ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) ทำการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “ความเชื่อมั่นประเทศไทย ประจำเดือนมิถุนายน 2552” ขึ้น โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ทุกสาขาอาชีพที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร รวมทั้งสิ้น 1,026 คน เมื่อวันที่ 22 – 28 มิถุนายนที่ผ่านมา สรุปผลได้ดังนี้
1. ความเชื่อมั่นประเทศไทยประจำเดือนมิถุนายน 2552 มีคะแนนความเชื่อมั่นเฉลี่ยอยู่ที่ 4.05 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 ซึ่งลดลงจากเดือนพฤษภาคม 0.02 คะแนน หรือร้อยละ 0.2
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาคะแนนความเชื่อมั่นในแต่ละด้าน พบว่า ความเชื่อมั่นในขนบธรรมเนียมประเพณีและความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อของคนไทยยังคงมีคะแนนสูงที่สุดและเป็นความเชื่อมั่นเพียงด้านเดียวจากทั้งหมด 12 ด้านที่มีคะแนนสูงกว่าครึ่ง ในขณะที่ความเชื่อมั่นต่อสถานะทางการเงินการคลังของประเทศมีคะแนนต่ำที่สุด
สำหรับความเชื่อมั่นที่มีคะแนนลดลงมากที่สุดเมื่อเทียบกับผลสำรวจเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาคือ ความเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย รองลงมาคือความเชื่อมั่นในการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดปัจจุบัน และความเชื่อมั่นในการเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนได้มีส่วนร่วมตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ ของประเทศ ตามลำดับ
ดังรายละเอียดในตารางหน้าถัดไป
ความเชื่อมั่นที่มีต่อประเทศไทยในด้านต่างๆ
|
พฤษภาคม
(คะแนนเต็ม10)
|
มิถุนายน
(คะแนนเต็ม10)
|
เพิ่มขึ้น /ลดลง
|
1. ความเชื่อมั่นในขนบธรรมเนียมประเพณี และความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อของคนไทย
|
5.73
|
5.72
|
- 0.01
|
2. ความเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย
|
4.71
|
4.54
|
- 0.17
|
3. ความเชื่อมั่นในความสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นในภูมิภาคเดียวกัน
|
4.52
|
4.49
|
- 0.03
|
4. ความเชื่อมั่นในการเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนได้มีส่วนร่วมตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ ของประเทศ
|
4.34
|
4.27
|
- 0.07
|
5. ความเชื่อมั่นในเสรีภาพของสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวสารข้อเท็จจริงไปยังประชาชน
|
4.28
|
4.23
|
- 0.05
|
6. ความเชื่อมั่นในการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดปัจจุบัน
|
4.23
|
4.10
|
- 0.13
|
7. ความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมายของไทย
|
3.53
|
3.73
|
+ 0.20
|
8. ความเชื่อมั่นในระบบรัฐสภาไทย
|
3.55
|
3.65
|
+ 0.10
|
9. ความเชื่อมั่นในความรักความสามัคคีของคนในชาติ
|
3.55
|
3.58
|
+ 0.03
|
10. ความเชื่อมั่นในความมั่นคงปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน
|
3.53
|
3.56
|
+ 0.03
|
11.ความเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาความยากจน การว่างงาน และการประกอบอาชีพ
|
3.44
|
3.38
|
- 0.06
|
12. ความเชื่อมั่นในสถานะทางการเงินการคลังของประเทศ
|
3.36
|
3.35
|
- 0.01
|
เฉลี่ยรวม
|
4.07
|
4.05
|
- 0.02
|
2. ความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อประเทศไทย ในอีก 6 เดือนข้างหน้า พบว่า ประชาชนมีความเชื่อมั่นว่า ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมจะยังคงเหมือนเดิม ดังตารางต่อไปนี้
ความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย
ในอีก 6 เดือนข้างหน้า
|
เชื่อว่า
จะดีขึ้น
(ร้อยละ)
|
เชื่อว่า
จะแย่ลง
(ร้อยละ)
|
เชื่อว่า
จะเหมือนเดิม
(ร้อยละ)
|
1. ด้านเศรษฐกิจ
|
34.9
|
29.1
|
36.0
|
2. ด้านการเมือง
|
31.3
|
23.2
|
45.5
|
3. ด้านสังคม
|
30.1
|
25.1
|
44.8
|
3. เรื่องที่เห็นว่าควรดำเนินการโดยเร่งด่วนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นของประเทศไทย (3 อันดับแรก)
(เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุเอง) ได้แก่
อันดับที่ 1 : แก้ปัญหาเศรษฐกิจ การว่างงาน และปัญหาปากท้อง...ร้อยละ 42.2
อันดับที่ 2 : แก้ปัญหาความขัดแย้งของคนในสังคมให้มีความรักสามัคคีกัน...ร้อยละ 25.5
อันดับที่ 3 : แก้ปัญหาความขัดแย้งในหมู่นักการเมืองให้มีความสามัคคี และช่วยกันบริหารประเทศ...ร้อยละ 8.0
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับผลสำรวจเมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา จะพบว่า เรื่องที่ประชาชนเห็นว่าควรดำเนินการโดยเร่งด่วนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นของประเทศไทยใน 3 อันดับแรกยังคงเป็นเรื่องเดิม
แต่หากพิจารณาในรายละเอียดจะพบว่า ความต้องการให้แก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ และปัญหาความขัดแย้งในหมู่นักการเมืองมีเปอร์เซ็นต์ที่สูงขึ้น ขณะที่ความต้องการให้แก้ปัญหาความขัดแย้งของคนในสังคมให้มีความรักสามัคคีกันกลับมีเปอร์เซ็นต์ลดลง ดังรายละเอียดในตารางต่อไปนี้
อันดับที่
|
เดือนพฤษภาคม
|
เดือนมิถุนายน
|
เพิ่มขึ้น /ลดลง
(ร้อยละ)
|
1
|
ให้แก้ปัญหาเศรษฐกิจ การว่างงาน และการลงทุน
(ร้อยละ 40.1)
|
ให้แก้ปัญหาเศรษฐกิจ การว่างงานและปัญหาปากท้อง
(ร้อยละ 42.2)
|
+ 2.1
|
2
|
ให้แก้ปัญหาความขัดแย้งของคนในสังคมให้มีความรักสามัคคีกัน
(ร้อยละ 35.0)
|
ให้แก้ปัญหาความขัดแย้งของคนในสังคมให้มีความรักสามัคคีกัน
(ร้อยละ 25.0)
|
- 10.0
|
3
|
แก้ปัญหาความขัดแย้งในหมู่นักการเมือง ให้มีความสมานฉันท์ช่วยกันแก้ปัญหาของประเทศ (ร้อยละ 6.0)
|
แก้ปัญหาความขัดแย้งในหมู่นักการเมือง ให้มีความสมานฉันท์ช่วยกันแก้ปัญหาของประเทศ
(ร้อยละ 8.0)
|
+ 2.0
|