Skip to main content
sharethis

แรงงานข้ามชาติจากพม่านับล้านคนจะตกเป็นเหยื่อต้องถูกส่งกลับ และถูกเอารัดเอาเปรียบหากไทยไม่ขยายระยะเวลาออกไป

18 กุมภาพันธ์ 2553 มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (มสพ.) ออกเอกสารเผยแพร่ว่าแรงงานข้ามชาตินับล้านคนกำลังถูกข่มขู่จากรัฐบาลไทย โดยนโยบายของรัฐบาลที่ให้บังคับส่งกลับหลังเส้นตายวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2553 หากพวกเขาไม่ยอมส่งข้อมูลการพิสูจน์สัญชาติให้แก่ทางการ เจ้าหน้าที่ระดับสูงยืนยันว่าไม่สามารถขยายระยะเวลาอีกต่อไปได้ และต้องมีการบังคับส่งกลับครั้งใหญ่หากแรงงานข้ามชาติหรือนายจ้างไม่เข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติภายในกำหนดเวลาดังกล่าว

กว่าร้อยละ 80 ของแรงงานที่ได้ขึ้นทะเบียนได้รับอนุญาตให้ทำงานในประเทศไทย เป็นแรงงานจากประเทศพม่า (ประมาณ 1.1 ล้านคน) ซึ่งเป็นประเทศที่ปกครองโดยรัฐบาลทหาร มีปัญหาความขัดแย้งทางด้านเชื้อชาติและการเมืองอย่างรุนแรง รวมทั้ง กำลังประสบกับสภาวะทางเศรษฐกิจในประเทศถดถอย แรงงานข้ามชาติเหล่านี้ได้เดินทางออกจากประเทศพม่าอย่างผิดกฎหมาย และขณะนี้ได้ถูกกดดันโดยรัฐบาลไทยให้กรอกแบบฟอร์มข้อมูลบุคคลเพื่อส่งให้กับรัฐบาลพม่าในการพิสูจน์สัญชาติ หากได้รับการตอบรับจากทางการพม่าว่าพวกเขาเป็นชาวพม่า ก็จะต้องเดินทางกลับไปยังประเทศพม่าเพื่อให้กระบวนการพิสูจน์สัญชาติสมบูรณ์ โดยแรงงานเหล่านี้จะได้รับหนังสือเดินทางชั่วคราว ก่อนที่จะเดินทางกลับมาประเทศไทยและทำงานได้อย่างถูกกฎหมายต่อไป  สำหรับแรงงานข้ามชาติที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ซึ่งมีจำนวนนับแสนๆ คน ไม่มีสิทธิที่จะเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติได้ พวกเขาใม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากจะต้องถูกบังคับส่งกลับประเทศพม่า ภายหลังวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2553 นี้

นายสมชาย หอมลออ เลขาธิการมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (มสพ.)  กล่าวว่า “รัฐบาลไทยจะต้องขยายเส้นตายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ นี้ออกไปอีก และยกเลิกแผนการบังคับส่งกลับแรงงานเหล่านี้เสีย  การบังคับส่งกลับจะส่งผลเสียหายอย่างร้ายแรงต่อเศรษฐกิจของไทยที่ยังคงต้องพึ่งพาแรงงานข้ามชาติเหล่านี้ รวมทั้งชื่อเสียงของประเทศไทยอีกด้วย”

“ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ หากมีการทำตามกำหนดระยะเวลานี้จริง จะมีแรงงานข้ามชาติตกเป็นเหยื่อของการขูดรีดเอารัดเอาเปรียบมากยิ่งขึ้น เนื่องจากพวกเขาจะถูกบังคับให้อยู่ใต้ดินอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อประเทศโดยเฉพาะในช่วงที่สภาวการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยกำลังมีความอ่อนไหวเป็นอย่างมากในขณะนี้ ทั้งจะเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดการทุจริตคอรัปชั่นกันอย่างเป็นระบบ”

ทั้งนี้เอกสารเผยแพร่ได้รายงานข้อมูลว่า ปัจจุบันมีแรงงานข้ามชาติจำนวนเพียง 25, 000 คนเท่านั้นที่ได้ผ่านการพิสูจน์สัญชาติเรียบร้อยแล้ว มีแรงงานข้ามชาติจำนวนเพียง 200,000 คนเท่านั้นที่เข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติ ขณะที่

ส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจกระบวนการพิสูจน์สัญชาติ โดยมีข้อวิตกกังวลสำหรับแรงงานข้ามชาติที่จะต้องกลับไปพิสูจน์สัญชาติในประเทศพม่า นอกจากนี้ยังรายงานด้วยว่า มีบริษัทนายหน้าที่ไม่มีการตรวจสอบควบคุมกำลังเอารัดเอาเปรียบแรงงานข้ามชาติด้วยค่าบริการที่สูงเกินไป ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีนโยบายหรือกระบวนการใดๆ มารองรับแรงงานข้ามชาติที่ไม่สามารถหรือไม่ต้องการเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติแต่อย่างใดเลย

นายสมชาย ระบุเพิ่มเติมด้วยว่า “นโยบายด้านแรงงานข้ามชาติของไทย ควรจะต้องมีการวางแผนอย่างละเอียดรอบคอบเพื่อให้เป็นหลักประกันได้ว่า สิทธิมนุษยชนของแรงงานข้ามชาติเหล่านั้นจะได้รับการคุ้มครอง กระบวนการพิสูจน์สัญชาติที่เป็นอยู่ มิได้มีการคิดกันอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพียงพอ ดังนั้นแทนที่จะเป็นการอำนวยประโยชน์ให้แก่แรงงานข้ามชาติ กลับกลายเป็นการคุกคามความมั่นคงปลอดภัยของแรงงานข้ามชาติกว่า 2 ล้านคนที่สร้างประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมของไทย”

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net