Skip to main content
sharethis

14 มี.ค. 52 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.15 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินเข้ามาในงาน"ความจริงวันนี้สัญจร" ที่สนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยาว่า เมื่อได้ยินเสียงโห่ร้องของประชาชนแล้ว ถือเป็นกำลังใจ อิ่มมาก ไม่ต้องกินข้าวเลยก็อยู่ได้ และว่า ขณะนี้รู้สึกเป็นห่วงเรื่องปัญหาเศรษฐกิจมาก เสาหลักของชาติ 3 เสาหลัก เริ่มมีปัญหา เริ่มที่เสาการเมือง เสาเศรษฐกิจ และที่กำลังติดตามมาคือเสาสังคม ที่ครอบครัว ชุมชน กำลังจะมีปัญหา นายวีระถามว่า เกี่ยวกับ 4 เสาเทเวศร์หรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องสี่เสาฯอย่าไปยุ่ง



จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวถึงการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเดินทางไปอังกฤษพร้อมนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังว่า กลับมาประเทศไทยเด็ก 2 คนคงจะหัวโน เพราะกลับมาคงแก้เศรษฐกิจไม่ได้ เพราะมันยาก และซับซ้อน ซึ่งสืบเนื่องมาจากปัญหาการเมืองไทยที่ทำลายชื่อเสียง และความเชื่อมั่นของตัวเอง การท่องเที่ยว นักลงทุนก็ไม่มา ยิ่งมาประสบกับปัญหาเศรษฐกิจโลก เจอ 3 เด้ง จึงหนักมาก



คนมาจากเผด็จการตปท.ไม่เชื่อ


"คนที่มาจากพื้นฐานเผด็จการ มาตั้งรัฐบาล ก็อย่าหวังว่าทั่วโลกจะเชื่อถือ" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว และว่า รัฐบาลนี้เปรียบเหมือนงูเห่า งูเห่าแรกก็ทำเศรษฐกิจพังมาแล้ว หนี้เยอะ ตอนนี้เป็นเรื่องของงูเห่ารอบสองที่จะเริ่มกู้เงินมาแจก อยากถามว่า ใครเขากู้เงินมาทำเช่นนี้ เป็นการฟุ่มเฟือย ทำเหมือนงูเห่ารอบแรกที่ใช้เงินไปกับโครงการมิยาซาว่า ตอนนี้ก็จะมาแจกเงิน 2 พันบาทอีก พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า เรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจจะต้องมีความเข้าใจ เพราะมันซับซ้อน ถ้าไม่เข้าใจก็แก้ไม่ตก วันนี้ถ้าตนอยู่ในอำนาจก็จะไม่ทำ และการลอกเลียนแบบใครนั้นต้องดูว่าวิธีคิดเขาเป็นอย่างไร จะใช้ประชานิยมนั้น ต้องทำให้เกิดรายได้ ไม่ใช่กู้มาเพื่อแจก ตอนนี้ตนเห็นใจประชาชนที่ต้องกู้เงิน เพราะดอกเบี้ยไม่ลด ทั้งที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลดดอกเบี้ยลงแล้ว แต่ธนาคารต่างๆ กลับไม่ลดดอกเบี้ยเงินกู้ ลดแต่ดอกเบี้ยเงินฝาก ทำให้ธนาคารมีกำไรมาก จึงไม่ดิ้นรนที่จะปล่อยกู้ ปัญหานี้ยังไม่รู้จะแก้อย่างไร เพราะคนทำไม่เข้าใจ



