หลายเว็บไซต์ดังเริ่มพิจารณาเลิกรองรับ IE6

IE6 หรือ Microsoft Internet Explorer 6 เป็นโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ที่ใช้เข้าอินเทอร์เนตเพื่อท่องเว็บ ที่เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2001 โดยครั้งแรกมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows XP และสามารถใช้งานได้กับ Windows 98 ถึง Windows 2003

 

ปัจจุบันหลายเว็บไซต์ชื่อดัง เริ่มพิจารณาเกี่ยวกับการเลิกสนับสนุนโปรแกรม IE6 เริ่มจาก Digg.com เริ่มออกสำรวจความคิดเห็นสมาชิกในเว็บ ว่าจะไม่พัฒนาแอพลิเคชั่นภายในเว็บให้เลิกรองรับผู้ใช้งาน IE6 เช่น กระบวนการส่ง-โพสต์ข่าว หรือ การโหวตเรื่องเด่น โดยให้เหตุผลว่าทีมวิศวกรดูแลเว็บได้ง่ายขึ้น แต่จะยังสามารถอ่านเว็บธรรมดาได้ตามปกติ ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุป (ข่าว)

ด้านเว็บไซต์โพสต์วิดีโอระดับโลก YouTube.com ได้ทำคำประกาศชวนให้ผู้ใช้งาน IE6 อัพเกรดโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ที่ใช้อยู่ให้เป็นรุ่นที่ใหม่กว่า เช่น Chrome, Firefox หรือ IE8 (ข่าว) -- ผู้ที่ใช้ IE6 เท่านั้นถึงจะเห็นคำประกาศนี้ -- ซึ่งก่อนหน้านี้ YouTube ได้ทดลองสร้างหน้าเว็บเพจ สำหรับใช้งานร่วมกับมาตรฐานการสร้างเว็บล่าสุด HTML5 ในการใช้งานภายในเว็บ (ตัวอย่างหน้าเว็บ HTML5) -- หมายเหตุ: ใน IE6 รองรับ HTML5 ได้ไม่ครบถ้วน

และจากข่าวที่คล้ายคลึงกันก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ TheVideoBay.org ที่เป็นเว็บที่ทีมงานของ ThePirateBay.org -- เว็บไซต์แชร์ไฟล์ -- ได้ประกาศสร้างเว็บโพสต์วิดีโอลักษณะคล้ายกับ YouTube แต่มีนโยบายการแสดงวิดีโอด้วยเทคโนโลยี HTML5 ซึ่งจากนโยบายดังกล่าวเป็นการเลิกสนับสนุนเว็บเบราว์เซอร์ IE6 ไปในตัว (ข่าว)

ถ้านับย้อนกับข่าวก่อนหน้านั้น ประมาณเดือน ก.พ. 2009 ว่ามีหลายเว็บไซต์ชื่อดังในประเทศนอร์เวย์ประกาศสงคราม เลิกสนับสนุน IE6 และอีกหลายเว็บไซต์จากประเทศสวีเดน อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย ก็ขึ้นข้อความเตือนผู้ใช้งาน IE6 ให้อัพเกรดโปรแกรมเป็นรุ่นที่ใหม่กว่า คือ IE7 หรือเว็บเบราเซอร์ตัวอื่นๆ (ข่าว)

 


รูปข้อความเตือนผู้ใช้ภายในเว็บไซต์ YouTube (ภาพจาก picasaweb.google.com/pawinpawin)

 

ด้านนายอรรณพ สุวัฒนพิเศษ นักพัฒนาเว็บอิสระ และผู้ก่อตั้ง ThaiThinkPad.com กล่าวว่า โปรแกรมเว็บบราวเซอร์อินเทอร์เนตเอกซ์พลอเรอร์ เวอร์ชั่น 6 (IE6) เป็นโปรแกรมที่เป็นอุปสรรคในการพัฒนาเว็บไซต์อย่างมาก และทำให้ผู้ใช้งานเว็บต่างๆ ได้ประสบการณ์ในการใช้งานไม่ครบถ้วนตามที่นักพัฒนาได้ตั้งใจไว้ อีกทั้ง IE6 ไม่ได้รับการพัฒนามามากกว่า 4 ปีแล้ว ซึ่งปัจจุบันบริษัทไมโครซอฟต์เอง ก็แนะนำให้ผู้ใช้งานอัพเดทเป็น IE8 ได้ฟรีแล้วเช่นกัน

เขากล่าวด้วยว่า IE6 ทำให้การพัฒนาเว็บไซต์ทำได้ยากมากในปัจจุบัน เพราะการพัฒนาในด้านเทคโนโลยีด้านเว็บไซต์ต่าง ๆ นั้นก้าวไปอย่างไม่หยุดยั้ง แต่ IE6 นั้นเป็นตัวทำให้การพัฒนาเหล่านั้นต้องเผื่อแผนการ ชะรอ หรือหยุด การพัฒนาไปเพียงเพื่อให้สนับสนุนการทำงานได้ใน IE6 เท่านั้น ซึ่งเหตุนี้เองทำให้ต้องเพิ่มขั้นตอนการทำงาน ที่นักพัฒนาเว็บต้องแก้ปัญหามากมายกว่าการพัฒนาเว็บบนโปรแกรมเว็บบราวเซอร์ที่ใหม่กว่า อาทิเช่น IE7/8, Firefox 3.5, Safari 4 และ Opera 10 เป็นต้น

"ในด้านความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลบนอินเตอร์เน็ต ที่เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ใช้งานทั่วไปมักมองข้าม เช่นการเข้าใช้บริการเว็บไซต์ประเภทอีคอมเมอร์ส โดยในบราวเซอร์รุ่นใหม่ๆ จะมีระบบตรวจสอบคอยแจ้งเตือนผู้ใช้งานว่าเว็บไซต์ดังกล่าวเป็นเว็บที่มีความน่าเชื่อถือหรือไม่ มีการโดนแฮกมาก่อนหรือเปล่า หรือมีการใช้ URL หลอกลวง (Phishing) หรือไม่ด้วย" นายอรรณพกล่าวเสริม

ล่าสุดเว็บไซต์ Mashable.comได้เผยแพร่บทความที่กล่าวถึงกรณีที่่เว็บไซต์ Digg.com ประกาศจะเลิกสนับสนุน IE6 และ YouTube ออกข้อความเตือนผู้ใช้ เว็บไซต์ Mashable ยังบอกต่อว่าข้อเสียหลักๆ ของ IE6 คือการแสดงผล CSS ที่ทำงานได้ไม่ถูกต้อง การแสดงรูปภาพ PNG ได้ไม่ถูกต้อง และที่สำคัญคือปัญหาด้านความปลอดภัย

สำหรับสาเหตุที่คนทั่วไปยังใช้งาน IE6 ก็เพราะเป็นโปรแกรมที่มาพร้อมกับ Windows XP ซึ่งบริษัทจำนวนมากยังต้องการใช้ IE6 โดยท้ายสุด Mashable สรุปว่า IE6 นั้นเหมาะสำหรับปี 2001 แต่ในขณะนี้ทุกคนควรเลิกใช้งาน IE6 ได้แล้วเพื่ออนาคตของเว็บของเราทุกคน (ข่าว)

 

ข้อมูลจากเว็บไซต์เก็บสถิติผู้ใช้งานเว็บไซต์ในประเทศไทย truehits.net พบว่าในเดือนมิถุนายน 2552 ที่ผ่านมา พบว่ายังคงมีผู้ใช้งานเบราว์เซอร์ด้วย IE6 สูงถึงร้อยละ 46

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท