2 องค์กรด้านยาจี้รัฐยกระดับการวิจัยและพัฒนาสำหรับ "โรคที่ถูกละเลย"

รัฐบาลต้องแสดงความเป็นผู้นำอย่างเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการแพทย์เพื่อช่วยชีวิตพลเมืองนับล้านที่เจ็บป่วยด้วยโรคที่ถูกละเลย

กรุงเจนีวา/นิวยอร์ก (23 กุมภาพันธ์ 2552) องค์การหมอไร้พรมแดน (MSF) ซึ่งเป็นองค์กรสาธารณกุศลด้านการแพทย์ระหว่างประเทศ และองค์กรเพื่อการพัฒนายาที่ถูกละเลยและไม่มีการผลิต (DNDi) เรียกร้องให้มีการสนับสนุนเงินทุนการทำวิจัยและพัฒนา (R&D) อย่างยั่งยืนเพื่อจัดการกับโรคร้ายแรงที่คร่าชีวิตมนุษย์ทว่ากลับเป็นโรคที่ถูกละเลย อาทิเช่น โรคไข้ง่วงหลับ (sleeping sickness) โรคลิชมานิเอซิสของอวัยวะภายใน (visceral leishmaniasis) และโรคชากาส (Chagas disease) ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตพลเมืองนับล้านคนทั่วโลก

 

นอกจากนี้ MSF ยังได้ประกาศต่อสัญญาการให้ความสนับสนุนทั้งในด้านการดำเนินการและการเงินกับ DNDi ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรด้านการวิจัยและพัฒนาที่ MSF และสถาบันวิจัยทั้งภาครัฐและเอกชนอื่นๆ อีก 5 แห่งร่วมกันก่อตั้งขึ้นในปี 2546 เพื่อตอบสนองต่อความจำเป็นเร่งด่วนให้มีการรักษาใหม่ๆ รวมถึงปัญหาการขาดภาวะผู้นำอย่างเหมาะสมเพียงพอของภาครัฐเพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดการวิจัยและพัฒนา ตลอดจนการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการแพทย์สำหรับโรคที่ถูกละเลยเหล่านี้

"
เรามีผู้ป่วยที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคต่างๆ เช่น โรคไข้ง่วงหลับ ซึ่งผู้ป่วยต้องทนรับพิษจากการรักษาที่อันตรายเพื่อให้มีโอกาสรอดชีวิตต่อไปแม้จะริบหรี่ก็ตาม ในขณะเดียวกันยารักษาโรคลิชมานิเอซิสของอวัยวะภายในนั้นก็มีราคาแพงเกินเอื้อมสำหรับผู้ป่วย อีกทั้งยังไม่มียารักษาสำหรับโรคชากาสเรื้อรัง" ดร. คริสตอฟ ฟอนเนีย (Christophe Fournier) ประธานคณะกรรมการองค์การหมอไร้พรมแดนสากล กล่าว

 

"จากผลงานของ DNDi ได้แสดงให้เห็นว่าความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาอย่างสร้างสรรค์เพื่อตอบสนองความต้องการจำเป็นนั้นสามารถนำไปสู่การผลิตยาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยของเราได้ ทว่าทั้ง DNDi และความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนต่างๆ ที่มีไม่อาจทดแทนความเป็นผู้นำในทางการเมืองอย่างเข้มแข็ง ตลอดจนความรับผิดชอบของรัฐบาลต่างๆ ต่อพันธกิจในการรับรองให้ประชาชนสามารถเข้าถึงยาจำเป็นต่อชีวิตเพื่อรักษาโรคที่ถูกละเลยเหล่านี้ได้"

นับแต่เริ่มก่อตั้ง DNDi ได้คิดค้นพัฒนายารักษาโรคมาลาเรียชนิดเม็ดสูตรรวมขนานเป็นจำนวน 2 รายการ (ASAQ และ ASMQ) โดยไม่มีการขอจดสิทธิบัตร ซึ่งทำให้เกิดการผลิตยาที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้ป่วย ทั้งยังสามารถหาได้จากแหล่งผลิตตามที่ต่างๆ ทั่วไป อันส่งผลให้เกิดการแข่งขันในด้านราคา และมียาวางจำหน่ายอย่างเพียงพอต่อความต้องการ

 

นอกจากนี้ ผลบวกจากการทดลองทางคลินิกสำหรับยารักษาโรคไข้ง่วงหลับสูตรปรับปรุงของ DNDi ที่เพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อเร็วๆ นี้ โดยได้รับความสนับสนุนจาก MSF อย่างมากในด้านการปฏิบัติงานในพื้นที่นั้น นับว่าเป็นข่าวที่สร้างความหวังให้กับผู้ป่วย DNDi ยังเป็นผู้พัฒนาแฟ้มผลงานที่ใหญ่ที่สุดสำหรับงานวิจัยและพัฒนาที่มีศักยภาพสามารถนำไปพัฒนาเป็นยารายการใหม่ๆ เพื่อรักษาโรคไข้ง่วงหลับ โรคลิชมานิเอซิสของอวัยวะภายใน และโรคชากาส

"
การกระตุ้นให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรม ตลอดจนการเข้าถึงการรักษาที่เปี่ยมประสิทธิภาพและมีราคาย่อมเยาสำหรับโรคที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตพลเมืองที่ยากจนที่สุดของโลก รวมถึงโรคที่ไม่ได้อยู่ในกระแสความสนใจหลักๆ ของตลาดยังคงเป็นความท้าทายที่น่าหวาดหวั่นสำหรับทั้ง DNDi และองค์กรภาคี เมื่อพิจารณาถึงภาวะขาดแคลนแหล่งสนับสนุนทุนอย่างยั่งยืนและคาดการณ์ได้" Dr. Bernard Pecoul ผู้อำนวยการบริหารของ DNDi กล่าว

 

"ผลการดำเนินงานของเราได้แสดงให้เห็นว่าหากการวิจัยและพัฒนานั้นมุ่งตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยเป็นสำคัญ ย่อมมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการสร้างสรรค์เครื่องมือแพทย์ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย ทั้งเปิดโอกาสให้พลเมืองยากไร้ที่สุ่มเสี่ยงต่อโรคที่ถูกละเลยมากที่สุดสามารถเข้าถึงได้"

แม้สถานการณ์การวิจัยและพัฒนาโรคที่ถูกละเลยในทั่วโลกจะดีขึ้นนับแต่ปี 2546 เป็นต้นมา แต่ยังคงมีเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากโรคภัยไข้เจ็บอีกเป็นจำนวนมากในประเทศกำลังพัฒนาที่ถูกทอดทิ้งให้ต้องดิ้นรนและทนทุกข์ทรมานต่อไปโดยมิได้รับการเหลียวแล จากการศึกษาโดย G-Finder (กองทุนโลกเพื่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมสำหรับโรคที่ถูกละเลย) เปิดเผยว่าเงินสนับสนุนทุนการวิจัยและพัฒนาของทั่วโลกสำหรับโรคที่ถูกละเลยนั้น มีไม่ถึงร้อยละ 5 ที่นำไปใช้ในการวิจัยและพัฒนาโรคที่ถูกละเลยมากที่สุดจริงๆ อย่างเช่นโรคไข้ง่วงหลับ โรคลิชมานิเอซิสของอวัยวะภายใน และโรคชากาส ซึ่งมีพลเมืองกว่า 500 ล้านชีวิตที่ต้องสุ่มเสี่ยงกับโรคที่เกิดจากเชื้อปรสิตทั้งสามนี้


ด้วยพิจารณาถึงความจำเป็นเร่งด่วนอย่างยิ่งที่สุดเพื่อให้มียารักษาโรคสำหรับผู้ป่วยในพื้นที่ปฏิบัติงาน MSF จึงได้สนับสนุนทุนเป็นจำนวน 18 ล้าน (หรือ 22.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) แก่ DNDi สำหรับแผนระยะ 6 ปี รวมทั้งยังคงให้การสนับสนุน DNDi ทั้งในด้านการดำเนินงานและการศึกษาวิจัยทางคลินิกผ่านโครงการในพื้นที่ขององค์การฯ ทั้งนี้เพื่อช่วยเสริมสร้างความก้าวหน้าให้กับแผนพัฒนายาของ DNDi เป็นสำคัญ



เกี่ยวกับ DNDi
องค์กรเพื่อการพัฒนายาที่ถูกละเลยและไม่มีการผลิต (DNDi) เป็นองค์กรอิสระอันเป็นความร่วมมือเพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยไม่แสวงหากำไรที่มุ่งวิจัยและพัฒนายารายการใหม่ๆ หรือปรังปรุงยาสำหรับโรคที่ถูกละเลย เช่น มาลาเรีย โรคลิชมานิเอซิส โรคไข้ง่วงหลับ และโรคชากาส ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.dndi.org



เกี่ยวกับ MSF
องค์การหมอไร้พรมแดน (MSF) เป็นองค์กรสาธารณกุศลด้านการแพทย์ระหว่างประเทศ ก่อตั้งขึ้นในปี 2514 ปัจจุบันองค์การฯ ให้การความช่วยเหลือด้านการแพทย์ฉุกเฉินในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก ที่ซึ่งคนไข้ขององค์การฯ ต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากความรุนแรง การถูกทอดทิ้ง และพิบัติภัยต่างๆ อันมีสาเหตุหลักๆ มาจากปัญหาความขัดแย้งทางการทหาร โรคระบาด ภาวะทุพพโภชนาการ
 

การถูกกีดกันจากการรักษา หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ MSF ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างยิ่งที่สุดโดยอิสระและปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเสมอภาค MSF กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นอย่างเปิดเผยเพื่อเรียกร้องให้เกิดการใส่ใจในวิกฤตปัญหาที่ไร้ผู้เหลียวแล ตลอดจนท้าทายปัญหาความบกพร่องในระบบความช่วยเหลือ หรือการใช้ระบบไปในทางมิชอบ
 

รวมทั้งผลักดันให้เกิดการพัฒนาปรับปรุงการรักษาและแนวทางปฏิบัติการทางการแพทย์ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.msf.org

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท