Skip to main content
sharethis

22 มี.ค.53 ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายธีรภัทร์ ประยูรสิทธิ์ รองอธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมด้วยนายชัยยศ สินธุประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบาย สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร่วมกันแถลงข่าวการป้องกันและปราบปรามทุจริตด้านทรัพยากรที่ดินและป่าไม้ เพื่อแก้ปัญหาการบุกรุกและทำลายพื้นที่ป่าไม้

นายธีรภัทร์ กล่าวว่า ปัญหาป่าไม้ที่ดิน สาเหตุใหญ่มาจากความยากจน ความโลภ การถูกหลอกจากนายทุน การใช้ช่องว่างทางกฎหมายเพื่อหาประโยชน์รวมทั้งความตั้งใจทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐและอาจมีการทำผิดกฎหมายแบบไม่ตั้งใจและขาดความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับที่ดินป่าไม้ที่มีมากถึง 6 ฉบับ ขณะที่คดีความส่วนหนึ่งของเจ้าหน้าที่ ก็อาจการถูกกลั่นแกล้งจากนายทุน ในปี 2551 มีคดีเกี่ยวกับป่าไม้ถึง 5,833 คดี และปี 2552 รวม 5,504 คดี แต่ทั้งหมดมีเพียง 62 คดีที่เจ้าหน้าที่รัฐถูกฟ้องร้องและเมื่อกรมป่าไม้ตั้งกรรมการสอบวินัยก็มี เพียง 12 คดี ที่มีมูลว่าจงใจหาผลประโยชน์ ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานในพื้นที่ เช่นหน่วยป้องกันรักษาป่า และมีระดับสูงเพียง 1 รายเท่านั้น คือข้าราชการระดับ 7

รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวต่อว่า กรมป่าไม้จะร่วมกับ ป.ป.ช.ในการป้องกันรักษาพื้นที่ป่า โดยกรมป่าไม้ ได้วางมาตรการเชิงรุก 3 - 4 ด้าน เพื่อดูแลป่าสงวนแห่งชาติทั้ง 1,221 แห่ง เช่น การติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพป่าโดยใช้ดาวเทียมธีออส ร่วมกับการลาดตระเวนป่าแนวใหม่เชิงรุก ซึ่งพบว่าได้ผลดีมาก นอกจากนี้ยังเตรียมจัดโซนนิ่งป่าสงวนแห่งชาติใหม่ โดยจะสำรวจการถือครองของชุมชนในพื้นที่ป่าไม้ทั้งในเขตป่าอนุรักษ์และนอกป่า อนุรักษ์ เพื่อกำหนดสภาพความเหมาะสม ทั้งนี้ หากพื้นที่ป่ายังมีความสมบูรณ์มากกว่า 60% ต้องเฝ้าระวังและรักษาไว้ให้ได้ ส่วนป่าสมบูรณ์ปานกลางและน้อย จะให้จัดการพื้นที่ป่าแบบเอนกประสงค์แต่ต้องมีความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ และการใช้ประโยชน์ การจัดทำฐานช้อมูลและควบคุมชุมชนและผ่อนพันการตั้งถิ่นฐานโดยใช้มติคณะ รัฐมนตรีและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน เม.ย.นี้

ด้านนายชัยยศ กล่าวว่า ป่าไม้ของประเทศลดลงอย่างน่าเป็นห่วง ป.ป.ช.จึงกำหนดยุทธศาสตร์สาธารณะของแผ่นดินเพื่อ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการบูรณาการป้องกันการทำลายพื้นที่ป่าพร้อมกับตั้งอนุกรรมการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านเทคนิค สำหรับการตรวจสอบโฉนดที่ดินและเอกสารสิทธิ์ในการครอบครอง และอนุกรรมการไต่สวนเพื่อรับร้องเรียนต่างๆ โดยขณะนี้ มีคดีเกี่ยวกับที่ดินและป่าไม้คงค้างอยู่ทั้งสิ้น 326 เรื่อง แบ่งเป็นเรื่องร้อง เรียนปัญหาที่ดิน ของกรมที่ดิน 262 เรื่อง และปัญหาป่าไม้ ของ ทส.อีก 64 เรื่องส่วนมากเป็นการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ.

 
 
ที่มา: เว็บไซต์ไทยรัฐ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net