คุยถ้าเป็นนายกฯ ปีนี้ไทยหายจน


พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า เรื่องเศรษฐกิจตนได้ไปพูดที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศฮ่องกง ตอนแรกจะเดินทางไปเอง แต่รัฐบาล รวมทั้งนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่เป็นลูกน้องเก่า ไม่รู้กินยาอะไร คอยไล่จี้จนฮ่องกงรำคาญ ตนก็เลยไม่ไป ใช้วิดีโอลิงก์แทน สิ่งที่ตนพูดที่นั่น ได้บอกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น มันไม่ใช่ปัญหาทางการเงิน แต่มันเป็นเรื่องของการจนปัญญา จึงไม่รู้จะแก้อย่างไร ช่วง 3 ทศวรรษ คนเก่งๆ ไปอยู่ภาคการเงินหมด ทำให้แซงภาคการผลิต เลยกลายเป็นปัญหา สหรัฐชอบสอนคนอื่น อย่างเรื่องงบดุล บอกว่าควรมีหนี้ไม่เกิน 1-2 เท่า แต่บริษัทในสหรัฐ เช่น จีเอ็ม เป็นหนี้ถึง 6 เท่า แสดงว่ากู้มาแจกปันผล หรือมาใช้ ผลสุดท้ายหนี้ก็เยอะ จนหงายท้อง สิ่งเหล่านี้ เราต้องคอยแนะนำภาคเอกชน ให้ดำเนินตามวิธีการที่ถูกต้อง แต่ก็ยังโชคดีที่ประเทศไทยเราผ่านวิกฤตปี 2540 มา ทำให้เอกชนมีความระมัดระวัง ธนาคารมีความเข้มแข็ง แต่กระนั้นก็ตาม รัฐบาลกลับไปลงโทษคนฝากเงิน ทำให้ดอกเบี้ยติดดิน แต่ดอกเบี้ยเงินกู้กลับไม่ลด



"ถ้าผมเป็นนายกฯจนถึงปี 2552 นี้ ประเทศไทยจะไม่มีคนจน เพราะผมไปศึกษา มาแล้ว โดยอิงกับสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวแนะนำ และสิ่งที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้ทำไว้ ประกอบกับแนวเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งผมทดลองใช้ได้ผล ใช้เงินเพียง 2.5 แสนล้าน ก็สามารถแก้ปัญหา ยากจนได้ แต่ก็น่าเสียดายที่มีพวกมาขับไล่ผมออกเสียก่อน ชาติก็เลยทรุด"พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว



ปัดขออภัยโทษแค่กราบบังคมทูล


นายวีระถามว่า ตอนนี้มีคนห่วงใย ที่สื่อมวลชนนำเสนอว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ขออภัยโทษ 3 ครั้ง พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นข้ารองพระบาท รับใช้พระองค์ท่านมาตลอด เมื่อตนอยู่ต่างประเทศ ก็ต้องกราบบังคมทูลว่าสิ่งที่ถูกกล่าวหานั้นเป็นอย่างไร โดยทำมา 3 ครั้ง ครั้งล่าสุดทำก่อนเดินทางกลับมาประเทศไทย ก็ได้กราบบังคมทูลให้ทราบว่า จะกลับมา ตอนนี้ยังไม่มีคำสั่งศาลแล้วตนจะขออภัยโทษได้อย่างไร และหลังจากที่ศาลมีคำตัดสินก็ยังไม่ได้ทำอะไร ที่สำนักราชเลขาธิการบอกไม่เห็นเรื่องก็ถูกต้องแล้ว



"ผมทำเรื่องผ่านทางราชเลขาธิการก็ไม่รู้ว่าถึงพระเนตรพระกรรณหรือไม่ ฟังจากปากผมแล้วก็เชื่อว่าทุกคนจะเข้าใจ" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว และได้ย้อนกลับไปพูดถึงเรื่องปัญหา เศรษฐกิจอีกครั้งว่า เป็นห่วง การใช้จ่ายอันสุรุ่ยสุร่าย อย่างเช่นทหารที่ชอบซื้อตามคนมาขาย หรือคนที่มาวิ่ง อย่างภาคใต้ แทนที่จะแก้เรื่องกลยุทธ์กลับไปซื้อบัลลูนมาใช้ ที่นั่นฝนตกทุกวัน ไม่รู้จะซื้อมาทำไม การใช้งบฯขอให้ระวัง ใช้แล้วขอให้เกิดการจ้างงาน เอาเงินไปแจก ไม่ได้ผลหรอก ตนห่วงคนไทยที่จะตกงาน เกิดปัญหา ชิง ปล้น ยาเสพติดระบาด



