22 ก.ย.52

พม่าสำรวจฐานเครื่องบินอังกฤษสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

ทหารพม่าสำรวจฐานเครื่องบินเก่าของอังกฤษในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ในหมู่บ้านซินซันวา (Sin San Wa) ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองปะเล็ตวาในรัฐชินหลังถูกทิ้งให้รกร้างมานานหลายทศวรรษ ซึ่งฐานบินดังกล่าวเคยเป็นฐานจอดเครื่องบินรบของอังกฤษในช่วงที่อังกฤษพยายามขับไล่ทหารญี่ปุ่นออกจากทางตอนเหนือของรัฐอาระกันช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

ทั้งนี้ ในอดีตเมืองปะเล็ตวาเคยเป็นส่วนหนึ่งของรัฐอาระกันก่อนที่จะถูกผนวกเข้ากับรัฐชินในปีค.ศ.1950 หลังพม่าได้รับเอกราชจากอังกฤษในรัฐบาลของนายอูนุ รัฐมนตรีคนแรกของพม่า 

มีรายงานว่า ทางการพม่าเตรียมสำรวจฐานจอดเครื่องบินรบของอังกฤษอีกสองแห่ง ที่อยู่ในเมืองบูทิดองและในเมืองมงดอว์ด้วยเช่นกัน (Narinjara)

23 ก.ย.52

พม่าเกณฑ์ชาวบ้านรัฐฉาน รักษาความปลอดภัยตอนกลางคืน

ทหารพม่าเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในหลายเมืองทางตอนใต้ของรัฐฉานตั้งแต่เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา นอกจากนี้ ได้เกณฑ์ชาวบ้านเข้าเวรรักษาความปลอดภัยในตอนกลางคืน หากชาวบ้านไม่สามารถเข้าเวรได้ต้องจ่ายเงิน 1, 000 จั๊ต (31 บาท) ให้ทางการพม่า ด้านพันเอกเจ้ายอดศึกของกองกำลัง SSA เปิดเผยว่า กองทัพพม่าตัดสินใจที่จะเปิดสงครามรอบใหม่ในรัฐฉาน นับตั้งแต่เข้าโจมตีกองกำลังโกกั้ง (Myanmar National Democratic Alliance Army- MNDAA)

มีรายงานว่า กองทัพพม่าเพิ่มกำลังทหารไปทางภาคตะวันออกของรัฐฉานด้วยเช่นกัน ใกล้กับเขตควบคุมของกองทัพสหรัฐว้า(United Wa State Army -UWSA) และกลุ่มหยุดยิงเมืองลา (National Democratic Alliance Army-Eastern Shan State) หลังทั้งสองกลุ่มปฏิเสธที่จะเป็นกองกำลังรักษาชายแดน (Border Guard Force - BGF) ตามที่รัฐบาลพม่าร้องขอ (SHAN)

25 ก.ย.52

ประหารชีวิตอดีตกำนันสังหารโหดแรงงานพม่า

ศาลใน อ.แม่สอด จ.ตาก ตัดสินประหารชีวิตสองผู้ต้องหาชาวไทยซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นอดีตกำนัน ในข้อหาฆาตกรรมโหดเผานั่งยางแรงงานชายชาวพม่า 4 คนที่ทำงานในไร่ข้าวโพดแห่งหนึ่งใน อ.แม่สอดเมื่อเดือนกันยายน ปี 2550 ที่ผ่านมา

มีรายงานว่าแรงงานที่เสียชีวิตถูกจับใส่กุญแจมือก่อนที่จะถูกยิงเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม ขณะที่แรงงานพม่าคนหนึ่งสามารถหนีรอดมาได้ หลังถูกยิงได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก แต่ได้รับการช่วยเหลือถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลในเวลาต่อมา จนท้ายสุดทางเจ้าหน้าที่สามารถคลี่คลายคดีฆาตกรรมครั้งนี้เป็นผลสำเร็จ (DVB)

28 ก.ย.52

สาวย่างกุ้งสลัดผ้าถุง หันมานุ่งน้อยห่มน้อย

แฟชั่นกางเกงขาสั้น กระโปรงสั้น และเสื้อเอวลอยกำลังได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นหญิงในกรุงย่างกุ้งอย่างมาก เจ้าของร้านขายเสื้อผ้าแห่งหนึ่งในย่างกุ้งเปิดเผยว่า ผ้าถุงและกางเกงยีนถือว่าตกยุคไปแล้วสำหรับวัยรุ่นในย่างกุ้งในขณะนี้ เพราะวัยรุ่นปัจจุบันหันมานุ่งน้อยห่มน้อยตามแฟชั่นทางตะวันตกและกล้าเปิดเผยสรีระมากขึ้น

