Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

ประเสริฐ อับดุเราะมาน


 


มาถึงวันนี้ กระแสข่าวชาวโรฮิงญา ดูจะซาๆ ไปในความรู้สึกและการรับรู้ของคนไทย เหมือนคลื่นกระทบฝั่งที่ผ่านไปแล้วผ่านเลย แต่ใครจะรู้บ้างว่าปัญหาที่พวกเขาต้องประสบได้รับการแก้ไขไปมากน้อยแล้วแค่ไหน


 


ที่สำคัญเรามั่นใจได้อย่างไรว่า พวกเขาชาวโรฮิงญาจะไม่อพยพเข้ามาในประเทศไทยอีก ไม่ว่าจะอพยพเพื่อผ่านไปยังประเทศที่สาม หรือเข้ามาพำนักในประเทศไทย เรื่องนี้ก็เหมือนกรณีแรงงานต่างด้าวเถื่อนที่แก้แล้วแก้อีก จับแล้วจับอีก เพราะปัญหาไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุหรือต้นทาง


 


ต้นทางที่ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย เพราะฉะนั้นประเทศไทยประเทศเดียวคงแก้ปัญหาเรื่องนี้ไม่ได้ แต่อยู่ที่เราจะให้ความเข้าใจกับเรื่องนี้ได้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร


 


ต้องขอชื่นชมที่รัฐบาลไทยที่นำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่บอกว่าปัญหานี้ต้องแก้ที่ต้นทาง พร้อมหาทางให้ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้ ร่วมกับสหประชาชาติเข้ามาร่วมกันแก้ปัญหา


 


ชาวโรฮิงญา ซึ่งเป็นชาวมุสลิมจากรัฐอาระกันซึ่งอยู่ทางตะวันตกของประเทศพม่า ติดกับประเทศบังคลาเทศ ตามประวัติศาสตร์จากการรายงานของสื่อต่างๆ พอสรุปได้ว่า ชาวโรฮิงญา ชาวโรฮิงญาเคยมีรัฐของตนเอง เคยช่วยเหลือจักรวรรดินิยมอังกฤษต่อสู้กับประเทศพม่า จนทำให้พม่าตกเป็นเมืองขึ้นของพม่า


 


ขณะที่บางส่วนระบุว่าชาวโรฮิงญาเดิมคือข่าวบังคลาเทศที่รัฐบาลอังกฤษเกณฑ์มาช่วยสู้รบกับพม่า เมื่อพม่าได้รับเอกราชและได้เข้าปกครองพื้นที่รัฐอาระกันซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของชาวโรฮิงญา มีการกดขี่ข่มเหง ขูดรีด จำกัด ลิดรอนสิทธิเสรีภาพต่างๆนานา ต่อชาวโรฮิงญา และไม่ยอมรับว่าเป็นพลเมืองของตน


 


พวกเขาถูกกดขี่ขมเหงเช่นเดียวกับที่รัฐบาลพม่าทำกับชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ตามที่ปรากฏในสื่อต่างๆ แต่สำหรับชาวโรงฮิงญาอาจหนักหนาสาหัสมากกว่าชนกลุ่มน้อยกลุ่มอื่นๆ


 


มองมาถึงตรงนี้ จะเห็นได้ชาวโรงฮิงญาอาจถูกกระทำด้วย 3 เหตุผล หนึ่ง เพราะเป็นชนกลุ่มน้อยที่ไม่ยอมหรือไม่สามารถอยู่ได้ภายใต้การกดขี่ของรัฐบาลพม่า


 


สอง เพราะความเป็นผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งจากการสัมภาษณ์ชาวโรฮิงญาบางส่วนของคนของรัฐบางคน พบว่า กระแสเกลียดชังชาวมุสลิมในพม่ามีสูง โดยเฉพาะจากคนของรัฐ


 


บวกกับ สาม ความเป็นผู้ช่วยเหลือจักรวรรดินิยมอังกฤษ อดีตเจ้าอาณานิคมอังกฤษจากตะวันตก จึงไม่แปลกที่จะทำให้ชาวโรฮิงญาถูกกระทำหนักอย่างนี้


 


ข้อมูลเชิงลึกที่ได้รับยังพบว่า ชาวโรงฮิงญาในรัฐอาระกันนออกจากจะถูกจำกัดพื้นที่ไม่ให้ไปไหนได้ในระดับอำเภอแล้ว ค่าแรง ค่าตอบแทนหรือรายได้ที่ได้จากการทำงานต้องแบ่งครึ่งกับคนของรัฐ


 


ขณะที่ผู้หญิงชาวโรงฮิงญาถูกเกณฑ์ไปใช้แรงงานให้คนของรัฐ ซึ่งนั่นเปิดโอกาสให้พวกเธอถูกข่มขืน ย่ำยีอย่างทารุน


 


ปรากฏการณ์เหล่านี้ส่งผลให้ชาวโรงฮิงญาต้องหนี แต่นั่นก็เป็นเพียงคำบอกเล่าที่สะท้อนให้เห็นว่าเหตุใดพวกเขาต้องหนีออกมาเพราะทนไม่ไหว ปัญหาที่ต้นทางเหล่านี้เรารับทราบและจะช่วยเหลืออะไรได้บ้างและจะทำได้มากน้อยแค่ไหน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net