ไม่ต้องมาห้ามจะโฟนอินทุกเวที


นายวีระถามว่า จะโฟนอินคุยกับประชาชนทุกกลุ่มใช่หรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า แน่นอน ตนมีความสุขเมื่ออยู่กับประชาชน ได้ทำงาน ได้พูดคุยกับชาวบ้าน นี้คือยาหอมชั้นดี ตนอยู่เมืองนอก รู้สึกเหงา ก็อยากพูด พรรคพวกก็มาห้าม ว่าอย่าเลย ก็เลยบอกว่า จะคุยมีอะไรไหม แถมต่อไปจะทำผ่านวิดีโอลิงก์เลย เพื่อจะได้เห็นภาพทั้งตนและชาวบ้าน ตราบใดความเป็นธรรมไม่เกิดขึ้น ก็จะทำ



"พี่น้องเสื้อแดง มาด้วยใจ มาด้วยความ เสียสละ รักความเป็นธรรม ทั้งที่มีปัญหาและเหนื่อย แล้วผมทำไมจะต้องขี้เกียจพูด ผมตกงานอยู่ ผมจึงมีเวลาให้ประชาชน ตอนนี้คันมือ อยากทำเองเหลือเกิน ถ้าทำผมจะลงพื้นที่ ใช้เงิน 7-8 แสนล้านโดยไม่ต้องกู้" พ.ต.ท. ทักษิณกล่าว


 


พ.ต.ท.ทักษิณกล่าววิจารณ์การโยกย้ายข้าราชการว่า ปกติเขาจะโยกย้ายข้าราชการตามฤดูกาล แต่ตอนนี้ ย้ายทุกการประชุม ครม. อย่างนี้จะไหวหรือ ข้าราชการไม่มีขวัญกำลังใจ


 


คันมืออยากเสกเงินให้ปชช.สร้างรายได้


"ผมคันมืออยากทำเอง มีโอกาสได้ทำตอนนี้ผมจะเสกเงินลงพื้นที่เพื่อสร้างรายได้ สร้างงาน สร้างโอกาสให้ประชาชนเทงบ7-8 เสนล้านเลย พวกเราเสื้อแดงต้องอดทน ทำอะไรก็ผิดอีกพวกหนึ่งทำผิดก็ดี พวกเราต้องทนต่อแรงเสียดสี เราต้องยิ้มรับกับ2มาตรฐาน ถ้ายิ้มรับไปสักพักคงรับไม่ไหว ระบบ 2 มาตรฐานที่ทุเรศๆ ทุเรศมา 2 ปีกว่าแล้ว แน่นอนผมมีความสุขเมื่อได้พูดคุยกับประชาชนโปรยยาหอมเม็ดดีให้ผม ผมอยู่เมืองนอกผมเหงา แต่มีคนห้ามไม่ให้ผมโฟนอินแรกๆ บอกให้เงียบๆ ดีกว่า แต่ผมบอกว่าผมจะโฟนอินและจะทำวิดีโอลิงค์มีภาพมาด้วย " พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว


 


"ทักษิณ"โฟนอินอ้อนชาวมุกดาหารโวแก้ปัญหาศก.ใน6ด.
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นางสาวสุนีย์ เหลืองวิจิตร เลขาธิการพรรค นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค และ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ร่วมกันขึ้นเวทีปราศรัยกับประชาชนชาว จ.มุกดาหาร จำนวนกว่า 2,000 คน เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ได้มาร่วมงานในพิธีเปิดอาคารศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย สาขา จ.มุกดาหาร ตั้งอยู่ที่เลขที่ 80 ถนนพิทักษ์พนมเขต อ.เมืองมุกดาหาร เพื่อให้เป็นศูนย์ประสานพรรคเพื่อไทย เพื่อดำเนินกิจการต่างๆ



ก่อนทำพิธีเปิดอาคารศูนย์ประสานงานฯ บรรดา ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ที่มาร่วมในพิธี ได้ผลัดกันขึ้นเวทีปราศรัยกับประชาชนที่มาร่วมพิธี โดยกล่าวถึงความผิดพลาดในการบริหารงานของรัฐบาลชุดปัจจุบันที่กำลังทำโครงการประชานิยม โดยเฉพาะการแจกเงิน 2,000 บาท ที่เป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ



เวลาต่อมา อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้โทรศัพท์เข้าร่วมพบปะกับชาว จ.มุกดาหาร ประมาณ 10 นาที โดยบอกว่า คิดถึงประเทศไทยมาก อยากให้เลือกคนของพรรคเพื่อไทยให้มากๆ จะได้ช่วยให้กลับประเทศไทยได้ง่ายขึ้น และยืนยันว่าปัญหาของประเทศไทยขณะนี้ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ อดีตนายกฯ เชื่อว่า ตนเองมีความสามารถที่จะแก้ได้ภายใน 6 เดือน ขอเพียงแต่ให้ตนได้กลับมาทำงานรับใช้ประชาชนอีกครั้ง


 


"เสื้อแดง"ทยอยเดินทางสบทบแน่นสนามกีฬาอยุธยา


ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงเมื่อ ช่วงเย็นของวันที่ 14 มีนาคม ที่สนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่าคนเสื้อแดงเข้าไปรวมตัวหันที่หน้าเวทีปราศรัยของ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อด้านเผด็จการ (นปช.) ทำให้พื้นที่กว่า 400 ไร่ของสนามกีฬาจังหวัดแดงไปทั้งพื้นที่ และด้วยคนจำนวนมากและรถยนต์จำนวนมากทำให้พื้นที่ซึ่งขนาดใหญ่แน่นขนัด ทำให้รถยนต์บางส่วนล้นออกมาจอดถนนรอบสนามกีฬาจังหวัด และยังมีรถบัสจำนวนมาก และรถแท็กซี่อีก 400 คัน



นอกจากนี้การ์ดของ นปช. หรือ นักรบพระเจ้าตาก ต้องเพิ่มความเข้มในการตรวจสอบการเข้าออก เพื่อดูแลความปลอดภัย สถานการณ์โดยรวมพบว่าอยู่ในขั้นปลอดภัย ประกอบกับท้องฟ้าเป็นใจ เพราะตลอดทั้งวันพบว่าแดดไม่ออก ฝนก็ไม่ตก มีแต่สายลมที่พัดเย็นสบาย ทำให้บรรยากาศการชุมนุมผ่อนคลายไม่ร้อนเหมือนที่จังหวัดอื่น ๆ ทั้งนี้คนเสื้อแดงจากหลายจังหวัดทั่วประเทศ ต่างสวมเสื้อแดงและเดินถือป้ายแสดงถิ่นฐานว่ามาจากจังหวัดไหน กลุ่มไหน เข้ามาร่วมชุมนุมและทักทายกันตลอดเส้นทาง อย่างไรก็ตามพบว่ามีสินค้าทำพวกเสื้อแดง และภาพของอดีตนายกทักษิณขายเป็นจำนวนมาก ซึ่งทุกร้านล้วนแต่ขายดี


 


นายสุรเชษฐ์ ชัยโกศล ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย เดินทางไปพร้อมกับกลุ่มคนเสื้อแดง และคนติดตามของนายสุรเชษฐ์ ได้ปาไข่ไก่จำนวนเกือบ 100 ใบ ใส่ภาพของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ท่ามกลางเสียงเชียร์ของคนเสื้อแดง



ตร.500 นายดูแลเสื้อแดงจัดความจริงฯสัญจร
ด้านนอกรอบสนามกีฬาจังหวัด พบว่าทางตำรวจได้เพิ่มกำลังเพื่อรักษาความปลอดภัยและอำนวยการจราจร โดยรวมแล้วใช้ตำรวจประมาณ 500 นาย ได้กระจายปฏิบัติหน้าที่ทุกเส้นทางที่มุ่งหน้าเข้าเมืองอยุธยา พล.ต.ต.ชินทัต มีศุข ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ตำรวจดูแลด้านนอก ส่วนด้านในให้ประสานกับการ์ด นปช. ในการรักษาความสงบเรียบร้อยดูแลกลุ่มคนที่เข้าร่วมกิจกรรมเวทีสัญจร แต่พื้นที่ด้านในสนามกีฬาตำรวจตั้งจุดเพื่อเตรียมความพร้อมหากมีเหตุเกิดขึ้นเช่นกัน โดยรวมแล้วพบว่าเหตุการณ์เป็นปกติ ไม่มีเหตุร้ายหรือสิ่งบงชี้ว่าจะมีเหตุร้าย



