http://www.thaigov.go.th  รายงานว่า  วันนี้ (8 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่วังสวนผักกาด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมาระบุว่ารัฐบาลและทหารมีการจัดงบลับกว่า 2,000 ล้านบาท เพื่อใช้สกัดกั้นกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ตนยังไม่ทราบ และแปลกใจว่าข่าวนี้มาจากไหนเข้าใจว่าในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตนที่ต้องอนุมัติกรณีที่เป็นงบกลางก็ไม่มีงบส่วนนี้ หรือการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมกลางปีก็ไม่เห็นมีตรงนี้เช่นกัน ก็ยังรู้สึกงงว่าจะใช้ดำเนินในโครงการอะไรได้ต่อข้อถามว่า จะมีการลงไปตรวจสอบในรายละเอียดหรือไม่ว่ามีการใช้งบประมาณในเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เวลานี้ไม่ได้มีการจัดสรรงบประมาณ ทั้งงบกลางปีก็ไม่ได้มีการจัดไว้ และงบกลางก็ยังไม่มีใครขอมา

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการอ้างเอกสารสำคัญของกระทรวงกลาโหมมายืนยันเรื่องดังกล่าว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าเรื่องมาถึงตนก็จะพิจารณา แต่ไม่คิดว่ามีเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่จำเป็นใช่หรือไม่ที่ต้องตั้งงบประมาณมาดำเนินการสกัดกั้นกลุ่มเสื้อแดง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มี ความจริงแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปเอางบประมาณมาปฏิบัติการทางการเมืองอย่างนั้น การเมืองก็ว่ากันในส่วนของการเมือง แต่ถ้าเป็นเรื่องของการสร้างความสมานฉันท์ การสร้างค่านิยม การเผยแพร่ประชาธิปไตย ก็สามารถจัดสรรงบประมาณให้ได้

ผู้สื่อข่าวถามถึงการเตรียมการรับมือกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่จะชุมนุมใหญ่ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ได้มอบแนวทางชัดเจนว่าให้กลุ่มผู้ชุมนุมชุมนุมได้อยู่ในกรอบของการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ จะไม่ยอมให้มีการทำผิดกฎหมายเกิดขึ้น

ต่อข้อถามว่า รัฐบาลยังคงจับตาความเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เหมือนเดิมทุกอย่าง และอยากให้พ.ต.ท.ทักษิณฯ กลับเข้ามาในประเทศไทย

ต่อข้อถามว่า การที่พ.ต.ท.ทักษิณฯ เคลื่อนไหวอยู่ในละแวกประเทศเพื่อนบ้านของไทยจะทำให้คนในประเทศเกิดความขัดแย้งมากขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะคิดว่าตอนนี้ความสนใจของคนส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดของประเทศคือทำอย่างไรให้ประเทศเดินหน้า ซึ่งยังมีเรื่องอื่นๆ ที่สำคัญสำหรับชีวิตของคนมากกว่าเรื่องของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งตนสนใจแต่เรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาเพื่อทำให้การเมืองมีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ ตนมองข้างหน้าในเชิงระบบ เช่น การปฏิรูปการเมือง ซึ่งเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็ได้พบกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย เพื่อขอให้มาช่วยกันดูว่าจะเดินหน้าการปฏิรูปทางการเมืองอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้รับการตอบรับจาก ร.ต.อ.เฉลิมฯ อย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้รับการตอบรับดี ซึ่งร.ต.อ.เฉลิมฯ ระบุว่าเป็นรื่องดี เพราะอยากให้มีกระบวนการตามระบบ จะได้แก้ปัญหาได้ แต่ ร.ต.อ.เฉลิมฯ ได้ขอรับไปดูรายละเอียดในเรื่องของกลไกและตัวบุคคลเพื่อให้ที่ยอมรับของทุกฝ่าย ต่อข้อถามว่า ดูเหมือนว่ารัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญกับความเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณฯ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลคน 60 กว่าล้านคนส่วนถ้า พ.ต.ท.ทักษิณฯ กลับมา ก็ดูแลความปลอดภัยได้ ต่อข้อถามว่า ข่าวการลอบสังหารพ.ต.ท.ทักษิณฯ มีมูลหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ยิน แต่ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณฯ กลับเข้ามาในประเทศ ก็เป็นหน้าที่ที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ต้องดูแลให้ดีที่สุด