Skip to main content
sharethis
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. แถลงภายหลังการประชุม กกต.ในช่วงเช้าว่า ที่ประชุม กกต. มีการพิจารณารายงานผลการสอบสวนของคณะกรรมการไต่สวนฯ กรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา และนายสมคิด หอมเนตร นักวิชาการอิสระ ขอให้ กกต.ตรวจสอบว่า 44 ส.ส. ได้ถือหุ้นในกิจการอันต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญเป็นเหตุให้สิ้นสุดสมาชิกภาพ ส.ส. หรือไม่ โดยระบุว่าหลังจากรับฟังกรรมการไต่สวน ก็มีคำถามจากที่ประชุมกกต. มากมาย รวมทั้ง มีเอกสารที่คณะกรรมการไต่สวนและผู้ที่เกี่ยวข้องยื่นมาเพิ่มเติมเป็นจำนวนมากด้วย ที่ประชุมกกต. รวมทั้งคณะกรรมการไต่สวน ก็ระบุว่ามีข้อความที่คลาดเคลื่อน จึงจำเป็นต้องมีการแก้ไขปรับปรุง รวมทั้งในส่วนการจัดเอกสาร โดยเฉพาะการแยกแยะว่าบริษัทใดบ้างเป็นบริษัทที่ต้องห้ามเพิ่มเติม บริษัทใดบ้างที่คณะกรรมการไต่สวนมีความเห็นแตกต่างจากที่ กกต. เคยมีมติไปแล้ว18 บริษัท บริษัทใดบ้างที่เป็นหุ้นกู้ บริษัทใดบ้างที่เป็นหุ้นสามัญ
"ที่ประชุม กกต. พิจารณาแล้ว เห็นควรให้ฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการไต่สวน นำเอาเอกสารที่ได้ทำรายงานเข้ามานั้น ไปปรับปรุงโดยจัดระบบให้เรียบร้อย แยกแยะให้ชัดเจนและให้รีบนำเสนอประธาน กกต. ภายในวันที่ 25 สิงหาคม ซึ่งท่านประธาน กกต.จะนำเสนอที่ประชุม เพื่อพิจารณาสำนวนในเรื่องนี้ต่อไป ก็ขอยืนยันว่าในเรื่องนี้ไม่ได้เป็นการยื้อ เพราะจากที่คณะกรรมการไต่สวนชุดนี้ตรวจสอบ พบว่ามีบริษัทที่เกี่ยวข้องถึง 753 บริษัท ซึ่งมีบริษัททั้งที่เข้าลักษณะและไม่เข้าลักษณะตามที่กฎหมายกำหนดไว้ รวมทั้งจะต้องมีการตรวจสอบบริษัทที่คู่สมรสของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรถือหุ้นอยู่ด้วย เมื่อเอกสารไม่ชัดเจน อาจจะมีผลต่อการวินิจฉัยของ กกต. ที่ประชุม กกต. จึงให้ทางฝ่ายเลขาฯ ทำเอกสารมาให้เรียบร้อย แล้วนำเสนอประธานกกต. ภายในวันที่ 25 สิงหาคม" นายสุทธิพลกล่าว
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net