Skip to main content
sharethis
 

การเมือง - สังคม

ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - 29 มี.ค. 52 กลุ่มคนรักป๋าเปรม และสมาคมชาวสงขลา นำโดย นายวิรัตน์ ทองใบเพชร นายกสมาคมชาวสงขลา ได้นัดชุมนุมสมาชิกสมาคม และออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 โดย นายวิรัตน์ กล่าวว่า กลุ่มคนรักป๋า และสมาคมชาวสงขลา ขอคัดค้านและตอบโต้การกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ปราศรัยพาดพิงสถาบันองคมนตรี ซึ่งการกระทำดังกล่าว ถือเป็นการใส่ร้ายป้ายสี เรียกร้องให้รัฐบาล เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ จัดการกับผู้ชุมนุมและผู้ปราศรัย และควรรีบยุติการกระทำของคนเหล่านี้ ไม่ใช่ปล่อยนิ่งเฉย มิฉะนั้น กลุ่มคนรักป๋าเปรม จะเข้าไปคัดค้านตอบโต้กลุ่มผู้ชุมนุมทุกรูปแบบในทันที
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวหา พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ผ่านระบบวิดีโอลิงก์ เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า พล.อ.เปรม เป็นผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ รวมถึง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลลานนท์ องคมนตรี เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อรัฐประหาร เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549
ปชป.ฉะ นปช.เผยแพร่ภาพน้องโบว์ ต้องขอขมา
เว็บไซต์เดลินิวส์ - 29 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่า ที่ชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) การแจกรูปการชันสูตรการตายของนางสาวอังคณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือน้องโบว์ ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 51 โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าภาพดังกล่าวได้หยิบยกมาหารือในการประชุมสัมมนานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ของตำรวจ ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 51 เพื่อสืบค้นสาเหตุการเสียชีวิต แต่ไม่ทราบว่าภาพที่หารือหลุดออกมาได้อย่างไร
นอกจากนี้ นพ.บุรณัชย์ ได้กล่าวประณามการกระทำของกลุ่ม นปช.ที่ทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เพียงเพื่อหวังบิดเบือนสาเหตุการตายและหวังประโยชน์ทางการเมือง และอยากถามกลับไปยังแกนนำผู้ชุมนุมว่า ยังมีความมนุษย์เหลืออยู่หรือไม่ และจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร ในฐานะที่รูปดังกล่าวถูกนำไปเผยแพร่ในสถานที่ชุมนุมของคนเสื้อแดง จึงขอเรียกร้องให้แกนนำคนเสื้อแดงออกมาขอขมาต่อผู้เสียชีวิตด้วย
นปช.ลั่นไม่ให้ ครม.เข้าทำเนียบฯชี้ไม่ขวางทางเสด็จ
เว็บไซต์เดลินิวส์ - 29 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ(นปช.) เปิดเผยว่า กลุ่มเสื้อแดงยืนยันจะชุมนุมปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลต่อไป เพื่อไม่ให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และครม.เข้าไปทำงานได้ ส่วนจะถึงเมื่อไรยังไม่สามารถสรุปได้ในตอนนี้ โดยยืนยันว่า การชุมนุมอย่างต่อเนื่องดังกล่าว จะพยายามไม่ให้กระทบกับการจัดงานกาชาด ที่สวนอัมพร โดยจะประสานกับตำรวจเป็นระยะ โดยเฉพาะเส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน หากตำรวจติดต่อประสานมาก็จะเปิดเส้นทาง และในช่วงค่ำวันนี้ ทาง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะวิดีโอลิงค์ปราศรัยมายังสถานที่ชุมนุมเช่นเคย
ทั้งนี้ นายณัฐวุฒิ ยังระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ฝากความเป็นห่วงมายังกลุ่มคนเสื้อแดงที่ได้มาร่วมชุมนุม เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อน และขอให้ช่วยกันดูแลเรื่องความปลอดภัย ป้องกันมือที่ 3 เข้ามาสร้างสถานการณ์ โดยมีรายงานว่า ยังมีความพยายามจากฝ่ายราชการ ที่ขัดขวางไม่ให้กลุ่มเสื้อแดงเข้ามาร่วมชุมนุมในกรุงเทพฯ ขณะที่แผนดาวกระจายไปตามสถานที่ต่าง ๆ ตนยืนยันว่าจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่ยังไม่ได้หารือกัน
"จิรายุ"อัด"สาทิตย์"ทำ"เอ็นบีที"ง่อยเปลี้ย เรทติ้งรั้งบ๊วย
มติชนออนไลน์ - ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 29 มี.ค. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ คณะทำงานโฆษกพรรคเพื่อไทย ตั้งข้อสังเกตถึงความไม่ปกติในการปรับเปลี่ยนโลโก้และผังรายการของสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย เอ็นบีที ที่จะมีขึ้นในวันที่ 1 เม.ย. ภายใต้การกำกับดูแลของนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ส่อให้เห็นว่า รัฐจะสูญเสียรายได้และงบประมาณแผ่นดินโดยไม่จำเป็น โดยการเปลี่ยนแปลงโลโก้ใหม่นั้นพบว่า ยังคงคำว่า NBT เพียงแต่เปลี่ยนสีจากแดงมาเป็นสีม่วงและใช้อักษรสีดำและเพิ่มโลโก้ที่มีลักษณะคล้ายเลขสองเท่านั้น จึงตั้งคำถามไปยังนายสาทิตย์ว่า มีความจำเป็นอะไรที่ต้องเปลี่ยนโลโก้ ที่จะทำให้มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น การติดตั้งตามสถานีย่อยหรือศูนย์ข่าวทั่วประเทศไม่น้อยกว่า 50 แห่ง คาดว่าต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท  ในสภาวะที่รัฐบาลกำลังถังแตก ไส้แห้ง
 
