Skip to main content
sharethis

การเมือง


สมชายอ้างกติกาพิเศษทำให้ต้องพ้นตำแหน่ง


ไอเอ็นเอ็น - นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ออกรายการความจริงวันนี้สีแดง ทางช่อง DTV โดยกล่าวเปิดใจว่าหลังจากถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ก็คงยังคงติดตามสถานการณ์ทางการเมืองมาตลอดและทำงานทางด้านการกุศล งานสังคม และให้คำปรึกษาต่างๆ เพื่อประโยชน์แก่บ้านเมือง ทั้งนี้ได้กล่าวถึงการพ้นออกจากตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีว่าคงเป็นกติกาพิเศษ เพื่อตนเท่านั้น ซึ่งไม่อยากพูดถึงเพราะตนเคารพกฎหมาย ส่วนเสียใจหรือไม่ที่ต้องออกจากตำแหน่งนั้น ไม่ได้เสียใจ เพราะไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง และไม่เคยคาดหวังว่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตามหากตนเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปประชาชนจะเห็นมาตรการการปราบปรามยา เสพติดรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานคร 9 เส้นทาง ภายใน 1 ปี หวยบนดินเพื่อสนับสนุนการศึกษา ทั้งนี้บรรยากาศด้านสถานี DTV มีประชาชนมาให้กำลังใจอดีตนายกสมชาย วงศ์สวัสดิ์ โดยสวมเสื้อโลโก้รายการความจริงวันนี้ นอกจากนี้อดีตนายกฯ สมชาย ยังสวมเนคไทสีแดงมาร่วมรายการด้วย


 


 


อภิสิทธิ์สั่งแก้ปัญหาพระวิหารฯจริงจัง


ไอเอ็นเอ็น - นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม กล่าวภายหลังจากการเยี่ยมปลอบขวัญทหารไทยที่ตรึงกำลังบริเวณรอบเขาพระวิหาร ว่า ในการแก้ไขปัญหาเขาพระวิหารนั้น ตนเห็นว่า นายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศมีความห่วงใยในเรื่องนี้มาก และกำชับให้มีการแก้ไขในเรื่องนี้อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ถึงแม้ว่ากำลังทหารทั้ง 2 ชาติจะต้องรักษาผลประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย แต่ว่าทางฝ่ายการทูต ก็จะต้องมีการเจรจากันต่อไป บนพื้นฐานของสันติวิธีซึ่งฝ่ายไทยก็จะต้องดูแลให้เป็นไปตามกรอบของกฎหมาย เพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ ส่วนเรื่องการถอนกำลังทหารออกจากบริเวณเขาพระวิหารนั้น ก็ให้เป็นหน้าที่ของ รมว.ต่างประเทศ และ รมว.กลาโหมซึ่งจะต้องเจรจากับทางฝ่ายกัมพูชาต่อไป


 


สำหรับสถานการณ์ทั่วไปบริเวณรอบเขาพระวิหาร ปรากฏว่า ทั้งทหารไทยและกัมพูชา ได้มีการขุดสนามเพาะ และทำบังเกอร์อย่างมั่นคงแข็งแรง โดยการนำท่อนไม้ขนาดใหญ่มาจัดเรียงเป็นบังเกอร์ อยู่ห่างกันประมาณ 50 เมตรเท่านั้น แต่ว่าไม่มีความตึงเครียดแต่อย่างใด โดยทหารทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงไปมาหาสู่กันตามปกติ และยังไม่มีความเคลื่อนไหวในการถอนทหารของทั้ง 2 ชาติ ออกจากบริเวณเขาพระวิหารแต่อย่างใด


 


 


"เทพไท" ชี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการคนในตระกูล "ชินวัตร" ขึ้นหัวหน้าพรรค เหตุไม่ไว้ใจลูกพรรคเพื่อไทย


ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ - นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีมีข่าวว่ารัฐบาลและทหารทุ่มเงิน 2,000 ล้าน เพื่อทำลายม็อบเสื้อแดง ว่า ข่าวนี้เป็นข่าวไร้สาระ ไม่มีมูลความจริง เป็นเพียงแค่การกุข่าว และเบี่ยงเบนประเด็น หรือโฆษณาชวนเชื่อ นอกจากนี้ ยังเห็นว่าเป็นการเกิดภาพหลอนของคนทำม็อบเสื้อแดง เพราะรู้ว่าม็อบเสื้อแดงที่เกิดขึ้นได้นั้น มีการใช้เงินสร้างม็อบขึ้นมา วันนี้จึงกลัวว่าอาจจะมีคนเอาเงินมาทำลายม็อบเสื้อแดง


   


"เป็นความฝันของคนจัดการเคลื่อนไหวเรื่องนี้ คนเหล่านี้คิดว่าเงินคือพระเจ้า และสามารถที่จะสร้างและทำลายทุกสิ่งทุกอย่างได้ แต่ผมคิดว่ามันไม่จริงเสมอไป เว้นแต่เงินของ พ.ต.ท.ทักษิณเท่านั้น ที่เป็นพระเจ้าของกลุ่มคนเสื้อแดงที่จัดการเคลื่อนไหวในวันนี้" นายเทพไท กล่าว


