ใต้เท้าขอรับ : ขอเป็นคน ‘เดือนตุลา’

หากได้เรียนประวัติศาสตร์การเมืองมาบ้าง ก็คงไม่ต้องสงสัยว่า ‘เดือนตุลา’ นั้นเป็นเดือนประวัติศาสตร์อันทรงความหมาย

อย่างไรก็ตาม สำหรับคนรุ่นกลางเก่ากลางใหม่อย่างผม ที่ทางที่จะผูกความคิดทางการเมืองของตนเองเข้ากับประวัติศาสตร์ของเดือนนี้ก็ดูจะยากเย็นเต็มที เราไม่ได้เติบโตมากับเหตุการณ์นี้โดยตรง ผลจากชีวิตความเป็นอยู่ที่ได้รับมาจากเหตุการณ์ไม่ว่าจะในด้านลบหรือด้านบวกล้วนแล้วแต่เป็นผลที่เกิดขึ้นแล้วโดยไม่มีตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
 
มีเพียงไม่กี่ประเด็น ที่ยังทำให้เหตุการณ์เดือนตุลาโลดแล่นและพอจะมีชีวิตมีชีวาในการรับรู้ หนึ่งนั่นก็คือ คำถามและข้อสงสัยเกี่ยวกับเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 และเราตระหนักว่า การรอคอยคำตอบของเรา จะสิบปี ยี่สิบปี หรือสามสิบปีนั้นมีความหมาย ให้คนที่มีบาดแผลต้องคอยสะดุ้งสะเทือน คอยปิดมันไว้ คอยแก้ต่างความผิด โดยไม่รู้ว่ากระดูกของตนเองจะถูกคนหยิบมาสาปแช่งเมื่อไร 
 
และอีกหนึ่งก็คือ เราจำ 14 ตุลา 2516 ผ่านหน้าผู้คนอันเป็นผลผลิตจากเหตุการณ์นั้นหลายคนที่ปลิ้นปล้อนยอกย้อนกับประวัติศาสตร์ร่วมสมัยของตนเอง โกหกกับอดีตชาติของตัวเอง เรียกร้องรัฐธรรมนูญในยุคหนึ่ง และกลายมาเป็นแนวร่วมรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญอีกยุคหนึ่ง คนเหล่านี้อาจจะไม่ได้คิดว่านั่นคือการดูถูกตัวเอง แต่สำหรับคนรุ่นผมอย่างน้อยก็จำนวนหนึ่ง กลับรู้สึกว่า คนเหล่านี้คงจะหลงลืมไป ว่าเขาจะต้องอยู่กับคนรุ่นหลัง รุ่นเรา ไม่ใช่อยู่กับคนรุ่นก่อนที่มีแต่วันลดน้อยถอยลง
 
แต่เดือนตุลาสำหรับคนรุ่นผม ยังมีมากกว่านั้น
 
ครั้งหนึ่งไม่นานมานี้ ผมเคยถามเพื่อนรุ่นน้องร่วมอาคารสำนักงานว่า “ทำไมคนรุ่นคุณซึ่งอยู่ท่ามกลางคนทำงานเอ็นจีโอที่เต็มไปด้วย ‘เหลือง’ โดยที่ (คนรุ่นคุณ) ‘ไม่เหลือง’..” แน่ล่ะเราสนทนากันในบริบทเฉพาะถึงการไม่เข้าร่วม และไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
 
คำตอบนั้นออกมาอย่างเรียบง่าย ราวกับผ่านการตรึกตรองมาด้วยระยะเวลาพอสมควรแล้วว่า “เพราะรัฐธรรมนูญ 2540”
 
คุณครับ นี่อาจจะเป็นคำตอบธรรมดาก็ได้ แต่มันก็เป็นคำตอบที่ผูกเอารุ่นของตัวเองเข้ากับยุคสมัยของเขา และหลอมตัวเขาเองเข้ากับความเป็นไปของบ้านของเมือง และนั่นทำให้ผมชัดขึ้นว่า ที่มีคนจำนวนมากเข้าร่วมกับ ‘เหลือง’ บางทีก็อาจจะเป็นอาการผิดหวังอย่างรุนแรงกับรัฐธรรมนูญ 2540 กระทั่งอาจจะแอบเสียดายที่เป็นต้นเหตุให้เกิดการฉีกรัฐธรรรมนูญฉบับนี้ หรือการเกิด ‘แดง’ ขึ้นเต็มแผ่นดินก็อาจจะเป็นเพราะเหตุผลในทางกลับเช่นเดียวกัน
 
หากการต้านเผด็จการทำให้คนเรือนแสนตื่นตัวขึ้นมาปกป้องบ้านเมืองในเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 และเรียกร้องให้มีรัฐธรรมนูญ จนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางการเมืองระดับยอด หรือเปลี่ยนชนชั้นนำที่ให้อำนาจกับประชาชนผ่านตัวแทนมากขึ้น
 
รัฐธรรมนูญ 2540 และกระบวนการของมันทั้งก่อนการยกร่าง ระหว่างยกร่าง การประกาศใช้ และผลของการประกาศใช้ ก็ทำให้คนเรือนล้านตื่นตัวขึ้นมาวาดฝันถึงสังคมที่ดีกว่าและที่อยากให้เป็นตามแต่ที่เขาจะคิดจะเชื่อ ซึ่งไม่ว่าอย่างไร นี่คือการแสดงถึงความเป็นเจ้าของบ้านเจ้าของเมือง ซึ่งเป็นกระบวนการที่เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างระดับฐานให้ประชาชนลุกขึ้นมาแสดงความเป็นเจ้าของประเทศของตัวเอง
 
ขณะที่ผ่านเหตุการณ์ 14 ตุลา เรายังฉีกรัฐธรรมนูญไปอีกหลายฉบับ แต่นับจากมีรัฐธรรมนูญ 2540 ต่อให้ใครฉีกตัวบทไปก็ฉีกเนื้อหา เจตนา และความต้องการไม่ได้
 
เจตนาฯของรัฐธรรมนูญ 2540 จะอย่างไรก็ต้องกลับมา จะช้าจะเร็ว จะแก้ทีละประเด็น แก้เป็นชุด มีประชามติหรือไม่ ก็ต้องกลับมา
 
ที่จริงเราแทบจะหาสัญลักษณ์ของรัฐธรรมนูญ 2540 ไม่ได้เลย แต่ไหนๆ รัฐธรรมนูญ 2540 นั้นประกาศใช้เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2540 ก็พอจะกล้อมแกล้มถือเอาเป็นวันสัญลักษณ์ไปได้เหมือนกัน
 
อืม เพิ่งคิดได้ว่า เรามันก็คน ‘เดือนตุลา’ เหมือนกัน แต่ขอไม่ใช่ในความหมายเดิมน่ะครับ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท