Skip to main content
sharethis

โตเกียว – ผู้ประท้วงในไทยกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า พวกเขายินดีจะร่วมเจรจากับรัฐบาลโดยมียูเอ็นเป็นตัวกลาง หากทหารยุติการสลายการชุมนุมยาวนานสี่วัน ซึ่งได้เปลี่ยนย่านใจกลางเมืองบางส่วนของกรุงเทพฯเป็นเขตสงคราม

เจ้าหน้าที่รัฐคนหนึ่งบอกว่าข้อเสนอนี้เป็น “สัญญาณที่ดี” และถามถึงรายละเอียดเพิ่มเติม ขณะที่รัฐบาลยกเลิกคำขู่ที่จะประกาศเคอร์ฟิวในกรุงเทพฯ เมืองที่มีชื่อเรื่องชีวิตกลางคืนอันอึกทึก

แต่รัฐบาลรีบปฏิเสธการ ไกล่เกลี่ยโดยองค์การสหประชาชาติ และกล่าวว่าถ้าผู้ประท้วง “เสื้อแดง” จริงจังกับการเจรจา พวกเขาไม่ควรจะตั้งข้อแม้

“ถ้าพวกเขาอยากเจรจา พวกเขาไม่ควรตั้งเงื่อนไขอย่างการขอให้เราถอนกำลังทหารออก” กอปรศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าว รอยเตอร์รายงานเช่นนี้ โฆษกรัฐบาลอีกคนบอกผู้สื่อข่าวว่า ผู้ประท้วงต้องหยุดใช้อาวุธและเลิกขู่กอง กำลังรักษาความปลอดภัย

ไม่เป็นที่แน่ชัดในคืนวันอาทิตย์ว่า ข้อเสนอของเสื้อแดง – ซึ่งมาท่ามกลางความพยายามอันมุ่งมั่นของทหารที่จะกระชับพื้นที่ชุมนุม – จะหยุดความวุ่นวายนานสองเดือนบนท้องถนนเมืองหลวงของไทยได้หรือไม่ มีคนอย่างน้อย 29 คนเสียชีวิตที่นั่นตั้งแต่วันพฤหัสบดี ตามรายงานข่าวของไทย พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล นายพลกองทัพบกผู้อยู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล สนับสนุนผู้ประท้วงเสื้อแดง เสียชีวิตวันจันทร์ สี่วันหลังการถูกปืนสไนเปอร์ยิงเข้าที่ศีรษะ

การเจรจาระหว่างรัฐบาลและผู้ประท้วงมีประวัติความล้มเหลวมาแล้ว เมื่อสัปดาห์ก่อน ข้อตกลงที่จะยุติความรุนแรงใกล้สำเร็จจนแกนนำผู้ประท้วงบางคนเริ่มเตรียมตัวจะกลับบ้าน

ดูเหมือนว่าผู้ชุมนุมเสื้อแดงจะบีบให้รัฐบาลจัดการเลือกตั้งใหม่ก่อนเวลา แต่ข้อเสนอนั้นอับปาง เพราะข้อเรียกร้องในนาทีสุดท้ายจากแกนนำเสื้อแดง

ความแตกต่างระหว่างแกนนำผู้ประท้วงและรัฐบาลตอนนี้ดูแทบจะปรองดองกันไม่ได้ นักการทูตและนักวิชาการบางคนในกรุงเทพฯให้ความเห็น

“เราถอยไม่ได้” นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พูดถึงชาติในโทรทัศน์เมื่อสุดสัปดาห์ สุนทรพจน์นั้นดูจะปูทางไปสู่การลงมือของทหารที่รุนแรงมากขึ้นกับคนเสื้อแดง

อย่างไรก็ตาม จน ถึงตอนนี้ รัฐบาลของเขายังไม่ได้โจมตีด้วยรถถัง รถหุ้มเกราะลำเลียงพล หรือปืนที่ใช้กระสุนขนาดใหญ่ ไม่มีหลักฐานในวันอาทิตย์ว่า รัฐบาลนำยุทโธปกรณ์เหล่านั้นเข้าไปในพื้นที่ นักการทูตคนหนึ่งกล่าว

สถานการณ์งัดง้างในกรุงเทพฯ มีที่มาจากความขัดแย้งของคนชนบทกับคนเมืองที่ทำให้การเมืองไทยปั่นป่วนมาตั้งแต่ปี 2549 เมื่อเศรษฐีพันล้าน นายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ถูกขับออกไปเพราะรัฐประหารที่ไม่มีการสูญเสียเลือดเนื้อซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากชนชั้นสูงชาวกรุงในกรุงเทพฯ

