก็ไม่มีเงินให้ซื้อ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงผม ผมทำใจได้ เป็นห่วงเพียงแม่คนเดียว สุดท้ายนี้ ผมขออำนาจของหลวงพ่อทวด ช่วยคุ้มครองแม่ผมให้มีสุขภาพที่แข็งแรง ปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บ มีอายุยืนยาวตลอดไปด้วยเทอญ


 


รักเทิดทูนแม่เสมอ


 


                                                                                                       "ลูกแม่"


 


 


 


จดหมายฉบับนี้เป็นฉบับสุดท้ายที่ลูกเรือประมงไทยได้เขียนถึงแม่ ด้วยความหวังว่าจะกลับมาอยู่ดูแลแม่หลังจากออกจากคุกอินเดีย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นลูกเรือประมงไทยได้เดินทางกลับประเทศไทยพร้อมๆ กับเพื่อนลูกเรือด้วยกัน แต่สิ่งที่ผู้เป็นแม่ได้พบเหลือเพียงแค่เถ้ากระดูกของผู้เป็นลูกเพียงเท่านั้น


 


ชีวิตที่ถูกทอดทิ้งอย่างไร้ค่าจากผู้ที่เป็นเจ้าของเรือ ผู้ประกอบการ ด้วยเพียงแค่เป็นลูกเรือที่ไม่มีตำแหน่งสำคัญอย่างใดบนเรือ ไม่มีค่าเพียงพอต่อการช่วยเหลือ หรือเป็นเพราะว่าความเห็นแก่ตัวของผู้ประกอบการ ลูกเรือไทยได้กลายเป็นหนึ่งในลูกเรือที่ถูกกระทำเช่นนี้ จากผู้ประกอบการที่หวังเพียงแต่ผลิตผลจากท้องทะเลเท่านั้น โดยไม่ได้คำนึงถึงสวัสดิภาพของลูกเรือแม้แต่น้อย ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามผู้ที่เป็นนายจ้างไม่ควรทอดทิ้งผู้ที่เป็นลูกจ้างให้ตกอยู่ในสภาพอย่างนี้


 


นอกจากนี้ยังมีลูกเรืออีกเป็นจำนวนมากที่ถูกกระทำเช่นเดียวกัน เช่น เรือประมงนอกน่านน้ำลำหนึ่งจากปากน้ำ จังหวัดสมุทรปราการ ได้ลักลอบเข้าไปจับปลาในน่านน้ำประเทศอินโดนีเซีย และได้ถูกจับกุมในน่านน้ำอินโดนีเซีย เรือพร้อมด้วยลูกเรือทั้งหมดถูกจับกุมตัว ลูกเรือที่ไม่รู้เรื่องกลับต้องตกเป็นตัวประกันรอวันผู้ประกอบการมาไถ่ตัวออกไป แต่ผู้ประกอบการกลับไถ่เพียงแค่เรือประมง และลูกเรือที่สำคัญกับกิจการประมงของเขาออกไปเท่านั้น


 


นับตั้งแต่วันนั้นลูกเรือทั้งหมดก็ยังคงต้องอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย ในฐานะนักโทษที่กระทำความผิดตามกฎหมาย หรือเป็นตัวประกันเพียงเพื่อต้องการค่าไถ่ตัวจากผู้ประกอบการ และญาติของลูกเรือ เพราะจากข้อมูลที่ลูกเรือได้ให้มานั้น ได้กล่าวว่า ลูกเรือทั้งหมดไม่ได้อยู่ในคุก ไม่มีการขึ้นศาล แต่ถูกเจ้าหน้าที่ของสมาคมประมงเมืองเปอร์มังกัต ประเทศอินโดนีเซีย กักตัวไว้ในบริเวณสมาคมประมง สภาพความเป็นอยู่อนาถา ได้กินข้าวในแต่ละวันเพียง 2 มื้อ ต้องออกไปรับจ้างงานก่อสร้าง ขึ้นปลา และก็งานอื่นๆ อีกมากมายที่เขาต้องการให้ทำ ค่าจ้างที่ได้มาก็เพียงเล็กน้อย แทบจะไม่พอที่จะซื้อมาม่ากินกับข้าวในแต่ละวัน หากถามว่าทำไมไม่หนีออกมา คำตอบที่ได้รับ ไม่ใช่ว่าไม่เคยคิดหนี แต่หนีไปแล้วไม่พ้น ถูกจับได้ก็จะโดนซ้อม ทำร้ายร่างกายปางตาย ด้วยความย่ำแย่ของสภาพความเป็นอยู่ ขออย่าได้เจ็บป่วยใดๆ เลย


 


และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งกรณีที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากกระทรวงการต่างประเทศแต่อย่างใด ผู้เป็นญาติได้เข้าไปขอความช่วยเหลือ ไม่ใช่แค่เพียงครั้งเดียวที่เข้าไปติดต่อ แต่เรื่องก็ยังคงเงียบไป จนต้องทำการติดต่อทางสมาคมประเทศอินโดนีเซียเอง และมีการโอนเงินให้กับทางสมาคมเป็นจำนวนหลายแสนบาทหวังเพียงเพื่อต้องการไถ่ตัวลูกเรือที่เป็นญาติคนอื่นๆ ออกมาด้วย แต่ก็ไม่เกิดประโยชน์ เงินที่สูญไปเปล่า แต่กลับไม่ได้อะไรกลับมาเลย ทำให้สิ้นหวังทั้งทั้งสองฝ่าย เหลือเพียงแค่การทำใจเท่านั้น ยอมรับชะตากรรมที่เกิดขึ้นเพียงเท่านี้หรือ


 


ใครจะสามารถช่วยลูกเรือที่ประสบชะตากรรมเหล่านี้ได้ หรือจะให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นกับแรงงานประมงเรื่อยไป ถูกทอดทิ้งและจบชีวิตลงเพียงเท่านี้ หรือต้องมีจดหมายสั่งเสียฉบับต่อไป...


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net