Skip to main content
sharethis

วันนี้ (27 พ.ย.) เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. โดยนายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานฯ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง 13 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้แก่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชยนายสุริยใส กตะศิลา นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายอมร อมรรัตนานนท์ นายนรัณยู หรือศรัณยู วงษ์กระจ่าง นายสำราญ รอดเพชร นายศิริชัย ไม้งาม นางมาลีรัตน์ แก้วก่า และนายเทิดภูมิ ใจดี แกนนำและแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นจำเลยที่ 1-13 เรื่องละเมิดและขับไล่ ขอให้ศาลบังคับพวกจำเลยออกจากบริเวณท่าอากาศยานสนามบินดอนเมือง และจัดทำบริเวณท่าอากาศยานฯ ให้สามารถใช้สอย และใช้ประโยชน์และอยู่ในความควบคุมดูและครอบครองของโจทก์ในสภาพเดิม


 


โจทก์ยังยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาคดี โดยให้พวกจำเลยออกจากสนามบินดอนเมืองทันที เนื่องจากเห็นว่าการกระทำดังกล่าว กระทบสิทธิของประชาชน ซึ่งใช้บริการสนามบินโดยรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาตรา 34 บัญญัติให้บุคคลมีสิทธิเสรีภาพในการเดินทาง


 


ต่อมาที่ห้องพิจารณาคดี 501 ศาลออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนพยานโจทก์นาง พัชรา พรยุทธพงศ์ ผอ.ฝ่ายความปลอดภัยท่าอากาศยานฯ เบิกความสรุป ว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 51 เมื่อเวลา 13.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ประมาณ 100 คน นำโดยนายศิริชัย ไม้งาม เข้ามาปิดถนนหน้าสนามบินดอนเมือง และบุกรุกเข้ามาภายในพื้นที่ เพื่อขัดขวางการทำงานและการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) บริเวณชั้น 4 และวันที่ 25 พ.ย. 51 นายศิริชัย และแกนนำคนอื่นๆ ได้ชักชวนกลุ่มบุคคลอื่นๆ ภายนอก ให้มาร่วมชุมนุม เพื่อขัดขวางการประชุม ครม.


 


วันที่ 26 พ.ย. เวลา 19.00 น.กลุ่มพันธมิตรฯ ได้เดินเข้ามาในอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ บริเวณหน้าชานชลาขาเข้า กระจายกำลังปิดถนนทางเข้าอาคารผู้โดยสาร ทำให้ผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่สายการบินต่างๆ เกิดความตระหนก ไม่สามารถเดินทางเข้ามาได้ ต่อมาผู้ชุมนุมบางส่วนเข้ามาเดินที่ห้องโถงผู้โดยสาร ทำให้เจ้าหน้าที่-ผู้โดยสารเกิดความตระหนกอย่างมาก เบื้องต้นได้เจรจาขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกไปนอกพื้นที่อาคาร และให้เปิดช่องทางให้ ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมยินยอมออกไป แต่ก็ไปชุมนุมต่อที่ด้านหน้าอาคาร และถนนสายต่างๆภายในดอนเมือง เพื่อปิดกั้นไม่ให้ผู้โดยสารเดินทางเข้ามาได้


 



กระทั่งเวลา 21.00 น.ของวันที่ 26 พ.ย. 51 ผู้ชุมนุมได้มารวมตัวกันมากขึ้น จนไม่สามารถให้บริการผู้โดยสารได้ ผอ.สนามบินดอนเมืองจึงเรียกประชุมส่วนราชการ และสายการบินที่เกี่ยวข้อง และมีมติให้ปิดสนามบินดอนเมืองตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย.51 ทั้งนี้สนามบินดอนเมืองมีเที่ยวบินขึ้นลงวันละ 70-80 เที่ยวบิน มีผู้โดยสารมาใช้บริการประมาณวันละ 10,000 คน ส่งผลให้ได้รับความเสียหายวันละ 4 ล้านบาท ทั้งนี้ทางสนามบินดอนเมืองได้บันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดไว้ได้เมื่อวันที่ 26 พ.ย. แต่วันที่ 27 พ.ย.ไม่สามารถบันทึกภาพได้เนื่องจากกลุ่มพันธมิตรฯได้นำผ้าสีดำมาปิดกล้องวงจรปิดไว้


 


หลังการพิจารณา ศาลแพ่งได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา โดยให้จำเลยทั้ง 13 ยุติการชุมนุม ออกไปจากท่าอากาศยานสนามบินดอนเมือง และนำกลุ่มผู้ร่วมชุมนุมออกจากบริเวณท่าอากาศยานสนามบินดอนเมือง เพื่อให้พนักงาน ผู้ให้บริการ และประชาชนทั่วไป สามารถใช้บริการได้ตามปกติในทันที ทั้งนี้ ศาลแพ่งได้มีคำสั่งเช่นเดียวกันนี้กับกรณีท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวานนี้ (26พ.ย.)


 


อนึ่ง ตามกฎหมายฝ่ายจำเลยยังมีสิทธิยื่นคำคัดค้านต่อศาลแพ่งให้เพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวได้ รวมทั้งยังมีสิทธิยื่นอุทธรณ์หากศาลแพ่งมีคำสั่งยกคำร้องขอเพิกถอนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เหมือนเช่นกรณีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรียื่นฟ้องขับไล่พันธมิตรฯ


 


 


 


ที่มา: เว็บไซต์เดลินิวส์ และเว็บไซต์สยามรัฐ


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net