สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.)ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 เรื่อง หยุดการก่ออาชญากรรมโดยรัฐต่อการชุมนุมของประชาชนที่นำโดย นปช.โดยเรียกร้องรัฐบาล 5 ข้อ มีเนื้อหาดังนี้
แถลงการณ์ ฉบับที่ 2
สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย
เรื่อง หยุดการก่ออาชญากรรมโดยรัฐต่อการชุมนุมของประชาชนที่นำโดย นปช.
ในวันที่ 12 เมษายน 2552 รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ประกาศพระราชบัญญัติบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งนำกำลังทหาร ตำรวจพร้อมอาวุธครบมือ เข้ามาในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งทำให้ประเทศไทยเข้าสู่บรรยากาศเผด็จการโดยการให้ความชอบธรรมทางกฎหมายแก่รัฐบาลในการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ผ่านการใช้กำลังทหารและตำรวจ การประกาศในลักษณะนี้รวมถึงการดึงกำลังทหารและตำรวจเข้ามามีบทบาท นอกจากจะเป็นการสร้างความเป็นเผด็จการ ทำให้กระบวนการประชาธิปไตยถูกละเมิดและหยุดชะงักลงแล้ว ยังเป็นการสร้างและเร่งสภาวการณ์ที่ทำให้เกิดการใช้ความรุนแรง การปะทะและการเผชิญหน้าตลอดจนการเกิดสงครามกลางเมือง ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้มวลชนถูกบีบบังคับ ยิ่งทำให้สถานการณ์มีความเลวร้ายยิ่งขึ้น นั่นไม่ใช่หนทางที่จะทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบอย่างที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวอ้างเลยแม้แต่น้อย ทั้งเป็นการเปิดโอกาสให้มีการใช้อำนาจนอกระบอบประชาธิปไตย เช่น การรัฐประหารและตุลาการภิวัฒน์อีกด้วย
นอกจากนั้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ประกาศให้ใช้กองกำลังทหารและตำรวจ ภายใต้อำนาจพระราชบัญญัติบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อปราบปรามกลุ่มแนวร่วมประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่กำลังชุมนุมอยู่ในขณะนี้ ซึ่งเป็นการดำเนินการที่แสดงให้เห็นความเป็นสองมาตรฐานในการใช้กฎหมาย เมื่อเปรียบเทียบกับปฏิกิริยาและการกระทำของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีต่อการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เช่น การแต่งตั้งนายกษิต ภิรมย์ ขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ การไม่เร่งรัดและไม่เห็นความสำคัญในการดำเนินการกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและแกนนำ เป็นต้น ล้วนเป็นการแสดงให้เห็นถึงการเลือกข้างความไม่เป็นธรรมและความไม่เป็นประชาธิปไตยของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งไม่ได้เป็นนิติรัฐ - นิติธรรมในระบอบประชาธิปไตยอย่างที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะกล่าวอ้างแม้แต่น้อย
ดังนั้นสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยและองค์กรภาคีร่วมแถลงการณ์ จึงมีข้อเรียกร้องดังนี้
1. ขอประณามและเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกพระราชบัญญัติบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมทั้งถอนกำลังทหารและตำรวจออกจากเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะและความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น
2. ขอเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะประกาศยุบสภา เพื่อให้เกิดกระบวนการประชาธิปไตยและคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินว่าใครคือผู้ชอบธรรมในการบริหารประเทศ หากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ให้ความชอบธรรมแก่ตนจริง ควรยอมรับในกระบวนการประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
3. ขอเรียกร้องให้ยุติการใช้อำนาจนอกระบบโดยชนชั้นนำในสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นการรัฐประหาร ตุลาการภิวัฒน์ หรือการแทรกแซงทางการเมืองโดยผู้ที่ไม่ได้มาจากกการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา เพราะเป็นแนวทางที่จะทำให้กระบวนการประชาธิปไตยถูกทำลาย
4. หากมีการสลายการชุมนุมโดยใช้ความรุนแรงจากภาครัฐ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย จะออกมาเรียกร้องให้เพื่อนนิสิตนักศึกษาและประชาชนทั่วไปออกมาประท้วงการกระทำอันไม่เป็นประชาธิปไตยของรัฐบาลในทันที
5. ขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกผู้ที่เคารพในสิทธิเสรีภาพและระบอบประชาธิปไตย ร่วมต่อต้านการกระทำอันมีลักษณะเป็นเผด็จการซ่อนรูปของรัฐบาลและเฝ้าระวังการแก้ปัญหาที่สุ่มเสี่ยงต่อการก่ออาชญากรรมโดยรัฐต่อประชาชน หากเกิดการก่ออาชญากรรมโดยรัฐต่อประชาชนจริง ขอให้ประชาคมโลกร่วมกันประณามและขอให้สหประชาชาติปฏิบัติตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง [UN International Covenant on Civil and Political Rights (ICCPR)]
สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) และองค์กรภาคีร่วมแถลงการณ์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลจะเคารพในสิทธิเสรีภาพของประชาชน และไม่ใช้ความรุนแรงเพื่อสลายการชุมนุม
ทั้งนี้การดำเนินไปในวิถีทางการสร้างประชาธิปไตยตั้งมั่นโดยประชาชนเพื่อประชาชนนั้น จะต้องขจัดอิทธิพลของฝ่ายชนชั้นนำที่ใช้อำนาจนอกระบบประชาธิปไตยซ่อนรูปได้อย่างถาวร เพื่อให้เกิดสังคมที่เท่าเทียมอย่างแท้จริง
ด้วยศรัทธาแห่งประชาธิปไตย และความเกลียดชังในระบอบเผด็จการและอำนาจนอกระบบ
นายอาเต็ฟ โซ๊ะโก
เลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย
องค์กรภาคีร่วมแถลงการณ์
เครือข่ายนักศึกษาเพื่อพิทักษ์ประชาชน (คพช.)
สหพันธ์นิสิตนักศึกษาภาคอีสาน (สนนอ.)
สหพันธ์นิสิตนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สนน.จชต.)
Asia Pacific Student and Youth Association (ASA)
International Movement of Catholic Student - Asia Pacific (IMCS-AP)
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)