Skip to main content
sharethis

วานนี้ (25 มี.ค.52) เครือข่ายนักศึกษาเพื่อพิทักษ์ประชาชน (คพช.) แถลงการณ์พิเศษ ขอให้รัฐบาลเคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่แสดงเจตนารมณ์ในการชุมนุมที่บริเวณทำเนียบรัฐบาลและพื้นที่อื่นๆ ในนามของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.


 


สืบเนื่องจากวันที่ 26 มี.ค.2552 ได้มีการประกาศของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต่านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.เพื่อนัดหมายกันชุมนุมอย่างสันติวิธีโดยมีเป้าหมายให้รัฐบาลซึ่งนำโดยพรรคประชาธิปัตย์ คืนอำนาจอธิปไตยให้กับประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจกำหนดชะตากรรมของตนเองต่อสถานการณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และศาสนา ตามวิถีทางประชาธิปไตยอย่างแท้จริง นั่นคือ การยุบสภา เพราะประชาชนรู้สึกว่าผู้กำหนดชะตากรรมของประชาชนไม่ใช่ประชาชน ซึ่งไม่สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตย


 


แถลงการณ์ คพช. ระบุแสดงความเป็นห่วงกับความปลอดภัยของการชุมนุมของประชาชนในนามแนว นปช. ซึ่งสืบเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ (ตำรวจและทหาร) โดยการสั่งการและควบคุม ที่มาจากรัฐบาล ก็เพราะว่ามีเหตุปัจจัยที่ทำให้ไม่ไว้ใจรัฐบาลชุดนี้หลายเรื่อง ว่าจะไม่มีการใช้สองมาตรฐาน (Double standard) โดยเหตุปัจจัยดังกล่าว คือ 1.ในรัฐบาลชุดนี้มีรัฐมนตรีที่มาจากแกนนำของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเป็นกลุ่มที่อยู่ขั้วตรงข้ามอย่างชัดเจนกับแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ นั่นคือ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ


 


2.ในแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ มีบางคนเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคที่อยู่ตรงข้ามอย่างชัดเจนกับพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นรัฐบาลอยู่ในขณะนี้ นั่นคือ นายจตุพร พรหมพันธ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบสัดส่วน พรรคเพื่อไทย 3.มีการใช้กระบวนการยุติธรรมอย่างล่าช้าจนเกินไปกับแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ทำการบุกยึดสถานีข่าวNBT ทำเนียบรัฐบาล ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเหตุปัจจัยอื่นๆ ที่ยังไม่เห็นชัดเจนในมิติภาพเปิด เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับทหารและเหล่าอมาตย์ทั้งหลาย


 


แถลงการณ์ระบุด้วยว่า สภาพปรากฏการณ์ทางการเมืองที่เกิดความขัดแย้งทางความคิดเช่นนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาล จะต้องควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบ ปราศจากการห้ำหั่นกัน จนเกิดความสูนเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน โดยการใช้หลักนิติธรรมที่ไม่เป็นสองมาตรฐาน และต้องเคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่แสดงความคิดเห็นในรูปแบบของการชุมนุมของกลุ่ม นปช. ตราบเท่าที่ผู้ชุมนุมไม่ทำผิดกฎหมาย และถ้ามีการใช้ความรุนแรงโดยเจตนาเพื่อหวังสลายการชุมนุมผ่านการสั่งการของรัฐบาลไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร คพช.พร้อมจะเคลื่อนไหวเคียงข้างประชาชนผู้ยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตยทุกเมื่อ


 


 


แถลงการณ์พิเศษ


เครือข่ายนักศึกษาเพื่อพิทักษ์ประชาชน


 


เรื่อง      ขอให้รัฐบาลเคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่แสดงเจตนารมณ์ในการชุมนุมที่บริเวณทำเนียบรัฐบาลและพื้นที่อื่นๆ ในนามของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.


 


เนื่องจากวันที่ 26 มีนาคม 2552 ได้มีการประกาศของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต่านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เพื่อนัดหมายกันชุมนุมอย่างสันติวิธีโดยมีเป้าหมายให้รัฐบาลซึ่งนำโดยพรรคประชาธิปัตย์ คืนอำนาจอธิปไตยให้กับประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจกำหนดชะตากรรมของตนเองต่อสถานการณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และศาสนา ตามวิถีทางประชาธิปไตยอย่างแท้จริง นั่นคือ การยุบสภา เพราะหลักการประชาธิปไตยคือ อำนาจอยู่ที่ประชาชน ประชาชนคือผู้กำหนดความเป็นอยู่ผ่านตัวแทนของตนเองโดยการเลือกตั้ง แต่การได้มาเป็นรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ในครั้งนี้นั้น มาจากการโหวตคะแนนเสียงของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)ในสภา ซึ่งรูปแบบลักษณะนี้ไม่ผิดกับรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด แต่ประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยขาดการมีส่านรวมกับการได้อำนาจบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้ ก็เท่ากับว่า ผู้กำหนดชะตากรรมของประชาชนไม่ใช่ประชาชน ซึ่งไม่สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตย


ในการนี้ เรา เครือข่ายนักศึกษาเพื่อพิทักษ์ประชาชน(คพช.) เป็นห่วงอย่างยิ่งกับความปลอดภัยตลอดรอดฝั่งของการชุมนุมของประชาชนในนามแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต่านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ซึ่งสืบเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ (ตำรวจและทหาร) โดยการสั่งการและควบคุม ที่มาจากรัฐบาล ก็เพราะว่ามีเหตุปัจจัยที่ทำให้ไม่ค่อยไว้ใจรัฐบาลชุดนี้หลายเรื่อง ว่าจะไม่มีการใช้สองมาตรฐาน (Double standard) เหตุปัจจัยดังกล่าวมีดังต่อไปนี้


 


1. ในรัฐบาลชุดนี้มีรัฐมนตรีที่มาจากแกนนำของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเป็นกลุ่มที่อยู่ขั้วตรงข้ามอย่างชัดเจนกับแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ นั่นคือ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ


 


2. ในแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ มีบางคนเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคที่อยู่ตรงข้ามอย่างชัดเจนกับพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นรัฐบาลอยู่ในขณะนี้ นั่นคือ นายจตุพร พรหมพันธ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบสัดส่วน พรรคเพื่อไทย


 


3. มีการใช้กระบวนการยุติธรรมอย่างล่าช้าจนเกินไปกับแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ทำการบุกยึดสถานีข่าวNBT ทำเนียบรัฐบาล ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ


และเหตุปัจจัยอื่นๆ ที่ยังไม่เห็นชัดเจนในมิติภาพเปิด เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับทหารและเหล่าอมาตย์ทั้งหลาย


ดั้งนั้น ด้วยสภาพปรากฏการณ์ทางการเมืองที่เกิดความขัดแย้งทางคามคิดเช่นนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลซึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจของประชาชน จะต้องควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบ ปราศจากการห้ำหั่นกัน จนเกิดความสูนเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน โดยการใช้หลักนิติธรรมที่ไม่เป็นสองมาตรฐาน และต้องเคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่แสดงความคิดเห็นในรูปแบบของการชุมนุมในนามของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต่านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ตราบเท่าที่ผู้ชุมนุมไม่ทำผิดกฎหมาย และ ถ้ามีการใช้ความรุนแรงโดยเจตนาเพื่อหวังสลายการชุมนุมผ่านการสั่งการของรัฐบาลไปยังเจ้าหน้าที่รัฐ (ตำรวจและทหาร) เราเครือข่ายนักศึกษาเพื่อพิทักษ์ประชาชน (คพช.) พร้อมจะเคลื่อนไหวเคียงข้างประชาชนผู้ยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตยทุกเมื่อ


 


ด้วยจิตรักสันติภาพ


เครือข่ายนักศึกษาเพื่อพิทักษ์ประชาชน


25 มีนาคม 2552


เวลา 23.59 น.


 


ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net