การเมือง

 

มหาดไทยออกคำสั่งเรียก ผวจ.ทั่วประเทศเข้ากรุง 7 เม.ย.

ไทยรัฐ - เมื่อวันที่ 5 เม.ย. มีคำสั่งของกระทรวงมหาดไทย เรียกผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ มาทำพิธีปฏิญาณตนมุ่งรักษาสถาบันสำคัญของชาติ ที่บริเวณลานกลางกระทรวงมหาดไทย ในวันที่ 7 เม.ย. เวลา 15.00 น. โดยคำสั่งดังกล่าว เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ของข้าราชการ และสื่อมวลชน ถึงความไม่เหมาะสม เนื่องจากถือว่าขณะนี้ อยู่ในยามหน้าสิ่วหน้าขวาน อีกทั้งก่อนหน้านี้ ได้รับคำสั่งให้ดูแลสถานที่ราชการ และศาลากลางจังหวัด ป้องกันการถูกบุกยึด จากกลุ่มผู้ชุมนุมของคนเสื้อแดงบุกยึด และมีการขู่ว่า หากผู้ว่าราชการจังหวัดปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว อาจถูกย้ายได้ รวมถึงในวันที่ 8 เม.ย. เป็นวันที่กลุ่มเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ ที่บริเวณรอบทำเนียบรัฐบาล ไปจนถึงถนนราชดำเนิน และบ้านสี่เสาเทเวศร์ จึงอาจทำให้การสั่งการในการดูแลสถานที่ราชการในภูมิภาคมีปัญหาได้

 

กลุ่มคนรักป๋าเปรมเมืองคอน บุกล้อม "สุรชัย แซ่ด่าน" ที่เวทีเสื้อแดง

ไทยรัฐ - เมื่อเวลาประมาณ 18.00น. วันนี้ (6 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มคนรักป๋าเปรมเมืองคอน ประมาณ 500 คน ที่รวมตัวกันบริเวณศาลาประดู่หก ถนนราชดำเนิน ต.คลัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้เคลื่อนขบวนโดยการเดินเท้า และขบวนรถยนต์ ไปยังซอยโรงช้าง ข้างศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจากทราบว่านายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ (แซ่ด่าน) และกลุ่มคนเสื้อแดง ได้เปิดเวทีปราศรัยที่บริเวณด้านข้างศาลากลาง โดยกลุ่มคนรักป๋าเปรมได้ฮือเข้าไปปิดล้อมเวทีดังกล่าว ขณะที่นายสุรชัยกำลังปราศรัย และมีกลุ่มคนเสื้อแดงเข้าร่วมรับฟัง ประมาณ 40 คน

 

ต่อ มา พ.ต.อ.สุทัศน์ ชาญสวัสดิ์ รอง ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.ภูดิศ นรสิงห์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พ.ต.ท.โชคดี ศรีเมือง รองผกก.กลุ่มงานสืบสวนบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งนำกำลังไปรักษาการณ์บริเวณดังกล่าว ได้ระดมกำลังตำรวจตั้งแถวเข้าไปกั้นกลาง ไม่ให้คนสองกลุ่มปะทะกัน ทำให้เกิดความโกลาหลวุ่นวาย เนื่องจากกลุ่มคนรักป๋าเปรมไม่พอใจนายสุรชัย และพวก พยายามฝ่าแนวกั้นของตำรวจ และตะโกนด่านายสุรชัยกับพวกตลอดเวลา แต่ตำรวจสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้

 

ทั้ง นี้ กำลังตำรวจอีกชุดหนึ่ง และนายจารุมัย นพรัตน์ หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เข้าเจรจากับนายสุรชัย เพื่อขอให้ยุติการปราศรัย ซึ่งหลังใช้เวลาเจรจากันสักพักหนึ่ง นายสุรชัยกับพวกจึงยอมยุติการปราศรัย และรับปากว่าจะรื้อเวทีเจ้าหน้าที่จึงประกาศให้กลุ่มคนรักป๋าเปรมทราบ และขอร้องให้กลุ่มรักป๋าเปรมเดินทางออกจากบริเวณดังกล่าว เพื่อป้องกันมือที่สาม หรือผู้ไม่ประสงค์ดีสร้างความวุ่นวาย กลุ่มรักป๋าเปรมจึงพากันทยอยออกจากบริเวณดังกล่าว แล้วกลับไปรวมตัวที่ศาลาประดู่หก เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงต่อไป  

 

 

เศรษฐกิจ

 

ปิดฉากโอท็อปขายได้ 180 ล้านบาท

ไทยรัฐ - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดงานโอท็อป เฟสติวัล อิน เดอะ ซิตี้ 2009 ระหว่างวันที่ 27 มี.ค.-5 เม.ย.ที่ผ่านมา รวม 10 วัน ที่สนามศุภชลาศัย และ ศูนย์การค้าชั้นนำ 8 แห่ง และอุทยานเบญจสิริ รวมกว่า 3,200 ร้านค้า ได้ปิดฉากลงท่ามกลางเสียง บ่นด่าของผู้ขายสินค้าว่า การ จัดงานครั้งนี้ไม่ ประสบผลสำเร็จตามที่ผู้ผลิตสินค้าโอท็อปได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ พร้อมกับคัดค้านให้มาจัดงานตามห้างสรรพสินค้าพร้อมเรียกร้องให้ไปจัดที่ ศูนย์การแสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี เหมือนหลายปีที่ผ่านมา ที่สามารถขายสินค้าได้จำนวนมากทุกครั้ง

 

ขณะที่นายไพรัตน์ สกลพันธุ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เปิดเผยว่า ยอดขายสินค้าโอท็อปที่ได้จากการจัดงานครั้งนี้ทำได้เพียง 180 ล้านบาท นับว่าค่อนข้างน้อย เพราะในช่วงของเวลาของการจัดงานมีทั้งอากาศร้อนและเจอกับพายุฝน ซึ่งพอเจอฝนตกก็ขายสินค้ากันไม่ได้เลย หรือแม้กระทั่งในวันที่ 5 เม.ย.ที่เป็นวันสุดท้าย ตั้งใจว่าจะจัดขาย สินค้าลดราคาพิเศษก็ต้องเจอฝนตกหนักจนน้ำท่วมถนน จนไหลเข้ามาท่วมภายในงาน แม้จะนำรถสูบน้ำมาช่วยก็บรรเทาไม่ได้ ทั้งหมดจึงเป็นอุปสรรคให้ขายของไม่ได้ ทั้งๆที่คนอยากซื้อของ ส่วนเมื่อเทียบกับการจัดจำหน่ายสินค้าโอท็อปในครั้งที่ผ่านๆมา ที่จัดขึ้นที่ศูนย์การแสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี สามารถขายได้ครั้งละ 600-700 ล้านบาท

 

อย่างไรก็ตาม ตนได้นำเสนอปัญหาทั้งหมดกับนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ว่าผู้ผลิตสินค้าโอท็อปขายสินค้าได้น้อย จึงตกลงที่จะจัดงานขึ้นมาแก้ตัวให้อีกครั้งช่วงเดือน ส.ค.หรือ ธ.ค.ปีนี้ ซึ่งถ้าเป็นเดือน ส.ค.ก็จะช่วยระบายสินค้าที่ค้างมาจากตอนนี้ แต่ถ้าเป็นเดือน ธ.ค.ก็จะเป็นช่วงก่อนเทศกาลปีใหม่ ซึ่งคงอยู่ที่ฝ่ายนโยบายว่าจะตัดสินใจอย่างไร ส่วนสถานที่จัดงานทางกรมการพัฒนาชุมชนได้จัดทำแบบสอบถามจากผู้ผลิตสินค้าโอท็อปได้รับคำตอบกลับมาว่าอยากให้จัดที่ศูนย์การแสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งทางกรมการพัฒนาชุมชนจะพยายามทำให้เร็วที่สุดและดีที่สุด

 

 

การศึกษา-คุณภาพชีวิต

 

โอเน็ต 5 วิชาหลักต่ำครึ่ง คุณภาพนักเรียนตก

เว็บไซต์มติชน - เผยผลสอบโอเน็ต ม.6 คณิตศาสตร์-วิทย์-ภาษาไทย-สังคม คะแนนยังต่ำกว่าปี 2551 ยกเว้นภาษาอังกฤษ-สุขศึกษา-ศิลปะ ที่ค่าเฉลี่ยเพิ่ม ชี้คะแนนเฉลี่ย 4 ปีรวมกันยังต่ำกว่า 50% เชื่อผลการเรียนตกต่ำเพราะมุ่งพัฒนาเฉพาะจุด ครูสอนไม่ตรงวุฒิการศึกษา ตำราไร้คุณภาพ กลุ่มแพทย์ กสพท.เปิดคะแนนสูงสุด-ต่ำสุด ระบุปีนี้คะแนนสอบแพทย์-ทันตะต่ำ มาจากคะแนนเอเน็ต แห่แจ้งยอดเข้า ม.1 รอบ 2 เขต กทม.นับหมื่น

 

เมื่อวันที่ 6 เมษายน นางอุทุมพร จามรมาน ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เปิดเผยว่า สทศ.ได้ประกาศผลคะแนนการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต ระดับชั้น ป.6 และ ม.3 ซึ่งจัดสอบเป็นปีแรก และชั้น ม.6 ในเดือนมีนาคม 2552 ผ่านเว็บไซต์ www. niets.or.th และเว็บไซต์เครือข่ายพันธมิตร 11 เว็บไซต์ โดยนักเรียนสามารถใช้เลขที่สมัคร และเลขที่นั่งสอบตรวจสอบคะแนน ซึ่งการประกาศผลสอบโอเน็ตตั้งแต่ช่วงเย็นของวันนี้ ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีปัญหาเว็บไซต์ล่ม หากนักเรียนที่ทราบผลคะแนนแล้วข้องใจ สามารถยื่นคำร้องขอดูกระดาษคำตอบได้ที่ สทศ. อาคารพญาไท พลาซ่า ชั้น 35 ระหว่างเวลา 08.30 - 16.30 น. วันที่ 7-9 เมษายน และสามารถมาดูกระดาษคำตอบได้ในวันที่ 9 เมษายน

 

นางอุทุมพรกล่าวว่า สำหรับคะแนนสอบโอเน็ตชั้น ป.6 ทั้ง 3 วิชา พบว่า ภาษาไทย เข้าสอบ 953,087 คน คะแนนต่ำสุด 0 คะแนน สูงสุด 95 คะแนน ค่าเฉลี่ย 42.02, คณิต ศาสตร์ เข้าสอบ 953,153 คน ต่ำสุด 0 คะแนน สูงสุด 100 คะแนน ค่าเฉลี่ย 43.76 คะแนน และวิทยาศาสตร์ เข้าสอบ 953,155 คน ต่ำสุด 0 คะแนน สูงสุด 100 คะแนน ค่าเฉลี่ย 51.68 คะแนน

 

ส่วนผลคะแนนโอเน็ต ม.3 ทั้ง 5 วิชา พบว่า ภาษาไทย เข้าสอบ 803,232 คน ต่ำสุด 2 คะแนน สูงสุด 92 คะแนน ค่าเฉลี่ย 41.036 คะแนน สังคมศึกษา เข้าสอบ 803,370 คน ต่ำสุด 2 คะแนน สูงสุด 90 คะแนน ค่าเฉลี่ย 41.369 คะแนน คณิตศาสตร์ เข้าสอบ 803,687 คน ต่ำสุด 2.50 คะแนน สูงสุด 95 คะแนน ค่าเฉลี่ย 34.564 คะแนน ภาษาอังกฤษ เข้าสอบ 803,793 คน ต่ำสุด 3 คะแนน สูงสุด 97 คะแนน ค่าเฉลี่ย 32.636 คะแนน และวิทยาศาสตร์ เข้าสอบ 803,387 คน ต่ำสุด 2.50 คะแนน สูงสุด 100 คะแนน ค่าเฉลี่ย 39.388 คะแนน

 

คะแนนโอเน็ตชั้น ม.6 ทั้ง 8 วิชา พบว่า ภาษาไทย เข้าสอบ 343,859 คน ต่ำสุด 4 คะแนน สูงสุด 92 คะแนน ค่าเฉลี่ย 46.415 คะแนน สังคมศึกษา เข้าสอบ 345,586 คน ต่ำสุด 7 คะแนน สูงสุด 85 คะแนน ค่าเฉลี่ย 34.671 คะแนน คณิตศาสตร์ เข้าสอบ 345,079 คน ต่ำสุด 8 คะแนน สูงสุด 99 คะแนน ค่าเฉลี่ย 30.643 คะแนน ภาษาอังกฤษ เข้าสอบ 345,321 คน ต่ำสุด 2.50 คะแนน สูงสุด 100 คะแนน ค่าเฉลี่ย 35.978 คะแนน วิทยาศาสตร์ เข้าสอบ 343,563 คน ต่ำสุด 1.25 คะแนน สูงสุด 95 คะแนน ค่าเฉลี่ย 33.649 คะแนน สุขศึกษา เข้าสอบ 342,525 คน ต่ำสุด 2.50 คะแนน สูงสุด 92.50 คะแนน ค่าเฉลี่ย 56.745 คะแนน ศิลปะ เข้าสอบ 342,524 คน ต่ำสุด 5 คะแนน สูงสุด 82.50 คะแนน ค่าเฉลี่ย 43.216 คะแนน และการงานอาชีพและเทคโนโลยี เข้าสอบ 342,523 คน ต่ำสุด 2.50 คะแนน สูงสุด 82.50 คะแนน ค่าเฉลี่ย 40.012 คะแนน

 

"จากการวิเคราะห์คะแนนโอเน็ต ม.6 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2551 พบว่ามี 5 วิชาที่คะแนนเฉลี่ยต่ำลงอย่างชัดเจน ได้แก่ ภาษาไทย ปี 2552 ค่าเฉลี่ย 46.41 ปี 2551 ค่าเฉลี่ย 50.70, สังคมศึกษา ปี 2552 ค่าเฉลี่ย 34.67 ปี 2551 ค่าเฉลี่ย 37.76, คณิตศาสตร์ ปี 2552 ค่าเฉลี่ย 30.64 ปี 2551 ค่าเฉลี่ย 32.19 และวิทยาศาสตร์ ปี 2552 ค่าเฉลี่ย 33.64 ปี 2551 ค่าเฉลี่ย 34.62, การงานอาชีพและเทคโนโลยี ปี 2552 ค่าเฉลี่ย 40.01 ปี 2551 ค่าเฉลี่ย 49.53 และมีเพียง 3 วิชาเท่านั้น ที่คะแนนเพิ่มจากปี 2551 ได้แก่ ภาษาอังกฤษ ปี 2551 ค่าเฉลี่ย 30.93 ปี 2552 ค่าเฉลี่ย 35.978 สุขศึกษาและพลศึกษา ปี 2551 ค่าเฉลี่ย 52.71 ปี 2552 ค่าเฉลี่ย 56.74 และศิลปะ ปี 2551 ค่าเฉลี่ย 41.61 ปี 2552 ค่าเฉลี่ย 43.21" นางอุทุมพรกล่าว

 

นางอุทุมพรกล่าวว่า การสอบโอเน็ต ม.6 ปีนี้เป็นปีที่ 4 และเมื่อนำมาเฉลี่ยของปีนี้เปรียบเทียบกับ 3 ปีที่ผ่านมา พบว่าคะแนนเฉลี่ยวิชาหลัก 5 วิชา คือ ภาษาไทย สังคมศึกษา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ผลคะแนนไม่ดีขึ้นเลย ที่สำคัญค่าเฉลี่ยทั้ง 4 ปี ยังต่ำกว่า 50% ทั้งนี้ มองว่าปัจจัยที่ส่งผลให้คุณภาพนักเรียนทั่วประเทศตกต่ำลงทุกปี เกิดจากระบบการเรียนการสอนของไทยมุ่งแต่การพัฒนาเฉพาะจุด โดยไม่ได้มองภาพรวมทั้งประเทศ และครูผู้สอนแต่ละวิชาไม่มีคุณภาพ สอนไม่ตรงกับวุฒิการศึกษา การพัฒนาแบบเรียน และหนังสือเรียนที่ไม่ได้คุณภาพ รวมทั้ง การทำงานของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กับหน่วยงานระดับปฏิบัติไม่ไปในทิศทางเดียวกัน ดังนั้น อยากเรียกร้องภาครัฐตื่นตัว และหันมาจริงจังกับการพัฒนาคุณภาพการเรียนของเด็กไทย และเลิกโทษว่าออกข้อสอบยากเกินไป เด็กถึงได้คะแนนน้อย

 

ขณะที่ พญ.บุญมี สถาปัตยวงศ์ ประธานคณะอนุกรรมการจัดสอบคัดเลือกระบบรับตรงของกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) ปีการศึกษา 2552 กล่าวว่า กสพท.ได้ประมวลผลการคัดเลือกระบบรับตรงของ กสพท.เสร็จแล้ว และประกาศผลผ่านเว็บไซต์ www.cotmes.org และเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยในกลุ่ม กสพท. 12 แห่ง ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอน แก่น (มข.) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล (มม.) คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มม. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) มหาวิทยา ลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) มหาวิทยาลัยรังสิต วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล และวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมง กุฎเกล้า ซึ่งปีนี้มีผู้ผ่านการคัดเลือกทั้งสิ้น 1,491 คน จากผู้สมัครทั้งหมด 22,000 คน

 

"โดยคะแนนปีนี้ต่ำกว่าปีที่ผ่านมาเล็กน้อย เนื่องจากคะแนนเอเน็ตต่ำ ซึ่ง กสพท.ต้องใช้สัดส่วนเอเน็ตร้อยละ 70 ทำให้คะแนนของผู้ผ่านการคัดเลือกในกลุ่ม กสพท.ต่ำไปด้วย โดยนักเรียนที่ได้คะแนนสอบสูงสุดอันดับแรก คือนายสิทธิ์ อัศววรฤทธิ์ นักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ได้ 79.1271 จาก 100 คะแนนเต็ม ซึ่งเลือกเข้าเรียนต่อในคณะแพทย ศาสตร์ จุฬาฯ" พญ.บุญมีกล่าว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคะแนนสูงสุด และต่ำสุด ของคณะแพทยศาสตร์ และคณะทันตแพทยศาสตร์ของกลุ่ม กสพท.ปีการศึกษา 2552 ดังนี้ คณะแพทย์ มข.ต่ำสุด 55.3832 คะแนน สูงสุด 59.241 คะแนน คณะแพทย์ จุฬาฯ ต่ำสุด 63.7365 คะแนน สูงสุด 79.1271 คะแนน คณะแพทย์ มช.ต่ำสุด 56.6813 คะแนน สูงสุด 63.5977 คะแนน คณะแพทย์ มธ.ต่ำสุด 56.2991 คะแนน สูงสุด 60.3714 คะแนน คณะแพทย์ มน.ต่ำสุด 54.4771 คะแนน สูงสุด 56.3704 คะแนน คณะแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี มม.ต่ำสุด 59.9980 คะแนน สูงสุด 70.3279 คะแนน คณะแพทย์ศิริราชพยาบาล มม.ต่ำสุด 61.1929 คะแนน สูงสุด 75.4859 คะแนน คณะแพทย์ มหาวิทยาลัยรังสิต ต่ำสุด 52.7669 คะแนน สูงสุด 56.1792 คะแนน คณะแพทย์ มศว ต่ำสุด 56.1257 คะแนน สูงสุด 63.1458 คะแนน คณะแพทย์ มอ.ต่ำสุด 54.9986 คะแนน สูงสุด 59.6190 คะแนน

 

วิทยาลัยแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล ต่ำสุด 58.1810 คะแนน สูงสุด 60.8438 คะแนน วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ต่ำสุด 54.7018 คะแนน สูงสุด 63.0155 คะแนน วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า (ญ.) ต่ำสุด 55.3927 คะแนน สูงสุด 60.6632 คะแนน คณะทันตะ จุฬาฯ ต่ำสุด 59.8508 คะแนน สูงสุด 68.6273 คะแนน คณะทันตะ มม.ต่ำสุด 56.8508 คะแนน สูงสุด 63.2952 คะแนน คณะทันตะ มช.ต่ำสุด 54.3651 คะแนน สูงสุด 60.5951 คะแนน คณะทันตะ มอ.ต่ำสุด 53.4624 คะแนน สูงสุด 56.2021 คะแนน คณะทันตะ มศว ต่ำสุด 55.7769 คะแนน สูงสุด 59.5356 คะแนน

 

ทางด้านนายปรีชา จิตรสิงห์ ผู้อำนวย การสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพ มหานคร (สพท.กทม.) เขต 2 กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดที่เรียนให้กับนักเรียนชั้น ม.1 รอบ 2 สำหรับผู้ที่ไม่ผ่านการสอบคัดเลือก รวมถึงจับสลากไม่ได้ โดยเปิดให้ยื่นความจำนงขอให้จัดที่เรียนให้ระหว่างวันที่ 5-6 เมษายน ที่โรงเรียนและเขตพื้นที่ฯ พร้อมกันทั่วประเทศว่า สพท. กทม.เขต 2 มีผู้ยื่นคำร้องผ่านเว็บไซต์ 6,700 คน ศูนย์ประสานงานจะเกลี่ยเด็กไปยังโรงเรียน 39 แห่ง ที่อยู่ในเขตพื้นที่ฯ กทม.เขต 2 ซึ่งได้อนุมัติให้ขยายจำนวนนักเรียนต่อห้องจาก 40 คน เป็น 50 คนแล้ว และบางส่วนจะเกลี่ยไปยังโรงเรียนในสังกัด กทม. และโรงเรียนเอกชน โดยการเกลี่ยจะยึดโรงเรียนที่อยู่ใกล้บ้านเด็กมากที่สุด โดยยึดตามทะเบียนบ้านเป็นหลัก ยืนยันว่าทุกคนจะมีที่เรียน แต่อาจไม่ถูกใจ คาดว่าจะเกลี่ยได้ทั้งหมดในรอบ 2 โดยไม่ต้องเปิดรอบ 3 และจะประกาศผลที่นั่งรอบ 2 ในวันที่ 9 เมษายน

 

นายสุทธิชัย เตชสุวรรณนิธิ รองผู้อำนวยการ สพท.กทม.เขต 3 กล่าวว่า จาก 42 โรงเรียนที่เปิดรับคำร้อง มีโรงเรียนรายงานเข้ามาแล้ว 11 แห่ง จำนวน 1,370 คน ส่วนที่เหลืออีก 31 แห่ง ต้องรอวันที่ 7 เมษายน คาดว่ารวมแล้วไม่ต่ำกว่า 2,000 คน ศูนย์ประสานงานทั้ง 8 แห่ง จะเกลี่ยเด็กเหล่านั้นไปยังโรงเรียน 13 แห่ง ใน สพท.กทม.เขต 3 ที่ยังมีที่นั่งว่าง ซึ่งทั้งหมดเป็นโรงเรียนขนาดกลาง และขนาดเล็ก โดยโรงเรียนขยายจำนวนนักเรียนต่อห้องเป็น 50 คน

 

น.ส.นันทพร โกศลสมพลกิจ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา สพท.กทม.เขต 1 กล่าวว่า เฉพาะที่ สพท.กทม.เขต 1 มีเด็กมายื่นความจำนง 32 คน ส่วนที่ยื่นกับโรงเรียนอีก 40 แห่ง ใน สพท.กทม. เขต 1 ต้องรอการรายงานจากศูนย์ประสานงานวันที่ 7 เมษายน จากนี้ศูนย์ประสานงานทั้ง 8 ศูนย์ จะหารือ ร่วมกับโรงเรียนเครือข่ายเพื่อเกลี่ยเด็กเหล่านั้นต่อไป

 

ที่ จ.พิจิตร นายวิมล จันทรมณี อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82/93 ถนนร่วมจิตรบันดาล อ.บางมูลนาก ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนบางมูลนากภูมิวิทยาคม อ.บางมูลนาก ร้องเรียนว่า บุตรเรียนจบชั้นมัธยมปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดชัยมงคล เป็นเด็กเรียนดี สามารถสอบเข้าเรียนโรงเรียนบางมูลนากภูมิวิทยาคม ชั้นมัธยมปีที่ 4 เป็นห้องคัดพิเศษ เรียกว่าห้องเพชรภูมิ แต่ทางโรงเรียนระบุต้องเสียเงินค่าเล่าเรียนเทอมละ 9,700 บาท จึงเห็นว่าโหดเกินไป โดยโรงเรียนอ้างต้องนำเงินไปซื้อคอมพิวเตอร์ ติดเครื่องปรับอากาศ จ้างอาจารย์จากมหาวิทยาลัยดังๆ มาสอน จึงแจ้งขอสละสิทธิไปเรียนห้องมัธยมปีที่ 4 ธรรมดา ซึ่งจะต้องอยู่ห้องที่ 8 และ 9 "ผมไม่เข้าใจรัฐบาล ซึ่งมีนโยบายให้เรียนฟรี 15 ปี แต่ทำไมทางโรงเรียนมาเรียกเก็บเงินอีก" นายวิมลกล่าว

 

 

ต่างประเทศ

 

ยูเอ็นเสียงแตก เรื่องเกาหลีเหนือยิงจรวด-ยันล้มเหลว

แนวหน้า - สมาชิก 15 ชาติในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหารือกันเคร่งเครียด เรื่องท่าทีต่อการที่เกาหลีเหนือยิงจรวด แต่ไม่ได้ข้อสรุปว่าเกาหลีเหนือทำผิดหรือไม่ เผยเกาหลีเหนือยิงจรวดไม่สำเร็จ เพราะตกทะเลก่อนส่งดาวเทียมเข้าสู่วงโคจร

 

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานความคืบหน้ากรณีที่เกาหลีเหนือประกาศว่าประสบความสำเร็จในการทดลองยิงจรวดนำดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร โดยไม่ฟังเสียงทัดทานจากชาวโลก ทำให้ประเทศต่างๆ รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศออกมาวิพากษ์วิจารณ์โจมตีอย่างหนัก แม้จะมีการเปิดเผยในเวลาต่อมาว่า เกาหลีเหนือยิงจรวดไม่สำเร็จ เนื่องจากจากส่วนต่างๆ ของจรวดตกลงสู่ทะเลก่อนที่จะส่งดาวเทียมเข้าสู่วงโคจรนั้น ล่าสุด สมาชิก 15 ชาติในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหารือกันวานนี้ เรื่องท่าทีต่อการที่เกาหลีเหนือยิงจรวด ตามข้อเรียกร้องของญี่ปุ่น แต่หลังจากหารือนาน 3 ชั่วโมง สมาชิกทั้ง 15 ชาติตกลงกันไม่ได้ และเห็นพ้องให้หารือต่อไป เพื่อแสดงท่าทีของคณะมนตรีฯ ตามภาระหน้าที่ที่มีอยู่ เนื่องจากเป็นเรื่องเร่งด่วน นักการทูตเผยว่า สหรัฐ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ยืนยันว่า เกาหลีเหนือละเมิดมติของคณะมนตรีฯ ที่ห้ามเกาหลีเหนือยิงจรวด แต่จีนและรัสเซียไม่คิดว่าการยิงจรวดที่เกาหลีเหนือระบุว่าเป็นการปล่อยดาวเทียมละเมิดระเบียบยูเอ็น โดยมีลิเบีย เวียดนาม และยูกันดา สนับสนุนจุดยืนนี้

 

ขณะที่มีรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมตัดสินใจในสัปดาห์นี้ว่า จะขยายมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือ ที่ยิงจรวดผ่านน่านฟ้าของญี่ปุ่นหรือไม่ แม้จะไม่มีชิ้นส่วนจรวดตกลงในดินแดนญี่ปุ่นก็ตาม

 

ผลสำรวจของหนังสือพิมพ์โยมิอูริ ที่ไปสอบถามประชาชนถึง 1,042 คน เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า มีคนญี่ปุ่นถึงร้อยละ 78 ที่หนุนให้จัดการเกาหลีเหนือให้รุนแรงขึ้น บทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ยังเขียนถึงการยิงจรวดของเกาหลีเหนือว่า เป็นการยั่วยุที่อันตรายอย่างยิ่ง จึงสมควรที่ญี่ปุ่นจะคว่ำบาตรเกาหลีเหนือให้หนักหน่วงขึ้นกว่าเดิม

 

 

เขมรเสริมทัพตรึงพระวิหาร มาร์คปัดโหนอาเซียนเจรจา

แนวหน้า - เมื่อวันที่ 6 เมษายน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีมีข่าวจะหยิบยกปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เข้าหารือระหว่างประชุมสุดยอดอาเซียนบวก3และบวก6 ว่า ไม่ได้คุยในเวทีอาเซียน เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาทวิภาคีของสองฝ่าย แต่จะใช้โอกาสช่วงที่ สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา มาร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน พบปะกัน เพื่อย้ำจุดยืนเรื่องที่ต้องแก้ปัญหาด้วยการเจรจาและเท่าที่ติดตามสถานการณ์ในขณะนี้ถือว่า ดีขึ้นตามลำดับและต้องให้ระดับพื้นที่สงบระยะหนึ่งน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะตอนนี้มีการทำความเข้าใจในหลายระดับ คิดว่าคงเป็นไปในแนวทางที่ดี ทั้งนี้ ไม่คิดว่าเหตุการณ์ปะทะกันดังกล่าว จะสอดคล้องกับข่าวที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่ที่กัมพูชา