ขณะที่เวทีกลางมีการแสดงดนตรีของนักร้องลูกทุ่งขึ้นเวทีขับร้อง ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงที่เข้าร่วมงานลุกขึ้นเต้น และส่งเสียงร้องเป็นจังหวะ กันอย่างสนุกสนาน เพราะสภาพอากาศเป็นใจไม่ร้อน ส่วนแกนนำ นปช. อาทิ นายจตุพร พรหมพันธ์ , นพ.เหวง โตจิราการ , นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ , นายวีระ มุสิกพงษ์ , นายอดิศร เพียงเกษ และแกนนำอีกหลายคนเดินทางมาพร้อมขึ้นเวทีปราศรัยเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย และโจมตีการทำงานของรัฐบาลปัจจุบัน อีกทั้งยังขอความเป็นธรรมให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทั้งนี้จะมีการโฟนอินบนเวที ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในเวลาประมาณ 19.30 น.



"เหวง"โวผู้ร่วมชุมนุม 3 หมื่นขับไล่รัฐบาล


นพ.เหวง โตจิราการ กล่าวว่า วันนี้ถือว่าประสบความสำเร็จมีคนมาร่วมกว่า 30,000 คน หากดึกกว่านี้เชื่อว่าจะมากกว่านี้แน่นอน และถือว่าการชุมนุมนั้นมีคนมาร่วมเพิ่มขึ้นทุกจังหวัดที่ นปช.จัดขึ้น การจัดสัญจรก็เพื่อเป็นการรณรงค์ แสวงหาแนวร่วมเพื่อจะระดมคนเสื้อแดงไปร่วมชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพเพื่อขับไล่รัฐบาล และทุกวันนี้ถือว่าคนเสื้อแดงเกินขึ้นใหม่ มีสมาชิกเพิ่มขึ้นในทุก ๆ จังหวัด คนเสื้อแดงขยายจำนวนเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ทั้งนี้เพราะประชาชนทั้งประเทศอึดอัดการภาวการณ์ของประเทศไทย ที่รัฐบาลไม่ได้มาจากกระบวนการทางประชาธิปไตย แต่มาจากทหารและกลุ่มคนที่กดดันประท้วงจนได้มาซึ่งอำนาจทางการเมือง ซึ่งเรื่องนี้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยออกมาบอกชัดอยู่แล้วว่านายกอภิสิทธิ์ (อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) มาจากการสนับสนุนของกลุ่มพันธมิตรและทหาร



นพ.เหวง โตจิราการ กล่าวอีกว่า เรื่องดังกล่าวชี้ชัดอยู่แล้วว่ามาจาก การยึดอำนาจของทหาร การประท้วงของกลุ่มพันธมิตร และรัฐบาล ปชป. ปัจจุบันบ้านเมืองเป็นหนี้สินมากมาย รัฐบาล ปชป.เอาแต่กู้ เพื่อนำเงินกู้มหาศาลมาใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาของประเทศแบบไม่ตรงจุด ทำงานแบบไร้ฝีมือ ไม่เป็นมืออาชีพ ยิ่งทำบ้านเมืองยิ่งล่มจม ยิ่งเป็นหนี้สิน ประเทศชาติจนลงทุกวัน ประเด็นนี้ทำให้คนอีกเป็นจำนวนมาก เปลี่ยนใจมาเป็นเสื้อแดงและพร้อมใจร่วมพลังกับคนเสื้อแดงขับไล่รัฐบาล ปชป.



ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: เว็บไซต์คมชัดลึก, มติชนออนไลน์


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net