Skip to main content
sharethis

ผู้สื่อข่าวรายงานจากโรงแรมแอมบาสเดอร์ พัทยา ว่า ผู้โดยสารของสายการบินการบินไทย ประมาณ 1,000 คน ถูกนำมาส่งที่โรงแรมเมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. วานนี้ (26 พ.ย.)


 


เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สายการบินการบินไทยประกาศว่า ทางการบินไทยจะรับผิดชอบค่าที่พักและอาหารในช่วง 24 ชั่วโมงแรก หลังจากนั้นจะแจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับการเดินทางในเวลา 9.00 น. ของวันนี้( 27 พ.ย.) อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลานัดหมาย เจ้าหน้าที่การบินไทยได้ให้ข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวว่า ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆถึงแนวทางการรับผิดชอบผู้โดยสารตกค้าง ต้องรอผลการประชุมของคณะรัฐมนตรีว่ารัฐบาลไทยจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น เช่น ค่าที่พักหรือค่าอาหารต่อผู้โดยสารตกค้างในระหว่างที่ยังไม่สามารถเดินทางได้หรือไม่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่การบินไทย ยังระบุอีกว่า ขณะนี้ประเด็นการตัดสินใจอยู่ที่จะรับผิดชอบผู้โดยสารต่อไปหรือจะยุติความรับผิดชอบและนำผู้โดยสารกลับไปส่งที่กรุงเทพโดยหลังจากนี้ผู้โดยสารจะต้องรับผิดชอบตนเอง


 


ภายหลังการชี้แจงของเจ้าหน้าที่ นายยะสุฮิโระ ผู้โดยสารชาวญี่ปุ่น กล่าวกับประชาไทว่า เขาทำงานในเมืองไทยมากว่า 10 ปี และครั้งนี้ต้องการกลับไปบ้านเพื่อร่วมงานรำลึกการตายของพ่อครบรอบ 3 ปี สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ชาวต่างชาติเสียความรู้สึกต่อประเทศไทยมาก และจากการพูดคุยกับผู้โดยสารคนอื่นๆ ส่วนใหญ่บอกว่าไม่อยากมาประเทศไทยแล้ว


 


"ผมเสียความรู้สึก แต่ผมก็พยายามทำความเข้าใจว่าคนไทยก็มีหลายแบบ คนดีก็มี คนมีน้ำใจก็มี เจ้าหน้าที่ก็ทำงานเหนื่อย แต่ชาวต่างชาติส่วนใหญ่บอกว่าประเทศไทยเป็นประเทศอันตรายและมีความขัดแย้ง ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นที่ทำเนียบรัฐบาล คนต่างชาติก็ไม่ได้รับผลกระทบ แต่การปิดสนามบิน คนต่างชาติซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในเมืองไทยรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นตัวประกัน"


 


ยะสุฮิโระ กล่าวต่อไปว่า แนวทางของพันธมิตรฯไม่ใช่ประชาธิปไตย เอาแต่ความคิดตัวเอง ไม่สนใจชีวิตของคนอื่น การเรียกร้องเป็นสิ่งที่ทำได้ แต่ต้องคิดถึงชีวิตของคนอื่นด้วย


 


นายยะสุฮิโระ ยังกล่าวถึงวิธีการจัดการปัญหาของเจ้าหน้าที่ว่ามีความบกพร่องมาก เพราะเจ้าหน้าที่แต่ละคนให้คำตอบไม่เหมือนกันและใช้เพียงภาอังกฤษและภาษาไทยทั้งๆที่ผู้โดยสารมีหลายชาติหลายภาษา นักท่องเที่ยวไม่ได้พูดภาษาอังกฤษได้ทุกคน ตัวเขาเองก็ต้องมาทำหน้าที่เป็นล่ามอาสาสมัครให้กับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นประมาณ 10 คน ซึ่งไม่เข้าใจภาษาไทยและพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ทั้งนี้ มีผู้โดยสารตกค้างชาวญี่ปุ่นถูกนำมาพักที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ประมาณ 50 คน


 


เขาเล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อวานนี้ว่า ตอนประมาณ 9.00 น. เจ้าหน้าที่ที่สนามบินประกาศให้ทุกคนเดินทางออกจากพื้นที่สนามบินเนื่องจากอาจเกิดเหตุอันตราย แต่เจ้าหน้าที่ประกาศเพียงภาษาไทยเท่านั้น ชาวต่างชาติไม่เข้าใจและรู้สึกตกใจที่เห็นคนไทยทั้งหมดเดินออกจากสนามบินทันที


 


นอกจากนี้ เขายังบอกอีกว่า มีการเลือกปฏิบัติระหว่างผู้โดยสาร ชาวตะวันตกจะได้รับการให้ความสำคัญมากกว่าจากเจ้าหน้าที่ไทย รวมทั้งปล่อยให้ผู้โดยสารชาวตะวันตกแซงคิวระหว่างรอขึ้นรถบัส


 


ผู้โดยสารส่วนใหญ่ที่เดินทางมายังโรงแรมแอมบาสเดอร์ไม่ได้รับการชี้แจงตั้งแต่ต้นว่าจะถูกนำไปที่ไหน บางคนได้รู้ว่ามาพัทยาเมื่อรถเดินทางมาถึงโรงแรมแล้ว บางคนได้รับการชี้แจงในเบื้องต้นว่าสายการบินเตรียมที่พักในกรุงเทพฯให้ แต่หลังจากนั้นก็พบว่าถูกนำมาที่พัทยา


 


ส่วนเจ้าหน้าที่โรงแรมกล่าวกับประชาไทว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุจำนวนที่แน่นอนได้ว่าผู้โดยสารที่ตกค้างของสายการบินไทยที่มาพักมีจำนวนเท่าไหร่ เพราะทางสายการบินติดต่อมาฉุกเฉินทำให้ทางโรงแรมต้องจัดที่พักกระจายไปตามตึกต่างๆของโรงแรมซึ่งยากต่อการดูแลและให้ข้อมูลแก่ผู้โดยสาร


 


ล่าสุด เจ้าหน้าที่สายการบินแจ้งว่า ยังไม่ทราบว่าจะทำการบินได้เมื่อไหร่และเมื่อมีผู้โดยสารบางคนสอบถามว่าจะขอเลื่อนตั๋วได้หรือไม่ เจ้าหน้าที่สายการบินตอบว่ายังไม่สามารถให้ความชัดเจนได้ และไม่แน่ใจว่าความขัดแย้งทางการเมืองครั้งนี้จะยุติลงและจะทำการบินได้เมื่อไร อย่างไรก็ตาม ทันที่ที่สามารถทำการบินได้ ผู้โดยสารตกค้างที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการเมืองไทยจะได้รับการพิจารณาในการเดินทางก่อน    


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net