ข่าวมอนิเตอร์ประจำวันที่ 24 มีนาคม 2552


การเมือง

ประชุมร่วม 2 สภา ถกกรอบเงินกู้ 7 หมื่นล้าน

เดลินิวส์ - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (23 มี.ค.) สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ส่งหนังสือถึงสมาชิกรัฐสภา เชิญประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในวันพรุ่งนี้ (24 มี.ค.) เวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา มีวาระการประชุมที่น่าสนใจคือ วาระเรื่องด่วน กรอบการเจรจากู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (ครม.เป็นผู้เสนอ) โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดกรอบวงเงินที่จะขอกู้ประมาณ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 70,000 ล้านบาท มีระยะเวลาการกู้เฉลี่ย 7-10 ปี โดยจะขอกู้จากธนาคารโลก ธนาคารพัฒนาเอเชีย และองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนโครงการลงทุนภาครัฐ และเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินของประเทศ โดยการสนับสนุนมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาลด้วยการเพิ่มสภาพคล่องให้กับระบบการเงินและระบบเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อขยายสินเชื่อให้กับให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ผู้ส่งออกและผู้ประกอบการภาคการผลิตอื่น ๆ รวมถึงการให้การค้ำประกันสินเชื่อผ่านสถาบันการเงินของรัฐ

 

ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล ประกอบกับผลกระทบภาวะเศรษฐกิจโลกที่หดตัว ทำให้ปริมาณการส่งออกสินค้าติดลบ ตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2551 เป็นต้นมา โดยเฉพาะเดือน ม.ค. 52 ขยายตัวติลบร้อยละ 26 ถือว่าต่ำสุดตั้งแต่ปี 41 เป็นต้นมา ส่งผลให้การใช้จ่ายเพื่อการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชนลดลงตาม ส่งผลต่อภาวการณ์จ้างงานในประเทศ ประกอบกับเศรษฐกิจครึ่งปีแรกอาจทำให้ขยายตัวติดลบร้อยละ 1 หรือไม่ขยายตัวเลย ครม.จึงมีมติกำหนดนโยบายและมาตรการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ด้านหนึ่งคือการเร่งรัดผลักดันโครงการลงทุนภาครัฐ จึงจำเป็นต้องจัดหาเงินลงทุนเพิ่มเติมด้วยการใช้เงินกู้จากต่างประเทศ

 

นอกจากนี้ รัฐสภาจะพิจารณาให้ความเห็นชอบ ร่างหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือทางการเงินระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่น และร่างสัญญาเงินกู้ (ครม.เป็นผู้เสนอ) มีสาระสำคัญ คือ รัฐบาลญี่ปุ่นตกลงที่จะให้กระทรวงการคลังกู้เงิน โดยผ่านองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) จำนวน 63,018 ล้านเยน สำหรับโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ของการรถไฟแห่งประเทศไทย อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.4 ต่อปี ยกเว้นอัตราดอกเบี้ยสำหรับส่วนของการจ้างที่ปรึกษาอัตราร้อยละ 0.01 ต่อปี โดยมีค่าธรรมเนียมผูกพันเงินกู้ร้อยละ 0.1 ต่อปี ของวงเงินกู้ที่ยังไม่ได้เบิกจ่าย ระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ 25 ปี รวมระยะปลอดหนี้ 7 ปี เบิกจ่ายเงินกู้ภายใน 7 ปี 3 เดือน

 

 

'อิสสระ'เล็งยกเลิกบ้านเอื้ออาทรเหลือครึ่งเดียว

ไทยรัฐ - นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดฟ้องคดีนายวัฒนา เมืองสุขอดีต รมว.การพัฒนาสังคมฯ กับพวก ในความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญาในข้อหาร่วมกันเรียกรับเงินจากผู้ประกอบการซึ่งเป็นเอกชนในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการบ้านเอื้ออาทรต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพ.ศ. 2542 มาตรา11ว่า ป.ป.ช.ได้ดำเนินการตรวจสอบหลักฐานหมดแล้วและได้สรุปรายละเอียดแต่หากป.ป.ช.หรือพนักงานสอบสวนยังขาดหลักฐานการเคหะแห่งชาติและกระทรวงการพัฒนาสังคมฯก็ยินดีให้ความร่วมมือ

 

นายอิสสระ กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตามการทำโครงการบ้านเอื้ออาทรคงต้องพิจารณาทำให้เกิดศักยภาพไม่ใช่ทำเป็นโครงการหลอกๆ โดย 377 แห่งที่ทำไปแล้วครึ่งต่อครึ่งคงต้องยกเลิกเพราะมีปัญหาทำต่อไม่ได้ เช่น ทั้งโครงการมีแต่เสาตอม่อหรือหาคนอยู่ไม่ได้ก็ต้องยกเลิกไปตนกำลังพิจารณาอยู่ในการแก้ปัญหา

 

 

ส.ว.ยื่นกระทู้ถามเลิกซัลเฟอร์ กรมโรงงานฯอุทธรณ์แน่

มติชน - นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา กล่าวเมื่อวันที่ 23 มีนาคม ถึงความคืบหน้ากรณีตรวจสอบประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมให้ยกเลิกวัตถุอันตรายซัลเฟอร์ส่อเอื้อภาคเอกชนว่า ตัวแทนภาคอุตสาหกรรมบางส่วนได้ชี้แจงกรรมาธิการ (กมธ.) ถึงปัญหาเรื่องซัลเฟอร์ ซึ่งได้รับคำชี้แจงไม่ต่างกับที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมชี้แจงว่า ซัลเฟอร์แข็งไม่อันตราย แต่ที่อันตรายคือซัลเฟอร์เหลว ฉะนั้นประกาศเอาซัลเฟอร์แข็งออกจากตะกร้าวัตถุอันตรายจึงไม่ใช่ปัญหา กมธ.กำลังไปตรวจสอบอยู่ว่า ซัลเฟอร์แข็งไม่อันตรายจริงหรือไม่ ทราบว่าภาคอุตสาหกรรมจะอุทธรณ์ในประเด็นดังกล่าว

 

นายประสารกล่าวต่อไปว่า กมธ.กำลังตรวจสอบข้อมูลจากหลายๆ ส่วน เพราะมีความพิรุธหลายปม ได้แก่ เรื่องค่าปรับเกือบหมื่นล้านบาท การออกประกาศยกเลิกไล่เลี่ยกับประกาศให้พืชสมุนไพร 13 ชนิดเป็นวัตถุอันตราย เป็นการเอื้อประโยชน์ให้ผู้นำเข้าสารเคมีหรือไม่ ซึ่งจะสอบถามอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เพราะทราบว่าเป็นผู้หนึ่งในคณะกรรมการวัตถุอันตราย ซึ่งไม่เห็นด้วยกับการเอาซัลเฟอร์และตัวอื่นๆ ออกจากตะกร้าวัตถุอันตราย นอกจากนี้ได้ยื่นกระทู้ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่องเจตนาเอื้อประโยชน์ให้ผู้นำเข้าซัลเฟอร์พ้นผิดหรือไม่ ทำไมถึงจะอุทธรณ์ และจะดูว่า กระทรวงจะพิจารณาเรื่องสารอันตรายอื่นๆ ซึ่งยังอยู่นอกตะกร้าวัตถุอันตราย คือ โคบอลท์ 60 ไดอาซีนอน และไดเซททีลีนอย่างไร

 

นายรัชดา สิงคาลวนิช อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมกล่าวว่า วันที่ 25 มีนาคมนี้ จะประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย โดยมีนายอนุสรณ์ เนื่องผลมาก รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธาน เพื่อพิจารณากรณีศาลปกครองมีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องยกเลิกสารซัลเฟอร์ จากรายชื่อวัตถุอันตราย จะสอบถามความเห็นผู้เกี่ยวข้องว่าจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ เนื่องจากจะครบกำหนดวันที่ 4 เมษายนนี้ แต่ในส่วนกรมโรงงานอุตสาหกรรมคงจะยื่นอุทธรณ์ เนื่องจากเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและมีผลกระทบจากคำสั่งดังกล่าว

 

 

ณัฐวุฒิจี้นายกฯ เปิดแผนตากสิน

ไอเอ็นเอ็น - นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ กลุ่มคนเสื้อแดง และ ผู้จัดรายการความจริงวันนี้ เปิดเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยืนยันผ่านตนว่า ข้อมูลที่ได้พูดผ่านวิดีโอลิงค์วานนี้ เป็นความจริงทุกประการ ซึ่งการออกมาปฏิเสธของผู้ที่ถูกพาดพิงนั้น เห็นว่า เมื่อทำแล้วต้องกล้ารับ ทั้งนี้ ในวันที่ 27 มี.ค. พ.ต.ท.ทักษิณ จะพูดผ่านวิดีโอลิงค์อีกครั้ง โดยมีเนื้อหาเสนอทางออกวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมทั้งยืนยัน ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีเจตนาตอบโต้ หรือ รุกรานใคร โดยเฉพาะ องคมนตรี เพียงแต่ต้องการนำเสนอข้อเท็จจริงต่อสังคม ที่คนไทยไม่มีโอกาสรับรู้มาก่อน ขณะเดียวกัน เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี นำเอกสารแผนตากสินออกมาเปิดเผยต่อสาธารณชน ไม่ใช่ออกมาให้สัมภาษณ์รายวัน ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล

 

นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงการชุมนุม วันที่ 26 มี.ค. นี้ด้วยว่า จะมีการปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล โดยจะเปิดทางให้เฉพาะข้าราชการเข้าไปทำงานภายในทำเนียบรัฐบาล ยกเว้น คณะรัฐมนตรีเท่านั้น

 

 

เรืองไกรร้องคลังสอบเงินหนุนปชป.

ไอเอ็นเอ็น -นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ส.สรรหา เปิดเผยว่า ตนได้ทำหนังสือถึง นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ให้ตรวจสอบการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากเงินสนับสนุนที่ได้รับจากพรรคการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ประจำปี 2550 เนื่องจากการตรวจสอบงบการเงิน วันที่ 31 ธ.ค. 2550 รายจ่าย สำนักงานเลขาธิการพรรค มีค่าสนับสนุนผู้สมัคร 270,650,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน มีหนี้สินหมุนเวียนค้างจ่าย 4,788 บาท แต่กลับไม่พบว่ามีการหักภาษี ณ ที่จ่าย เงินดังกล่าว

 

ทั้งนี้ ตนสงสัยว่าเงินได้พึงประเมินดังกล่าว ได้รับการยกเว้นตาม มาตรา 42 ของประมวลรัษฎากร หรือกฎหมายอื่นหรือไม่ พร้อมกันนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลของ ส.ส.บางคนในพรรคประชาธิปัตย์ เกี่ยวกับการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี 2550 ที่ยื่นแสดงไว้ต่อ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ไม่พบว่ามีการแสดงรายการเกี่ยวกับเงินสนับสนุนไว้ ซึ่งตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ต้องแสดงรายการค่าใช้จ่ายหาเสียง รวมทั้งที่มาของรายรับที่นำมาเป็นค่าใช้จ่าย ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ด้วย อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบดังกล่าว ควรตรวจงบการเงินของพรรคการเมืองอื่น ที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ก็สมควรจะถูกพิจารณาเรื่องการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เกี่ยวกับเงินสนับสนุนที่ได้รับด้วย เนื่องจากต้องทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน

 

 

ยกฟ้องชูวิทย์หมิ่นคดีข้าวผัด5พัน

ไอเอ็นเอ็น - ศาลฎีกายกฟ้องชูวิทย์คดีหมิ่นประมาทจนท.ราชทัณฑ์กรณีปูดข่าวข้าวผัด5พัน

ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 807 ศาลอาญา รัชดา ศาลนัดอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาในคดีที่นายธีระชัย เจษฎารักษ์ อดีตเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากกรณีเมื่อวันที่ 28 และ 29 ก.ค. 2546 นายชูวิทย์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า มีผู้คุมชื่อ"ธ"เรียกรับเงิน 5,000 บาทจากภรรยาที่นำข้าวผัดมาให้ที่ห้องขังศาลอาญากรุงเทพใต้ ทำให้โจทก์ได้รับความเสื่อมเสียทางชื่อเสียง

 

ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การยื่นฎีกาคดีต้องมีผู้พิพากษาหรืออัยการเซ็นรับรอง แต่คดีนี้ไม่ปรากฏว่ามีการเซ็นรับรองดังกล่าว ศาลจึงไม่มีอำนาจวินิจฉัย จึงพิพากษาให้ยกฟ้องตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์

 

สำหรับคดีนี้ในศาล ชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ได้มีคำพิพากษายกฟ้องโจทก์ เพราะไม่สามารถนำพยานเอกสาร และพยานบุคคล มาขึ้นเบิกความต่อศาลได้ขณะที่นายชูวิทย์มีผู้ต้องขังที่อยู่ในเหตุการณ์ มาเป็นพยานยืนยันต่อศาลจึงเชื่อว่าโจทก์ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจริง

 

 

ปปท.ชงสอบกบข.

โพสต์ทูเดย์ - นาย พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. จะส่งเรื่องการเสนอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. รวมถึงกรณีการตั้งคณะกรรมการ 7 หน่วยงาน เข้าร่วมดำเนินการตรวจสอบการลงทุนของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือ กบข. เข้าหารือกับตนที่รัฐสภาในวันนี้ ยืนยัน ป.ป.ท. สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้

 

นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในฐานะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ(กบข.) เปิดเผยว่า การตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการลงทุนของกบข.ว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1 เดือน และเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบัน และโดยส่วนตัวเห็นด้วยกับแนวทางที่กบข.ดำเนินการให้ตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ซึ่งถือเป็นการทำภายใต้กรอบกฏหมาย และโปร่งใส

 

นาง สิมากานต์ วรเดชวิญญู พยาบาลวิชาชีพ ระดับ 8 และ น.ส.รุจิรา สมบูรณ์ พยาบาลวิชาชีพ ระดับ 7 นักวิชาการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเกษียณอายุราชการในเดือนตุลาคม 2551 ผู้เสียหายจากกรณีกองทุนกบข.ขาดทุนได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกร รมการป.ป.ท. เพื่อร้องขอให้ตรวจสอบการบริหารเงินและให้ผู้บริหารกบข.ชดใช้ค่าเสียหายหลัง สูญเสียเงินค่าตอบแทนกว่า 50,000 บาท

 

นางสิมา กานต์ กล่าวว่าการที่ผู้บริหาร กบข.แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นตรวจสอบเป็นการภายใน ถือว่าไม่เป็นธรรม และไม่โปร่งใสซึ่งตนเองเป็นห่วงสมาชิก กบข.ที่ยังไม่เกษียณว่า ในอนาคตต้นทุนอาจติดลบ และสมาชิกไม่สามารถลาออกได้ จึงเรียกร้องให้มีการปรับโครงสร้าง กบข. ให้มีผู้เชี่ยวชาญในด้านการลงทุนที่แท้จริง เพื่อให้ความเสียหายเกิดขึ้นน้อยที่สุด โดยในส่วนกรรมการ กบข.และ ผู้บริหาร กบข. ต้องสามารถตรวจสอบได้

 

 

ตำรวจซ้อมยิงปืนรับเสื้อแดง

สำนักข่าวไทย และ โพสต์ทูเดย์ - พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดอบรมการซักซ้อมการยิงปืนระยะใกล้และระยะไกล ให้ตำรวจปฏิบัติการพิเศษ 191 จำนวน 150 นาย โดยเป็นการซ้อมยิงปืนพกสั้น ใน 4 ท่า คือ ท่ายืนยิง ระยะ 25 เมตร / ท่าวิ่งยิง ระยะ 20 เมตร / ท่านั่งชันเข่ายิง ระยะ 10 เมตร / และท่ายิงประชิดตัว การซ้อมยิงปืนดังกล่าวมีขึ้นเพื่อเตรียมใช้รับมือกับการชุมนุมเป็นการเฉพาะ โดยเฉพาะการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 26 มี.ค.นี้ ซึ่งตำรวจที่ผ่านการอบรมจะถูกส่งไปเป็นกำลังแนวหน้า ในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล

 

พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชี้แจงว่า ตำรวจไม่ได้ต้องการใช้ความุรนแรงหรือใช้กำลังกับผู้ชุมนุม แต่การซ้อมยิงปืนเป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันและควบคุมฝูงชนของตำรวจ ซึ่งตำรวจทุกหน่วยจะต้องเข้ารับการฝึกอบรมลักษณะเช่นนี้เป็นประจำทุกปี

 

สำหรับกำลังที่ใช้ดูแลกลุ่ม ผู้ชุมนุมเสื้อแดงนั้น จะใช้กำลังตำรวจของนครบาล ตำรวจภูธรภาค1,2และ7รวม27กองร้อยในการดูแลรักษาความปลอดภัย

 

 

จี้ ผบ.ตร.จัดการพันธมิตรฯ - ป.ป.ช.

สำนักข่าวไทย - ตัวแทนกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย เดินทางมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อมอบดอกไม้ให้กำลังใจผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผ่านทาง พ.ต.อ.สุทธินาท สุดยอด รองเลขานุการตำรวจแห่งชาติ กรณีถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด กรณีเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 โดยระบุเรื่องนี้ศาลปกครองมีคำวินิจฉัยไปแล้ว ว่าการชุมนุมปิดประตูทางเข้า-ออกรัฐสภาทุกจุด ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำให้ผู้อื่นกังวลว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย และเสรีภาพ / พร้อมระบุว่าการใช้ความรุนแรง จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก เป็นที่ปรากฏภายหลังแล้วว่าผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ เตรียมอาวุธมาเอง และมีการทำร้ายตำรวจด้วย

 

ผู้ชุมนุมได้ยื่นหนังสือเปิดผนึกเรียกร้องให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการตรวจสอบสถานภาพของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยว่า ดำรงตำแหน่งโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะมีที่มาจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. ซึ่งอาจขัดต่อ พ.ร.บ.การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และ พ.ร.บ.เงินเดือนเงินประจำตำแหน่ง พ.ศ.2541

 

นอกจากนี้ยังขอให้เร่งรัดดำเนินคดีกับแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ปิดล้อมรัฐสภา ยึดทำเนียบรัฐบาล ปิดยึดท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยไม่ต้องเกรงกลัวการแทรกแซงจากรัฐบาล เพื่อเป็นการตีแผ่การกระทำความผิดของกลุ่มพันธมิตรฯ ให้สังคมรับทราบ

