Skip to main content
sharethis

วานนี้ (4 มี.ค.) พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้จัดเวทีคอนเสิร์ตการเมืองครั้งที่ 4 ที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 4 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยแกนนำพันธมิตรฯ นำโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ขึ้นปราศรัยสลับกับคำถามจากนายเติมศักดิ์ จารุปราณ ผู้ดำเนินรายการ โดยในช่วงที่มีการปราศรัยนี้มีแกนนำขึ้นเวที 4 คน ขาดเพียงนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตร และ ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนายเติมศักดิ์แจ้งว่าจะมาขึ้นเวทีภายหลัง


 


นายเติมศักดิ์ ถามแกนนำพันธมิตรฯว่า มีข่าวลือ ข่าวปล่อย ว่า 5 แกนคิดไม่ตรงกัน มีมุมมองการตั้งพรรคการเมืองที่แตกแยกกันไม่ทราบจริงหรือไม่ แต่ละท่านคิดอย่างไรกับความเป็นพันธมิตรและความเป็นพรรคการเมือง และพรรคพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยควรจะพัฒนาเป็นพรรคการเมืองหรือไม่


 


โดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ได้ขอบคุณชาวเกาะสมุยที่ช่วยกันจัดงานนี้ และกล่าวว่าคุณสนธิพูดเรื่องพรรคการเมืองได้ดีกว่าจึงให้นายสนธิพูดแทน โดยก่อนที่นายสนธิจะกล่าวถึงการตั้งพรรคการเมืองของพันธมิตรฯ ผู้ชุมนุมคนหนึ่งได้ตะโกนขึ้นมาให้นายสนธิพูดภาษาใต้ นายสนธิตอบว่า ผมขออนุญาตแหลงใต้ซึ่งแหลงไม่เป็น แต่ผมเคยพูดไปแล้วว่าคำใต้คำแรกที่ผมพูด พี่น้องจำได้หรือเปล่า จะให้ผมพูดอะไร ผมไปปราศรัยที่สะพานหิน จ.ภูเก็ต ปี 2549 เสร็จเรียบร้อยแล้ว พ่อแม่พี่น้องเขาก็ตะโกนขึ้นมา เขาพูดถึงนายทักษิณ ชินวัตร เขาตะโกนว่าหัวดอ ไอ้ผมก็ไม่รู้เรื่อง ผมก็ไม่รู้เรื่องก็ถามว่าพี่น้องเอ้ยหัวดอแปลว่าอะไร ยังจะให้ผมพูดอีกหรือพี่น้อง อย่าเลย


 


 


สนธิถามประชาธิปัตย์จะทนนอนกับโจรได้นานแค่ไหน


นายสนธิ กล่าวว่า หลังสิ้นสุดการชุมนุมของพันธมิตรมีหลายคนพูดและยุยงว่าควรจะตั้งพรรค เลยมาปรึกษาแกนนำทั้งหมดรวมทั้ง อ.สมเกียรติ ผมพูดว่าการตั้งพรรคการเมืองมันไม่ง่าย แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าเราพร่ำพูดในเรื่องการเมืองใหม่แล้วเราพูดอยู่ตลอดเวลาจนกระทั่งพี่ลอง (พล.ต.จำลอง) กลับชาติมาเกิดเป็นพระศรีอาริย์เราก็ยังคงต้องพูดอย่างนั้นต่อไป ถ้าเราไม่ทำอะไรให้เป็นตัวอย่างให้ดูว่าการเมืองใหม่นั้นจะเป็นอย่างไร โอกาสที่ประชาชนจะเข้าใจการเมืองใหม่ก็จะไม่มีเลย ในขณะเดียวกันการตั้งพรรคการเมืองนั้นเงื่อนไขมีเยอะแยะมาก


 


อีกประการหนึ่งในส่วนตัวผม ผมไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ แต่ก็ไม่ขัดข้องให้ประชาธิปัตย์เป็นแกนนำรัฐบาลเหตุผลเพราะคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเป็นคนดี คุณชวน หลีกภัยก็เป็นคนดี บัญญัติ บรรทัดฐานก็เป็นคนดี


 


"ผมพยายามทำความเข้าใจถึงการที่จำเป็นต้องเอาโจรมานอนด้วย เพียงแต่ผมตั้งข้อสังเกตว่าจะทนนอนกับโจรได้นานแค่ไหนเท่านั้นเอง แต่ผมเข้าใจและเห็นใจ และบทบาทในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้ คุณอภิสิทธิ์ได้แสดงศักยภาพให้เห็นว่าประเทศไทยนั้นหากจะมีนักการเมืองที่ดีก็ย่อมมีได้ และคุณอภิสิทธิ์แสดงฝีมือให้เห็นทั้งฝีมือให้เห็นไม่ว่าจะเป็นฝีมือในประเทศและต่างประเทศ ในทางสากลคุณอภิสิทธิ์เหนือชั้นกว่าเจ้ามูลควายเยอะแยะ"


 


