วานนี้ (25 มี.ค.) ที่ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติเฉลิมพระเกียติ หนองจอก เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้ รุ่นที่ 11 โดยมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องร่วมงาน

 

 

เปรมยันไม่เคยฟัง ไม่ได้สนใจ "ทักษิณ" โฟนอิน

โดยช่วงที่ พล.อ.เปรมเดินทางกลับ ผู้สื่อข่าวหลายสำนักเป็นจำนวนมากที่เฝ้ารออยู่ภายนอกได้ขอสัมภาษณ์ พล.อ.เปรม โดยมีผู้ถามเกี่ยวกับเรื่องการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะทำให้เกิดปัญหาต่อประเทศหรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวว่า "คำถามนี้ไม่น่าจะถามผมนะ เพราะผมไม่ได้ดูแลประเทศ ต้องรัฐบาลน่ะ"

 

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าการโฟนอินของคุณของทักษิณซึ่งกระทบต่อภาพรวมองคมนตรี มันจะส่งผลทำให้เกิดความแตกแยกแยกในประเทศชาติหรือไม่ พล.เปรมตอบว่า "คุณทักษิณเหรอ ท่านพูดกี่ครั้งกี่ครั้งผมก็ไม่เคยฟังเลย เอ่อ เพิ่งเมื่อวานนี้เอง ที่เจอคุณสุรยุทธ์ก็บอกว่าไหน ให้ลองเล่าให้ฟังซิ ว่าเขาพูดอย่างไร ก็แค่นั้น ไม่เคยฟัง เขาพูดว่าอย่างไร ผมก็ไม่เคยฟัง"

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นห่วงไหมว่าที่ทักษิณพูดบิดเบือนกับประชาชน พล.เปรมตอบว่า "อืม ผมคงตอบคำถามนี้ไม่ได้หรอก นะ ไม่ได้สนใจว่าเขาพูดอย่างอย่างไรด้วยซ้ำ"

 

เมื่อวานที่ พล.อ.สุรยุทธ์รายงาน ที่ พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอิน ท่านรู้สึกยังไง พล.อ.เปรมตอบว่า "รู้สึกยังไง รู้สึกว่า รู้สึกว่า พูดบ่อยๆ แล้วก็ เอ่อ จริงไม่จริงผมก็ไม่รู้นะ เพราะว่าไม่ได้สนใจ"

 

 

เชื่อคนไทยส่วนน้อยแตกแยก คนส่วนใหญ่ยังรักใคร่กันดี และมีความเป็นไทย

มีผู้สื่อข่าวถามว่า อยากฝากบอกประชาชนคนไทยหรือไม่ เพราะว่าสังคมไทยไม่เคยแตกแยกขนาดนี้มาก่อน ประเทศไม่เคยแบ่งแยกออกเป็น 2 ฝ่ายถึงขนาดนี้ พล.อ.เปรม กล่าวว่า "ก็อันนี้ดีนะ คำถามนี้ มันไม่ใช่คำถามหรอกอันเนี้ย มันเป็นสิ่งซึ่งเป็นความสำนึกที่จะต้องไม่แตกแยกกัน เพื่อส่วนรวมนะ"

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า "ป๋า ป๋า ป๋าเคยพูดว่าให้คนไทยหันหน้าเข้าหากัน ปรองดอง สมาน สามัคคี ให้เกิดในประเทศ เพื่อให้ประเทศชาติอยู่รอดใช่ไหมครับ" พล.อ.เปรม กล่าวว่า "ใช่ ใช่ ใช่"

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า อยากบอกท่านอดีตนายกรัฐมนตรีอย่างไรให้หยุดการเคลื่อนไหวหรือไม่ ควรทำอะไรเพื่อประเทศบ้าง ควรมีคำเตือนหรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวว่า "ก็อย่างที่คุณพูดนั่นแหละ คุณพูดแทนผมแล้ว"

 

เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงป๋าอยากจะเตือนใช้ไหมว่าให้หยุดพูดเสียที เพื่อให้ประเทศชาติไปได้ พล.อ.เปรม กล่าวว่า "เตือนมาหลายครั้งแล้วนะ แล้วก็เตือนบ่อยๆ ที่จริงเราจะพูดว่าคนไทยแตกแยกมัน มันไม่ถูกอ่ะ บางส่วนเท่านั้นแหละ ส่วนน้อย ไม่ใช่ส่วนใหญ่ ไม่ใช่คนไทยส่วนใหญ่ คนไทยส่วนใหญ่ยังดี ยังรักใคร่กันดี ยังมีความเป็นไทยอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง"

      

ผู้สื่อข่าวถามว่า "ท่านขาเป็นห่วงไหมคะว่า ยิ่งมีการโฟนอินลงไปบ่อยๆ ความคิดคนอาจจะมีคนเปลี่ยนไป และอาจมีการขยายวงกว้างของคนที่ไม่เข้าใจเกิดขึ้น กลไกทางทหารน่าจะช่วยเหลือได้บ้างในการสร้างความสามัคคี" พล.อ.เปรม กล่าวว่า "น่าจะไปถามทหารสิ" ผู้สื่อข่าวถามกลับมาว่า แต่ในส่วนของท่านเอง ที่เคยเป็นทหารเก่ามาก่อน ทหารควรทำอะไรได้บ้าง พล.อ.เปรม ตอบว่า "เอ่อ ทหารคือส่วนหนึ่งขององค์กรของชาติบ้านเมืองนะ เขาก็รักชาติบ้านเมืองเหมือนกัน และทุกคนคงมีความเห็นใกล้เคียงกัน"

 

 

ปฏิเสธเอี่ยวปฏิวัติ ยันองคมนตรีไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง

เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ปักใจเจ็บว่า กองทัพ และองคมนตรีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย.49 พล.อ.เปรม กล่าวว่า "ผมไม่ทราบนะ ท่านพูดของท่านเอง ผมไม่รู้"

 

เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าองคมนตรีไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการปฏิวัติใช่หรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวว่า "องคมนตรี ไม่มีหน้าที่ที่จะไปเกี่ยวข้องเรื่องนี้เลย โปรด โปรดเข้าใจให้ถูกว่าถ้าใครยังไม่เข้าใจนะ โปรดเข้าใจให้ถูกว่า องคมนตรีนี้ ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการเมืองเลย เราจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นๆ"

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า "ป๋า ป๋าจะพูดได้ไหมครับว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะคุณทักษิณคนเดียวที่ทำให้เกิดความแตกแยกของคนในประเทศ พล.อ.เปรม กล่าวว่า "คุณคิดเองก็แล้วกัน"

 

 

ไม่ฟ้องทักษิณ ยันไม่มีอุปสรรคในการทำงานขององคมนตรี

เมื่อถามว่า จะมีการดำเนินการฟ้องร้อง พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะทำให้องคมนตรีเสื่อมเสียชื่อเสียง พล.อ.เปรม หัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า "ผมคงไม่ฟ้อง เพราะว่าผมไม่ทราบว่าท่านพูดอย่างไรด้วยซ้ำไป"

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าทาง พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามพุ่งเป้ามาที่องคมนตรี หมายความว่าพยายามจะสื่อ พยายามจะส่งสัญญาณอะไร พล.อ.เปรม กล่าวว่า "คุณก็ตอบเองซิ ผมก็ไม่ทราบว่าท่านพูดอย่างไรนะ"

 

ผู้สื่อข่าวาถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี แต่กลับทำร้ายประเทศของตัวเอง พ.ต.ท.ทักษิณ ควรทบทวนบทบาทของตัวเองหรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวว่า "คุณถามเองตอบเองกันได้แล้ว"

 

เมื่อถามว่า การกล่าวพาดพิงองคมนตรีเป็นอุปสรรคหรือไม่ หากมีการกล่าวพาดพิง พล.อ.เปรม กล่าวว่า "ไม่มีละครับ เราทำงานของเราตามปกติ"

 

 

ยันรัฐบาลนี้ดี นายกฯ ดี หวังว่าจะทำให้ประเทศดีขึ้น

เมื่อถามว่า "ป๋าครับ ป๋าอยากเห็นประเทศชาติของเราเป็นอย่างไรในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ" พล.อ.เปรม กล่าวว่า "อยากเห็นเหมือนคุณเห็นนั่นแหละ" ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จะให้เดินหน้าไปอย่างไร หรือจะให้กำลังใจรัฐบาลในส่วนไหนบ้าง" พล.อ.เปรม กล่าวว่า "เอ่อ รัฐบาลนี้ดี ผม เคยพูด ว่านายกฯ คนนี้ดี ดังนั้นเราคงจะหวังได้ว่า ท่านจะเป็นผู้นำที่ดี และจะทำให้ประเทศดีขึ้น"

 

เมื่อถามว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะสามารถนำพาวิกฤตประเทศได้หรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวสั้น ๆ ว่า "ผมเชียร์"

 

 

รับพบ รมว.ต่างประเทศจีนจริง แต่ไม่หารือส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพราะเป็นเรื่องของรัฐบาล

จากนั้น พล.อ.เปรม ได้เอ่ยถามว่า "บากกอกโพสต์มีมั้ย" ผู้สื่อข่าวกล่าวว่า "ไม่ได้มา" จากนั้น พล.อ.เปรม กล่าวว่า "คือ เมื่อเช้าหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ลงว่าวันนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน จะไปพบกับผม จริง เดี๋ยวเวลา 15.00 น. นัดกันไว้" และกล่าวว่า "ที่หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ลงว่า ผมจะพูดกับรัฐมนตรีต่างประเทศ เรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ไม่จริงหรอก ผมไม่มีหน้าที่ต้องทำอย่างนั้น เป็นเรื่องของรัฐบาล ไม่รู้ว่าบางกอกโพสต์พูดที่ไหนมา"

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศของจีน เรื่องใดบ้าง พล.อ.เปรม กล่าวว่า "เยี่ยมกัน เยี่ยมกัน ภาษาการทูต พูดภาษาดอกไม้ แค่นั้นน่ะ ไม่มีอะไรหรอก" เมื่อถามว่า เหตุใด รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ถึงได้มาพบท่าน พล.อ.เปรม กล่าวว่า "ก็เพื่อนกัน ก็มาเยี่ยมเยียนกัน"

 

เมื่อถามว่า จะฝาก รมว.ต่างประเทศของจีน ให้ส่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ให้กลับมาหรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวว่า "พูดไม่ได้ เพราะไม่ใช่หน้าที่ของเรา"

 

 

สุรยุทธ์รับองคมนตรีหารือเรื่องโฟนอิน แต่เป็นเพียงการพูดคุยตามสถานการณ์

หลังจากนั้น พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมองคมนตรีเมื่อวันที่ 24 มี..ค.ที่ผ่านมาว่า ประธานองคมนตรีได้พูดไปแล้วว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นห่วงในเรื่องของความแตกแยกของประชาชน ของพี่น้องประชาชนคนไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้มีการพูดคุยกัน

 

เมื่อถามว่า ในที่ประชุมทำเนียบองคมนตรีเมื่อวาน ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องคุณทักษิณจริง ใช่ไหมว่า แสดงความเป็นห่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวพาดพิงองคมนตรีหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า "ก็เป็นสถานการณ์ที่ทำให้ได้มีการพูดกัน ทุกท่านก็คงทราบแล้ว มีการรายงานในสื่อต่างๆ ไปแล้ว"

 

เมื่อถามว่า ทางองคมนตรีเป็นห่วงจะภาพพจน์ของเรา ในการทำงานสนองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วโดนอดีตนายกรัฐมนตรีเข้ามาพาดพิงถึง ทำให้ทำงานของเรามีปัญหาหรือเปล่า ประชาชนอาจไม่เข้าใจ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า "การทำงานคงไม่มีปัญหาอะไร เพราะทำงานในฐานะที่เป็นที่ปรึกษา ก็ซึ่งคงมีการรวบรวมข้อมูลบ้าง นั่นก็เป็นธรรมดาของที่ปรึกษา ถ้านั่งอยู่เฉย ๆ ก็คงไม่สามารถตอบคำถามได้"

 

เมื่อถามว่า องคมนตรีส่วนใหญ่ไม่สบายใจเกี่ยวกับการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช่หรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า "เป็นเรื่องที่พูดกันแล้วในที่ประชุม ส่วนไม่สบายใจหรือผมไม่ทราบ แต่ได้มีการหารือกันในที่ประชุม"

 

เมื่อถามว่า ทางออกขณะนี้ควรเป็นอย่างไร พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า "ทุกคนก็มีหน้าที่ เราเองก็ตระหนักในสิ่งเหล่านั้น คงไม่เข้าไปก้าวก่ายในหน้าที่ของส่วนอื่นๆ" ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หมายถึงท่านจะให้รัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการ พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า "เขามีหน้าที่อยู่แล้ว และผมเคยอยู่ในส่วนราชการมาแล้วด้วยเช่นกัน เข้าใจดีว่า ส่วนต่างๆ ที่มีหน้าที่จะต้องดำเนินการแก้ เป็นหน้าที่ของเขาที่จะทำ"

 

เมื่อถามว่า โดยส่วนตัวท่านคิดว่าจะแก้ปัญหาเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไร พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า คงไม่มีข้อคิดเห็นส่วนตัวในขณะนี้

 

เมื่อถามว่า ผลประชุมองคมนตรีจะมีการเสนอให้หน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาแก้ไขปัญหาหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มี เราพูดกันถึงว่าเป็นเรื่องที่มีความเป็นห่วงเท่านั้น

 

 

ยืนยันไม่เกี่ยวข้องรัฐประหาร และไม่เคยแค้นทักษิณ

ผู้สื่อข่าวถามว่า "หวั่นไหวไหม วันที่ 26 มี.ค. พ.ต.ท.ทักษิณ จะแฉรอบสอง" พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า "อย่างที่เรียนไปแล้ว ตนไม่มีอะไรพูดไปมากกว่านั้น เพราะเรื่องความจริงจะต้องเปิดเผยออกมา เราไม่สามารถจะไปปิดบังความจริงได้ นั่นเป็นสิ่งที่ผมพูดไปครั้งก่อนแล้ว ก็คงยืนยันในจุดนี้ว่าความจริงจะต้องเปิดเผย"

 

เมื่อถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่าเป็นลูกผู้ชาย ว่าหากทำสิ่งใดก็พร้อมที่จะยอมรับ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า กล่าวว่า คงไม่ต้องไปยืนยัน ตนเชื่อกฎแห่งกรรม ไม่ว่าชายหรือหญิงต้องรับกรรมทั้งสิ้น

 

เมื่อถามถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า ท่านมีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องในการประชุมก่อนที่จะมีการทำรัฐประหาร พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า "ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการรัฐประหาร แน่นอนว่าผมก็มีเพื่อน และมีคนที่รู้จัก ผมก็ต้องมีการพูดคุยกันเป็นเรื่องธรรมดา และการพูดคุยเรื่องสถานการณ์บ้านเมือง มันก็เป็นเรื่องธรรมดาของคนเราทุกคน ที่สนใจ และเป็นห่วงเรื่องของบ้านเมือง" เมื่อถามว่า ได้มีผู้ใหญ่ของบ้านเมืองประชุมกันจริงหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า "ไม่ได้เกี่ยวกับการประชุม เป็นเรื่องที่ถือว่า อย่างที่มาในวันนี้ (หมายถึงการมาเปิดงานเปิดโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้ รุ่นที่ 11) เป็นการประชุมหรือเปล่า คงไม่ใช่ ไม่ใช่ลักษณะอย่างนั้น"

 

เมื่อถามย้ำว่า การวางแผนปฏิวัติท่านไม่ได้เกี่ยวข้องกับการปฏิวัติครั้งที่ผ่านมา พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า "อย่างที่ได้ยืนยันไปแล้ว ไม่ขอพูดซ้ำในเรื่องที่พูดไปแล้ว"

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า "ท่านครับถามจริงๆ ละครับ ว่าในตัวเองมีความแค้น พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะมีการย้ายท่านออกจากตำแหน่ง ผบ.ทบ." พล.อ.สุรยุทธ์ ยิ้มและกล่าวว่า "ไม่มีครับ เพราะผมเข้าใจดีในช่วงที่เป็น ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ก็เป็นหน้าที่ของผู้บริหารที่จะโยกย้ายผู้ที่มีความเหมาะสมที่จะเข้ามาทำงาน เมื่อผมเป็น ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเองก็ได้ทำงานอย่างเต็มที่ ผมไม่ได้มีความแค้นเคือง ไม่ได้มีความย่อท้อ ผมทำหน้าที่ของผมอย่างเต็มที่ในทุกๆ ตำแหน่ง"

 

 

ที่มา: เรียบเรียงจาก ASTVผู้จัดการออนไลน์ [1] [2] และเนชั่นแชแนล [3] [4]