 

 

ทักษิณโฟนอินน่าน-หนองคาย ลั่นพร้อมนำปชช.สู้ปฎิวัติ

ไทยรัฐ - เวลา 20.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โฟนอินเข้ามา ผ่านโทรศัพท์มือถือของ นายจตุพร พรหมพันธ์ ระหว่างการชุมนุมของ ชมรมคนเสื้อแดง รักน่าน 52 เรียกร้องประชาธิปไตย ที่สนามกีฬากลางจ.น่าน ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาตั้งแต่เย็น โดยกลุ่มเสื้อแดงจึงขอให้อดีตนายกฯพูดเป็นภาษาเหนือ ก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะกล่าวว่า พ่อแม่พี่น้องชาวเมืองน่าน รักและคิดถึงชาวน่านตลอดเวลา เสียดายที่ไม่มีโอกาสมาเยี่ยมเยือนเพราะว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่ เรื่องสำคัญที่สุดอยากบอกว่า ที่รอดตายจากคาร์บอมบ์ เมื่อปี 2549 เนื่องจากเดินทางมาแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่ จ.น่าน ทำให้รอดตาย ฝากบอกให้ชาวน่านประหยัดอดออม ประการสำคัญอย่าไปหลงเชื่อ กับสิ่งที่รัฐบาลชุดนี้จัดหาให้ในเรื่องเงินทองต่างๆ รับได้แต่อย่าไปเชื่อ เพราะเป็นภาษีอากรของพวกเรา ขอขอบคุณ ส.ส.น่าน ทุกคนที่ไม่มีใครขายตัว

 

"ผมขอเชิญชวนพี่น้องชาวจ.น่านเดินทางไปร่วมรวมพลังขับเคลื่อนประชาธิปไตย ในการสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริง ที่ท้องสนามหลวง ในวันที่ 26 มีนาคม 2552 นี้ท้ายนี้ขออวยพรให้พี่น้องชาวจังหวัดน่านมีความร่มเย็นเป็นสุขตลอดไป" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

 

ต่อมา พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โฟนอินในงานระดมทุนหาเงินเข้าชมรมนาคราชแดง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย โดยมี นายพงศ์พันธุ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย เปิดโทรศัพท์มือถือส่วนตัว เพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอิน ท่ามกลางคนเสื้อแดง จ.หนองคาย และ จ.อุดรธานี เข้าร่วม โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวต่อต้านการปฏิวัติในอดีตที่ผ่านมา ที่เกิดขึ้นหลายครั้ง และจะให้เกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งหากเกิดขึ้นอีก ตนเองจะนำประชาชนออกมาต่อต้านให้ถึงที่สุด แม้จะอยู่ในต่างประเทศก็ตาม นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวถึงองค์กรอิสระ อย่าง ศาลรัฐธรรมนูญ ว่า ได้เข้ามาวุ่นวาย ไม่เป็นกลางในการตัดสินคดี

 

           

"กษิต" รับปากไทยพร้อมช่วยพม่าเจรจาชนกลุ่มน้อย

มติชน - เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากนครเนปิดอว์ ประเทศพม่า ว่า นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์หลังเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.เต็ง เส่ง นายกรัฐมนตรีพม่า ว่า ทางพม่าได้ขอให้ไทยช่วยเจรจากับชนกลุ่มน้อยชาวกะเหรี่ยง ที่เป็นกลุ่มเดียวในพม่าที่ยังไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของพม่า ซึ่งเรายินดีทำตามคำขอ โดยตนจะไปพูดจากับเขาด้วยตนเองก่อน เพราะรู้จักกันพอสมควร จะสอบถามว่าเขามีปัญหาอะไรที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แต่คงต้องปรึกษารายละเอียดกับเจ้าหน้าที่อีกครั้งหนึ่ง

 

"นายกรัฐมนตรีพม่าได้ยืนยันว่า พม่าจะเดินหน้าตามกระบวนการปรองดองในชาติและจัดให้มีการเลือกตั้งภายในปี 2553 และจะค่อยๆ เปลี่ยนสังคมการเมืองพม่าจากที่มีทหารคุมอำนาจให้เป็นพลเรือนในที่สุด อย่างไรก็ดี จากที่พูดคุยเชื่อว่า รัฐบาลพม่าตระหนักดีว่าประชาคมโลกต้องการให้ทุกฝ่ายในพม่าได้มีส่วนร่วมในการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น" นายกษิตกล่าว

 

นายกษิตกล่าวว่า พอใจกับผลการเยือนพม่าในครั้งนี้ในแง่ที่ฝ่ายพม่ารู้สึกสบายใจกับรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สามารถพูดกันได้อย่างตรงไปตรงมาทุกเรื่องและเขามีความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับรัฐบาลนี้ ทั้งนี้ รัฐบาลพม่ายังได้เรียนเชิญนายกรัฐมตรีให้เดินทางเยือนพม่า ในเวลาที่เหมาะสมต่อไป

 

 

ยันใช้ทวิภาคีแก้ปัญหาไทย-เขมร กันหน่วยงานอื่นยุ่ง

มติชน-นายวศิน ธีรเวชญาณ ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) กล่าวภายหลัง เป็นประธานประชุมเจบีซีฝ่ายไทย เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ว่า เป็นการประชุมนัดสุดท้ายก่อนเดินทาง เจรจากับฝ่ายกัมพูชา ที่กรุงพนมเปญ วันที่ 6-7 เมษายนนี้ โดยเตรียมประเด็นหารือแนวทางการสำรวจทำหลักเขตแดน แม้ว่ายังไม่มีการลงนามก็จะเตรียมไว้ก่อน เพราะเมื่อลงนามก็จะได้เริ่มทำงานทันที ส่วนกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาสร้างถนนเข้ามาในพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร ซึ่งขัดต่อบันทึกความเข้าใจระหว่างไทยกับกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกที่ลงนามเมื่อปี 2543 อาจหยิบยกขึ้นหารือพร้อมกับพื้นที่อื่นๆ ที่เป็นปัญหาด้วย

 

