Skip to main content
sharethis


เมื่อวันที่ 7 มี.ค.52 คณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ ได้ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรง โดยการฆ่าและทำลายศพประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งเกิดมากขึ้นในจังหวัดชายแดนใต้ โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมาเกิดเหตุคนร้าย ลอบยิงและเผาผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน พร้อมพวกที่ถนนสายปุยุด ต.ปุยุด อ.เมือง จ.ปัตตานี ซึ่งทำให้ประชาชนทั้งพุทธและมุสลิมตกอยู่ในความหวาดกลัว และดูเป็นการจงใจแสดงความโหดร้ายเพื่อยั่วยุให้ประชาชนและรัฐบาลให้โกรธแค้น อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติวิธีการใช้ความรุนแรงตอบโต้ความรุนแรง  โดยยึดมั่นในสันติวิธี  และต้องคำนึงถึงการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ และชีวิตของผู้บริสุทธิ์เป็นสำคัญ

 


"การฆ่าและทำลายศพ ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งหลักสิทธิมนุษยชนสากล  และสิทธิมนุษยชนตามกฎหมายอิสลาม  อีกทั้งยังถือว่าเป็นการลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างร้ายแรงที่สุด ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นในหมู่ประชาชนที่ยึดมั่นในศาสนา นางอังคณา นีละไพจิตร ประธานคณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ กล่าว


 


 


 






 


แถลงการณ์


ประณามการใช้ความรุนแรง โดยการฆ่าและทำลายศพประชาชนผู้บริสุทธิ์


 


จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในปัจจุบัน แม้สถิติการก่อเหตุจะลดลง  แต่พบมีความรุนแรง และทารุณมากขึ้น พบว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีเหตุการณ์ฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐด้วยวิธีโหดเหี้ยมทารุณ โดยเฉพาะการเผาทำลายศพ และการตัดศีรษะ ซึ่งล่าสุด เมื่อวันที่ 7 มีนาคม เกิดเหตุคนร้ายลอบยิงและเผาผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน พร้อมพวกที่ถนนสายปุยุด หมู่ที่ 7 ต.ปุยุด อ.เมือง จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและถูกไฟเผาจำนวน 2 ราย สถานการณ์ดังกล่าวข้างต้นทำให้ประชาชนทั้งพุทธและมุสลิมตกอยู่ในความหวาดกลัว ซึ่งความรุนแรงเช่นนี้ดูเป็นการจงใจแสดงความโหดร้ายเพื่อยั่วยุให้ประชาชนและรัฐบาลให้โกรธแค้นเพื่อจะได้ทำการปราบปรามอย่างรุนแรง และอาจส่งผลให้สถานการณ์บานปลายลุกลามยากต่อการแก้ไข


 


คณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพรู้สึกเศร้าสลดต่อเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง และขอประณามผู้ที่อยู่เบื้องหลัง และผู้กระทำการประทุษร้ายต่อผู้บริสุทธิ์ และเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายในการรักษาความสงบ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อบุคคลในครอบครัว รวมถึงญาติมิตรของบรรดาผู้เสียชีวิต


 


"การฆ่าและทำลายศพ ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งหลักสิทธิมนุษยชนสากล  และสิทธิมนุษยชนตามกฎหมายอิสลาม  อีกทั้งยังถือว่าเป็นการลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างร้ายแรงที่สุด ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นในหมู่ประชาชนที่ยึดมั่นในศาสนา "  นางอังคณา นีละไพจิตร ประธานคณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ กล่าว


 


คณะทำงานฯ จึงขอเรียกร้องต่อทุกฝ่ายดังนี้


1.   ขอให้ทุกฝ่ายยุติวิธีการใช้ความรุนแรงตอบโต้ความรุนแรง โดยยึดมั่นในสันติวิธี  และต้องคำนึงถึงการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ และชีวิตของผู้บริสุทธิ์เป็นสำคัญ


2.   ให้มีการสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็วเพราะเป็นเรื่องสะเทือนขวัญแก่สาธารณชน และมีผลกระทบต่อแนวทางการ เสริมสร้างความสมานฉันท์ในชาติเป็นอย่างยิ่ง


3.   ขอเสนอให้รัฐบาลยึดถือนโยบายสันติวิธี และการเมืองนำการทหารอย่างเคร่งครัดเพื่อยุติปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วนอย่างจริงจัง


4.   ขอให้รัฐรับฟังข้อเสนอของประชาชนในการตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อสอบข้อเท็จจริงในกรณีที่ประชาชนรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมต่างๆ เพื่อทำให้ความจริงระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชนเป็นความจริงชุดเดียวกัน ทั้งนี้เพื่อฟื้นฟูความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนให้กลับคืนมา เพราะสันติภาพย่อมไม่อาจเกิดขึ้นได้หากขาดซึ่งความไว้วางใจ


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net