   


นอกจากนี้ยังเห็นว่าข่าวลักษณะนี้เป็นการปล่อยข่าวเพื่อจงใจใส่ร้าย และทำลายรัฐบาล โดยเฉพาะการสร้างกระแสสังคมเพื่อกลบเกลื่อนพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างเข้มข้น นายเทพไท กล่าวว่า รัฐไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทุ่มเงินถึง 2,000 ล้านเพื่อจัดการกับกลุ่มเสื้อแดง เพราะเรามีความเชื่อว่า เมื่อนายทุนของกลุ่มเสื้อแดงมีทุนร่อยหรอไปเมื่อใด คนเสื้อแดงก็จะหายไป "ถ้าหากมีเงินซัก 2,000 ล้านมาจัดการเรื่องนี้ ผมคิดว่าเงินจำนวน 2,000 ล้านน่าไปใช้ในโครงการที่เป็นประโยชน์กับประชาชนโดยเฉพาะโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ในขณะนี้จะดีกว่า" นายเทพไท กล่าว


   


นอกจากนี้นายเทพไท ยังกล่าวถึงกรณีวีซ่าของพ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ที่ผ่านมามีสมาชิกพรรคเพื่อไทยประกาศว่าจะเดินทางไปฮ่องกง เพื่อเข้าพบพ.ต.ท.ทักษิณ และหารือเรื่องการเมือง แต่วันนี้กลับมีข่าวว่างดเดินทางไปฮ่องกงแล้ว เพราะไม่ต้องการที่จะให้ผู้คนทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่ไหน ในเรื่องนี้ตนเห็นว่า จะตรงกับประเด็นที่มีคนพูดกันว่า ประเทศจีนให้พ.ต.ท.ทักษิณเข้าประเทศในฐานะนักท่องเที่ยว โดยไม่มีพฤติกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง เพราะการที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยเข้าพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ฮ่องกงนั้น เป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองซึ่งอาจทำให้ผิดเงื่อนไขของการให้วีซ่า และเป็นไปได้หรือไม่ว่า หากมีสมาชิกพรรคเพื่อไทยไปเยอะ เพื่อไปชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมือง จะทำให้จีนต้องถอนวีซ่าออกไป


   


ผมคิดว่าเรื่องการอ้างเรื่องปกปิดแหล่งที่พักพิงของสมาชิกพรรคเพื่อไทยในวันนี้เป็นการแก้เกี้ยวทางการเมืองมากกว่าข้อเท็จจริง สำหรับการระงับวีซ่าของประเทศญี่ปุ่นนั้น หากสมาชิกพรรคเพื่อไทยจะต้องการพิสูจน์ความจริงแล้ว ผมคิดว่าสมาชิกพรรคเพื่อไทยไม่จำเป็นต้องไปเคลื่อนไหวกดดันสถานทูตญี่ปุ่น วิธีการง่าย ๆ ก็คือ หากอยากรู้ว่าญี่ปุ่นให้วีซ่ากับพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่นั้น ก็ให้พ.ต.ท.ทักษิณลองขอวีซ่าไปประเทศญี่ปุ่น ก็จะรู้ว่าญี่ปุ่นให้วีซ่าหรือไม่


   


"ในเมื่อบอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นศาสตราจารย์พิเศษของมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น วันนี้ลูกศิษย์รอคอยอยู่ ฉะนั้นอาจารย์หายไปไหน ถ้าอยากจะไปพบลูกศิษย์ที่ประเทศญี่ปุ่น ก็น่าจะไปขอวีซ่าแล้วก็เดินทางไป" นายเทพไท กล่าว


   


นายเทพไทกล่าวถึงการสร้างกระแสการลอบสังหารของพ.ต.ท.ทักษิณที่มีสมาชิกพรรคหลายคนออกมาประโคมข่าวเรื่องนี้ รวมไปถึง พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ตนเห็นว่า เป็นเรื่องการสร้างจิตวิทยามวลชนธรรมดา เพื่อให้มวลชนคนเสื้อแดงเกิดความสงสารในตัวพ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อใช้เป็นเงื่อนไขในการปลุกม็อบมา


   


"วันนี้ไม่มีใครกลัว พ.ต.ท.ทักษิณ หากพ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมา สิ่งที่เรากลัวก็คือ กลัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่กลับมาติดคุกในเมืองไทยเท่านั้นเอง แม้แต่ในยุคของ คมช. ที่มีอำนาจเต็มมือในตอนนั้น ก็ยังไม่มีใครคิดที่จะทำร้ายพ.ต.ท.ทักษิณแต่ประการใด ฉะนั้นในยุคนี้ ยุคประชาธิปไตย ยุคที่ประชาธิปัตย์ เป็นรัฐบาล ซึ่งเราเคารพในกติกาประชาธิปไตย ไม่เคยคิดแม้แต่นิดเดียวว่าจะไปทำลายล้าง พ.ต.ท.ทักษิณ โดยวิธีที่ผิดกฎหมาย และวิธีการใต้ดิน" นายเทพไทกล่าว


   


พร้อมกันนี้นายเทพไท ยังยืนยันอีกด้วยว่า จะดำเนินการกับทุกคนภายใต้กฎหมายเดียวกันเท่านั้น และสิ่งที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการลอบสังหารพ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ใครคิดเรื่องนี้ก็พอรู้กันอยู่ คิดอยู่ในประเทศไทย อยากเป็นใหญ่เกินตัว และเตรียมไปจัดการนอกสั่งเพราะกังวลและกลัวพ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมา เรื่องนี้ตนตั้งข้อสงสัยว่า เรื่องนี้ไม่ทราบว่ามีใครรู้บ้าง แต่ประชาชนไม่รู้ และถ้าจะรู้ก็มีเพียงสมาชิกพรรคเพื่อไทยเท่านั้น เพราะเป็นการจินตนาการของตัวเองขึ้นมา


   


สำหรับเรื่องการปรับแผนพรรคเพื่อไทย โดย ร.ต.อ.เฉลิมได้ประกาศที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลทั้งคณะ นั้น นายเทพไทกล่าวว่า เรื่องนี้ขอตอบรับด้วยความยินดี พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยกลัวการตรวจสอบในระบบรัฐสภาอยู่แล้ว


   


"อยากจะเห็นพรรคเพื่อไทยมีผู้นำที่แท้จริง ไม่ใช่วันนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ออกมาพูดอย่างหนึ่ง พรุ่งนี้ คุณวิทยา บูรณะสิริ ออกมาพูดอีกอย่าง มะรืนนี้โฆษกก็พูดไปอีกอย่าง ผมอยากจะให้มีความเป็นเอกภาพในพรรคเพื่อไทย เพราะอย่างน้อยก็เป็นประโยชน์ในการทำงานในระบบรัฐสภา ที่รัฐบาล และพรรคประชาธิปัตย์จะต้องประสานงานกัน ข่าวที่จะให้คุณมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ คุณเฉลิม อยู่บำรุง หรือคุณอภิวันต์ วิริยะชัย มาเป็นหัวหน้าพรรคนั้น ผมคิดว่า ในพรรคเพื่อไทยนั้น ใครก็ได้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค เพราะทุกคนอยู่ภายใต้นอมินีของพ.ต.ท.ทักษิณอยู่แล้ว" นายเทพไทกล่าว


   


นอกจากนี้ นายเทพไทยังเห็นว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการที่จะให้คนในตระกูล ชินวัตร โดยเฉพาะคนที่เป็นญาติพี่น้องทั้ง 4 คนนั้นมาคุมการเมืองใน 4 ภาค นั้น ตนคิดว่าเป็นการส่งสัญญาณของการไม่ไว้วางใจลูกพรรคของตัวเอง เพราะที่ผ่านมาอาจจะมีเรื่องของการเก็บค่าหัวคิว เงินอาจไม่ถึงสมาชิกพรรคเพื่อไทยระดับล่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย จึงเห็นปรากฏการณ์พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินมาที่เขาใหญ่ โดยเสนอการขายตรงต่อสมาชิกพรรค ที่ประกาศว่าสมาชิกพรรคทุกคนสามารถที่จะโทรศัพท์ถึงตัวเองได้ในทันทีที่ต้องการที่จะขอความช่วยเหลือ นั่นแสดงให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ไว้วางใจและเชื่อมั่นระบบนายหน้าที่เกิดขึ้นในพรรคเพื่อไทยอีกต่อไป


 


 


สุริยะใสจี้รัฐบาลปฏิรูปสื่อ ให้อาหารสมองประชาชน


ASTV ผู้จัดการรายวัน - นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ข้อกล่าวหารัฐบาลจัดงบลับ 2 พันล้าน เพื่อล้างสมองและสลายขุมกำลังเสื้อแดงนั้น จะมีจริงหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่ประเด็นสำคัญต้องยอมรับว่าความบิดเบี้ยวหรือวิกฤติการณ์เรื้อรังของบ้านเมืองในขณะนี้ เกิดจากการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารอย่างรุนแรง ในระช่วงระบอบทักษิณเรืองอำนาจ มีทั้งการแทรกแซง แทรกซึม และแทรกซื้อสื่อ


   


และยังใช้ทั้งสื่อของรัฐ และงบประมาณทั้งบนดินและใต้ดิน ล้างสมองคนไทย โจมตีผู้ไม่สวามิภักดิ์เพื่อสร้างขั้วอำนาจเดียวที่ตนเองเป็นศูนย์กลางอำนาจ


   


ยุทธศาสตร์เผด็จอำนาจด้วยการล้างสมองคนไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน แม้ไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่ยังมีอำนาจทางการเมือง มีข้าราชการจำนวนไม่น้อยยังจงรักภักดี และยังมีเม็ดเงินมหาศาล นอกจากนี้ ยังมีการทุ่มงบว่าจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ โจมตีประเทศไทย และสร้างขุมกำลังเครือข่ายในประเทศทั้งบนดิน และใต้ดิน กล่าวหาและทำลายความน่าเชื่อถือของสถาบันเบื้องสูง และศาลสถิตยุติธรรม อยู่ตลอดเวลา