เมื่อถามว่า การที่ฝ่ายกัมพูชารับหนังสือประท้วงจากไทยแต่ก็ยังคงสร้างถนนต่อไปถือเป็นเรื่องทางเทคนิคหรือไม่ นายวศินยอมรับว่าเป็นอย่างนั้น เป็นวิถีทางแห่งการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เว้นแต่ว่าประเทศไทยจะใช้กำลังเข้าไประงับยับยั้ง ซึ่งต้องคำนึงถึงผลที่สืบเนื่องต่อมา ต้องปรึกษาหารือภายในให้ดี เพราะกัมพูชาดำเนินการขัดกับบันทึกความเข้าใจอย่างชัดเจน อย่างไรก็ดี ขณะนี้ไทยยังจะดำเนินการในแนวทางนี้ไปก่อนจนกระทั่งปัญหาหนักหนาสาหัสขึ้นจะต้องใช้มาตรการพิเศษอื่น แต่ต้องหารือกับประชาชนในพื้นที่ด้วย แต่ยืนยันจะใช้แนวทางทวิภาคีแก้ปัญหาไม่ต้องการให้องค์กรหรือประเทศอื่นเข้ามาแก้ปัญหา

 

 

สธ.เตรียมชงห้ามขายเหล้าช่วงสงกรานต์

ไอเอ็นเอ็น- นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข แถลงผลการประชุม คณะกรรมการนโยบายแอลกอฮอล์แห่งชาติ ว่า ที่ประชุมมีมติที่จะนำมาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงเทศกาล สงกรานต์ เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ เพื่อส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ เนื่องจากมีปัญหาขัดประกาศของคณะปฏิวัติ ปี 2515 ที่ให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในช่วงเวลา 11.00 - 14.00 น. และเวลา 17.00 - 24.00 น. ทั้งนี้ หากคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่าไม่ขัดต่อกฎหมายดังกล่าว ก็จะพิจารณากำหนดวันและเวลาที่จะจัดจำหน่ายอีกครั้งแต่เบื้องต้น อาจจะให้ห้ามจำหน่ายในวันที่ 13 เม.ย. เพียงวันเดียว เนื่องจากเป็นวันที่มีอุบัติเหตุมากที่สุด

 

 ด้าน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า กรณีที่ยังไม่ได้ข้อสรุปในการออกมาตรการนั้นไม่เกี่ยวกับบริษัทเอกชน หรือ ธุรกิจส่วนตัว แต่ต้องการพิจารณาเรื่องดังกล่าวให้รอบคอบ

 

 

คุณภาพชีวิต-สิ่งแวดล้อม-การศึกษา

คสช.เสนอชะลอขยายมาบตาพุด

ASTV ผู้จัดการรายวัน -นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2552 โดยใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมงว่า คสช.ได้ให้ความเห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการสนับสนุนการศึกษาและติดตามการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและนโยบายสุขภาพ อีกทั้งเห็นชอบมอบให้สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.)ใช้กระบวนการสมัชชาสุขภาพแก้ปัญหาในพื้นที่มาบตาพุด ซึ่งได้เสนอให้รัฐบาลชะลอการขยายและก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมใหม่ในพื้นที่มาบตาพุดและบ้านฉาง

 

นพ.อำพล จินดาวัฒนะ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) กล่าว สช.จะเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งภาคการเมือง หน่วยงานของรัฐ ภาคธุรกิจ นักวิชาการและภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำแผนปฏิบัติการลดและขจัดมลพิษตามหลักการทำนโยบายสาธารณะที่ดี เนื่องจากหากไม่มีการเชิญทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย เมื่อนำสู่การปฏิบัติจะเกิดความขัดแย้งขึ้น

 

 

 

ทุนชะลอมาบตาพุด4หมื่นล.

ASTV ผู้จัดการรายวัน - เอกชน 3 รายแจ้งชะลอการลงทุนรวม 4 หมื่นล้านบาทเพื่อขอดูความชัดเจนอีไอเอใหม่ หลังประกาศเขตควบคุมมลพิษในมาบตาพุด เอกชนเตรียมใช้เวทีกรอ.ที่มีนายกฯเป็นประธานแจงผลกระทบเชื่อมั่นยื่นข้อเสนอให้สรุปแผนอีไอเอใหม่ภายใน 6 เดือนหากไม่เช่นนั้นจะกระทบความเชื่อมั่นและการลงทุนในอนาคต ขณะที่ดัชนีเชื่อมั่นอุตฯก.พ.ดิ่งต่ำกว่า 100 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 35 เหตุศก.ทั้งในและนอกชะลอ

 

นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน(กรอ.)ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในเร็วๆ นี้ภาคเอกชนจะได้รายงานถึงข้อกังวลของภาคเอกชนต่อผลกระทบการประกาศพื้นที่บริเวณมาบตาพุดเป็นเขตควบคุมมลพิษเนื่องจากนักลงทุนสอบถามค่อนข้างมากถึงแผนการทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอใหม่ว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งเรื่องดังกล่าวต้องการให้รัฐมีการกำหนดแผนให้ชัดเจนภายในไม่เกิน 6 เดือนหากไม่เช่นนั้นจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและภาวะการลงทุนในระยะยาว

 

เบื้องต้นความไม่ชัดเจนส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและการลงทุนระดับหนึ่งแล้วโดยผลการสำรวจเบื้องต้น เอกชนแจ้งการชะลอการลงทุนแล้วในบริเวณมาบตาพุด 3 รายมูลค่าการลงทุนประมาณ 4 หมื่นล้านบาทเพื่อขอดูความชัดเจนแผนอีไอเอก่อน ได้แก่ โครงการโรงแยกก๊าซของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) มูลค่าลงทุน 20,000 ล้านบาท โครงการน้ำมันยูโร 4 บริษัทสตาร์ปิโตรเลียมรีไฟนิ่ง(SPRC) วงเงินลงทุนประมาณ 18,000 ล้านบาท และโครงการขยายกำลังผลิตอีพร็อคซี เลซิน ของกลุ่มเบอร์รากรุ๊ป มูลค่า 2,000 ล้านบาท เป็นโครงการที่จะลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมเหมราช

 

"โครงการเหล่านี้บางคนมองว่าชะลอเพราะภาวะเศรษฐกิจหรือไม่ ซึ่งต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจที่ชะลอตัวสำหรับบางโครงการอาจจะมีผลจริงแต่โครงการเหล่านี้เขาต้องอาศัยเวลา 1-2 ปีในการก่อสร้างและเริ่มผลิตและจังหวะนี้เป็นช่วงการก่อสร้างต้นทุนต่ำสุดเขาก็ต้องเดินหน้าเพื่อรองรับเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัว"นายสันติกล่าว

 

ประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า การประกาศเขตควบคุมมลพิษนั้นได้ส่งผลต่อความวิตกกังวลเอกชนซึ่งขณะนี้นักลงทุนสอบถามค่อนข้างมากโดยเฉพาะส่วนที่ขยายการลงทุนและส่วนใหญ่ผ่านอีไอเอไปแล้ว 3 แสนล้านบาท แต่หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนหรือแม้แต่ส.อ.ท.ก็ตอบไม่ได้เพราะต้องรอการจัดทำอีไอเอของจังหวัดระยองเช่นกัน โดยเอกชนเองต้องการเข้าไปร่วมในส่วนนี้รวมไปถึงการเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเพื่อที่จะกำหนดแผนร่วมกันเพราะต้องการให้อีไอเอใหม่เป็นรูปแบบที่เป็นมาตรฐานสากลไม่ใช่มีใครไปร้องเรียนก็จะต้องปรับใหม่อีก

 

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล รองประธานส.อ.ท.กล่าวว่า นักลงทุนค่อนข้างสับสนและสอบถามมามากบางรายเห็นว่ามาตรฐานสิ่งแวดล้อมภาพรวมของไทยอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานสากล มีการกำกับดูแลในคณะกรรมการระดับชาติเมื่อเปลี่ยนไปอยู่ที่ท้องถิ่นเอกชนต่างก็วิตกว่าจะมีการปรับเปลี่ยนบ่อยๆ หรือไม่ ทุกอย่างควรจะต้องให้ชัดเจนโดยเร็วหากไม่เช่นนั้นจะฉุดความเชื่อมั่นได้เพราะบรรยากาศการลงทุนเช่นนี้ก็ลำบากอยู่แล้วที่จะดึงการลงทุน

 

 

คนรายได้ต่ำ1.5หมื่นแห่ลาออกรับเงินประกันว่างงาน

ไทยรัฐ -นายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในช่วงครึ่งเดือนของเดือน มี.ค.มีจำนวนผู้ว่างงานแล้ว 30,000 คน จึงเชื่อว่าแนวโน้มการว่างงานในเดือน มี.ค.นี้ น่าจะลดลงจากเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาที่มีการว่างงานมากถึง 100,000 คน แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือคนที่มีรายได้น้อยต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน มีแนวโน้มการลาออกจากงานมากถึง 3 เท่าของผู้ถูกให้ออกจากงาน "หลังเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ โรงงานต่างๆลดค่าจ้างพนักงานเหลือ 75% รวมทั้งยังยกเลิกการทำงานล่วงเวลา ทำให้คนงานมีรายได้น้อยลงและไม่พอค่าใช้จ่าย จึงตัดสินใจลาออกจากงาน เพื่อรับค่าช่วยเหลือจากประกันสังคมในอัตรา 30% ของเงินเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน เหมือนกับการไปตายเอาดาบหน้า เพราะไม่รู้ว่าจะเอาอะไรกินถ้ายังทำงานอยู่"

 

นายไพฑูรย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะที่คนที่ถูกให้ออกจากงานจะได้รับค่าจ้างจากประกันสังคมในอัตรา 50% ของเงินเดือน เป็นระยะเวลา 8 เดือน ซึ่งนายจ้างเองก็ไม่อยากให้ออก เพราะเมื่อเศรษฐกิจกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วก็จะต้องมีการจ้างงานใหม่ ทำให้ต้องเสียเวลากับการฝึกอบรมพนักงานอีก โดย ในปี 2551 ที่ผ่านมามีแรงงานที่ลาออกจากงานจำนวน 120,000 คน และแรงงานที่ถูกให้ออกจำนวน 93,000 คน ซึ่งกระทรวงแรงงานพยายามเร่งแก้ไขปัญหาคนว่างงานด้วยการจัดตลาดนัดนัดพบแรงงาน จัดตั้งศูนย์แก้ไขปัญหาแรงงานแบบเบ็ดเสร็จเพื่อจับคู่ระหว่างนายจ้างที่ต้องการแรงงานกับคนว่างงาน รวมทั้งประสานงานกับคณะกรรมการบริหารโครงการเพิ่มศักยภาพผู้ว่างงานเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคม หรือโครงการต้นกล้าอาชีพที่มีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อจัดทำโครงการชะลอเลิกจ้าง

 

 

สละสิทธิ์ชุดนักเรียนได้ถึง15พ.ค.

ไทยโพสต์ - ผู้สื่อข่าวรายงานความความคืบหน้าภายหลังกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้จัดส่งเงินงบประมาณโครงการเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ จำนวน 18,257 ล้านบาท ให้กับสถานศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลถึง ม.ปลาย และอาชีวศึกษา ในภาครัฐและเอกชน ทั้งในระบบและนอกระบบโรงเรียน โดยครอบคลุมนักเรียนรวม 11.8 ล้านคน เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมานั้น

 

นายสมเกียรติ ชอบผล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ในส่วนของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพั้นฐาน (สพฐ.) ขณะนี้ทุกแห่งได้รับงบหมดแล้ว และกำลังดำเนินการจัดสรรไปให้ผู้ปกครองเพื่อซื้ออุปกรณ์การเรียนและเครื่องแบบนักเรียน ซึ่งก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยกเว้น รร.ในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ลพบุรี ที่ตนได้รับรายงานเข้ามาว่า รร.ดังกล่าวกำหนดแนวทางที่จะให้ผู้ปกครองนำเงินตัวเองไปซื้ออุปกรณ์การเรียนและเครื่องแบบนักเรียนก่อน แล้วจึงนำหลักฐานมาเบิกเงินกับทาง รร. เพราะต้องการมั่นใจว่าผู้ปกครองจะจัดซื้อเครื่องแบบนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนจริงๆ ซึ่งทาง สพฐ.ทราบแล้วก็ได้ชี้แจงไปว่าการดำเนินการดังกล่าวไม่ถูกต้อง จะต้องโอนงบให้ผู้ปกครองก่อนเพื่อนำงบดังกล่าวไปจัดซื้อ ตอนนี้ รร.ดังกล่าวได้ปรับแก้แนวทางการดำเนินงานเรียบร้อยแล้ว สำหรับ รร.อื่นๆ เช่น รร.ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งตนเพิ่งไปตรวจเยี่ยมมานั้น พบว่าเรียบร้อยดี โดย รร.เข้าใจและเตรียมการเรื่องนี้แล้ว

 

ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า หลัง รร.รับงบในโครงการเรียนฟรี 15 ไปแล้ว ต่อมาผู้ปกครองสละสิทธิ์นั้น เรื่องนี้ผู้ปกครองสามารถดำเนินการได้ เพราะ สพฐ.ให้เวลาสละสิทธิ์จนถึงช่วงเปิดภาคเรียนที่ 1/2552 หรือวันที่ 15 พ.ค. และหลังจากเปิดเทอมแล้ว ถ้า รร.มีเงินเหลือเนื่องจากเด็กสละสิทธิ์หรือเด็กไม่มารับเงิน ก็ขอให้ รร.ส่งงบดังกล่าวมาให้ สพฐ.

 

สำหรับกรณี รร.สาธิตของมหาวิทยาลัย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ที่ได้สละสิทธิ์งบประมาณนั้น ขณะนี้ สพฐ.ได้ร่างหนังสือพร้อมกับรายชื่อ รร.ขนาดเล็กและห่างไกลในสังกัด สพฐ.แล้ว เพื่อให้ รร.สาธิตฯ ในสังกัด สกอ.ได้เลือกว่าจะจัดสรรงบที่ผู้ปกครองสละสิทธิ์ มาดำเนินการช่วยเหลือ รร.ใดในสังกัด สพฐ. และเบื้องต้นได้ประสานเป็นการภายในกับ สกอ. ตลอดจนสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) แล้ว เพื่อให้ตรวจสอบหนังสือดังกล่าวว่าจะตกลงตามนั้นหรือไม่ หลังจากนั้นจะเสนอนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศธ. รับทราบ ก่อนจะเผยแพร่เพื่อให้รับทราบกันอย่างกว้างขวางต่อไป.

 

 

ผู้ค้าคลองเตยโร่ร้องผบช.น.อีกช่วยเร่งคดี

ไอเอ็นเอ็น - กลุ่มพ่อค้าแม่ค้า กว่า 10 คน เดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อให้ช่วยเร่งรัดดำเนินคดีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าตลาดคลองเตย ทั้งการทำร้ายร่างกาย การข่มขู่ และการใช้อาวุธปืนยิงการ์ดอาสาของกลุ่มจนเสียชีวิต โดยกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ระบุว่า ที่ผ่านมาการทำคดีของ สน.ท่าเรือ เป็นไปอย่างล่าช้าส่งผลให้พวกตนเกิดอาการหวาดกลัว และรู้สึกไม่ปลอดภัย ซึ่งช่วงก่อนหน้านี้เคยคิดว่า บริเวณที่ชุมนุมเป็นที่ปลอดภัยที่สุดแต่หลังจากที่เกิดเหตุ มีกลุ่มชายฉกรรจ์บุกเข้ามาทำร้ายร่างกายเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทำให้เกิดความไม่แน่ใจในความปลอดภัยทั้งนี้ พล.ต.ท.วรพงษ์ ได้รับปากกับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ว่าจะเร่งรัดการดำเนินคดีต่าง ๆ ให้ และลงพื้นที่ด้วยตนเองให้มากขึ้นพร้อมทั้งยืนยันจะให้ความเป็นธรรม ขณะเดียวกัน หากตรวจสอบพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ก็จะดำเนินการให้ถึงที่สุด

 

อย่างไรก็ตาม กลุ่มพ่อค้าแม่ค้า เปิดเผยด้วยว่า ในช่วงเช้าวันที่ 26 มี.ค. จะมีพิธีทำบุญศพการ์ดอาสาของกลุ่มที่เสียชีวิตก่อนที่จะเคลื่อนศพไปที่วัด คลองเตยใน เพื่อทำพิธีฌาปนกิจศพ ในเวลา 17.00 น.

 

 

ต่างประเทศ

ศก.ซบสหรัฐจ่อลดหลักสูตรสอนภาษาคนต่างชาติ

ไอเอ็นเอ็น - ความซบเซาทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้สหรัฐเตรียมลดงบประมาณที่ใช้สนับสนุนการสอนภาษาอังกฤษแก่คนต่างชาติที่อพยพเข้ามาตั้งรกรากในประเทศ มีคนต่างชาติจำนวนมากที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในสหรัฐ ทั้งที่ตัวเองไม่สามารถพูดหรืออ่านภาษาอังกฤษได้เลย ส่งผลให้ทางการสหรัฐ ต้องเจียดงบประมาณส่วนหนึ่งมาเปิดสอนภาษาอังกฤษแก่คนต่างชาติเหล่านี้ เพื่อให้ใช้ภาษาอังกฤษติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวันได้

 

 แต่เนื่องจากเศรษฐกิจซบเซา จึงทำให้หลายรัฐในสหรัฐ ต้องลดงบประมาณตรงส่วนนี้ โดยนายเดวิด แพเทอร์สัน ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เสนอให้ลดงบประมาณในการเปิดสอนภาษาอังกฤษ 3 หลักสูตร จาก 13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 455 ล้านบาท มาอยู่ที่ 8.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 300 ล้านบาท เป็นการลดงบประมาณลงร้อยละ 33

 

 ด้วยเหตุนี้ คนต่างชาติที่อพยพย้ายถิ่นเข้ามาอยู่ในสหรัฐ จึงออกมาชุมนุมประท้วงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ในนครนิวยอร์ก แสดงความไม่เห็นด้วยที่ภาครัฐจะลดงบประมาณในการสอนภาษาอังกฤษแก่พวกเขา คนเหล่านี้ต่างชูป้ายหนุนให้ภาครัฐทุ่มงบสอนภาษาอังกฤษต่อไป และเห็นว่าถ้าพวกเขารู้ภาษาอังกฤษดีขึ้น ก็จะทำงานได้ค่าจ้างมากตามไปด้วย ลูกหลานที่ถือกำเนิดออกมาก็จะมีอนาคตที่ดี และรัฐก็จะเก็บภาษีได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน

 

 

 

จีนรวบลามะเกือบ 100 รูปก่อเหตุโจมตีโรงพัก

เดลินิวส์ - สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า เมื่อวันอาทิตย์ตำรวจจีนจับกุมลามะทิเบตเกือบ 100 รูป ภายหลังเกิดเหตุการณ์ที่กลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคนโจมตีสถานีตำรวจในเขตปกครองพิเศษทิเบต ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน โดย การประท้วงดังกล่าว เป็นการตอบโต้ที่ชายคนหนึ่ง ซึ่งถูกตำรวจจับไป ได้หายตัวอย่างลึกลับในมณฑลฉิงไห่

 

แต่ซินหัวอ้างคำกล่าวเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนว่า ชายคนดังกล่าวทำทีขอเข้าห้องน้ำ จากนั้นได้หลบหนีไป และมีพยานเห็นผู้ต้องหาว่ายข้ามแม่น้ำเหลือง ทว่าเว็บไซต์ของชาวทิเบตพลัดถิ่นอ้างว่า การประท้วงเกิดขึ้นเพราะชายผู้นี้กระโดดลงแม่น้ำเหลือง เพื่อฆ่าตัวตาย ภายหลังหนีตำรวจ ขณะไปห้องน้ำ

 

ข่าวแจ้งว่า ผู้คนหลายร้อยราย รวมทั้งลามะเกือบ 100 รูปจากวัดรับเกีย ได้เข้าโจมตีสถานีตำรวจของรับเกีย เมืองบริวารในจังหวัดโกลอกของทิเบต สำนักข่าวซินหัวยังอ้างคำกล่าวของจู เคซง ชาวบ้านท้องถิ่นที่ระบุว่า กลุ่มผู้ประ ท้วงได้เข้าทำร้ายตำรวจและเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนเป็น เหตุให้มีคนเจ็บเล็กน้อย แต่ไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติม ขณะที่ตำรวจระดมกำลังตามล่าลามะรูป อื่น ๆ ที่เข้าร่วมการโจมตีหน่วยงานของทางการจีน แต่หลบหนีไป หลังก่อเหตุ

 

วันเดียวกัน กลุ่มนักเคลื่อนไหวเปิดเผยว่า สถานทูตแอฟริกาใต้ในกรุงนิวเดลี ของอินเดีย ไม่ออกเอกสารเดินทางให้แก่องค์ดาไล ลามะ ผู้นำ จิตวิญญาณพลัดถิ่นของทิเบต ทำให้องค์ดาไล ลามะ ที่พำนักอยู่ในเมืองธรรมศาลาของอินเดียไม่สามารถ เข้าร่วมการประชุมสันติภาพในนครโยฮันเนสเบิร์ก ของแอฟริกาใต้ในวันศุกร์ได้ เดิมทีผู้นำพลัดถิ่นทิเบต มีแผนการร่วมกับบรรดาเจ้าของรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ รวมทั้งนายเนลสัน แมนเดลา อดีต ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ เพื่อหารือถึงแนวทางต่าง ๆ ในการใช้กีฬาฟุตบอลเป็นเครื่องต่อสู้กับการเหยียดผิว และความเกลียดกลัวคนต่างชาติ

 

 

โสมแดงเตือนปิดเส้นทางบินก่อนยิงมิสไซล์

ไทยโพสต์ - เจ้าหน้าที่กระทรวงกิจการเดินเรือทะเล การคมนาคม และที่ดินของเกาหลีใต้ แถลงว่า ศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศของเกาหลีเหนือได้แจ้งมายังศูนย์ควบคุมการจราจรของเกาหลีใต้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า เส้นทางบิน 2 เส้นทางจะถูกปิดชั่วคราวระหว่างช่วงเวลานั้น โดยเส้นทางการบินที่ได้รับผลกระทบประกอบด้วย เส้นทางที่เชื่อมเกาหลีเหนือกับเมืองท่าวลาดีวอสตอกของรัสเซีย และเส้นทางการบินระหว่างเกาหลีเหนือกับญี่ปุ่น โดยคำสั่งจะมีผลในช่วงเวลาระหว่าง 11.00 น. หรือ 0200 จีเอ็มที ถึง 16.00 น. ทั้ง 5 วันดังกล่าว

 

คำแถลงบอกว่าเกาหลีเหนืออ้าง "การปล่อยดาวเทียมสื่อสาร" เป็นเหตุผลในการระงับเส้นทางบิน

 

การปล่อยดาวเทียมตามที่รัฐบาลเปียงยางอ้างถึงนี้ ได้สร้างความวิตกกังวลแก่สหรัฐ, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ที่ต่างได้เรียกร้องให้เกาหลีเหนือยุติแผนการปล่อยดาวเทียม ที่ชาติเหล่านี้กล่าวว่าเป็นเพียงข้ออ้างในการยิงทดสอบขีปนาวุธแตโปดอง-2 เท่านั้น อาวุธปล่อยชนิดนี้ตามหลักการแล้วสามารถโจมตีได้ไกลถึงรัฐอะแลสกาของสหรัฐ

 

รัฐบาลญี่ปุ่นซึ่งกำลังพัฒนาระบบโล่มิสไซล์ร่วมกับสหรัฐ ขู่ว่าตนพร้อมจะยิงสกัดมิสไซล์ที่มุ่งหน้ามาทางประเทศตน เจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐก็ขู่เช่นกันว่า สหรัฐมีขีดความสามารถที่จะยิงจรวดสกัดกั้นมิสไซล์เกาหลีเหนือ ขณะที่เกาหลีเหนือกล่าวท้าทายก่อนหน้านี้ว่า รัฐบาลโสมแดงจะมองความพยายามสกัดมิสไซล์ของตนเป็นการเปิดสงคราม

 

ข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้รายงานเมื่อวันอาทิตย์ด้วยว่า สหรัฐยังทิ้งเรือพิฆาตติดตั้งเรดาร์เอจิสของ 2 ลำไว้ในทะเลญี่ปุ่น แม้ว่าจะเสร็จสิ้นการซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้แล้ว

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท