Skip to main content
sharethis

5 พ.ค. 53 – สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประชาชนกรีซหลายแสนคนได้ทำการประท้วงหยุดงานครั้งใหญ่ เนื่องจากไม่พอใจต่อนโยบายปรับลดค่าใช้จ่ายหรือรัดเข็มขัดของรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคสังคมนิยม ส่งผลให้กรีซอยู่ในภาวะเป็นอัมพาตไปทั้งประเทศ ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 คนหลังผู้ประท้วงเผาธนาคาร

ทั้งนี้การประท้วงหยุดงานครั้งใหญ่ในครั้งนี้ได้มีกำหนดระยะเวลาผละงานประท้วงเป็นเวลา 48 ชั่วโมงด้วยกัน ซึ่งได้เริ่มขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งนับเป็นการหยุดงานประท้วงครั้งใหญ่ครั้งแรก นับตั้งแต่รัฐบาลพรรคสังคมนิยมของกรีซรับข้อเสนอทั้งจากสหภาพยุโรป (EU) และกองทุนการเงินการระหว่างประเทศ (IMF) ที่ให้รัฐบาลกรีซใช้นโยบายรัดเข็มขัดตามมาตรการขอรับความช่วยเหลือกอบกู้วิกฤตหนี้เสีย

โดยสถานีรถไฟใต้ดินในกรุงเอเธนส์ปิดทำการ ขณะที่สนามบินนานาชาติไร้ผู้คนเนื่องจากสมาชิกสหภาพแรงงานประมาณ 20,000 คนได้ร่วมชุมนุมประท้วงต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล 

ทั้งนี้ในการประท้วงที่กรุงเอเธนส์ ตำรวจกรีซได้ยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ประท้วงที่พยายามบุกเข้าไปภายในอาคารรัฐสภา ส่วนที่เมืองเธสซาโลนีกี้ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศด้วย มีการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยวัยรุ่นได้ขว้างปาก้อนหินและระเบิดเพลิงเข้าใส่ร้านค้า

ล่าสุด สำนักข่าว AFP ได้รายงานอ้างคำกล่าวของตำรวจว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 ราย โดยเป็นหญิง 2 คน และชาย 1 คน โดยเสียชีวิตในสำนักงานสาขาแห่งหนึ่งของธนาคารมาร์ฟิน หลังจากที่กลุ่มผู้ประท้วงได้ทำลายหน้าต่างแล้วโยนระเบิดเพลิงเข้าไปในสำนักงานทำให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้น

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net