นายจิรายุ  ยังกล่าวว่า สำหรับการปรับผังรายการ ซึ่งบริษัทใหม่ที่ชนะการประมูลในราคาที่ส่งเงินเข้ารัฐ 37 ล้านบาทต่อปี ในการผลิตข่าว 7.5 ชม.ต่อวัน จากปีที่แล้ว 9 ชม.ต่อวันในราคา 45 ล้านบาท โดยนายสาทิตย์ให้กรมประชานำช่วงเวลาไพร์มไทม์ไปแบ่งซอยให้เอกชนเช่า อาจทำให้รัฐสูญเสียรายได้เข้ารัฐไม่น้อยกว่า 8 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ยังยกเลิกรายการข่าว เช่น เอ็นบีที ฮอทนิวส์ โดยเอาช่วงเวลาไพร์ไทม์ คือ 20.30 -22.00 น.ไปให้คนใกล้ชิดเช่า เช่น รายการของนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง  "เอ็นบีทีในยุคนายสาทิตย์ มีเรตติ้งผู้ชมอับดับ 6 หรือบ๊วยของฟรีทีวีทั้งหมด จากที่เคยมีผู้ชมถึงอันดับ 3 ถือเป็นนโยบายของนายสาทิตย์ที่จะทำให้เอ็นบีทีง่อยเปลี้ยเสียขาหรือไม่ พรรคเพื่อไทยจะยื่นร้องทุกข์กล่าวโทษนายสาทิตย์ ต่อป.ป.ช.ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามม.157 จนทำให้รัฐเกิดความเสียหาย สูญเสียงบประมาณแผ่นดินโดยไม่จำเป็น" นายจิรายุ กล่าว
 
น.1 ถอนกำลัง10กองร้อยดูม็อบรอบทำเนียบ
ไอ.เอ็น.เอ็น. - พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวยืนยัน ขณะนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนแผนการรักษาความปลอดภัยการชุมนุมของ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โดยได้นำกำลัง จำนวน 10 กองร้อย ออกจากทำเนียบรัฐบาล เพื่อมาตั้งจุดตรวจจุดสกัดรอบทำเนียบรัฐบาล แยกสวนมิสกวัน สะพานอรทัย และ สะพานมัฆวานรังสรรค์ จุดละ 2 หมู่ ๆ ละ 11 นาย เพื่อป้องกันบุคคลที่ไม่หวังดี เข้ามาสร้างสถานการณ์ นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังไม่สามารถระบุได้ว่า กลุ่ม นปช. จะชุมนุมยืดเยื้อหรือไม่ ซึ่งต้องดูสถานการณ์อีกครั้ง ส่วนการรักษาความปลอดภัย บ้านสี่เสาเทเวศร์ นั้น ได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีแผนรองรับไว้อยู่แล้ว
 
มือยิงการ์ดผู้ค้าคลองเตยมอบตัวแล้ว
เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - หัวหน้ารปภ.ลีเกิ้ลมอบตัวสู้คดีฆ่าการ์คผู้ค้าคลองเตย ปฎิเสธทุกข้อหา   ส.ท.อินทร แสนพิบาล อายุ 51 ปี หัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นเนล ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ข้อหาฆ่า นายกนก หรือต่าย สุขแก้ว และนายสุขสันต์ หรือเก่ง ศรีหาเลิศ การ์ดกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าตลาดเก่าคลองเตยเสียชีวิตเมื่อค่ำวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมาได้เข้ามอบตัวกับตำรวจต่อสู้คดีตามกฏหมายแล้ว โดยผู้ต้องหาได้เดินทางมาพร้อมกับทนายความ พร้อมปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา และจะให้การในชั้นศาลเท่านั้นพล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. เปิดเผยว่า คนร้ายได้ไปกบดานที่จ.ราชบุรี จึงส่งกำลังซุ่มดูพฤติกรรม และกดดันจนยอมมอบตัวสู้คดีในที่สุด ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธเป็นสิทธิ์ที่ทำได้ หรือไม่ให้การกับพนักงานสอบสวนก็ได้ เพราะเชื่อว่าหลักฐานที่มีอยู่จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้อย่างแน่นอน หลังจากมอบตัวแล้วจะนำตัวไปสอบสวนและคุมขังในที่ปลอดภัย ซึ่งในชั้นสอบสวนพิจารณาค้านประกันตัว และจะส่งตัวฟ้องศาลต่อไป
 
 

เศรษฐกิจ
 
ทวงพาณิชย์เร่งคลอด ก.ม.ค้าปลีกค้าส่ง
เดลินิวส์ -  รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาและศึกษาการประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง วุฒิสภา ได้ทำหนังสือถึงกระทรวงพาณิชย์ เพื่อขอพบ รมว.พาณิชย์ ให้ เร่งออกพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง บังคับใช้โดยเร็ว เพราะขณะนี้เรื่องเงียบหายไป แม้ นายกรัฐมนตรี จะประกาศให้กฎหมายค้าปลีกค้าส่งเป็นนโยบายแห่งชาติก็ตาม "วุฒิสภาขอเข้ามาทวงถามกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นเจ้าของเรื่องว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะล่าสุดก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปประชุมจี 20 ที่ประเทศอังกฤษก็ออกมาย้ำว่าจะผลักดันร่างกฎหมายค้าปลีกค้าส่ง แต่อาจต้องปรับปรุงบางมาตราของร่างกฎหมายเดิมเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน"
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะอนุกรรมา   ธิการฯ ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งผู้ประกอบการค้าปลีกดั้งเดิม (โชห่วย) ผู้ประกอบการค้าปลีกสมัยใหม่ (โมเดิร์นเทรด) และผู้ผลิตสินค้า (ซัพพลายเออร์) เข้ามาหารือ โดยเห็นพ้องกันว่า ควรปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์บางมาตราใหม่ให้ทันสมัย เช่น เกณฑ์ขั้นต่ำของธุรกิจที่เข้าข่ายการกำกับดูแลของกฎหมาย คือต้องมีขนาดพื้นที่ของสถานประกอบธุรกิจตั้งแต่ 1,000 ตร.ม.ขึ้นไป และมียอดขายหรือรายได้ของทุกสาขารวมกันไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท อาจปรับเพิ่มเป็น 5,000 ล้านบาทขึ้นไป
ขณะเดียวกัน เห็นชอบให้อำนาจส่วนท้องถิ่นเข้ามามีบทบาทการกำกับดูแลของธุรกิจค้าปลีกค้าส่งในพื้นที่ตนเองรับผิดชอบด้วย โดยให้ตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลในส่วนจังหวัด (กจค.) ขึ้นมาดูแลควบคู่กับคณะกรรมการกำกับดูแลส่วนกลาง (กกค.) จากที่ก่อนหน้านี้ กจค. ถูกยกเลิกไป เนื่องจากถูกข้อครหาว่าไม่โปร่งใสในการพิจารณาขยายสาขาให้ค้าปลีกค้าระดับจังหวัด หลังจากนี้คาดว่าจะใช้เวลา 1-2 ปี เพื่อผลักดันกฎหมายให้มีผลบังคับโดยสมบูรณ์ เพราะเหลือรายละเอียดที่ต้องปรับปรุงอีกมาก "ขณะนี้ผู้ประกอบการรายย่อยไม่สามารถแข่งขันห้างขนาดปลีกสมัยใหม่ได้แล้ว หลังการขยายสาขาห้างค้าปลีกสมัยใหม่มีแผนจะเพิ่มเป็น 8,000 สาขาในปีนี้ จากปัจจุบันที่มีสาขา 7,800 สาขา อย่างไรก็ตามเร็ว ๆ นี้ กระทรวงพาณิชย์จะเสนอแนวทางปฏิบัติ ตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2542"
ไทยพร้อมเป็นผู้นำทำระบบสำรองข้าว
เดลินิวส์ -  นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาทั่วโลกประสบปัญหาราคาน้ำมันเชื้อเพลิงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการนำพืชอาหารมาเป็นพืชพลังงานจำนวนมาก ขณะเดียวกันเกิดภัยพิบัติที่รุนแรงมากขึ้นจากสภาวะโลกร้อน ซึ่งได้สร้างความเสียหายต่อพืชอาหาร โดยเฉพาะสต๊อกข้าวในภาพรวมของโลกลดลงอย่างมาก นานาประเทศหวั่นวิตกว่าจะเกิดผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารของโลกในอนาคต ประเทศสมาชิกอาเซียน+3 ก็กังวลจึงได้มีการประชุมหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้หลายครั้ง ซึ่งทุกฝ่ายเห็นด้วยให้มีการจัดตั้งโครงการนำร่องเพื่อระบบการสำรองข้าวในเอเชียตะวันออก เป็นองค์กรถาวรภายใต้ชื่อ APTERR (ASEAN Plus Three Emergency Rice Reserve Agreement) เพื่อให้การดำเนินงานมีเสถียรภาพยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ในการประชุมอาเซียนซัมมิท ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ สามารถแสดงให้ประเทศสมาชิกได้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย ในฐานะผู้นำด้านความมั่นคงทางอาหารของอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นผู้นำเรื่องระบบสำรองข้าวของอาเซียน เพราะไทยเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก ตลอดจนมีความเป็นผู้นำด้านฐานข้อมูลด้านการเกษตร เรามีเทคโนโลยีในการเก็บรวบรวมข้อมูลในระดับสากล สามารถเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมข้อมูลจากประเทศสมาชิกเพื่อถ่ายทอดแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้อย่างมีระบบ

