สืบเนื่องจากกรณีที่ชาวบ้านคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล โดยบริษัทสมหมายการผลิตไฟฟ้าจำกัด ในบริเวณชุมชน เนื่องจากมีความกังวลว่าจะสร้างผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและการจัดทำประชามติขาดความถูกต้องชอบธรรม จนนำไปสู่การขอถอดถอนมติเดิมและเรียกร้องให้ทำประชามติใหม่ แต่ทางอุตสาหกรรมจังหวัดมีท่าทีว่าจะยังคงใช้มติเดิมเสนอขออนุญาตจากกรมโรงงานนั้น

สถานการณ์ล่าสุด เมื่อ 15 ม.ค. 52 ได้มีตัวแทนชาวบ้านคำสร้างไชย ต.ท่าช้าง อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี จำนวน 4 คน เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมและคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลในบริเวณชุมชน ต่อนายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัด อย่างไรก็ตามทางนายชวนไม่สามารถออกมารับจดหมายได้เนื่องจากติดราชการจึงมอบหมายให้นายไพฑูรย์ พรมสอน ปลัดจังหวัดออกมารับหนังสือแทน และได้ประสานงานไปยังอุตสาหกรรมจังหวัด เพื่อส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมพูดคุยกับชาวบ้าน

ศิริภัสร สิทธิสา ชาวบ้านคำสร้างไชย กล่าวถึงเหตุผลที่ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมในครั้งนี้ว่า เนื่องจากทางอุตสาหกรรมซึ่งเดินทางลงไปให้ข้อมูลกับชาวบ้านพร้อมทั้งตัวแทนบริษัทสมหมายการผลิตไฟฟ้าจำกัด เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 52 ที่ผ่านมา มีท่าทียืนยันใช้มติเดิมที่ชาวบ้านยินยอมให้มีการก่อสร้างทั้งๆที่ผ่านมาชาวบ้านได้พยายามคัดค้านตลอดว่ามติดังกล่าวไม่มีความโปร่งใส มีการเอาเอกสารให้ชาวบ้านไปลงชื่อที่บ้าน โดยทำให้เข้าใจว่าเป็นการลงชื่อประชุมประจำเดือน

นางศิริภัสร กล่าวเพิ่มเติมว่า ตอนนี้ในหมู่บ้านเกิดความแตกแยก และมีการข่มขู่ชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วยกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้า นายศุภนิตย์ สิมาพันธ์ ครูโรงเรียนห้วยคำนกเปล้า ที่ไม่เห็นด้วยกับการก่อสร้างโรงงานก็ถูกประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลท่าช้างซึ่งเป็นฝ่ายสนับสนุนร้องเรียนว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม

ด้านนายเชวงศักดิ์ หัสดิน หัวหน้าฝ่ายโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 52 ทางอุตสาหกรรมจังหวัดได้นำตัวแทนโรงงานไปชี้แจงข้อมูลกับชาวบ้าน ซึ่งในที่ประชุมวันนั้นก็ไม่มีผู้คัดค้านแต่อย่างใด และที่มาวันนี้สรุปคือชาวบ้านต้องการให้ทำประชามติใหม่ใช่หรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นก็คือต้องย้อนกลับไปเริ่มใหม่

ในประเด็นที่นายเชวงศักดิ์กล่าวมานั้น นางสาวสดใส สร่างโศรก ชาวบ้าน คำสร้างไชย ได้กล่าวโต้แย้งว่า อันที่จริงแล้วเวทีวันที่ 9 ม.ค. 52 มีชาวบ้านที่คัดค้าน แต่ทางอุตสาหกรรมจังหวัดบอกว่าถ้าชาวบ้านจะค้านก็ค้านไป แต่อุตสาหกรรมจังหวัดถือว่ามติเดิมใช้ได้แล้ว

และหากสำนักงานอุตสาหกรรมบอกว่าจะต้องเริ่มใหม่ก็ต้องไม่ส่งเอกสารขออนุญาตไปให้กรมโรงงาน แต่อุตสาหกรรมยืนยันจะใช้มติเดิมและจะส่งเอกสารไปยังกรมโรงงาน ทั้งที่รู้ว่ามติเดิมมีความไม่โปร่งใส ทำไม่ถูกต้อง ทำไมไม่จัดให้มีการทำประชามติใหม่

นางสาวสดใส กล่าวเพิ่มเติมว่า อันที่จริงชาวบ้านก็ไม่ได้ปฏิเสธการสร้างโรงไฟฟ้าเสียทีเดียว แต่อยากเรียกร้องให้มีการศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อสุขภาพของชาวบ้านเสียก่อน โดยใช้สิทธิตามมาตรา 11 ของพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 และขอให้มีการทำประชามติใหม่ และหากบริษัทจะสร้างโรงไฟฟ้าขอให้สร้างในพื้นที่ห่างไกลจากชุมชนได้หรือไม่

สำหรับประเด็นเรื่องการยื่นหนังสือขออนุญาตกับทางกรมโรงงานนั้น นายเชวงศักดิ์ ได้ชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมเอกสารให้ครบก่อนเสนอกับกรมโรงงาน ในส่วนข้อเรียกร้องของชาวบ้านนั้น ตนจะรวบรวมเนื้อหาเพื่อเสนอต่ออธิบดีกรมโรงงาน พิจารณาต่อไป คาดว่าจะทราบผลภายในสิ้นเดือนนี้ ว่าทางอุตสาหกรรมจังหวัดจะยื่นเรื่องต่อกรมโรงงานหรือจะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำประชามติใหม่อีกครั้ง