ชาวบ้านคนหนึ่งในย่างกุ้งเปิดเผยว่า วัยรุ่นหญิงหลายคนมักจะนุ่งผ้าถุงเมื่ออยู่ในบ้าน โดยใส่กางเกงขาสั้นไว้ด้านใน แต่พอเข้าในเมืองก็จะถอดผ้าถุง และเมื่อกลับบ้านก็จะกลับมานุ่งผ้าถุงอีกครั้ง  นักข่าวคนหนึ่งกล่าวว่า อาจเป็นเพราะอากาศที่ร้อนอบอ้าวทำให้สาวๆ ชอบนุ่งสั้น  (Irrawaddy) 

กองทัพคะฉิ่นตึงเครียด ถูกกดดันต่อเนื่อง

ผู้นำองค์กรเอกราชชาติคะฉิ่น (Kachin Independence Organization หรือ KIO) เรียกประชุมอีกรอบเมื่อวันที่ 28 ก.ย.52 ในเมืองไลซา รัฐคะฉิ่น เพื่อเตรียมพบปะหารือเรื่องการถ่ายโอนอำนาจของ KIO กับรัฐบาลพม่าอีกรอบ ขณะที่รัฐบาลพม่าขีดเส้นตาย ขอคำตอบให้ว่าจะเข้าร่วมเป็นกองกำลังรักษาชายแดน (Border Guard Force) ภายใต้กองทัพพม่าหรือไม่ภายในเดือนตุลาคมนี้

มีรายงานว่า ยิ่งใกล้วันขีดเส้นตาย กองทัพพม่าได้เพิ่มกำลังทหารเข้าไปในรัฐคะฉิ่นมากขึ้น ซึ่งทาง KIO ก็ได้สั่งทหารให้เตรียมพร้อมเช่นกัน โดยมีการฝึกอบรมให้กับทหารในสังกัดที่เพิ่งเสร็จสิ้นไป

ขณะที่ชาวบ้านในรัฐคะฉิ่นเริ่มหวาดกลัวสงครามครั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้น ระหว่างทหารพม่ากับ KIO ด้านจีนได้จัดตั้งค่ายพักพิงชั่วคราวขึ้นจำนวน 3 แห่ง ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลยูนนานเพื่อรองรับผู้ลี้ภัยจากในรัฐฉานและในรัฐคะฉิ่นหากเกิดการสู้รบอีกรอบ พร้อมกันนี้จีนยังเรียกประชาชนของตนกลับเข้าประเทศหวั่นได้รับอันตราย (KNG /Irrawaddy)

29 ก.ย.52

ผู้ลี้ภัยไม่สามารถกลับบ้าน  ดีเคบีเอวางกับระเบิดเพียบ 

ชาวกะเหรี่ยงที่หนีภัยการสู้รบระหว่างกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย หรือ DKBA (Democratic Karen Buddhist Army) และกองกำลังปลดปล่อยกะเหรี่ยงแห่งชาติ KNLA (Karen National Liberation Army) เข้ามายังฝั่งไทยเมื่อช่วงเดือนมิถุนายนยังไม่สามารถกลับบ้านได้ เนื่องจากพบว่า DKBA ได้วางกับระเบิดไว้รอบหมู่บ้านอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ทางการไทยอนุญาตให้ผู้อพยพอยู่ในไทยถึงต้นเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้เท่านั้น
โดยระบุ ผู้ลี้ภัยสามารถเลือกว่าจะอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยแม่หละหรือกลับบ้าน แต่จะไม่สามารถอยู่ในค่ายพักพิงชั่วคราวได้ ไม่เช่นนั้นจะถูกส่งตัวกลับฝั่งพม่า ขณะที่ผู้ลี้ภัยจำนวนมากต้องการที่จะกลับคืนสู่บ้านเกิด แต่พื้นที่รัฐกะเหรี่ยงเต็มไปด้วยกับระเบิด เนื่องจากอยู่ในพื้นที่สู้รบ (Mizzima)