   


นายสุริยะใส กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ต้องกล้ายอมรับความจริงว่า คนไทยจำนวนมากได้ถูกล้างสมองโดยระบอบทักษิณไปก่อนหน้านี้แล้ว ฉะนั้น หน้าที่เร่งด่วนและสำคัญของรัฐบาลจึงต้องพยายามคืนความจริง คืนความถูกต้องให้กับประชาชน ด้วยการให้อาหารสมอง ด้วยความจริง ด้วยการเร่งจัดระเบียบและปฏิรูปสื่อสารมวลชนทั้งระบบ และกลไกรัฐราชการหลายส่วนที่ยังโหยหาระบอบทักษิณอยู่


   


ยุทธศาสตร์นี้ไม่ใช่เรื่องที่ต้องดำเนินการทางลับ แต่ต้องทำอย่างเปิดเผย โปร่งใส และตรงไปตรงมา ให้สังคมได้รู้ความจริงอย่างรอบด้าน


   


รัฐบาลจะต้องไม่ประเมินการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ต่ำเกินไป ตราบที่ตัวรัฐบาลเองยังไม่มีผลงานที่โดดเด่น หรือเป็นรูปธรรม ถ้ายังไม่มีผลงาน โอกาสที่ระบอบทักษิณ จะคืนชีพก็เป็นไปได้สูง และต้องไม่ลืมว่า การเคลื่อนไหวนอกสภาด้วยเครือข่ายมวลชนขนาดใหญ่ เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงกว่าในสภา เพราะในสภาต้องเปิดเผย สังคมตรวจสอบได้ แต่ถ้านอกสภา หรือเป็นขบวนการใต้ดิน เป็นเรื่องที่ติดตามตรวจสอบได้ยาก


 


 


เสื้อแดงอุดรฯระดมพลต้านปราศรัยพธม.


ไอเอ็นเอ็น - บ่ายวันนี้ นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดรได้นำสมาชิกคนรักอุดร และกลุ่มคนเสื้อแดงออกสัญจรเวทีปราศรัยเคลื่อนที่และตลาดคงวันดี ตำบลหนองหลัก อำเภอไชยวาน จังหวัดอุดรธานี โดยมี นายชินวัฒน์ หาบุญพาด นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท นายวิชัย แซ่ด่าน ซึ่งเดินทางมาจากกรุงเทพ เดินทางมาร่วมปราศรัยลากไส้รัฐบาลและต่อต้านพันธมิตรฯ ที่จะเดินทางมาปราศรัยใหญ่ที่จังหวัดอุดรธานีในวันที่ 14 ก.พ. 2552 นี้ ส่วนทางด้านพรรคการเมืองใหญ่ของจังหวัดอุดรธานี ได้มีการประชุมเมื่อวานนี้มีบรรดานักการเมืองหัวคะแนน เดินทางมาประชุมเพื่อวางแผนในการต้อนรับพันธมิตรฯ โดยมีนักการเมืองชื่อดังใช้บ้านของตนเองประชุมแถวบ้านเหล่า ตำบลหมากแข้ง ซึ่งมีนักการเมืองระดับชาติมาร่วมกันประชุมอย่างถ้วนหน้า โดยเชื่อว่าคนเสื้อแดงออกมาเป็นจำนวนมากและไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มของ นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร


 


ขณะที่กลุ่ม นปช.กาญจนบุรี ทำหนังสือให้กำลังใจ พ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตร ฝาก สส.พรรคเพื่อไทย ที่เดินทางไปพบในต่างประเทศพร้อมรวมพลคนเสื้อแดงระดมทุนเตรียมไปหัวหิน


 


 


เสื้อแดงเชียงใหม่เดินขบวนแสดงพลังต้านรบ.


ไอเอ็นเอ็น - กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 หรือ กลุ่มเสื้อแดงเชียงใหม่ จัดกิจกรรมเดินขบวนรณรงค์แสดงพลังต่อต้านรัฐบาลโดย กลุ่มเสื้อแดงเชียงใหม่ กว่า 1,000 คน นำโดย นาย เพชรวรรต วัฒนพงศ์ แกนนำ กลุ่มรักเชียงใหม่ 51ได้เคลื่อนขบวนออกจาก โรงแรมแกรนด์วโรรส พาเลซ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ไปตามถนนสายต่างๆ ผ่านตลาดวโรรสและรอบคูเมืองเชียงใหม่ เพื่อแสดงพลังของกลุ่มเสื้อแดง ก่อนเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ส่งผลให้การจราจรติดขัดเป็นระยะ ก่อนที่จะเปิดเวทีปราศรัยที่หน้าโรงแรมอีกครั้ง ในเย็นวันนี้ โดยประเด็นที่โจมตีคือ การโยกย้าย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 โดยระบุว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี อยู่เบื้องหลังทั้งนี้ คาดว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ เป็นการแสดงศักยภาพของ กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ กลุ่มรักเสื้อแดงได้แยกตัวออกไปตั้งกลุ่มใหม่ และรวมตัวกันทั้งหมด 15 กลุ่ม เพื่อจัดรายการความจริงวันนี้สัญจร ที่ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 21 ก.พ. โดยไม่มี กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 เข้าร่วม เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวโดยใช้ความรุนแรงของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51


 


 


น.1เผยผลหารือร่วมทหารรับมือนปช.


ไอเอ็นเอ็น - พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวภายหลังการประชุมประเมินสถานการณ์รวมกับทางกองทัพ สถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.ที่นัดชุมนุมและระดมทุนภายในสัปดาห์ โดยได้มีการหารือถึง การปรับเปลี่ยนแผนการปฏิบัติงานและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยยังไม่มีการประเมินสถานการณ์ นับขณะนี้ พร้อมทั้งยอมรับว่า ปัญหาที่พบส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับด้านกำลังพล อุปกรณ์ควบคุมฝูงชน ในการปฏิบัติงาน


 


นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังกล่าวถึง คดีอาชญากรรมค้างเก่า ที่อยู่ในความดูแลของกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยทุกคดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังคงดำเนินการอยู่ รวมถึง คดีของนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกอุเทนถวายด้วย ทั้งนี้ คงต้องใช้ระยะเวลา


 


 


รายการนายกแป้ก!คนสนใจดูเพียง11.8%


ไอเอ็นเอ็น - เอแบคโพล เผยผลสำรวจ เรื่อง เปรียบเทียบแนวโน้มความเชื่อมั่น/ไม่เชื่อมั่นประเทศไทย กับ นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาวีวะ ในทัศนะของประชาชนทั่วประเทศ ครั้งที่ 3 พบว่า ร้อยละ 11.8 ประชาชนได้ติดตามรับชมและรับฟัง รายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกอภิสิทธิ์ ในวันนี้ ขณะที่ ร้อยละ 88.2 ไม่ได้ติดตามรับชมและรับฟัง ร้อยละ 89.4 เห็นว่ารายการมีความน่าสนใจ ร้อยละ 74.1 ชื่นชอบประเด็นที่เกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ร้อยละ 87.5 เห็นว่า เนื้อหาสาระของรายการมีประโยชน์ต่อการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ร้อยละ 81.9 เห็นว่า หลังรับชมและรับฟังรายในวันนี้ พบว่ายังมีความเชื่อมั่น และ ร้อยละ 85.6 ตั้งใจจะรับชมและรับฟังรายการในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ ร้อยละ 67.02 อยากให้นำประเด็นปัญหาการกลับมาของยาเสพติด ไปพูดในรายการสัปดาห์หน้า


 


 


คุณภาพชีวิต


กทม.เตรียมฟังความเห็นแก้กม.ผังเมืองรวม


ไอเอ็นเอ็น - น.ส.อัญชลี ปัทมาสวรรค์ ผู้อำนวยการสำนักผังเมือง (สผม.) เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการประกาศใช้ผังเมืองรวม กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 16 พ.ค.2549 ซึ่งจะครบวาระในปี 2554 เมื่อประกาศใช้ไปครึ่งทาง กทม. จะต้องประเมิน กฎหมายฉบับดังกล่าว ว่าจะปรับเปลี่ยนจุดใดบ้าง ทั้งนี้ ในการปรับปรุงแก้ไขจะต้องผ่านขั้นตอนทั้งสิ้น 18 ขั้นตอน ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลาเป็นปี โดยขณะนี้ผ่านมา 2 ปี 7 เดือน สผม. กำลังอยู่ระหว่างประเมินแผน โดยในสัปดาห์หน้า จะเริ่มลงพื้นที่ 12 กลุ่มโซน เพื่อรับฟังความคิดเห็นข้าราชการ ส.ก. ส.ข. และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อขอความคิดเห็นในการปรับปรุงผังเมือง โดยจะ เริ่มในวันที่ 14 ก.พ. ที่เขตบางกะปิ จากนั้นจะเดินสายลงพื้นที่ให้ครบ 12 กลุ่มเขตต่อไป นอกจากนี้ ยังได้ประสานประสาน และรับฟังความคิดเห็นกับจังหวัดในพื้นที่ปริมณฑลด้วย เพื่อให้การปรับปรุงแผนมีความครอบคลุมและกำหนดพื้นที่ อย่างเหมาะสม


 


 


ม็อบข้าวโพดกว่าพันคนปิดถนนสายตาก - แม่สอด


เว็บไซต์คมชัดลึก - เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ เกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดในพื้นที่ตำบลด่านแม่ละเมา และตำบลพะวอ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก กว่า 1,000 คน ใช้รถอีแต๋น จำนวนหลายคัน พร้อมด้วยกางเต้นท์ ปิดถนนบริเวณจุดตรวจ สภ.รพะวอ เส้นทางสายอำเภอแม่สอด - อำเภอเมืองตาก ห่างจากแม่สอดราว 45 กิโลเมตร ทั้งนี้เพื่อประท้วงรัฐบาลเพราะไม่ได้รับเงินจากการรับจำนำข้าวโพดที่ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์ ( ธกส. ) หลังจากที่ไปจำนำไว้ และรับใบประทวนมาแล้วเป็นเวลาร่วม 3 เดือน จึงขอให้รัฐบาลรีบดำเนินการชำระเงินโดยด่วน เพราะขณะนี้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนมาก เนื่องจากไปกู้เงินมา ต้องเสียดอกเบี้ยจำนวนมาก การชุมนุมดังกล่าวกลุ่มเกษตรกรต่างผลัดกับกล่าวโจมตีรัฐบาล และเรียกร้องให้รับบาลแก้ปัญหาโดยด่วน



   


นางบัวล้อม เครือคำอ้าย ประธานสหกรณ์การเกษตรตำบลพะวอ กล่าวว่า เกษตรกรทั้งพื้นที่สูง และพื้นที่ราบในพื้นที่ 2 ตำบล 18 หมู่บ้าน ได้รับความเดือดร้อนมาก ยังไม่มีใครได้รับเงินมานานเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว ไม่มีความคืบหน้าใดๆ



   


ในระหว่างที่กลุ่มเกษตรกรปิดถนนชุมนุมประท้วงนั้น ส่งผลให้รถยนต์ของนักท่องเที่ยว และผู้สัญจรไปมาสายตากแม่สอด รวมทั้งรถยนต์ขนส่งสินค้าต่างๆ ทั้งขาไป และขาหลับ ต่างได้รับผลกระทบ และต้องจอดรถเป็นทางยาว ขณะที่ทางรวจสภ.พะวอได้ระดมกำลังตำรวจดูแลรักษาความสงบ



   


ล่าสุดนายกิตติ โตมรศักดิ์ นายอำเภอแม่สอด ได้ไปเจรจากับผู้ชุมนุม โดยขอร้องให้ผู้ชุมนุมเปิดเส้นทางให้รถยนต์คันอื่นๆสัญจรไปมาได้ตามปกติ และค่อยเจรจากัน แต่ทางผู้ชุมนุมไม่ยอม และขอพบนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษา และส.ส.ตาก พรรคประชาธิปัตย์ โดยทางนายอำเภอแม่สอดพยายามติดต่อให้นายชัยวุฒิไปเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมแล้ว


 


 


เกษตรกร4ภาคยอมสลายตัวหลังชุมนุมหน้าเกษตรฯ116วัน


เว็บไซต์สยามรัฐ - หลังการปักหลักชุมนุมหน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นเวลา 116 วัน ในเช้าวันนี้กลุ่มเกษตรกรสภาประชาชน 4 ภาค ได้เก็บข้าวของขึ้นรถบัสเคลื่อนย้ายกลับ ภูมิลำเนาเพื่อรอการแก้ไขปัญหาจากรัฐบาลที่ศูนย์อพยพคนไทยไร้แผ่นดิน อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมาแล้ว โดยได้ประกาศแถลงการณ์ฉบับที่ 7 ว่าพอใจในคำมั่นสัญญาของรัฐบาลที่จะแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและหนี้สิน รวมทั้งการฟื้นฟูอาชีพให้แล้วเสร็จภายใน 45 วันนับตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์



   


นายชาติชาย พุคยาภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางมาส่งและให้กำลังใจ พร้อมทั้งมอบค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายและข้าวสารจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ให้แก่ผู้ชุมนุม โดยมั่นใจว่าจะสามารถจัดทำแผนการจัดหาที่ดินร่วมกันได้โดยเร็ว และเสนอกลับสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง



   


ขณะที่นายประพาส โงกสูงเนิน ประธานสภาประชาชน 4 ภาค ขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่ห่วงใยความเดือดร้อนของประชาชนและแก้ปัญหาให้ ส่วนเงื่อนเวลา 45 วันนั้น ไม่สามารถขีดเส้นตายได้ เพราะไม่รู้จะเจอปัญหาข้างหน้าอย่างไรบ้าง ส่วนที่ดินก็ต้องต่อสู้กับนายทุนว่า จะซื้อกลับได้หรือไม่ ซึ่ง 45 วันจากนี้ไปจะเป็นการดำเนินการตามแผนที่แต่ละจังหวัดจะหาพื้นที่ของตนเองและต่อรอง ขณะนี้จึงพอใจระดับหนึ่งและเชื่อว่ารัฐบาลมีความจริงใจ



   


ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณช่วยเหลือเกษตรกรสภาประชาชน 4 ภาค โดยให้ สปก.ดำเนินการตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พร้อมทั้งอนุมัติงบกลาง 1,700 ล้านบาท จัดซื้อที่ดินให้เกษตรกรที่ลงทะเบียนไว้ 1,889 คน คนละ 15 ไร่ และจะแก้ปัญหาหนี้สินและการฟื้นฟูอาชีพแก่เกษตรกรสภาประชาชน 4 ภาค ที่ลงทะเบียนไว้ 2,022 คน โดยใช้เงิน 2,500 ล้านบาทด้วย


 


 


นายกฯเตรียมนำปัญหาการสอบ A-net การปล่อยเงินกู้ของ กยศ. เข้าที่ประชุม ครม.อังคารนี้


สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ทางสถาวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT ว่า เป็นห่วงนักเรียนที่สอบ A-net ซึ่งได้ส่งเรื่องให้กระทรวงศึกษาธิการดูแล เนื่องจากทุกปีจะมีปัญหากกับเด็กที่ไม่สามารถเข้าไปสอบ A-net ได้ แม้ว่าปีนี้จำนวนลดลงมาจากปีก่อนเล็กน้อย ซึ่งปีนี้มีนักเรียนประสบปัญหาไปประมาณ 20,000 คน โดยจะให้มีช่องทางการร้องเรียนคาดว่าจะเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดแต่ละจังหวัดเพื่อมาแยกแยะเพราะมีจำนวนมากที่สละสิทธิ์ เนื่องจากชื่อซ้ำซ้อน ผ่านการสอบตรง ก็จะลดปัญหาไปส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลือจะมาดูว่า ถ้าปัญหาเกิดจากกระทวงศึกษาธิการเอง เช่น เว็บไซต์ไม่ทำงาน ความบกพร่องในการบริหารจัดการจะต้องคืนสิทธิให้นักเรียน และถ้าไม่ใช่ความผิดของกระทรวงฯก็ให้ช่วยดูว่าจะช่วยเหลืออย่างไร โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันอังคารนี้ จะนำปัญหาการสอบ A-net การปล่อยเงินกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) เข้าที่ประชุมเพื่อให้ข้อยุติโดยเร็ว


 


 


สกอ.ไม่รับปากคืนสิทธินร.สอบเอเน็ต


เว็บไซต์เดลินิวส์ - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการอุดมศึกษา(สกอ.) เปิดเผยว่า สกอ.จะพิจารณารวบรวมคำร้องของนักเรียนภายในวันนี้ โดยจะประมวลเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนแจ้งต่อรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ แต่จะไม่ขอสรุปว่าจะสามารถให้สิทธิกับนักเรียนกว่า 20,000 คน ที่ถูกตัดสิทธิ์สอบได้หรือไม่



   


โดยนายสุเมธ กล่าวว่า การทำประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าเป็นเวลา 3 เดือน ได้รุบะถึงวันสิ้นสุดการรับสมัครสอบ และวันชำระเงินไว้อย่างชัดเจน ข้อมูลจึงไม่น่าผิดพลาด แต่หากการตรวจสอบพบว่า ความผิดพลาดเกิดจากสกอ. ก็จะคืนสิทธิให้



   


สำหรับการยืนคำร้องของนักเรียนที่ถูกตัดสิทธิ ในพื้นที่ต่างจังหวัด สามารถยื่นคำร้องในวันที่ 10-13 ก.พ. ที่ศูนย์กลางของโรงเรียนในแต่ละจังหวัด โดยจะประกาศผ่านทางเว็บไซต์ของสกอ.ให้ทราบภายในช่วงบ่ายนี้ ส่วนนักเรียนในกรุงเทพฯ สามารถยื่นคำร้องตั้งแต่วันนี้-13 ก.พ. ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. ที่สกอ.โดยคาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ในสัปดาห์หน้า


 


 


วธ.เสนอ 9 คกก.พัฒนาแก้สื่อร้ายขยายสื่อดี-เตรียมจัดเรตติ้งเกมกำหนดเวลาเล่น


สำนักข่าวไทย - นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ปัญหาเด็กติดเกมในขณะนี้ วธ.จะดำเนินการปรับปรุง พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 ให้ครอบคลุมเกี่ยวกับการจัดระดับความเหมาะสมของเกมหรือเรตติ้งเกม เพื่อให้ผู้ปกครองรู้ว่าเกมไหนเหมาะสมกับเด็กวัยใด รวมทั้งจะต้องกำหนดเวลาของเด็กที่จะเข้าไปเล่นเกมในร้านเกมให้เกิดความเหมาะสม ซึ่งเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี จะเล่นได้ตั้งแต่เวลา 14.00 -20.00 น. อายุ 15-18 ปี 14.00-22.00 น. และได้ให้สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) พัฒนาร้านเกมสีขาวเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 แห่งทั่วประเทศ ในปี 2552 จะช่วยลดปัญหาเด็กติดเกมรุนแรงลงได้


 


  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า การแก้ปัญหาสื่อร้ายขยายสื่อดี วธ.ได้เสนอรายชื่อแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิด้านสังคมเป็นคณะกรรมการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์แห่งชาติ จำนวน 9 คน อาทิ ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท นายวัลลภ ตั้งคณานุรักษ์ หรือ ครูหยุย เลขาธิการมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก เป็นต้น จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาสื่อร้าย เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ เว็บไซต์ ที่เผยแพร่ลามกอนาจาร ทั้งนี้ได้เสนอชื่อผู้ทรงคุณวุฒิให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พิจารณาลงนามแต่งตั้งภายในเดือนกุมภาพันธ์


 


 


ต่างประเทศ


เวียดนามพบผู้ติดเชื้อหวัดนกรายใหม่


ไอเอ็นเอ็น - หนังสือพิมพ์เลา ดอง ของทางการเวียดนามรายงาน ว่า มีผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกเพิ่มอีก 1 คนในเวียดนาม เป็นชายวัย 23 ปี ที่อาศัยอยู่ทางภาคเหนือของประเทศ ชายคนดังกล่าว มาจากเขตดัม ฮา จังหวัดกวางนินห์ ทางภาคเหนือ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงฮานอยเมืองหลวงประมาณ 150 กิโลเมตร เขาล้มป่วยเมื่อเร็วๆนี้โดยมีไข้สูงและหายใจลำบาก ซึ่งผลการตรวจ พบเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ เอช 5 เอ็น 1 ในร่างกาย โดยก่อนหน้านี้เวียดนามยืนยันว่า มีผู้ติดเชื้อไข้หวัดนก 1 ราย ที่จังหวัดธันห์ โฮ ทางภาคเหนือ โดยผู้ติดเชื้อเป็นเด็กหญิงวัย 8 ขวบ ที่ล้มป่วยหลังรับประทานเป็ดและไก่ที่เลี้ยงไว้ภายในบ้านแต่ขณะนี้อาการดีขึ้นแล้ว


 


 


ศรีลังกาซัดกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลมแทรกแซงสื่อ


ไอเอ็นเอ็น - เจ้าหน้าที่กลาโหมระดับสูงของศรีลังกา กล่าวหาสื่อและองค์การบรรเทาทุกข์ระหว่างประเทศว่าเข้าข้างกลุ่มกบฏ พยัคฆ์ทมิฬอีแลม 1 วัน หลังจากฝูงชนที่โกรธแค้นพากันขว้างปาก้อนหินเข้าใส่สำนักงานของกาชาดสากล หลาย แห่งในกรุงโคลัมโบ เมืองหลวงของศรีลังกา นายโกตาบายา ราชปักษี รัฐมนตรีกลาโหมของศรีลังกา กล่าวว่า เครือข่ายของกลุ่มกบฏเตรียมการเป็นอย่างดีเพื่อลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาล และกองกำลังรักษาความมั่นคง ของศรีลังกาและกดดันรัฐบาลให้ประกาศหยุดยิง โดยกลุ่มกบฏเข้าแทรกแซงองค์การบรรเทาทุกข์และสถาบันสื่อระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีกลาโหมศรีลังกาปฏิเสธข้อเรียกร้องของรัฐบาลต่างชาติที่ขอให้หยุด ปราบปรามกลุ่มกบฏ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียชีวิตและบาดเจ็บของพลเรือน โดยรัฐบาลศรีลังกายืนยันว่าสงครามปราบปรามกลุ่มกบฏกำลังจะมีชัยชนะ


 


 


66ชีวิตเซ่นพิษไฟป่า ผู้นำจิงโจ้ประกาศเป็น"โศกนาฏกรรมของชาติ"


เว็บไซต์สยามรัฐ - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุไฟไหม้ป่าอย่างรุนแรงในหลายพื้นที่ของรัฐวิกตอเรีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 66 คน และบ้านเรือนของประชาชนกว่า 700 หลังถูกเพลิงเผาผลาญวอดไปทั้งหลัง  


 


โดยนายจอห์น บรัมบี ผู้ว่าการรัฐวิกตอเรีย เปิดเผยว่า ไฟไหม้ป่าครั้งนี้เป็นครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษ นับตั้งแต่ปี 2526 เป็นต้นมา ซึ่งในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 75 คน สำหรับเหตุไฟไหม้ป่าในครั้งนี้ พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินมากที่สุด ได้แก่ ย่านคิงเลก ทางตอนเหนือของนครเมลเบิร์น เมืองหลวงของรัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้ป่าอย่างน้อย 29 คน ส่วนบ้านเรือนได้เพลิงเผาผลาญไปกว่า 500 หลังคาเรือน


   


ขณะเดียวกัน ทางด้านนายเควิน รัดด์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ได้ออกมาแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า นับเป็นโศกนาฏกรรมของประเทศ ไม่ใช่แต่เพียงในประวัติศาสตร์ของรัฐวิกตอเรียเท่านั้น พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีรัดด์ ก็ได้ประกาศให้เป็นพื้นที่ภัยพิบัติ และกองทุนฉุกเฉินมูลค่า 10 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 6.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อช่วยเหลือแก่เหยื่อผู้ประสบภัยไฟไหม้ป่าครั้งนี้โดยด่วน


 


ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า เพลิงได้เผาผลาญพื้นที่ต่างๆ คิดเป็นพื้นที่รวมแล้วกว่า 210,000 เฮกเตอร์ และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ แม้ว่าทางการระดมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงหลายพันนายเข้าสกัดเพลิงก็ตาม ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายของทรัพย์สินนั้น คาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีกกว่าเพลิงสงบ



 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net