นายสนธิ กล่าวต่อว่า ตราบใดที่นายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ยังยืนหยัดในอุดมการณ์ทางการเมือง และถ้าจำเป็นที่เราต้องทำการเมืองใหม่ให้เห็น เราจะทำเป็นตัวอย่างให้กับทุกพรรค และในขณะเดียวกันเราน่าที่จะเป็นพันธมิตรกับพรรคประชาธิปัตย์ได้ แต่นั่นเป็นเพียงความคิด ก็มีหลายคนพูดจาออกไป ผมก็บอกว่าคำนิยามของการเมืองใหม่นั้นคืออะไร ก็คือ ต้องเสียสละ ซื้อสัตย์ กล้าหาญ คำว่ากล้าหาญเดิมทีใช้คำอื่น แต่พิภพแนะนำว่าใช้คำว่า "กล้าหาญ" ดีไหมถ้าเราจะทำการเมืองใหม่ และต้องมีคนที่สามารเชิดชูได้ว่าคนๆ นี้ เสียสละ ซื่อสัตย์ กล้าหาญได้ อุดมการณ์นั้นเราใกล้ชิด เป็นพันธมิตรกับประชาธิปัตย์ แต่จะไม่สุงสิงกับบรรดาโจรทั้งหลาย ซึ่งอย่างนั้นมันเป็นไปไมได้


 


นายสนธิ กล่าวต่อว่า การเมืองใหม่ต้องเสียสละ ซื่อสัตย์ กล้าหาญ เป็นประเด็นที่มองว่านักการเมืองควรเสียสละ ถ้าทำพรรคการเมืองแล้วเราต้องทำให้ต่างกว่าการเมืองเก่า คือต้องทำ 3 อย่างจริงๆ และมีคนที่สะท้อนให้เห็นชัดเจน อุดมการณ์ของพรรคที่จะตั้งใหม่นั้น หากตั้งจริงๆ จะมีความใกล้ชิดและเป็นพันธมิตรฯ กับ ปชป. แต่เราไม่ไปสุงสิงกับบรรดาโจรที่อยู่ทุกวันนี้ อย่างนี้ค่อยมีโอกาสเป็นไปได้


 


ขณะที่นายสมศักดิ์ โกศัยสุข กล่าวว่า ย้อนหลังสมัยทักษิณเข้ามาแล้วฉ้อโกงทั้งพวกลิ่วล้อ ทำลายสถาบันกษัตริย์ ปชป.ก็นั่งนิ่งไม่กล้าพูดและทำอะไรไม่ได้ พวกเราเห็นว่าไม่ไหวแล้วก็เลยรวมตัวเป็นการเมืองภาคประชาชนจัดการกับทักษิณ พิสูจน์แล้วว่าการเมืองในสภาไม่มีน้ำยา ประชาชนจึงไล่ 3 คนรวด ทั้งทักษิณ สมัคร และสมชาย ไม่มีประเทศไหนทำได้ ที่เราทำเพราะชั่วทั้ง 3 คน แสดงว่าการเมืองภาคประชาชนเกี่ยวข้องกับการเมืองในสภา เนวินตกใจเลยวิ่งมาผสมพันธุ์กับ ปชป. พูดตรงๆ เลยว่า ปชป.เป็นรัฐบาลได้ก็เพราะพันธมิตรฯ และเราลองให้บริหารดู แล้วพี่น้องว่าจะให้เรามีพรรคการเมืองไหม ถ้ามีก็มี ถ้าตั้งก็ตั้ง ให้พี่น้องบอก เพราะเรายึดหลักประชาธิปไตย ซึ่งหลังจากนั้น ประชาชนส่งเสียงสนับสนุนว่าให้ตั้งพรรคการเมือง


 


นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า เวลาเราขึ้นเวทีปราศรัยจะใช้เพลงเทียนแห่งธรรมเป็นตัวนำ เพราะเรายึดธรรมนำหน้าเสมอ ถ้าใครบริหารบ้านเมืองแล้วโกงกินไม่ใช่การบริหารแล้ว นั่นหลักการเมืองเก่า


 


 


พิภพชี้จะเป็นพรรคที่เกิดจากประชาชน


นาย พิภพ ธงไชย กล่าวว่า การตั้งพรรคการเมืองใหม่นั้น เรายึดหลักของอาจารย์พุทธทาสที่บอกว่ามันเป็นเช่นนั้นเอง คือถ้าจะต้องมีพรรคพันธมิตรฯ ก็เป็นเช่นนั้นเอง มันต้องเกิด ท่านพูดตรงกับที่พวกเราคิด แต่เราจะคิดรอบคอบ ท่านบอกว่าการเมืองที่เลวร้ายเพราะไม่มีธรรมกำกับ ตรงกับแกนนำเราพูดที่จะใช้เทียนแห่งธรรมนำหน้า เพราะฉะนั้นที่เราตั้งไว้ ซื่อสัตย์ เสียสละ กล้าหาญ พรรคการเมืองที่จะเกิดขึ้นก็ย่อมจะเป็นตัวอย่างของพรรคการเมืองอื่นๆ ให้เปลี่ยนแปลงไปสู่การเมืองใหม่ให้ได้ โดยเริ่มจากการประพฤติปฏิบัติในพรรคของเราก่อนใช่หรือไม่


 


นอกจากนี้ พรรคการเมืองใหม่ต้องให้ธรรมกำกับ การเมืองไทยต้องมีสองส่วนพร้อมกันคือการเมืองภาคประชาชน และพรรคการเมืองของประชาชน ที่เราพูดว่าพรรคนี้ต้องเกิดจากการเป็นสมาชิกของพันธมิตรฯ ที่ต้องเกิดการบริจาคสิบบาท ร้อยบาท โดยไม่พึ่งกลุ่มทุน นี่เป็นตัวอย่าง


 


เพราะฉะนั้นถ้าพรรคการเมืองนี้จะเกิดขึ้นจะมีนโยบายการเมืองใหม่ไป ผลักดันในรูปแบบกฎหมาย เราก็จะเป็นต้องทำใช่หรือไม่ แต่การเมืองภาคประชาชน พันธมิตรฯ ก็ต้องมีต่อไป พรรคการเมืองที่จะเกิดจะไม่ได้เกิดจากอำนาจกลุ่มทุน แต่เป็นอำนาจที่ทำให้การเมืองภาคประชาชนเติบโตขึ้น ผลประโยชน์ที่ได้มาก็เป็นของประชาชนไม่ใช่กลุ่มทุน มี ASTV เป็นตัวคอยตรวจสอบ เป็นพรรคการเมืองที่แปลกใหม่ที่เกิดขึ้นจากประชาชนอย่างแท้จริง


 


"เรามีการชุมนุมที่มีการเสียสละ ที่สมุยบอกว่าเต็มออกๆ ไม่ใช่แค่รถตู้ แต่เครื่องบินก็เต็มออกเช่นกัน นี่เป็นมิติใหม่มาก พี่น้องที่มาฟังคอนเสิร์ตการเมืองก็ไม่ได้เกณฑ์มาฟัง แต่มาเองแถมต้องซื้อบัตรมาด้วย แล้วเรายังสร้างวัฒนธรรมการเมืองใหม่ด้วยว่า อย่าง อ.สมศักดิ์บอกว่าถ้าเราตั้งพรรคต้องได้นักการเมืองกล้าหาญ ซื่อสัตย์ เสียสละ นักการเมืองไหนก็ต้องอายและเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเอง"


 


"ผมเป็นคนทำงานเอ็นจีโอ รอบ 30 ปีนี้เกิดกระแสทางเลือก ทั้งเกษตรทางเลือก การศึกษาทางเลือก เพราะคนไม่สามารถทนต่อการถูกยัดเยียดต่อไปได้ เลยทำเรื่องใหม่ๆ ขึ้นมา ถ้าเราจะทำพรรคการเมืองใหม่ก็จะเป็นพรรคการเมืองทางเลือกเพื่อเป็นตัวอย่าง ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแก่พรรคการเมืองเก่าๆ ให้ได้ เรากล้าหาญ ซื่อสัตย์ และไม่รับเงินเดือนเพราะประชาชนจะเป็นคนเลี้ยง อยากรู้ว่าทำได้ไม่ได้ต้องพิสูจน์ใช่ไหม"


 


 


จำลองยกคำ "การเมืองใหม่" เอามาจาก "ดันแคน แมคคาโก้"


พล.ต.จำลอง กล่าวเสริมอีกว่า เคยลองตั้งพรรคการเมืองมาแล้วในชื่อพรรคพลังธรรม เป็นการใช้ธรรมกำกับการเมือง แต่วันนั้นกับวันนี้การพัฒนาเปลี่ยนแปลง พัฒนาดีขึ้นเพราะจะมีคนกำกับเป็นพันธมิตรฯ ทั้งประเทศ


 


นายเติมศักดิ์ถามต่อพลตรีจำลองว่า พรรคพลังธรรมเคยทำเป็นพรรคทางเลือก แต่ก็มาถึงทางตัน ทางเลือกใหม่จะเป็นอย่างไร พลตรีจำลอง ชี้แจงว่า พรรคพลังธรรมไม่ใช่ทางเลือกแต่เป็นพรรคการเมืองใหม่ คนที่ใช้คำนี้เป็นศาสตราจารย์ชาวอังกฤษ การที่เราพูดการเมืองใหม่จึงไม่ใช่เรื่อเพ้อฝัน ไม่ใช่เรื่องสุดโต่ง แต่เกิดขึ้นได้จริง ยืนยันได้เลย วันนี้เราพูดการเมืองใหม่เป็นครั้งแรก คอนเสิร์ตที่โคราชจะแสดงหนังสือให้เห็นเลยว่าศาสตราจารย์อังกฤษคนหนึ่งได้ เขียนหนังสือไว้นานแล้วด้วย โดยใช้ชื่อว่า Jumlong Srimuang and The New Thai Politics โดย ศ.ดันแคน แมคคาโก้ เขียนวิทยานิพนธ์ปี 2533 แต่มีข้อน่าคิดว่า 21 ปีที่ผ่านมานั้น เมื่อเทียบกับตอนนี้เรามีคนรู้เรื่องการเมืองเต็มบ้านเต็มเมืองกว่าเมื่อ ก่อน และมี ASTV และถ้าตั้งใจตั้งพรรคการเมืองพันธมิตรขึ้นมาพี่น้อง ต้องช่วยให้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เพราะถ้าเป็นแค่ตัวประกอบก็ไม่สามารถทำอะไรได้


