Skip to main content
sharethis


นายแพทย์ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับตัวแทนจากบริษัทผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือทั้งหมดในเรื่องการกำหนดวันหมดอายุของโทรศัพท์มือถือในระบบเติมเงิน หรือพรีเพด (Prepaid) ว่า วันนี้เป็นการหารือเพื่อรับฟังความคิดเห็น กรณีเงื่อนไขเพิ่มเติมตามประกาศ กทช. เรื่องมาตรฐานสัญญาให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ.2549 ข้อ 11 ในกรณีที่ กทช.เห็นชอบให้ผู้ให้บริการกำหนดระยะเวลาใช้บริการโทรคมนาคมที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าบริการเป็นการล่วงหน้าได้ ต้องดำเนินการภายใต้เงื่อนไข คือถ่ายโอนเงินที่เหลือได้ การคืนเงินค่าบริการในส่วนที่ไม่ได้ใช้บริการได้ การกำหนดระยะเวลาขั้นต่ำในการใช้บริการ และการขึ้นทะเบียนชื่อและที่อยู่ของผู้ใช้บริการ

 


"ประเด็นที่น่าสนใจในขณะนี้ก็คือ เรื่องการคืนเงินค่าบริการในส่วนที่ไม่ได้ใช้บริการ เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจว่า "วันหมด-เงินไม่หมด" สามารถขอเงินที่เหลือในบัตรคืนจากผู้ประกอบการเจ้าของเครือข่ายได้เมื่อมีการยกเลิกสัญญาหรือเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาใช้บริการและไม่ต้องการใช้บริการต่อ โดยใช้ซิมการ์ดเป็นหลักฐานขอเงินคืน ทั้งนี้ผู้ให้บริการต้องคืนเงินค่าบริการในส่วนที่ไม่ได้ใช้บริการให้กับผู้บริโภคภายใน 30 วัน" ผอ.สบท.กล่าว


 


สำหรับการหารือในวันนี้มีประเด็นโต้แย้งกันในหลายเรื่อง แต่เพื่อแก้ปัญหา "วันหมดเงินไม่หมด" ในเบื้องต้น ทาง กทช.ได้ยกร่างเงื่อนไข เพื่อกำหนดระยะเวลาขั้นต่ำสำหรับทุกโปรโมชั่นจะต้องมีอายุวันในการใช้งานไม่ต่ำกว่า 180 วัน รวมทั้งให้มีการขึ้นทะเบียนชื่อและที่อยู่ของผู้ใช้บริการในระบบบัตรเติมเงิน เพื่อประโยชน์ในกรณีที่โทรศัพท์มือถือหาย เงินที่คงเหลืออยู่ในบัตรก็จะไม่สูญหายไปด้วย เพราะปัจจุบันการขอเงินคืนจากเงินคงเหลือในบัตรเติมเงินจะใช้หลักฐานคือซิมการ์ด หากเราทำโทรศัพท์หาย ใครเก็บโทรศัพท์ได้ก็จะนำซิมไปขอเงินคืนแทนเราได้ แต่ถ้ามีการลงทะเบียนชื่อและที่อยู่ การขอเงินคืนก็ต้องใช้หลักฐานมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นประโยชน์สำหรับนโยบายในปีหน้าของ กทช.ในกรณีที่จะมีการคงสิทธิเลขหมายคือ เปลี่ยนเครือข่ายโดยใช้เบอร์เดิมอีกด้วย


 


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net