ต่างประเทศ
 
แฉจีนเป็นที่มั่นแฮกเกอร์
เว็บไซต์สยามรัฐ
- คณะนักวิจัยมหาวิทยาลัยโตรอนโต ประเทศแคนาดา เปิดเผยว่า จีน เป็นที่มั่นของขบวนการโจรกรรมข้อมูลทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์หรือแฮกเกอร์ใน 103 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ ได้ศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง หลังได้รับการขอร้องจากเจ้าหน้าที่ขององค์ดาไล ลามะ ที่สงสัยว่าระบบคอมพิวเตอร์ของผู้นำทิเบตถูกเจาะข้อมูล อย่างไรก็ตาม คณะนักวิจัยไม่มีหลักฐานที่ระบุได้ว่า ขบวนการเหล่านี้มีรัฐบาลจีนอยู่เบื้องหลัง และทางการจีนเองก็ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
ดาวเทียมจารกรรมจับภาพกรวยจมูกจรวดโสมแดงได้
เว็บไซต์คมชัดลึก - สำนักข่าวยนฮัพของทางการเกาหลีใต้ รายงานวันนี้อ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวในรัฐบาลเกาหลีใต้ว่า ดาวเทียมจารกรรมสามารถถ่ายภาพกรวยจมูกของจรวด ที่ทางเกาหลีเหนือเคลื่อนย้ายมาติดตั้งเพื่อรอยิงบางสิ่ง ซึ่งทางการโซลและหลายประเทศรวมทั้งสหรัฐและญี่ปุ่นเชื่อว่า จะเป็นการทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยไกล "แตโปดอง-2" แม้เกาหลีเหนือปฏิเสธเรื่องนี้มาโดยตลอด โดยยืนยันว่าเป็นเพียงการยิงดาวเทียม
เกาหลีใต้เชื่อว่า รัฐบาลเปียงยางจะเลือกวันปล่อยจรวดโดยคำนึงถึงสภาพอากาศ เป็นสำคัญ ซึ่งตามกำหนดเดิมระหว่างวันที่ 4-8 เมษายนนั้น สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของเกาหลีใต้พยากรณ์ว่า ในช่วงบ่ายของวันที่ 4 เมษายน จะมีหิมะหรือฝนตก วันที่ 5 เมษายนจะมีเมฆมาก ส่วนในวันที่ 6-10 เมษายน จะเป็นวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ซึ่งนายทหารระดับสูงของสหรัฐประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า สหรัฐจะยิงทำลายจรวดนี้ ถ้าพิสูจน์ว่าเป็นขีปนาวุธ
ขณะที่หนังสือพิมพ์รายวันซันเคอิของญี่ปุ่นรายงานว่า เกาหลีเหนือเตรียมการยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ถึงปานกลาง ขณะที่สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค รายงานว่ากองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศของญี่ปุ่น เริ่มเคลื่อนหน่วยทหารที่สามารถยิงจรวดแพทริ-ออตทำลายขีปนาวุธได้ ไปยังจังหวัดอกิตะและอิวาเตะทางตอนเหนือ และกองทัพเรือญี่ปุ่นได้ส่งเรือพิฆาตติดระบบต่อต้านขีปนาวุธไปยัง ทะเลญี่ปุ่นตั้งแต่เมื่อวานนี้ เพื่อเตรียมรับเศษซากอันตรายที่อาจร่วงลงในญี่ปุ่น หากการยิงจรวดของเกาหลีเหนือเกิดล้มเหลว
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net