 


พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า วันที่ 10 ก.ย.2535 ก่อนเลือกตั้งไม่กี่วัน ตนได้พูดที่ จ.พระนครศรีอยุธยาว่า เชิญชวนให้ประชาชนเลือกพรรคพลังธรรม โดยที่พรรคไม่มีของไปแจก และคราวนี้จะเป็นครั้งเดียว คราวหน้าเราจะไม่ลงแล้ว เขาให้ ส.ส.เรา 47 คนก็เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อแล้ว โดยที่เราไม่ได้ซื้อเสียงเลย วันนี้เรามีข้อได้เปรียบมากมายที่จะสร้างการเมืองใหม่ แต่ที่น่าคิดคือต้องช่วยให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ไม่เช่นนั้นก็จะเหมือนพรรคพลังธรรมที่เข้าไปเป็นตัวประกอบแล้วก็ไม่สามารถทำ อะไรได้


 


 


สนธิเล็งเน้นผู้สมัคร ส.ส. จากตัวแทนอาชีพ ให้ประชาชนคุม ส.ส. ได้


นายเติมศักดิ์ ถามต่อในประเด็นที่ว่า จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องเปลี่ยนกฎกติกาก่อน เพื่อให้เกิดพรรคของพันธมิตร


 


นายสนธิ กล่าวว่า กติกาคงไม่เปลี่ยนเพื่อการเมืองใหม่ เพราะสามารถใช้กฎหมายเดิมได้ เช่น การคัดเลือกคนลงสมัคร ที่ให้ประชาชนในพื้นที่เป็นคนคัดเลือกลง ซึ่งกฎหมายไม่ได้ห้าม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เป็นเพียงแต่ว่าแกนนำจะเป็นผู้พิทักษ์กฎ


 


ขณะที่สมศักดิ์ ตอบคำถามนี้ว่า เวลาเราจะทำอะไรต้องให้สอดคล้องกับความเป็นจริง อยู่กับความจริง ซึ่งวันนี้ จะไปแก้กติกา ยังแก้ไม่ได้ และไม่จำเป็นต้องแก้ เพราะรัฐธรรมนูญออกมาเพื่อกำจัดทักษิณ รัฐธรรมนูญฉบับนี้สามารถจัดการทักษิณได้ 14 คดีทักษิณต้องคิดคุกแน่ๆ กฎหมายนี้ออกเพื่อจัดการนักการเมืองเก่าชั่วๆ และคน 14.7 ล้านคน ให้การรับรอง โดยที่คนใต้ให้ลงมติให้ถึง 91 % รัฐบาลนี้จึงต้องเร่งรัดคดีของทักษิณที่ยังไม่ส่งศาลให้หมด 13-14 คดี โทษติดคุกรวม 100 ปี และจะเป็นมาตรฐานว่าคนขี้ฉ้อ ขี้โกง จะเป็นเช่นนี้แล


 


การเลือกตั้งที่จะเกิดในอนาคตจะมี ส.ส.มาจากสาขาอาชีพ ตัวแทนภาคประชาชนอย่างทั่วถึง ไม่ใช่มาจากกลุ่มทุน ส.ส.ที่เป็นตัวแทนของกลุ่มอาชีพ มีหลายประเทศทำมาแล้ว เช่นในสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศเดียวมีล่าม 5 คนในสภา เพราะมี ส.ส.เป็นคนกลุ่มน้อยด้วย ถ้าเราทำเช่นนี้ประชาชนจะสามารถควบคุมผู้แทนได้ ส.ส.ก็เหมือนลิงขึ้นมะพร้าวที่มีประชาชนควบคุม ถ้าลิงไม่รู้มะพร้าวลูกไหนอ่อนแก่ ก็ต้องเปลี่ยนลิง เพราะประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจ ไม่ใช่กบเลือกนายแต่เป็นนายที่เลือกลูกจ้างได้ แต่การจะแก้ไขอะไรนั้นต้องให้ประชาชนทั้งประเทศเห็นด้วยจึงจะทำได้


 


 


ลั่นจะบุก "เหนือ-อีสาน" หนัก และไม่เว้นภาคใต้ยกเว้น จ.ตรัง


นายเติมศักดิ์ ถามแกนนำพันธมิตรฯ ต่อว่า ถ้าพันธมิตรฯ ตั้งพรรคการเมืองฐานเสียงจะไปซ้ำกับ ปชป.และตัดคะแนนกันเองหรือไม่ นายสนธิ ตอบว่า โดยส่วนตัวแล้ว เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์มีอุดมการณ์ใกล้เคียงกับพันธมิตรฯ แต่ที่ต่างจากเราคือไม่มีความกล้าหาญ เหมือนเรา อาจเป็นเพราะวัฒนธรรม เขามียางอายมากจนไม่กล้าทำอะไร กลัวว่าทำแล้วจะไม่โปร่งใส เช่นกรณีเราจะทำหนังสือร้องเรียนให้เปลี่ยนพล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ที่เป็นหนึ่งในกระบวนการฆ่าประชาชนแต่ให้มาดำเนินคดีเรา นักข่าวไปถามรองนายกรัฐมนตรี ก็ตกใจรีบต่อว่าไม่มีเปลี่ยน แทนที่จะพูดว่าถ้าพิสูจน์ได้ว่าเป็นอย่างที่ร้องเรียนจริงก็ไม่ควรเข้ามา ดูแลเรื่องนี้ แต่ท่านกลัวแต่ว่าทำแล้วจะถูกมองว่าไม่เป็นกลาง นี่เป็นเพราะ ปชป.ขาดซึ่งความกล้าหาญและต้องรีบแก้ตรงนี้


 


ถ้าสมมุติว่าเราตั้งพรรคการเมือง ในส่วนตัวจะเว้นภาคใต้เอาไว้ไม่ยุ่ง แต่ว่านั่นหมายถึง ส.ส.เขต แต่จะขอ ส.ส.สัดส่วนให้พรรคของพันธมิตรฯ แต่ที่เราจะบุกหนักคืออีสานและเหนือที่เขาบุกไม่ได้ ยกเว้นภาคตะวันออกที่เราจะขอเอาไว้ อย่างน้อยที่สุดเขามีมติอะไรก็ตาม แม้ว่าตนไม่มีอำนาจ ไม่มีเสียง แต่ขอจังหวัดตรังได้ไหมจะไม่ส่ง เพื่อให้เกียรตินายชวน หลีกภัย หรือในกรุงเขตในเขตที่ ปชป.ได้ เพื่อให้เกียรติอภิสิทธิ์


 


พลตรีจำลอง กล่าวในประเด็นนี้ว่า สมัยก่อนนักการเมืองโกงการเลือกตั้ง เพราะไม่มี กกต. แต่สมัยนี้ถ้าทำ พรรคก็ต้องถูกยุบ กรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิ์ การซื้อเสียงก็ยากขึ้นเนื่องจากมีองค์กรอิสระเพิ่มขึ้นมา ทั้ง ป.ป.ช. ศาลฎีกาแผนกอาญาการเมือง จึงไม่ต้องแก้กติกาใดๆ เลย ขอให้เราได้เอาจริงเท่านั้นวันนี้ได้เปรียบ 3 อย่างคือมีประชาชนรู้การเมืองเต็มบ้านเต็มเมือง มี ASTV และมีกติกาที่ตั้งขึ้นมาอยู่แล้ว


 


ด้านนายพิภพ กล่าวว่า ถ้าจะถามว่าต้องแก้กติกาก่อนตั้งพรรคการเมืองใหม่หรือเปล่า ก็ขอถามกลับว่าตอนตั้งพันธมิตรฯ เราต้องแก้กติกาไหม ตอนนั้นกติกาเอื้อต่อทักษิณมาก แต่พลังบริสุทธิ์ของพี่น้องทำให้กติกาต้องมารับใช้เรา ทั้งที่อยากเปลี่ยนกติกาอยู่หลายประการ แต่ถ้ารอให้นายอภิสิทธิ์แก้กฎกติกาทำคงต้องรอชาติหน้าตอนบ่ายๆ นายอภิสิทธิ์เข้าข่ายเสียสละ ซื่อสัตย์ แต่ถ้าเพิ่มความกล้าหาญการเมืองใหม่จะเกิดในมือประชาธิปัตย์ได้ แต่เรารอไม่ได้ เราจึงต้องทำพรรคการเมืองใหม่ถ้าพ่อแม่พี่น้องมีฉันทมติ


 


"คุณสนธิบอกว่า จะขอดูแล ASTV ผมเองขอดูแลการเมืองภาคประชาชนและสนับสนุนการเมืองในรัฐสภาในนามพรรค พันธมิตรฯ ด้วย โดยใช้ธรรมนำหน้าดังที่ท่านพุทธทาสเคยพูดเอาไว้"


 


 


สนธิขอโอกาส "กำจัดทักษิณ" สักครั้งจากชาวใต้ ถ้าทำไม่ได้ไม่ต้องเลือกอีก


นายสมศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากนายอภิสิทธ์ได้เป็นรัฐบาลจะต้องเร่งสะสางปัญหาต่างๆ เป็นเวลาทองที่หาไม่ได้อีกแล้ว แต่ถ้ายังจัดการพวกเลวๆ นี้ไม่ได้ก็แสดงว่าไม่มีใครทำได้อีกแล้ว จะต้องเจอกับจำลองเสียแล้ว เราจะจัดการเองเสียเลย เทียนแห่งธรรมจะเข้ามาทันที แต่เสียงหนุนต้องขึ้นอยู่กับประชาชนด้วยว่าจะให้โอกาส ปชป.อีกไหม ถ้าให้แล้วเขาทำไม่ได้อีกก็ช่วยไม่ได้ รักคนที่เขารักเราดีกว่า ถ้ารักเราจริงก็ต้องจัดการคนชั่วและบริหารประเทศให้เด็ดขาด ยิ่งตอนนี้แม้แต่เอ็นบีทีก็ยังปล่อยให้ด่ารัฐบาลอยู่ทั้งที่อยู่ภายใต้กำกับ ของรัฐ


 


นายสนธิกล่าวเสริมว่า "ขอชี้เวลานี้พูดถึงพี่ชวน พี่บัญญัติ คุณอภิสิทธิ์ ผมเตือนแล้วว่าอุตส่าห์ประนีประนอม ผมห้ามพี่สมศักดิ์ไม่ได้ ที่กำลังดูทีวีอยู่นี้คงรู้ว่าพี่สมศักดิ์กำลังตกมันแล้ว ผมเกรงใจแล้วและพยายามพูดไม่ส่ง ส.ส.เขต แต่ขอส่ง ส.ส.สัดส่วน แต่ถ้าพูดอย่างไม่เห็นใจกันก็อยากจะพูดว่า 20 ปีแล้วที่ชาวใต้เลือก ปชป. ให้โอกาสพันธมิตรฯ สักครั้งได้ไหม ถ้าเข้าไปแล้วเรากำจัดทักษิณไม่ได้ก็ไม่ต้องเลือกเราอีกต่อไป"


 


 


สนธิลั่นพรรคจะเกิดหรือไม่ขึ้นอยู่กับ ปชป. เห็นพันธมิตรเป็นเพื่อนหรือเสนียด


นายสนธิ กล่าวอีกว่า หากถามว่าพรรคการเมืองใหม่ของพันธมิตรฯ จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ก็ขอถามกลับว่า เมือไหร่ประชาธิปัตย์จะจัดการกับตำรวจอย่างเด็ดขาดเสียที ถ้านายสุเทพจัดการไม่ได้เพียงเพราะว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็นน้องชาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่จะไปเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และยังเอา พล.ต.ต.อำนวยไว้ เก็บ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว เอาไว้เพื่อเป็น ผบช.ภ.4 แสดงว่านายสุเทพไม่จริงใจ เมื่อนั้น พรรคพันธมิตรฯ จะเกิดทันที และเป็นพรรคที่จะได้เงินสนับสนุนจากพี่น้อง เหมือน 193 วันที่เราชุมนุม ไม่ต้องไปแอบรับเงินจากนายทุน เจ้าโน้นเจ้านี้ แล้วขายจิตวิญญาณ


 


"นี่คือคำตอบว่าพรรคจะเกิดขึ้นไหม เกิดไม่เกิดขึ้นอยู่กับประชาธิปัตย์จะมองพันธมิตรฯ ว่าเป็นเพื่อน หรือเป็นเสนียด ถ้ามองว่าเราเป็นศัตรู บอกว่าไม่เอาทั้งเหลืองทั้งแดง ดำเนินคดีหมด โดยไม่ดูเนื้อหาว่าพวกเราโดนกลั่นแกล้งขนาดไหน ถ้าอย่างนี้ ผมขอให้สัจจะว่ายังไงก็ตามพรรคนี้จะลงภาคใต้ทุกจังหวัด จะชนกันตัวต่อตัว จะถามชาวใต้ว่าจะให้โอกาสพวกเราสักครั้งในชีวิตไหม เราจะทำให้ดู เราจะชนใน กทม. ชนทุกที่ที่เป็นเขต 1 ในเมือง ขึ้นอยู่กับว่าประชาธิปัตย์จะมองเราเป็นศัตรู หรือเห็นว่าเป็นคนที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ทางเลือกอยู่ที่คุณ ขอให้เลิกอ้อมค้อม หลบซ้ายขวา ต้องยืนนิ่งๆ เหมือนเรา และถึงเวลาที่ต้องเลือกข้าง" นายสนธิกล่าว
       


"ผมไม่อยากพูดคำนี้เลย เพราะฉะนั้นช่วยบอกท่านรองสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้ทำงานหน่อย ไม่ต้องรังเกียจเรา พันธมิตรฯ ไม่ใช่เสนียดจัญไร การมายืนข้างเรามีแต่ความถูกต้อง ผมเตือนพวกคุณแล้วนะ คุณเป็นคนใต้ผมรู้อารมณ์คนใต้ดี ทั้งสมุย ชุมพร คนใต้รักใครรักจริง เขายังรัก ปชป.อยู่ ขนาดคุณนอกใจเขาตอนนี้เขายังกัดฟันทนอยู่ แต่ถ้าคุณนอกใจเขาไม่รู้จักสิ้นสุดมันมีชายหนุ่มที่งดงาม ชื่อพันธมิตรฯ ยืนรออยู่ คนใต้ก็พร้อมจะบอกว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องลองของใหม่สักทีหนึ่งว่าดีจริง หรือเปล่า" นายสนธิกล่าว


 


 


พิภพลั่นพรรคพันธมิตรไม่ใช่พรรคเชิงอำนาจผลประโยชน์


นายเติมศักดิ์ ถามอีกว่า เวลาที่ต้องตั้งพรรคนั้นใกล้เข้ามาแล้วหรือยัง พลตรีจำลอง ตอบว่า เวลาก็ใกล้มาทุกทีแล้ว อยู่ที่ว่าจะหาจังหวะไหนที่จำเป็น และต้องถามประชาชนเพราะรู้ดีกว่า และจะเป็นคนกำหนด


 


นายพิภพ กล่าวว่า อย่างที่บอกว่าเราต่อสู้มา 193 วัน ไม่ได้ต้องการการเมืองเก่าที่ประนีประนอม หรือให้นายอภิสิทธิ์เข้ามาแค่เปลี่ยนขั้ว แล้วสมสู่กันจนท้องและมีภาระเลี้ยงดูลูกที่เกิดมา แล้วจะทำการเมืองใหม่ได้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ต้องไม่เข้ามาแค่เพื่อเปลี่ยนขั้ว ไม่แค่มาเพื่อชื่อเสียงวงศ์ตระกูล แต่ต้องเปลี่ยนเป็นการเมืองใหม่ให้ได้ นายอภิสิทธิ์ต้องรู้ ถ้าเปลี่ยนไมได้ คนรุ่นใหม่จะเข้าไปเปลี่ยนแปลงเอง


 


"5 แกนนำคิดเหมือนกัน ไม่แตกต่างกันในเรื่องอุดมการณ์ ผมเชื่อว่าพรุ่งนี้ เรื่องนี้ต้องเป็นข่าว แต่ขอย้ำว่า ถ้า มีพรรคในนามพันธมิตรฯ จะเป็นพรรคการเมืองมิติใหม่ ไม่ใช่พรรคในเชิงอำนาจและผลประโยชน์ ไม่ใช่เพราะ 5 แกนนำต้องการอำนาจ เพราะพรรคที่ตั้งให้เป็นอำนาจของประชาชน


 


"ขอย้ำกับนักข่าวว่ากระบวนการสรรหาสมาชิกเพื่อลงเลือกตั้งนั้น เป็นกระบวนการใหม่ ต้องมาจากฉันทามติของพี่น้องในพื้นที่ ต้องซื่อสัตย์ เสียสละ กล้าหาญ พรรคการเมืองนี้จึงเป็นพรรคของประชาชนจริงๆ เพราะสมัครเป็นสมาชิกพรรคเป็นรายเดือน และขอให้กลับไปดูเนื้อหาของการเมืองใหม่ที่เราทำตั้งแต่ชุมนุมอยู่ใน ทำเนียบฯ เราให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์เชื่อว่า นายอภิสิทธิ์น่าจะนำไปสู่การเมืองใหม่ได้ เนื้อหาของพรรคการเมืองใหม่จะเป็นเนื้อหาที่เราทำกันมา 193 วัน ส.ส.ของเราไม่เปลี่ยนแปลงอุดมการณ์และจุดยืน เพราะเขาไม่ถูกกำกับแค่วันเลือกตั้ง แต่ถูกกำกับตลอดเวลาในนามพันธมิตร นี่เป็นพรรคการเมืองที่แปลกใหม่จริงๆ


 


ด้านนายสมศักดิ์ บอกว่า อยากให้พี่น้องรัก สามัคคีกัน แม้มีความคิดเห็นแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่ใช่ปัญหา แต่เมื่อบ้านเมืองต้องการต้องพร้อมที่จะร่วมมือกัน ถ้ามีพรรคพันธมิตรฯ ก็ต้องอุดหนุนกัน นี่คือการสร้างมิติใหม่ที่เกิดขึ้นว่ามีเงินออกเงิน มีแรงออกแรง มีสติปัญญาออกสติปัญญา เหนือสิ่งอื่นใดคือประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ  


 


 


สนธิหวังให้การมาสมุยเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ


ในช่วงท้ายนายเติมศักดิ์ ได้เปิดให้แกนนำฝากอะไรไปถึงพี่น้องประชาชน เริ่มจากนายสนธิ ได้บอกว่า ตนมาสมุยปี 2549 เป็นคืนที่ในหลวงออกทีวีมีพระราชดำรัสให้ศาลเข้ามาแก้ไขวิกฤตชาติบ้านเมือง นั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้บ้านเมืองพัฒนามาถึงวันนี้ หวังว่ามาสมุยครั้งนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมากเช่นกัน


 


"ต้องขอบคุณเจ้าของสถานที่ที่ยอมเสียสละผลประโยชน์ส่วนตัวเพื่อให้ ความรู้ประชาชน ส่วนการเมืองใหม่ พรรคการเมืองใหม่จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ผมอยากจะถามกลับว่าพรรคประชาธิปัตย์จะจัดการกับตำรวจเมื่อไหร่ ถ้านายสุเทพไม่กล้าย้าย พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน เก็บ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว แสดงว่านายสุเทพไม่ได้จริงใจกับพันธมิตรฯ และนั่นถึงเวลาที่พรรคพันธมิตรฯ จะเกิดขึ้นทันที ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินทองเพราะเป็นของประชาชน ถ้าจ่ายค่าสมาชิกเดือนละ 100 บาท มีสัด 2 ล้านคนก็ได้เดือนละ 200 ล้านบาทยังเหลือช่วยเหลือ ASTV ถ้าเกิดขึ้นก็จะเหมือนที่เคยเกิดกับ 193 วัน ที่ไม่ต้องแอบรับเงินจากใครๆ แล้วลืมอุดมการณ์ของตัวเองจนหมดสิ้น"นายสนธิกล่าว


 


 


สมศักดิ์ลั่น M79 ยังไม่กลัว พิภพจี้สุเทพตรวจสอบกรณี 7 ตุลา


นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พี่น้องต้องไม่ดูถูกตัวเอง แม้แต่เอ็ม 79 เราก็ไม่กลัวเพราะคิดว่าเป็นลูกโป่ง คนเหล่านี้เป็นเพื่อนเป็นเพื่อนตาย แต่ที่มานั่งตลกแล้วกลับไม่ได้อะไรนั่นแหละเป็นเพื่อนกิน ขอให้พี่น้องรักษาสิ่งเหล่านี้ ประเทศชาติเหลือสิ่งอื่นใด ตอนนี้เราทำถูกแล้ว


 


นายพิภพ บอกว่า ปกติตนจะไม่พูดเรื่องคดีความที่เกิดกับแกนนำ แต่ที่เกิดขึ้นกับ 21 แกนนำนั้นต้องถามนายสุเทพว่าเราถูกกระทำใช่หรือเปล่า กรรมการสิทธิฯได้สอบสวนเสร็จแล้วว่าประชาชนถูกทำร้ายด้วยอาวุธขนาดหนักจาก ตำรวจ มีระบุชื่อ แต่ทำไมไม่ย้าย กลับให้มาทำคดีนี้อีก เราต้องการความชอบธรรม


 


นายพิภพกล่าวถึงเงินบริจาคจากประชาชนว่า ตอนนี้เราจ่ายให้คนที่ได้รับบาดเจ็บแล้ว งวดที่ 3 ในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งเหลือเงินอยู่ 7 ล้านบาท สารพิษที่อยู่ในร่างกายผู้ถูกแก๊สน้ำตายังอยู่ในร่างกายอยู่ ต้องรีบสอบว่าทำไม่แก๊สน้ำตาในวันนั้นยังส่งผลถึงวันนี้ ต้องรู้และป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นซ้ำ ที่ต้องพูดเพราะหลายคนเพิ่งจะได้รับผลกระทบจากสารเคมีที่เพิ่งแสดงอาการออก นายอภิสิทธิ์ควรต้องสั่ง กระทรวงสาธารณสุขสอบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากสารเคมีในวันนั้น และสั่งลงโทษเอาผิดให้ได้


 


"เมื่อผมมาสุราษฎร์ คนที่ดูแลเรื่องที่พักเขาเป็นคนเสียสละเต็มออกเต็มออกทุกเที่ยวที่ไปร่วม ชุมนุมใหญ่ ทั้งที่เขาไม่ได้เกลียด ชิงชัง ทักษิณเป็นการส่วนตัว แต่ไม่ชอบความไม่เป็นธรรม ถ้าเขาทำกิจการใหม่ก็จะรับพันธมิตรฯ เข้าทำงานเพราะอยากมีลูกน้องฉลาดๆ เวลาออกไปสู้รบจะได้ไม่ต้องอธิบายกันมากมาย ในหนังสือกล่าวไว้ว่า การที่เรายอมให้เกิดความอยุติธรรมก็เหมือนการที่เราทำความชั่วเช่นกัน"


 


พลตรีจำลอง ฝากถึงพี่น้องพันธมิตรฯ เป็นคนสุดท้ายว่า ที่เขากล่าวหาเราว่าไปปิดล้อมรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ต.ค. มีเพียง 21 คนซึ่งจริงๆ แล้วหากจะกล่าวหาก็ต้องกล่าวหาคนเป็นหมื่นเป็นแสนที่ไปในวันนั้น ไม่ใช่แค่ 21 คน และปฏิเสธไม่ได้ว่าสมุยเป็นพันธมิตรที่กล้าแกร่ง ปี 49 ไปนอนกลางดินกินกลางทราย 33 วัน รอบนี้อีก 193 วัน แต่พี่น้องก็ยอมทิ้งกิจการมาอยู่กับเรา แม้สมุยเป็นเพียงอำเภอแต่ก็แข็งแกร่ง สามารถจัดเวทีปราศรัย เรียกพี่น้องต่างจังหวัด ต้องเกาะเกี่ยวกันไว้ต่อไปเรื่อยๆ มีความกลมเกลียว ถ้าเป็นอย่างนี้เยอะๆ บ้านเมืองเราไปได้แน่


 


 


....................................
ที่มา
: เรียบเรียงจากเอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net