 

"ผมไม่คิดว่า เราไปสรุปอย่างนั้นได้ แต่รัฐบาลจะแก้ปัญหาให้คลี่คลาย ขณะนี้สถานการณ์ดีขึ้น แต่การตรึงกำลังยังคงต้องมีอยู่และแม้จะตรึงกำลังกันอยู่ ก็ต้องระมัดระวังกันมากขึ้นในแง่การเคลื่อนไหวต่างๆ ไม่ให้เกิดเป็นเงื่อนไขนำไปสู่ความเข้าใจผิด หรืออุบัติเหตุไม่ให้เกิดการปะทะกัน ขณะเดียวกัน เรื่องหลักต้องใช้กระบวนการเจรจา ส่วนกรณีที่ทหารไทยพบทุ่นระเบิดใหม่ในพื้นที่ชายแดนไทย จนเกิดเหตุปะทะกันนั้น ความจริงมีข้อตกลงความร่วมมือที่จะต้องจัดเก็บให้หมด ซึ่งมีข้อตกลงกันอยู่แล้ว ดังนั้น ต้องพูดจากัน รวมถึงหากเราพิสูจน์ได้ว่า เป็นทุ่นระเบิดใหม่ จะต้องหยิบยกมาพูดคุยเพิ่มเติมเช่นกัน"นายอภิสิทธิ์ กล่าว

 

ต่อข้อถามว่า จะมีการประท้วงเพิ่มเติมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้มีการประท้วงกันไปมาอยู่ ซึ่งเป็นการรักษาสิทธิของแต่ละฝ่าย แต่จะใช้กระบวนการเจรจาต่อไป ส่วนกรณีกัมพูชาอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของกัมพูชา ตามแผนที่แอล 7017นั้น เรายึดแนวสันปันน้ำเป็นเขตแดน แต่กัมพูชา ยึดแผนที่ฝรั่งเศส จึงมีพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิกันอยู่ ส่วนเงื่อนไขที่ค้างอยู่เรื่องการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกนั้น รัฐบาลก็กำลังดูว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป

 

ด้าน พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงผลเจรจากับฝ่ายกัมพูชา หลังจากยิงปะทะทำให้ทหารทั้งสองฝ่ายเสียชีวิตและบาดเจ็บที่บริเวณเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ ว่า ในระดับพื้นที่ ก็ให้ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี กับผู้บัญชาการกองพล ได้พูดคุยเจรจากัน ซึ่งการพูดคุยเป็นไปด้วยดีชื่นมื่นและระดับผู้บังคับกองพัน ผู้บังคับหน่วยที่ควบคุมกำลังทั้งสองฝ่าย ก็ได้ทำความเข้าใจและไปดูบริเวณที่มีปัญหากันเรียบร้อยแล้ว จากนี้ไปสถานการณ์น่าจะดีขึ้น เพราะขณะนี้ได้เริ่มประชุมคณะกรรมการปักปันเขตแดนที่กรุงพนมเปญแล้ว คิดว่าจะมีความคืบหน้าและความชัดเจนในการแก้ปัญหา ซึ่งการประชุมดังกล่าวมีขึ้นระหว่างวันที่ 6-7เมษายนนี้

 

เมื่อถามว่า เท่าที่ดูจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ เกิดจากฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้าหรือไม่ พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ ตอบว่า ตรงนี้เป็นการควบคุมกำลังพลของแต่ละฝ่ายให้อยู่ในระเบียบวินัย อยู่ในกรอบของการเจรจา อยู่ในกรอบของข้อตกลงและตนยืนยันได้ว่าที่ผ่านมาทหารไทยอยู่ในกรอบ แต่ถ้าอีกฝ่ายหนึ่ง ไม่อยู่ในกรอบ ก็จะเกิดปัญหาเหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

ต่อข้อถามถึง ขณะที่เรากำลังพูดคุยเจรจา แต่ฝ่ายกัมพูชามีการเสริมกำลังพลขึ้นมายังเขาพระวิหารอีก เราจะเพิ่มกำลังและจะติดตามดูอย่างไร พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าวว่า กำลังของเรายังไม่มีการเพิ่มเติมอะไร เพียงแต่เราหมุนเวียนหน่วยที่เหนื่อยล้า เปลี่ยนหน่วยอื่นขึ้นไปเท่านั้น เพื่อเสริมความมั่นคงบริเวณที่มีการปะทะเพื่อให้มีความมั่นใจและเพิ่มเติมอาวุธที่ใช้ไปทดแทน เพื่อให้กำลังพลมีความสดชื่น ส่วนจะถอนกำลังออกมาเพื่อให้ปักปันเขตแดนหรือไม่นั้น อยู่ที่ผลการประชุมระดับนโยบายว่า จะตกลงกันอย่างไร เราเป็นผู้ปฎิบัติ ก็พร้อมปฏิบัติตามคำสั่งอยู่แล้ว

 

บ่ายวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร หลังเกิดการปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปรากฎว่า ทหารกัมพูชายังใช้รถยีเอ็มซีและรถปิคอัพ ทยอยขนทหารไปประจำตามฐานปฏิบัติการต่างๆ รอบบริเวณเขาพระวิหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดน

 

ขณะที่ นายเสนีย์ จิตตเกษม ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า สถานการณ์เขาพระวิหารเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว หลังทหารสองฝ่ายเจรจาตกลงกันได้ ทำให้ไม่มีความรุนแรงจากการสู้รบเกิดขึ้นอีก ส่วนกรณีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมกับกองกำลังสุรนารี สั่งปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารชั่วคราวโดยไม่มีกำหนดตั้งแต่วันที่ 3เมษายนนั้น หากจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมอีกครั้ง ต้องดูที่ความพร้อมขององค์ประกอบหลายอย่าง โดยเฉพาะความปลอดภัย แต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์คงไม่สามารถอนุญาตให้ขึ้นไปเที่ยวชมเขาพระวิหารได้ เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

 

ด้าน นายสุรศักดิ์ เจียรระกุล เจ้าของร้านมะลิวัลย์มินิมาร์ท ร้านค้าส่งในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ส่งผลกระทบด้านการค้าที่ซบเซาลง หากสถานการณ์ไม่สงบเช่นนี้ จะยิ่งส่งผลกระทบกับการค้าและการท่องเที่ยวในพื้นที่เป็นอย่างมาก อีกทั้งสินค้าที่ชาวบ้านบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา มารับไปจำหน่าย ต้องเลิกกิจการ เพราะปราสาทพระวิหารถูกปิด ไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมา การค้าขายในพื้นที่จึงซบเซา

 

ทุกเช้าจะมีทหารมาซื้อเครื่องดื่มและน้ำแข็งจำนวนมาก แต่หลังเหตุปะทะกันก็เงียบหายไป ส่งผลให้ยอดขายสินค้าลดลงไปประมาณ 20% จึงอยากให้ทหารกล้าตัดสินใจให้เด็ดขาด เพราะชาวบ้านในพื้นที่ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ทำไมเราถึงไม่ตอบโต้ให้เขมรรู้ว่า ประเทศไทยเราก็มีศักยภาพ หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป ยิ่งทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่" นายสุรศักดิ์ กล่าว

 

 

แผ่นดินไหวอิตาลีตายแล้วกว่า 90 รายเจ็บ 1.5 พันคน

ไทยรัฐ - ความคืบหน้าเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.3 ริกเตอร์ เขย่าพื้นที่ภาคกลางของอิตาลี อยู่ห่างกรุงโรมไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 110 กิโลเมตร เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (6 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น 

 

ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีซิลวิโอ แบร์ลุซโคนี ของอิตาลี ระบุยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตมากกว่า 50 ราย บาดเจ็บมากกว่า 1,500 คน แต่ยังผู้มีสูญหายคาดว่าติดค้างอยู่ภายใต้ซากอาคารพังถล่มอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่กู้ภัยอยู่ระหว่างช่วยผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน เพราะชาวบ้านต้องไร้ที่อยู่อาศัยหลายพันคน สนามกีฬาประจำเมืองถูกกลายสภาพเป็นที่พักพิงชั่วคราวของเหล่าผู้ประสบภัย นานาชาติเริ่มทยอยเสนอส่งความช่วยเหลือ

 

สำหรับภัยพิบัติครั้งนี้ เกิดเมื่อเวลา 03.35 น. ตามเวลาท้องถิ่น เช้าวันจันทร์ที่ 6 เม.ย. หรือ 08.35 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยแผ่นดินไหวสั่นสะเทือนอยู่นาน 20-30 วินาที ส่งผลให้บ้านเรือนในพื้นที่พังเสียหายยับเยินกว่า 1,000 หลัง ล่าสุด พบศพผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 92 คน บาดเจ็บอย่างน้อย 1,500 คน ซึ่งยอดคนตายเจ็บอาจเพิ่มเรื่อยๆ 

 

ด้านนาย กุยโด เบอร์โตลาโซ หัวหน้ากรมรับรองสาธารณะภัย กล่าวว่า เหตุดังกล่าวอาจทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาตรวจสอบอาคารในพื้นที่ต่างๆ เป็นเวลาหลายสัปดาห์ เพราะแผ่นดินไหวแรงขนาดนี้ในอิตาลี อาจก่อความเสียหายต่อโครงสร้างอาคารที่ส่วนใหญ่มีอายุมากนับร้อยปี กว่า 10,000-15,000 แห่ง เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในรอบ 6 ปี โดยครั้งล่าสุดเกิดเมื่อเดือน ต.ค. 2545 มีนักเรียนรวมถึงครูเสียชีวิตจากโรงเรียนถล่มทับ 30 คน