Skip to main content
sharethis

วันที่ 16 ธันวาคม 2551  เวลาประมาณ 10.30 น. กลุ่มประมงพื้นบ้านจาก บ้านกรูด บางสะพาน และบางสะพานน้อยกว่า 100 คนได้รวมตัวกันเข้ายื่นหนังสือต่อนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่รำพึง หัวหน้าสถานีตำรวจน้ำบางสะพาน และประมงอำเภอบางสะพาน ที่อบต.แม่รำพึง เนื่องจากมีการลักลอบทำการประมงโดยเรืออวนลากเดี่ยวจากต่างพื้นที่ ในเขตปิดอ่าว 150,000 ไร่ และในระยะ 3,000 เมตรจากชายฝั่ง อ้างตามประกาศจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เรื่องกำหนดเขตห้ามใช้เครื่องมือบางชนิดทำการประมงในท้องที่บางแห่ง ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2542


โดยมีข้อเรียกร้องต่อนายกอบต.แม่รำพึง หัวหน้าสถานีตำรวจน้ำบางสะพาน และประมงอำเภอบางสะพาน ดังนี้


 


๑.                  ห้ามเรือที่อยู่ในข้อห้ามตามประกาศเข้าทำการประมงในเขตปิดอ่าวอย่างเด็ดขาด


๒.                  ให้ชดเชยค่าเสียหายอันเกิดขึ้นจากเรือที่ละเมิดประกาศของจังหวัด  เช่นอวนปูถูกทำลาย  และเสียโอกาสจากรายได้ในการทำประมงของผู้เสียหาย


๓.                  ให้ประมง อำเภอหรือประมงจังหวัดสอดส่องดูแลอย่างตรงไปตรงมา แจ้งรายละเอียดจำนวนเรือดังกล่าวที่เข้ามาในเขตอ่าวบางสะพานให้กลุ่มตัวแทนชุมชน "ผู้จัดการประมงโดยชุมชน" ทราบอย่างละเอียด


๔.                 ให้นายก อบต.รับผิดชอบประสานงานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในฐานะเจ้าของพื้นที่ และมีหน้าที่คุ้มครอง ดูแล และบำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ของท้องถิ่น ตามอำนาจหน้าที่


 


ในเบื้องต้นนายเกรียงไกร ใจดี นายกอบต.แม่รำพึง พ.ต.ท.มานพ  มีแสง สารวัตร (หัวหน้า) สถานีตำรวจน้ำบางสะพาน และนายบุญรอด  จันทร์ทับ ประมงอำเภอฯ ได้ลงนามรับจดหมายจากตัวแทนชาวบ้านโดยที่ทุกฝ่ายรับปากว่าจะเพิ่มระยะความถี่ในการตรวจตราเพื่อมิให้เรืออวนลากเข้ามาทำการประมงในบริเวณเขตปิดอ่าว และด้านนายเกรียงไกร นายกอบต.แม่รำพึง ได้รับปากกับกลุ่มประมงว่าพร้อมให้การสนับสนุนโดยเฉพาะจะเร่งของบประมาณเพื่อจัดสรรเป็นค่าน้ำมันเพื่อใช้ในการตรวจตรา


 


นายสวัสดิ์เกียรติ สีทับทิม ประมงพื้นบ้านบางสะพาน กล่าวว่า "ในการที่พวกเรารวมตัวกันมายื่นหนังสือในครั้งนี้เนื่องจากที่ผ่านมาเรืออวนลากพวกนี้ได้ลักลอบเข้ามาทำการประมงในเขตปิดอ่าว ซึ่งเป็นการทำลายสัตว์น้ำหน้าดิน และทรัพยากรทางทะเลเนื่องจากเขตปิดอ่าวนี้เป็นแหล่งพักฟื้นของสัตว์ทะเล และเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน  อีกทั้งการทำอวนลากยังสร้างความเสียหายให้แก่ชาวประมงที่ไปวางอวนปู กล่าวคืออวนปูของชาวประมงจะถูกลากหายไปด้วยซึ่งทำให้บางครอบครัวถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัวก็มีเพราะไม่มีเครื่องมือหากินอีกต่อไป  พวกเราจึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันตรวจตรามิให้เรือพวกนี้เข้ามาทำประมงในเขตปิดอ่าว  อีกทั้งหากมีการทำให้ชาวประมงพื้นบ้านได้รับความเดือนร้อนจากการกระทำดังกล่าวเรืออวนลากพวกนี้ก็จะต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่ประมงตามสมควร"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net