ชนชั้นสูงเหล่านี้ หลายคนมองทักษิณที่ตอนนี้ถูกเนรเทศและช่วยสนับสนุนเงินทุนให้เสื้อแดงว่า เป็นวายร้ายขี้โกง แต่นโยบายประชานิยมของทักษิณที่ส่งผลกระทบทางการเมืองในไทยมายาวนาน กระตุ้นคนเสื้อแดงและปลุกให้ชาวชนบทส่วนใหญ่คิดว่าพวกเขาสามารถและควรจะกำหนดวิถีการเมืองในประเทศ

เสื้อแดงมองผู้นำไทยคนปัจจุบันเป็นผลพวงที่ผิดหลักการ จากรัฐประหารในปี 2549 ด้วยการสนับสนุนอย่างเงียบๆ จากผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ (ข้อความนี้เปลี่ยนจากต้นฉบับโดย กอง บก.ประชาไท) ได้ทำให้คนชนบทมากมายรู้สึกขุ่นเคือง

พระมหากษัตริย์ของไทยที่มีพระชนมายุ 80 พรรษา มีบทบาทที่น่าเชื่อถือและมั่นคงมาอย่างยาวนานในประเทศซึ่งเกิดรัฐประหารมา 18 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2475 (ข้อความเซ็นเซอร์ โดย กอง บก. เพื่อไม่ผิดกฎหมายอาญา ม.112)

เมื่อเสื้อแดงเดินขบวนเข้ากรุงเทพฯในเดือนมีนาคม ข้อเรียกร้องเดียวของพวกเขา คือจัดการเลือกตั้งใหม่โดยไว สำหรับความยุ่งเหยิงที่พวกเขาสร้างขึ้นมานับจากตอนนั้น ส่งผลเสียต่อการท่องเที่ยว ขัดขวางการจราจรใจกลางเมือง และจุดความรุนแรงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 54 คนและมีผู้บาดเจ็บประมาณ 1,640 คน เสื้อแดงยังคงมุ่งมั่น พวกเขาบีบให้รัฐบาลต้องเจรจาจริงจังเรื่องวันเลือกตั้งใหม่

เมื่อสัปดาห์ก่อน แกนนำผู้ประท้วงดูเหมือนเกือบจะยอมรับคำสัญญาของรัฐบาลที่จะจัดการเลือกตั้ง ใหม่ในเดือนพฤศจิกายน นักวิเคราะห์หลายคนคาดว่า เสื้อแดงน่าจะได้รับการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม

แต่จุดอับจนของการเจรจาเพื่อการเลือกตั้ง คือชะตากรรมของแกนนำเสื้อแดง ซึ่งรัฐบาลตัดสินว่ามีพฤติกรรมที่เป็นอาชญากร

“แกนนำหัวรุนแรงเชื่อว่าถ้าการประท้วงยุติลง พวกเขาต้องถูกรัฐบาลฆ่าแน่นอน” เวียงรัฐ เนติโพธิ์ ผู้สนับสนุนเสื้อแดง และเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์คณะรัฐศาสตร์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพฯ กล่าว “นี่คือสาเหตุที่พวกเขาคิดว่าจะต้องสู้ ตอนนี้พวกหัวรุนแรงเข้าคุมแล้ว”

แกนนำเสื้อแดงส่วนใหญ่ออกเสียงเมื่อสัปดาห์ก่อนที่จะยอมรับข้อตกลงของรัฐบาล ออกจากถนน และกลับบ้านไปเตรียมตัวเลือกตั้งตอนปลายปี นักการทูตที่รู้เห็นเรื่องการเจรจาบอก

แต่แกนนำเสื้อแดงไม่ได้ตัดสินตามเสียงส่วนมาก นักการทูตคนนี้กล่าว มีผู้ขัดขวางที่มีอิทธิพลหลายคนเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกข้อกล่าวหาว่าเป็นอาชญากรทั้งหมด รัฐบาลปฏิเสธข้อเรียกร้อง และข้อตกลงที่จะเลือกตั้งใหม่ก็ยกเลิกไป

ตั้งแต่นั้นมา มีการแตกคอในกลุ่มแกนนำเสื้อแดง และข้อเรียกร้องของพวกเขาเริ่มสะเปะสะปะมากขึ้น สัปดาห์ก่อนบางคนเรียกร้องให้จับนายกรัฐมนตรีสำหรับการสลายการชุมนุม

หลายวันมานี้ พื้นที่ในกรุงเทพฯที่กำลังเกิดเหตุรุนแรงขยายตัวขึ้น เมื่อผู้ประท้วงพยายามปักหลักสร้างที่ชุมนุมใหม่ๆ และทหารพยายามสลายพื้นที่ ผู้ประท้วงตอบโต้ด้วยระเบิดทำเอง ระเบิดมือ และปืนไรเฟิล

ท่ามกลางความโกลาหลที่กำลังขยายตัว มีการยิงเฉียดสถานทูตสหรัฐอเมริกาเป็นระยะ สัปดาห์ก่อนสถานทูตปิด แต่เจ้าหน้าที่อเมริกันยังไม่ได้สั่งการอพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตหรือผู้ติดตาม

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net