Skip to main content
sharethis

นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านละตินอเมริกาจากสถาบันชั้นนำทั่วโลก รวมถึงผู้ที่มีชื่อเสียงอย่างนอม ชอมสกี้ กับ นาโอมิ ไคลน์ รวม 93 คน ร่วมออกจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้ฮิวแมนไรท์วอทช์ ร่วมต่อต้านคณะรัฐประหารในฮอนดูรัสที่ใช้กำลังปราบปรามผู้ชุมนุมและการละเมิดสิทธิฯ ประชาชนด้านอื่นๆ

เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมานักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านละตินอเมริกา 93 ราย จากสถาบันเช่น เยลล์, ฮาร์วาร์ด และมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงองค์กรเฝ้าระวังด้านสิทธิมนุษยชน หรือฮิวแมนไรท์วอทช์ (Human Right Watch) เพื่อเรียกร้องให้องค์กรหันมาสนใจการละเมิดสิทธิมนุษยชนหลายรูปแบบในฮอนดูรัสในช่วงที่อยู่ภายใต้รัฐบาลจากการรัฐประหาร และให้มีการดำเนินการสืบสวนเรื่องดังกล่าว
 
ผู้ที่ลงนามในจดหมายเปิดผนึกประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญเรื่องละตินอเมริกาซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีอย่าง อิริค เฮิร์ชเบิร์ก, จอห์น โวแมค จูเนียร์ และ เกรก แกรดิน ผู้เชี่ยวชาญด้านฮอนดูรัสอย่าง ดานา แฟรงค์ และ เอเดรียน ไพน์ รวมทั้งยังมีนักเขียนชื่อดังอย่าง นอม ชอมสกี้, จอห์น พิลเจอร์ และ นาโอมิ ไคลน์ ร่วมลงนามด้วย
 
โดยในเนื้อหาของจดหมายระบุว่าฮิวแมนไรทืวอทช์ สามารถกดดันรัฐบาลโอบาม่าให้ออกมาประณามการกดขี่และใช้มาตรการกดดันหนักขึ้นกว่าเดิม โดยเน้นว่า "การสังหารโดยมีแรงจูงใจทางการเมือง การกักขังประชาชนนับร้อยอย่างไม่มีเหตุผล การปราบปรามโดยใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ปราศจากอาวุธ การจับกุมผู้ที่เป็นฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองจำนวนมาก และการละเมิดสิทธิมนุษยชนในด้านอื่นๆ"
 
ซึ่งจดหมายฉบับนี้ยังได้บอกอีกว่าทางฮิวแมนไรท์วอทช์ไม่ได้ออกแถลงการณ์หรือสิ่งพิมพ์แสดงท่าทีใด ๆ ต่อเหตุการณ์ในฮอนดูรัสตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค. หนึ่งสัปดาห์ถัดจากการรัฐประหารในวันที่ 28 มิ.ย.
 
"...การรัฐประหารจะถูกโค่นล้มได้ หากรัฐบาลโอบาม่าตั้งใจจะทำ โดยใช้มาตรการที่เด็ดขาดกว่านี้ เช่นการยกเลิกวีซ่าสหรัฐฯ ทั้งหมด หรือแช่แข็งบัญชีธนาคารสหรัฐฯ ของรัฐบาลรัฐประหาร"
 
จดหมายฉบับนี้เขียนขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่ทางองค์กรนิรโทษกรรมสากลออกมาเปิดเผยเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในการปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุม และขณะเดียวกันที่ทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนในอเมริกา (เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรรัฐอเมริกัน) ได้ส่งตัวแทนผู้สืบหาความจริงไปที่ฮอนดูรัส
 
 

 
เนื้อความเต็มของจดหมายมีดังนี้
 
21 สิงหาคม 2009
 
ถึง เคนเนธ รอธ ผู้อำนวยการบริหารฮิวแมนไรท์วอทช์
 
เรียน คุณรอธ
 
พวกเขามีความรู้สึกเป็นกังวลอย่างลึกซึ้งกับการที่องค์กรของคุณไม่ได้ออกแถลงการณ์และรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงและเป็นระบบภายใต้การปกครองของรัฐบาลจากการรัฐประหารของฮอนดูรัสในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา มันน่าผิดหวังที่นับตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม เป็นต้นมาหลังจากที่ทางฮิวแมนไรท์วอทช์ได้ออกแถลงข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์รัฐประหารที่เพิ่งเกิดขึ้นแล้ว ก็ไม่ได้ออกมาส่งสัญญาณเตือนต่อจากนั้นอีกในเรื่อง การวิสามัญฆาตกรรม , การควบคุมตัวโดยไม่มีเหตุผล , การทำร้ายร่างกาย และการปราบปรามสื่อ เรื่องทั้งหลายเหล่านี้มีการบันทึกไว้แล้วว่าได้เกิดขึ้นในฮอนดูรัส ซึ่งส่วนใหญ่แล้วกรณีเหล่าเกิดขึ้นจากการที่กลุ่มรัฐบาลรัฐประหารใช้ต้านกลุ่มที่ออกมาสนับสนุนรัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งตามกฏหมายและตามระบอบประชาธิปไตยของมานูเอล เซลายา พวกเราขอเรียกร้องให้องค์กรของคุณเติมเต็มบทบาทที่สำคัญในฐานะของผู้พิทักษ์สิทธิ์มนุษยชนสากล และขอให้ออกมาประณามการกระทำกดขี่ของรัฐบาลที่ได้อำนาจมาโดยมิชอบด้วยกฏหมาย อย่างหนักแน่นและแข็งขัน โดยทางพวกเรายังได้เรียกร้องให้คุณช่วยดำเนินการสืบสวนอาชญากรรมพวกนี้ด้วย
 
ขณะที่ฮิวแมนไรท์วอทช์ ออกมาประณามการรัฐประหารในฮอนดูรัสอย่างรวดเร็วมากในวันที่ 28 มิถุนายน และได้ประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชนในอีกหนึ่งสัปดาห์ถัดมาซึ่งเป็นการช่วยฉายแสงให้กับสื่อนานาชาติได้เห็นว่ามีการกดขี่ข่มเหงเหล่านี้อยู่ในฮอนดูรัส การที่องค์กรของคุณไม่ออกแถลงการณ์ใด ๆ เลยตั้งแต่หนึ่งสัปดาห์หลังจากการรัฐประหาร ทำให้สื่อนานาชาติล้มเหลวในการรายงานเหตุละเมิดสิทธิมนุษยชน
 
ยังไม่มีการหยุดใช้กำลังปราบปรามผู้ชุมนุมของคณะรัฐประหารในฮอนดูรัส องค์กรด้านสิทธิ์มนุษยชนที่ได้รับการยอมรับในฮอยดูรัส เช่น คณะกรรมการเพื่อญาติของผู้ต้องขังที่หายตัวไป (Committee for the Relatives of the Disappeared Detainee หรือ COFADEH) และผู้เฝ้าระวังด้านสิทธิมนุษยชนในระดับนานาชาติได้ออกรายงานข้อมูลเกี่ยวกับ การสังหารโดยแรงจูงใจทางการเมือง , การกักขังประชาชนนับร้อยอย่างไม่มีเหตุผล การปราบปรามโดยใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ปราศจากอาวุธ การจับกุมผู้ที่เป็นฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองจำนวนมาก และการละเมิดสิทธิมนุษยชนในด้านอื่น ๆ ภายใต้รัฐบาลรัฐประหาร การสังหารนักกิจกรรมต่อต้านรัฐประหารก้มีการรายงานในข่าวด้วย ทำให้ได้ทราบว่ามีสิบคนแล้วที่ทราบว่าถูกสังหารหรือสงสัยว่าจะถูกสังหารเนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางการเมือง ขณะที่องค์กรจับตาเรื่องเสรีภาพสื่ออย่างผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน (Reporters Without Borders) และคณะกรรมการคุ้มครองผู้สื่อข่าว (Committee to Protect Journalists) ก็ได้ออกเอกสารแถลงข่าวเกี่ยวกับการที่รัฐบาลรัฐประหารจู่โจมหรือข่มขู่ผู้สือข่าวจากหลายสำนัก รวมถึงมีการสั่งปิดสำนักงานข่าวชั่วคราวหรือมีการเข้ายึดครองโดยทหาร องค์กรภาคประชาชนหลายองค์กรก็ได้ออกมาเตือนในเรื่องการข่มขู่ประชาชนด้วยเหตุทางการเมือง และแสดงความเป็นห่วงประชาชนที่ถูกรัฐบาลรัฐประหารควบคุมตัว แต่ก็ไม่มีแถลงการณ์ใด ๆ ออกมาจากฮิวแมนไรท์วอทช์เลย
 
สถานการณ์นี้ยิ่งดูน่าเศร้าเขาไปอีกเมื่อมองเห้นว่ารัฐประหารนั้นสามารถถูกโค่นล้มได้โดยง่าย หากรัฐบาลโอบาม่าตั้งใจจะทำ โดยการใช้มาตรการเด็ดขาดกว่านี้ เช่นการระงับวีซ่าสหรัฐฯ และการแช่แข็งบัญชีของเหล่าผู้นำรัฐประหารในธนาคารสหรัฐฯ แต่ทว่าไม่เพียงแค่รัฐบาลโอบาม่ายังคงค้ำจุนรัฐบาลรัญประหารโดยให้เงินสนับสนุนผ่านทางโครงการณ์มิลเลนเนี่ยม ชาเลนจ์ แอคเคานท์ (Millenium Challenge Account, MCA) และโดยแหล่งอื่น ๆ แต่ทางสหรัฐฯ ก็ยังคงทำการฝึกนักศึกษาวิชาทหารของฮอนดูรัสใน สถาบันความร่วมมือด้านความมั่นคงในเขตซีกโลกตะวันตก (Western Hemispheric Institute for Security Cooperation , WHINSEC) สถาบันซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีโดยก่อนหน้านี้รู้จักในนามสคูล ออฟ เดอะ อเมริกา (School of the America) หากมีการล้มรัฐประหารและสามารถคืนตำแหน่งให้กับรัฐบาลที่ได้รับเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยได้แล้ว แน่นอนว่าการละเมิดสิทธิมนุษยชนซึ่งลามไปทั่วก็จะหยุดลง หากฮิวแมนไรท์วอทช์ลุกขึ้นมาออกเสียง มันก็จะกลายเป็นเรื่องยากสำหรับรัฐบาลโอบาม่าในการเพิกเฉยต่อสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนและยากที่เขาจะยังคงสนับสนุนด้านการเงินและด้านอื่น ๆ กับรัฐบาลที่มิชอบด้วยกฏหมายนี้ต่อไป
 
พวกเราทราบดี และคิดว่ามันน่าเศร้าว่า มีวิกฤติด้านสิทธิมนุษยชนรอบโลกที่เป็นปัญหาเร่งด่วนและทั้งหมดทั้งมวลก็ต้องการความสนใจจากคุณ อย่างไรก็ตาม ก็ต้องพูดถึงเหตุการณ์ที่เลวร้ายในฮอนดูรัสในฐานะที่มันมีความสำคัญมากพอจะเป็นจุดเริ่มต้นของการรัฐประหารอื่น ๆ ที่จะตามมา รวมถึงการผุดขึ้นมาของเผด็จการอื่น ๆ ซึ่งไม่ใช่แค่ในฮอนดูรัส แต่ทั่วทั้งทวีป ประวัติศาสตร์ได้แสดงให้เห้นแล้วว่ารัฐประหารนั้นทำให้เกิดรอยแผลลึกในสังคม แล้วหลายครั้งเกินไปที่มันนำไปสู่การถือกำเนิดของผู้ละเมิดสิทธิฯ ที่เป็นที่รู้จักกันดีในประวัติศาสตร์ เช่น ปิโนเชต์ ของ ชิลี , วิเดล่า ของ อาร์เจนติน่า , ซิดราส์ ของ ไฮติ ซึ่งเป็นแค่ตัวอย่างข้างต้น ในฐานะที่เป็นผู้คุ้มครองสิทธิ์มนุษยชนที่มีประสบการณ์ยาวนานในการจัดการกับปัญหาที่น่าหวาดหวั่นของผู้มีอำนาจทั้งหลาย ฮิวแมนไรท์วอทช์จึงอยู่ในฐานะที่จะเข้าใจว่าควรประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเร่งด่วน และช่วยให้แน่ใจว่าคณะรัฐประหารจะถูกโค่นล้ม ประชาธิปไตยจะกลับคืนมา การปราบปรามทางการเมืองและการละเมิดสิทธิมนุษยชนอื่น ๆ จะหยุดลง เพื่อนร่วมแนวคิดของคุณในกลุ่มสิทธิมนุษยชนที่ฮอนดูรัสเชื่อว่าจะพึ่งคุณได้ รวมถึงประชาชนฮอนดูรัสด้วย พวกเราหวังว่าคุณจะลุกขึ้นมาเปล่งเสียงของคุณ
 
ด้วยความจริงใจ
 
 
รายชื่อและเนื้อความฉบับภาษาอังกฤษสามารถหาดูได้ที่
Over 90 Experts Call on Human Rights Watch to Speak Out on Honduras Abuses
http://www.commondreams.org/newswire/2009/08/21
 
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net