20 เม.ย.53 นางภูมิจิต ศิระวงศ์ประเสริฐ ประธานชมรมผู้ประกอบการธุรกิจโฮสติ้ง กล่าวว่า จากสถานการณ์การชุมนุมจนรัฐบาลมีคำสั่งให้กระทรวงไอซีทีปิดเว็บไซต์ที่กล่าวหาว่าไม่เหมาะสมนั้น ทำให้ผู้ประกอบการเว็บโฮสติ้งหลายรายได้รับผลกระทบด้านธุรกิจ และยังทำให้ลูกค้าที่ใช้บริการโฮสติ้งในประเทศไทยหันไปใช้โฮสติ้งต่างประเทศมากขึ้น และเพิ่มภาระค่าใช้จ่าย

“การปิดเว็บ 1 โฮส คือปิด 1 ไอพี จะทำให้คนที่ใช้งานอยู่แต่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองเดือดร้อน ขณะที่คนที่ทำเว็บโฮสติ้งเข้ามาช่วยการปิด ดังนั้นจึงต้องเชิญลูกค้าออก ลูกค้าก็ไปใช้โฮสต่างประเทศแทน ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการทำเว็บอยู่ไม่ได้ เพราะแทนที่จะได้ขยายธุรกิจอีคอมเมิร์ส ก็ไม่ได้ และคู่ทราฟฟิกที่ต้องจ่ายให้ต่างประเทศ จึงเป็นภาระที่ต้องจ่ายเพิ่ม แต่ถ้าโฮสติ้งอยู่ในประเทศไทย ค่าใช้จ่ายก็ไม่สูงมาก แต่ทันทีออกต่างประเทศ ก็จะกลายมาเป็นผลักภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้บริโภค และถ้าไปอยู่ต่างประเทศ ก็ไม่สามารถปิดได้”

นางภูมิจิต กล่าวต่อว่า การปิดเว็บยังทำให้ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างบล็อกต่างๆ ได้รับผลกระทบ เพราะถ้าปิด URL ไม่ได้ ก็ต้องปิดโดเมน ทำให้ฟรีบล็อก ที่แปะโฮสอยู่บนหน้าจอโดนบล็อกไปด้วย ส่วนกรณีที่ข่าวระบุว่า เป็นการปิดชั่วคราวนั้น ผู้ประกอบการหลายรายได้ตั้งคำถามว่า จะปิดนานแค่ไหน เพราะมีแต่คำสั่งปิด แต่ยังไม่มีคำสั่งเปิด รวมทั้งมองว่าไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง อีกทั้งถ้าพิมพ์ ISP ผิดเพียงตัวเดียวก็ผิดพลาดทั้งหมดแล้ว

ประธานชมรมผู้ประกอบการธุรกิจโฮสติ้ง กล่าวอีกว่า แม้จะยังไม่มีตัวเลขร้องเรียนปัญหาดังกล่าวอย่างชัดเจน แต่ในกลุ่มโฮสติ้งได้หารือกันตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นที่รัฐบาลประกาศ พรก.ฉุกเฉิน สิ่งที่โฮสติ้งต้องทำ คือ ปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาล ส่วนในแง่ของลูกค้า ก็ได้ชี้แจงว่าเป็นไปตามคำสั่ง หากจะฟ้องโฮสติ้ง ก็ต้องฟ้องรัฐบาลด้วย

" มีโฮสติ้งบางรายได้รับการร้องเรียนจากลูกค้า เมื่ออธิบายให้ฟังลูกค้าก็โมโห โฮสติ้งรายนั้นก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เพราะทำธุรกิจผ่านทางเว็บ พร้อมทั้งย้ำว่า การบล็อกไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา ถ้าคิดว่าผิดก็ควรจับ แต่ที่จับไม่ได้เพราะรู้ว่าไม่ผิด ก็บล็อกไว้ก่อน จึงกลายเป็นการสร้างปัญหาให้กับธุรกิจโฮสติ้งเป็นอย่างมาก" นางภูมิจิตกล่าว

ที่มา: เว็บไซต์ไทยรัฐ